
อุปมานี้เป็นตัวอย่าง คลาสิคของการแบ่งปันเรื่องหัวใจพระบิดา ซึ่งผมเชื่อว่าเราทั้งหลายคงจะคุ้นเคยดี
บทความครั้งนี้ผมขอแบ่งปันในอีกแง่มุมหนึ่งที่ต่างออกไปของอุปมาเรื่อง "บุตรน้อยหลงหาย" ( The Parable of the Prodigal Son) ผมขอตั้งชื่อเรื่องใหม่ว่า "หัวใจพระบิดา : "บุตรน้อยหลงหาย กับบุตรชายหลงผิด"
สำหรับลูกคนเล็กของพ่อ ผมขอเรียกว่า "บุตรน้อยฟุ่มเฟือย" (Prodigal Son) เพราะความรักของพ่อที่มีต่อลูกคนเล็กทำให้เขาใช้ทรัพย์ได้อย่างฟุ่มเฟือย ลูกคนเล็กขอแบ่งสมบัติทั้งที่เป็นเรื่องไม่สมควรทำ เพราะตามธรรมเนียมคนยิว สมบัติของพ่อ ลูกจะได้รับเป็นมรดกเมื่อพ่อตาย แต่ลูกมาขอแบ่ง เหมือนการแช่งผู้เป็นพ่อ พ่อจึงแบ่งให้ทั้ง 2 คนทั้งลูกคนโตและคนเล็ก
บุตรคนเล็กพูดกับบิดาว่า ‘พ่อ ขอแบ่งทรัพย์สินส่วนที่ตกเป็นของลูกให้ลูกด้วย’ บิดาจึงแบ่งสมบัติให้แก่บุตรทั้งสอง ต่อมาไม่กี่วัน บุตรคนเล็กนั้นก็รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเดินทางไปยังเมืองไกล และผลาญทรัพย์สินของตนที่นั่นด้วยการใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือย (ลูกา 15:12-13)
บุตรน้อยคนนี้หลงหายไปจากความรักของพ่อ หลงหายจากความเป็นลูก ทำตัวเป็น "ลูกกำพร้า" เพราะในความคิดของเขา หวังเพียงส่วนแบ่งสมบัติ
ละทิ้งความรักของบิดา ผลาญสมบัติจนสิ้น สุดท้ายก็ตกอับ แม้ว่าจะกลับตัวกลับใจได้ อยากจะกลับมาหาพ่อ ไม่กล้าที่จะกลับมาเป็นลูก ขอเป็น "ลูกจ้าง"
เมื่อใช้จ่ายจนหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ก็เกิดกันดารอาหารอย่างรุนแรงทั่วเมืองนั้น เขาจึงเริ่มขาดแคลน เขาไปอาศัยอยู่กับชาวเมืองนั้นคนหนึ่ง และคนนั้นก็ใช้เขาไปเลี้ยงหมูที่ทุ่งนา เขาอยากจะอิ่มท้องด้วยฝักถั่วที่หมูกินนั้น แต่ไม่มีใครให้อะไรเขาเลย

ทั้งนี้เพราะบุตรน้อยหลงหาย หลงไปในทางบาป ไม่เชื่อในความรักของพ่อ ถูกความโลภบังตา มองไม่เห็นความรักของพ่อ ตัดขาดความรักของพ่อและชีวิตกลับตกต่ำเป็นทุกข์
เมื่อเราห่างจากความรักของพระเจ้า เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เราก็จะกลายเป็นลูกที่มีหัวใจของลูกกำพร้า(orphan heart) พึ่งพาตนเองโดยวางใจในทรัพย์สมบัติเงินทอง มากกว่าพักพิงในความรักของพ่อ แต่แม้ว่าเราจะทำผิด ผู้เป็นพ่อก็พร้อมที่จะให้อภัย และพร้อมช่วยเหลือเสมอ
แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดา แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาก็เห็นเขาและมีใจสงสาร จึงวิ่งออกไปกอดคอและจูบแก้มของเขา บุตรคนนั้นจึงกล่าวกับบิดาว่า ‘พ่อ ลูกผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย ไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีกต่อไป’ แต่บิดาสั่งพวกบ่าวของตนว่า ‘จงรีบไปเอาเสื้อที่ดีที่สุดออกมาสวมให้เขา เอาแหวนมาสวมที่นิ้วมือ และเอารองเท้ามาสวมให้ด้วย และจงไปเอาลูกวัวตัวที่อ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกันเพื่อความรื่นเริง
เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้วแต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’ พวกเขาต่างก็มีความรื่นเริง (ลูกา 15:20-24)
สำหรับลูกคนโตของพ่อ ผมเรียกว่า "บุตรชายหลงผิด" คำว่า "หลงผิด" ในที่นี้ หมายถึง การสำคัญตัวเองผิด คิดว่าตนเองทำดีพร้อมสมควรที่จะได้รับ จึงไม่มีคำว่า "พระคุณ" ให้สำหรับคนที่ทำผิด
เขาทักท้วงในสิทธิที่เขาควรจะได้รับเพราะการกระทำและน้องชายที่ทำผิดไม่สมควรได้รับการอภัย
แต่เขาบอกบิดาว่า `ดูเถิด ข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติท่านกี่ปีมาแล้ว และมิได้ละเมิดคำบัญชาของท่านสักข้อหนึ่งเลย แม้แต่เพียงลูกแพะสักตัวหนึ่งท่านก็ยังไม่เคยให้ข้าพเจ้า เพื่อจะเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงยินดีกับเพื่อนฝูงของข้าพเจ้า ต่เมื่อลูกคนนี้ของท่าน ผู้ได้ผลาญสิ่งเลี้ยงชีพของท่านโดยคบหญิงโสเภณีมาแล้ว ท่านยังได้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเลี้ยงเขา’
บิดาจึงตอบเขาว่า `ลูกเอ๋ย เจ้าอยู่กับเราเสมอ และสิ่งของทั้งหมดของเราก็เป็นของเจ้า แต่สมควรที่เราจะรื่นเริงและยินดี เพราะน้องของเจ้าคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก'”(ลูกา 15:29-32)
เขาทักท้วงในสิทธิที่เขาควรจะได้รับเพราะการกระทำและน้องชายที่ทำผิดไม่สมควรได้รับการอภัย
แต่เขาบอกบิดาว่า `ดูเถิด ข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติท่านกี่ปีมาแล้ว และมิได้ละเมิดคำบัญชาของท่านสักข้อหนึ่งเลย แม้แต่เพียงลูกแพะสักตัวหนึ่งท่านก็ยังไม่เคยให้ข้าพเจ้า เพื่อจะเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงยินดีกับเพื่อนฝูงของข้าพเจ้า ต่เมื่อลูกคนนี้ของท่าน ผู้ได้ผลาญสิ่งเลี้ยงชีพของท่านโดยคบหญิงโสเภณีมาแล้ว ท่านยังได้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเลี้ยงเขา’
บิดาจึงตอบเขาว่า `ลูกเอ๋ย เจ้าอยู่กับเราเสมอ และสิ่งของทั้งหมดของเราก็เป็นของเจ้า แต่สมควรที่เราจะรื่นเริงและยินดี เพราะน้องของเจ้าคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก'”(ลูกา 15:29-32)
บุตรชายคนโต เปรียบได้กับผู้ที่นับถือศาสนา ถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าแต่ภายนอกแต่จิตใจภายในยังห่างไกลจากหัวใจของความเป็นพ่อ ที่พร้อมจะให้อภัยโดยไม่มีเงื่อนไข ตามแผนการไถ่ของพระบิดาที่ทรงให้พระเยซูคริสต์มาตายบนไม้กาเขนเพื่อไถ่บาป
ดังนั้น ใครถามเราว่า พระเยซูคริสต์ มาทำอะไรบนโลกนี้ บอกได้เลยว่า "มาเที่ยว" แต่เป็น "มาเที่ยวตามหาผู้หลงหายไปนั้นให้รอด"
ลูกา 19:10 เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด”
คำอุปมาของพระเยซูในเรื่องบุตรน้อยหลงหายนี้ ให้ภาพเงา(type)เล็งถึง แผนการของพระบิดาที่นำบุตรน้อยหลงหหายกลับบ้านและนำบุตรชายที่หลงผิดกลับคืนดีกับบุตรน้อย
