18 พฤษภาคม 2553

เข้าใจประสบการณ์พระวิญญาณ

ผมได้เข้าไปศึกษาบทเรียนของ Bill Jackson ซึ่งลงใน www.james7.org มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ จึงได้รวบรวมและสรุปมาให้ดังนี้ครับ

ทำความเข้าใจประสบการณ์พระวิญญาณ

ก. ก่อนอื่นต้องกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ปกติและจำเป็นในการที่จะพิจารณาประสบการณ์ของคริสเตียนโดยดูจากพระคัมภีร์ และไม่ผิดอะไรที่บอกรับว่าสิ่งเหล่านี้ดู “เพี้ยน” ตราบเท่าที่ไม่ได้พิพากษาเร็วเกินไป

เมื่อเปาโลไปที่เมืองเบโรอา หนังสือกิจการกล่าวว่า ชาวเมืองนี้มีจิตใจสูงกว่าชาวยิวอื่นที่เปาโลพบในเมืองกรีซ เพราะว่า “พวกเขาค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่าสิ่งที่เปาโลกล่าวนั้นเป็นความจริงหรือไม่” (17: 11)

ข. เมื่อเราถามว่า “ถูกต้องตามพระคัมภีร์หรือไม่” เราอาจจะมองหาสิ่งที่เรียกกันทั่วไปว่า “proof text” ซึ่งหมายถึงพระคัมภีร์ตอนที่ถ้าดูตามบริบทแล้วจะสามารถสนับสนุนสิ่งที่เราเชื่อได้ เพื่อจะให้มั่นใจว่าปรากฏการณ์เหล่านี้ถูกต้องตามพระคัมภีร์หรือไม่ เราต้องวางหลักเกณฑ์พื้นฐานเพื่อให้การตีความได้อย่างถูกต้อง

1 มีหัวข้อในหลักข้อเชื่อพื้นฐาน 3 หัวข้อในพระคัมภีร์

ก. ศาสนศาสตร์คริสเตียน ( คริสเตียนเชื่ออะไร )
ข. จริยธรรมคริสเตียน ( คริสเตียนควรจะประพฤติอย่างไร )
ค. ประสบการณ์และการปฏิบัติของคริสเตียน ( คริสเตียนทำอะไร )

2 เราสามารถเรียกพระคัมภีร์ข้อหนึ่งหรือตอนหนึ่งว่าเป็น “Proof text” ได้ เมื่อผู้เขียนกล่าวอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้เราเชื่อ กระทำหรือปฏิบัติ ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้จัดว่าเป็น “ลำดับแรก” ( primary)

2.1 มีความเชื่อ พฤติกรรม และการปฏิบัติมากที่ไม่ได้สอนอย่างชัดเจนแต่ว่าเป็นโดยนัย ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้จัดว่าเป็น “ลำดับสอง” (secondary)ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ แต่ว่าไม่มีข้อที่ชัดเจนเท่านั้นยกตัวอย่างเรื่อง การให้บัพติศมา พระคัมภีร์กล่าวอย่างชัดเจนว่า คริสเตียนต้องรับบัพติศมา มีพระคัมภีร์ “ ลำดับแรก” ที่กล่าวเช่นนี้ (มธ. 28:19)

2.2เราจะบัพติศมาอย่างไรนั้นไม่ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน นี่เป็นเหตุให้มีกลุ่มต่าง ๆ ที่บัพติศมาด้วยวิธีที่แตกต่างกันอย่างไรก็ตาม มีพระคัมภีร์ตอนที่ชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่า โดยปกติ คริสตจักรในยุคแรกจะจุ่มมิดในน้ำ

แม้แต่คำว่า “บัพติศมา” แปลว่าจุ่มนี่ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นวิธีที่คริสตจักรจะต้องทำตลอดไป แต่ว่าเป็นการกล่าวเป็นนัย อย่างที่สุดนี้ชี้ให้เห็นว่าได้ทำกันอย่างไร รูปแบบของการบัพติศมาเป็นลำดับสอง ไม่ใช่เป็นลำดับแรก

3 เมื่อพิจารณาเรื่องปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติ เรากำลังพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติของคริสเตียน
4 แม้ว่ามีพระคัมภีร์ “ลำดับแรก” ที่เกี่ยวกับการสำแดงการพยากรณ์ แต่ไม่มีพระคัมภีร์ “ลำดับแรก” ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าคริสเตียนต้องล้มลง สั่นหรือดูเหมือนเมามายในขณะที่พระเจ้าทรงเยี่ยมเยียนเขา

5 อย่างไรก็ตามมีพระคัมภีร์ “ลำดับสอง” (ลำดับสองไม่ได้หมายความว่าไม่ถูกต้องหรือไม่สำคัญ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของบางคนเมื่อพระเจ้าทรงเยี่ยมเยียน เราจะพิจารณาข้อเหล่านี้บางตอนซึ่งเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เฉพาะนั้น ๆ

6 ได้มีตัวอย่างจำนวนมากของปรากฏการณ์อย่างเดียวกันในประวัติศาสตร์คริสตจักรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการฟื้นฟูเราจะพิจารณาด้วยอย่างคร่าว ๆ

……………….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น