31 มีนาคม 2562

พระเยซูต้องการให้เราเกิดผลไม่ใช่การผลิตผล

❤️ พระเยซูต้องการให้เราเกิดผลไม่ใช่การผลิตผล
(Being fruitful not productive)💒

“เราเป็นเถาองุ่น พวกท่านเป็นแขนง คนที่ติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับเขา คนนั้นจะเกิดผลมาก เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยอห์น‬ ‭15:5‬)

💒 พระองค์ทรงต้องการความสัมพันธ์สนิทมากกว่าชีวิตที่ให้ความสำคัญแค่การรับใช้🏦
พระบิดาทรงต้องการลูกมากกว่าคนงาน เพราะต้องการให้พรมากกว่าขอบคุณ
มัทธิว 20:1-6 คนงานทำสวนองุ่นได้รับผลผลิตเท่ากันไม่ว่าจะมาก่อนหรือหลัง นั่นคือ “พระคุณ” ไม่ใช่รางวัลจากการพยายาม
คำขอบคุณมีสำหรับการรับจ้าง แต่พระคุณมีสำหรับการรับใช้ พระพรมีสำหรับความเป็นลูก
ลูกา 15:11-32 พ่อต้องการรับบุตรน้อยหลงหายกลับมามากกว่ารับสมัครคนงาน
ที่สวนเอเดน พระบิดาให้มนุษย์(อาดัม) ดูแล(Cultivate)สวนเพื่อได้กินผล เพราะความเป็นลูก(sonship) แต่ความบาปจากการไม่เชื่อฟัง ทำให้ต้องออกจากสวน และทำงานหนักเพื่อได้ผลิตผลจากความพยายามด้วยการเป็นลูกกำพร้า(Orphan) จนตาย แต่พระเยซูเป็นอาดัมสุดท้ายที่ทำให้ได้ชีวิต
“มนุษย์ คนแรกคืออาดัม จึงเป็นผู้มีชีวิต” แต่อาดัมสุดท้ายนั้นเป็นวิญญาณผู้ประทานชีวิต”(1โครินธ์‬ ‭15:45‬ )
ที่ไม้กางเขน พระบุตรได้ เชื่อมแขนงให้กลับคืนสู่เถาแห่งชีวิตในพระบิดาอีกครั้ง เราทั้งหลายจึงได้ชีวิตในความเป็นลูกกลับคืนมา 🙂
แขนงจะไม่เกิดผลเองหากไม่ติดกับเถา เราจะไม่เกิดผลมาก หากไม่มีชีวิตที่ติดสนิทกับพระบิดา