ภาพสัญลักษณ์ในอุปมานี้บอกถึงความหมาย ดังนี้
การฆ่าวัวอ้วนพลี เล็งถึง พระเยซูได้ตายอภัยความผิดของเขาแล้ว
แหวนที่พ่อสวมให้ เล็งถึง พันธสัญญาว่าพระเจ้าจะไม่จดจำความผิดบาปของเขาอีกต่อไป
เสื้อคลุม เล็งถึง เสื้อความชอบธรรมเป็นเสื้อคลุมแห่งการไถ่ที่ใส่เพื่อปกปิดความบาปที่เขากระทำ ดั่งเช่นพระเจ้าทรงให้เสื้อขนสัตว์ปกปิดกายของอาดัมและเอวาแทนใบมะเดื่อ
รองเท้า เล็งถึง การได้รับสถานะเป็นบุตรของพระเจ้า เพราะทาสจะไม่มีรองเท้า
ดังนั้นเราจึงไม่ใช่ทาสแต่เราเป็นลูกของพระเจ้า เราไม่ต้องทำตัวเป็น "ลูกจ้างชั่วคราว" เพราะเราเป็น"ลูกของพระเจ้าชั่วนิรันดร์"
คำอุปมาเรื่องนี้ ยังเป็นภาพเงาที่เล็งถึงแผนการกลับมาคืนดีระหว่างคนยิวและคนต่างชาติเป็นคนใหม่คนเดียวกัน(One New Man) ผ่านทางพระเยซูคริสต์
เอเฟซัส 2:15 “...เพื่อจะกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคนใหม่คนเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละ จึงทรงกระทำให้เกิดสันติสุข”

ภาพสัญลักษณ์ในอุปมานี้บอกถึงความหมาย ดังนี้
การฆ่าวัวอ้วนพลี เล็งถึง พระเยซูได้ตายอภัยความผิดของเขาแล้ว
แหวนที่พ่อสวมให้ เล็งถึง พันธสัญญาว่าพระเจ้าจะไม่จดจำความผิดบาปของเขาอีกต่อไป
เสื้อคลุม เล็งถึง เสื้อความชอบธรรมเป็นเสื้อคลุมแห่งการไถ่ที่ใส่เพื่อปกปิดความบาปที่เขากระทำ ดั่งเช่นพระเจ้าทรงให้เสื้อขนสัตว์ปกปิดกายของอาดัมและเอวาแทนใบมะเดื่อ
รองเท้า เล็งถึง การได้รับสถานะเป็นบุตรของพระเจ้า เพราะทาสจะไม่มีรองเท้า
ดังนั้นเราจึงไม่ใช่ทาสแต่เราเป็นลูกของพระเจ้า เราไม่ต้องทำตัวเป็น "ลูกจ้างชั่วคราว" เพราะเราเป็น"ลูกของพระเจ้าชั่วนิรันดร์"

เอเฟซัส 2:15 “...เพื่อจะกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคนใหม่คนเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละ จึงทรงกระทำให้เกิดสันติสุข”
บุตรน้อยหลงหาย คือ คนต่างชาติทีหลงหายไปและพระเยซูคริสต์ทรงนำกลับมา เพื่อรับพระคุณโดยการให้อภัยด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระบิดา
บุตรน้อยหลงหาย คือ เอฟราอิม (Ephraim) เผ่าหนึ่งของอิสราเอล ที่เล็งถึง คนต่างชาติ
บุครชายคนโต หรือ บุตรชายหลงผิด หมายถึง ยูดาห์(Judah) หรือคนยิว(Jew) คือ คนยิวที่เคร่งครัดตามกฏบัญญัติ ถือรักษาโทราห์(Torah) ตัวอยู่ใกล้แต่หัวใจอยู่ห่างจากพระบิดาจึงหลงผิดสำคัญตัวเองผิด คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น ไม่ให้อภัยในความผิดของผู้อื่นและดูหมิ่นคนต่างชาติ

ภาพของคนยิวและคนต่างชาติ เป็นคนใหม่คนเดียวกัน(One New Man)ในพันธสัญญาเดิม คือกิ่งไม้ของโยเซฟ
เอเสเคียล 37:12-19
12 เพราะฉะนั้น จงเผยพระวจนะและกล่าวแก่เขาว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ดูเถิด โอ ประชากรของเราเอ๋ย เราจะเปิดหลุมฝังศพของเจ้า และยกเจ้าออกมาจากหลุมฝังศพของเจ้า และจะนำเจ้ากลับมายังแผ่นดินอิสราเอล..
