บทความเรื่องพระนามของพระวิญญาณบริสุทธ์ได้รับพระพรจากการฟัง ท่านอาจารย์ Susan Watson มาสอนเรื่องชีวิตที่เคลื่อนไปกับพระวิญญาณ และได้ศึกษาเพิ่ม จึงนำมาแบ่งปันเพื่อเป็นประโยชนืในการศึกษาต่อไปครับ
พระนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับตรีเอกนุภาพ (Trinity)
1.พระวิญญาณของพระเจ้า (The Spirit of God)
พระนามนี้เน้นความเป็นพระเจ้าของพระวิญญาณบริสุทธ์ ปรากฎในพระคัมภีร์หลายตอนเช่น
1 คร.3:16;2 คร.3:3 อสย.11:2; 61:1
1โครินธ์ 3:16 … และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน
1 Corinthians 3:16(KJV) and that the Spirit of God dwelleth in you?
2 โครินธ์ 3:3 ….แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์…
2 Corinthians 3:3 (kjv) … but with the Spirit of the living God…
อิสยาห์ 11:2 และพระวิญญาณของพระเจ้าจะอยู่บนท่านนั้น …
Isaiah 11:2 (kjv) And the spirit of the Lord shall rest upon him,
อิสยาห์ 61:1 พระวิญญาณแห่งพระเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า
Isaiah 61:1 (kjv) The Spirit of the Lord GOD is upon me;
2.พระวิญญาณของพระคริสต์ (The Spirit of Christ)
พระนามนี้แสดงถึง ความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ พระวิญญาณบริสุทธิ์ กับพระเยซูคริสต์ ปรากฎในพระคัมภีร์ เช่น
โรม 8:9 ….ผู้ใดไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ ผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์
Romans 8:9 (kjv) … Now if any man have not the Spirit of Christ…
กิจการของอัครทูต 16:7 เมื่อลงไปยังที่ตรงข้ามกับแคว้นมิเซียแล้ว ก็พยายามจะไปยังแว่นแคว้นบิธีเนีย แต่พระวิญญาณของพระเยซูไม่ทรงโปรดให้ไป
Acts 16:7 (kjv) After they were come to Mysia, they assayed to go into Bithynia: but the Spirit suffered them not.
3.พระวิญญาณแห่งพระบุตร (The Spirit of "His Son")
พระนามนี้เน้นถึงงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในด้านของการยืนยันว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
ปรากฎในพระคัมภีร์ เช่น
กาลาเทีย 4:6 …. พระองค์จึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์ เข้ามาในใจของเรา
Galatians 4:6 (kjv) … God hath sent forth the Spirit of his Son …
4.พระวิญญาณบริสุทธิ์ (The Spirit of "Holiness")
พระนามนี้เน้นถึงพระลักษณะความบริสุทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใช้เป็นการสำแดงพระ
ภาคของพระเจ้าในตรีเอกนุภาพ ชื่อนี้ใช้มากที่สุดประมาณ 97 ครั้ง ปรากฎในพระคัมภีร์ เช่น
ลูกา 11:13 เพราะฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์"
Luke 11:13 (kjv) If ye then, being evil, know how to give good gifts unto your children: how much more shall your heavenly Father give the Holy Spirit to them that ask him?