30 มีนาคม 2562

การรื้อฟื้นพลับพลาดาวิด

การรื้อฟื้นพลับพลาดาวิด โดย  แอเรียล บลูเมนเทล 
ในพระธรรมกิจการฯบทที่15 คำพยากรณ์เรื่องพลับพลาดาวิดจากพระธรรมอาโมสบทที่ 9 กลายเป็นเนื้อหาหลักสำหรับความเข้าใจว่าพระเจ้าทรงนำชาวต่างชาติมายังความเชื่ออย่างไรและด้วยเหตุผลใด ในยุคของเรา “การรื้อฟื้นพลับพลาดาวิด” กลายเป็นคำทั่วที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยหมายถึงการรื้อฟื้นการนมัสการ การอธิษฐาน และการเผยพระวจนะที่เต็มด้วยพระวิญญาณ และด้วยเหตุที่กษัตริย์ดาวิดเองก็รักการนมัสการ การอธิษฐาน และการเผยพระวจนะ(ท่านได้สถาปนาการนมัสการตลอด 24 ชั่วโมงใน  กรุงเยรูซาเล็ม-1 พศด 24) 
การแปลความเชิงพยากรณ์นี้จึงเหมาะสมอยู่ อย่างไรก็ตามความหมายดังกล่าวเป็นเพียงแค่หนึ่งในสามของการพยากรณ์ตามพระคัมภีร์
อาโมส 9:11-12,14-15
ในวันนั้น เราจะยกพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วนั้นตั้งขึ้นใหม่ และซ่อมช่องชำรุดต่างๆเสีย และจะยกที่ปรักหักพังขึ้น และจะสร้างเสียใหม่อย่างในสมัยโบราณกาล เพื่อเขาจะได้ยึดกรรมสิทธิ์คนที่เหลืออยู่ของ     เอโดม และประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขาเรียกด้วยนามของเรา….
เราจะให้อิสราเอลประชาชนของเรากลับสู่สภาพเดิม เขาจะสร้างเมืองที่พังนั้นขึ้นใหม่และเข้าอาศัยอยู่…เราจะปลูกเขาไว้ในแผ่นดินของเขา เขาจะไม่ถูกถอนออกไป…
ดาวิดไม่ได้เป็นเพียงผู้นมัสการ แต่ท่านเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองอิสราเอล ดังนั้นคำพยากรณ์จึงไม่ได้พูดถึงเพียงฝ่ายวิญาณแต่รวมถึงสิทธิอำนาจในการปกครองด้วย “การรื้อฟื้นพลับพลาดาวิด”นั้นคล้ายคลึงกับคำวิงวอนของอัครทูตให้ “รื้อฟื้นอาณาจักรอิสราเอล” (กจ 1:6)
“การให้เชลยกลับสู่สภาพเดิม” หมายถึงการรื้อฟื้นด้านประชากร ดินแดน และรัฐอิสราเอล ประชาชาติทั้งสิ้นซึ่ง   “เขาเรียกด้วยนามของเรา” หมายถึงคริสตจักรสากล(ecclesia) ดังนั้นคำพยากรณ์ดังกล่าวจึงมีสามด้านด้วยกัน คือ คริสตจักร ชนชาติอิสราเอล และชาวยิวผู้เชื่อที่ยังเหลืออยู่
พระเจ้ารื้อฟื้นการอธิษฐาน การนมัสการ และการเผยพระวจนะในคริสตจักร รื้อฟื้นความชอบธรรมในรัฐบาลอิสราเอล และรื้อฟื้นการขับเคลื่อนอย่างอัครทูตของผู้เชื่อชาวยิวในอิสราเอล และทั้งสามด้านนี้ต่างเกี่ยวโยง เชื่อมต่อ และต้องอาศัยกันและกัน
ข้อมูลจาก https://www.reviveisrael.org

13 มีนาคม 2562

ข้อคิดเรื่องครอบครัว

ข้อคิดจากหนังสือ moral revolution หน้า 115 โดย Kris Vollotton

In Genesis 2:18 God decides that "It is not good for the man to be alone," so He took a rib from Adam and made a helpmate for him. When you stop and think about it, Adam had a huge, gaping need for intimacy. He needed a companion, a lover and a partner for life. God knew that the only way he could get these needs met was to take something designed to protect his heart (a rib) and form a wife from it.
ในปฐมกาล 2:18 พระเจ้าตัดสินใจว่า “ไม่ดีที่ชายผู้นี้จะโดดเดี่ยว” พระองค์จึงชักเอาซี่โครงอันหนึ่งออกมาจากอาดัม และสร้างผู้อุปถัมภ์ (helpmate) คนหนึ่งสำหรับเขา ถ้าคุณหยุดคิดตรงนี้สักหน่อย จะเห็นว่า อาดัมมีช่องว่างใหญ่มากที่ต้องการได้รับความใกล้ชิดสนิทสนม เขาจำเป็นต้องมี เพื่อนร่วมทาง คนรัก และหุ้นส่วนชีวิต พระเจ้ารู้ว่าวิธีการเดียวที่ช่องว่างความต้องการนั้นจะรับการเติมเต็ม ก็คือต้องใช้บางสิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ปกป้องหัวใจ (ซี่โครง) และพระองค์สร้างภรรยาขึ้นจากสิ่งนั้น
ข้อคิด คือ ภรรยาเป็นซี่โครงที่เสริมสร้างไม่ใช่ไส้ติ่งจะตัดทิ้งไม่ได้ 🙂
พระเจ้าไม่ได้ทรงสร้างผู้หญิง( เอวา : ชายา-ออกมาจากชาย หมายถึง ชีวิต) มาจากกระดูกศีรษะ เพื่อจะนำความคิด แต่เป็นเพื่อนคู่คิด คู่อุปถัมภ์
พระเจ้าไม่ได้สร้างผู้หญิงจากกระดูกเท้า ที่เป็นเบื้องล่างที่ถูกย่ำยี แต่มีชีวิตคู่ที่ก้าวเดินไปร่วมกัน
แต่พระเจ้าทรงสร้างผู้หญิงให้ผู้ชายจากกระดูกซี่โครงที่ปกป้องหัวใจผู้ชาย และให้ผู้ชายปกป้องผู้หญิงไว้ภายใต้อ้อมกอดด้วยความรัก