16 “เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงเอาไม้มาอันหนึ่งเขียนลงว่า ‘สำหรับยูดาห์ และสำหรับชนอิสราเอลที่สังคมกับยูดาห์’ จงเอาไม้มาอีกอันหนึ่งเขียนลงว่า ‘สำหรับโยเซฟ (ไม้ของเอฟราอิม) และพงศ์พันธุ์อิสราเอลที่สังคมกับโยเซฟ’
17 เอาไม้ทั้งสองมารวมกันเข้าเป็นอันเดียว เพื่อเป็นไม้อันเดียวในมือของเจ้า
19 จงกล่าวแก่เขาว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรากำลังจะเอาไม้ของโยเซฟ (ซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิม) และเผ่าอิสราเอลที่สังคมกับเขาและเราจะเอาไม้ของยูดาห์มารวมเข้าด้วย และกระทำให้เป็นไม้อันเดียวกันเพื่อให้เป็นไม้อันเดียวในมือของเรา
17 เอาไม้ทั้งสองมารวมกันเข้าเป็นอันเดียว เพื่อเป็นไม้อันเดียวในมือของเจ้า
19 จงกล่าวแก่เขาว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรากำลังจะเอาไม้ของโยเซฟ (ซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิม) และเผ่าอิสราเอลที่สังคมกับเขาและเราจะเอาไม้ของยูดาห์มารวมเข้าด้วย และกระทำให้เป็นไม้อันเดียวกันเพื่อให้เป็นไม้อันเดียวในมือของเรา
ประเทศอิสราเอลมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับการสูญเสียและการปฏิเสธ แต่เมื่อมีการเชื่อมต่อการเป็นคนใหม่คนเดียวกันระหว่างยิวกับคนต่างชาติ พวกเขาจะสามารถลืมอดีตที่ผ่านมาและเกิดผลทวีคูณได้โดยพงษ์พันธ์ุของโยเซฟ ในพันธสัญญาใหม่ ·พระเยซูคริสต์เป็นผู้เชื่อมกลางระหว่างยิวกับคนต่างชาติ ทำให้เป็นคนใหม่คนเดียวกัน
คนยิวและคนต่างชาติเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเป็นผู้รับมรดกร่วมกันในฐานะของความเป็นพี่น้องกัน
เอเฟซัส 2:15-18 ...การเป็นปฏิปักษ์กัน โดยในเนื้อหนังของพระองค์ ได้ทรงให้ธรรมบัญญัติอันประกอบด้วยบทบัญญัติและกฎหมายต่างๆ นั้นเป็นโมฆะ เพื่อจะกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคนใหม่คนเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละ จึงทรงกระทำให้เกิดสันติสุข
และเพื่อจะทรงกระทำให้ทั้งสองพวกคืนดีกับพระเจ้า เป็นกายเดียวโดยกางเขน ซึ่งเป็นการทำให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อกันหมดสิ้นไป และพระองค์ได้เสด็จมาประกาศสันติสุขแก่ท่านที่อยู่ไกล และประกาศสันติสุขแก่คนที่อยู่ใกล้ เพราะว่าพระองค์ทรงทำให้เราทั้งสองพวกมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
เหตุฉะนั้นท่านจึงไม่ใช่คนต่างด้าวต่างแดนอีกต่อไป แต่ว่าเป็นพลเมืองเดียวกันกับธรรมิกชน และเป็นครอบครัวของพระเจ้า
ในภาษากฏหมาย(legal) แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่ความเท่าเทียมกันแต่เป็นสิทธิพิเศษที่ได้รับผลประโยชน์ร่วม ดังเช่น หุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันหรือสมาชิกครอบครัวที่ได้รับมรดกร่วมกัน เป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาทั่วไปแต่เป็นการรับมรดกร่วมกัน( joint heirs) เหมือนดังตัวอย่างคำอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย คนยิวกับคนต่างชาติมีพ่อคนเดียวกัน
ดังนั้นสิ่งที่เป็นความหวังและความสำเร็จ เราสามารถคาดหวังที่จะได้รับร่วมกันจากพระบิดา
ในพระเมสสิยาห์ ชาวยิวจะไม่ได้รับมรดกที่ดีที่สุดจากพระบิดาจนกว่าประเทศต่างๆจะได้รับมรดกของพวกเขาและในทางกลับกัน คนต่างชาติจะไม่ได้รับมรดกหากคนยิวยังไม่ได้รับ!
เราจะเห็นได้จากตัวอย่างคำอุปมานี้ บุตรชายคนโต(คนยิว) อิจฉาเมื่อบุตรน้อยหลงหาย(คนต่างชาติ)กลับมาหาพ่อ ในพระธรรมโรม บทที่ 9-11 ภาพของ One New Man โดยให้ภาพของกิ่งมะกอกป่า(คนต่างชาติ)ที่เชื่อมต่อติดกับต้นมะกอกแท้(คนยิว) และในบทที่ 10 ข่าวประเสริฐเรื่องพระคริสต์จะไปทั่วโลก บุตรน้อยที่หลงหาย(คนต่างชาติ)จะกลับใจและกลับมาหาพ่อ และบุตรชายคนโต(คนยิว) จะอิจฉา และจะถึงเวลาที่บุตรชายหลงผิดจะกลับใจสำนึกในความรักของพระบิดา
โรม 10:18-21 ... “เสียงของพวกเขากระจายออกไปทั่วแผ่นดินโลก และถ้อยคำของเขาประกาศออกไปถึงสุดปลายพิภพ”
...“อิสราเอลไม่เข้าใจหรือ?” โมเสสกล่าวก่อนว่า “เราจะให้ เจ้าทั้งหลายอิจฉาผู้ที่ไม่ใช่ชนชาติ เราจะยั่วโทสะ เจ้าด้วยชนชาติที่โง่เขลาชาติหนึ่ง”
แล้วอิสยาห์กล้ากล่าวว่า “พวกที่ไม่ได้แสวงหาได้พบเรา เราได้ปรากฏแก่คนที่ไม่ได้ถามหาเรา” แต่ท่านได้กล่าวถึงพวกอิสราเอลว่า“ตลอดทั้งวัน เรายื่นมือต้อนรับชนชาติซึ่งไม่เชื่อฟังและดื้อรั้น”
อย่างไรก็ตามด้วยความรักของพระบิดา ผู้ที่เป็นพ่อจะเรียกร้องให้ทั้ง"บุตรน้อยหลงหายกับบุตรชายหลงผิด" จะกลับมาหาพ่อในวันสุดท้ายและจะมีงานเฉลิมฉลองเกิดขึ้นในแผ่นดินสวรรค์!
มาลาคี 4:5-6 “นี่แน่ะ เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระยาห์เวห์ คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวจะมาถึงและท่านผู้นั้นจะทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น