โรม 1:4 แต่ฝ่ายพระวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์นั้นบ่งไว้ด้วยฤทธานุภาพ คือโดยการเป็นขึ้นมาจากความตายว่า เป็นพระบุตรของพระเจ้า
Romans 1:4 (kjv) And declared to be the Son of God with power, according to the spirit of holiness, by the resurrection from the dead:
พระนามต่างๆของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่สำแดงในการดำเนินชีวิตและการรับใช้
5.พระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา (The Spirit of "Promise")
พระนามนี้เป็นการสำแดงถึงพระสัญญญาของพระเจ้าที่ให้กับผู้เชื่อ และเป็นจริงตามพระ
สัญญา เช่นเหตุการณ์ที่บันทึกในหนังสือกิจการฯ ในบทที่ 1 และสำเร็จในบทที่ 2
กิจการของอัครทูต 1:4-5
4 เมื่อพระองค์ได้ทรงพำนักอยู่กับอัครทูต จึงกำชับเขามิให้ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้คอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา คือพระองค์ตรัสว่า "ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินจากเรานั่นแหละ
5 เพราะว่ายอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่ไม่ช้าไม่นานท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์"
กิจการของอัครทูต 2:33 เหตุฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้า และครั้นพระองค์ได้ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญา พระองค์ได้ทรงเทฤทธิ์เดชนี้ลงมา ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยิน และเห็นแล้ว
พระวิญญาณแห่งพระสัญญานี้เป็นการมัดจำเครื่องยืนยันจากพระบิดาเจ้าว่าผู้เชื่อจะได้รับ
มรดกได้ครอบครองร่วมกันพระคริสต์ตามที่ทรงสร้างไว้แน่นนอน (อฟ.1:13-14,18 ; รม.8:17 ; วว.22:5)
เอเฟซัส 1:13-14
13 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา
14 เป็นมัดจำของการรับมรดกของเรา จนกว่าเราจะได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์
Ephesians 1:13-14 (kjv)
13 In whom ye also trusted, after that ye heard the word of truth, the gospel of your salvation: in whom also after that ye believed, ye were sealed with that holy Spirit of promise,
14 Which is the earnest of our inheritance until the redemption of the purchased possession, unto the praise of his glory.
6.พระวิญญาณแห่งความจริง (The Spirit of "Truth")
พระนามนี้เป็นการสำแดงความจริง ที่พระองค์ทรงสอนและสำแดงเป็นความจริงทั้งสิ้นของพระองค์
ปรากฎในพระคัมภีร์ เช่น
ยอห์น 14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน
John 14:17 (kjv) Even the Spirit of truth; whom the world cannot receive, because it seeth him not, neither knoweth him: but ye know him; for he dwelleth with you, and shall be in you.
1ยอห์น 5:7 และพระวิญญาณทรงเป็นพยานเพราะพระวิญญาณทรงเป็นความจริง
ยอห์น 15:26 แต่เมื่อองค์พระผู้ช่วยที่เราจะใช้มาจากพระบิดาหาท่านทั้งหลาย คือพระวิญญาณแห่งความจริงผู้ทรงมาจากพระบิดานั้นได้เสด็จมาแล้ว พระองค์ก็จะทรงเป็นพยานให้แก่เรา
ยอห์น 16:13 เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงจะเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัส สิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น
พระวิญญาณแห่งความจริงจะเป็นผู้ช่วยในการวินิจฉัยวิญญาณเทียมเท็จที่เป็นวิญญาณที่หลอกลวง
1ยอห์น 4:1-3
1 ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก
2 โดยข้อนี้ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า
3 และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว
7.วิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ,วิญญาณแห่งการวินิจฉัยและอานุภาพ,วิญญาณแห่งความรู้ และความยำเกรงพระเจ้า
พระนามนี้ถึงพระราชกิจของ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของผู้เชื่อ ปรากฎในพระคัมภีร์ เช่น
อิสยาห์ 11:2 และพระวิญญาณของพระเจ้าจะอยู่บนท่านนั้น คือวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ วิญญาณแห่งการวินิจฉัยและอานุภาพ วิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระเจ้า
Isaiah 11:2 (kjv) And the spirit of the Lord shall rest upon him, the spirit of wisdom and understanding, the spirit of counsel and might, the spirit of knowledge and of the fear of the Lord;
8.พระวิญญาณผู้ทรงพระคุณ (The Spirit of "Grace")
พระนามนี้เป็นพระวิญญาณได้สำแดงพระคุณต่อมนุษย์ได้ช่วยเหลือ มนุษย์ ทั้ง ๆ ที่มนุษย์ไม่สมควรจะได้รับ เป็นพระคุณของพระเจ้าที่มีต่อผู้เชื่อ
ฮีบรู 10:29ท่านทั้งหลายคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และดูหมิ่นพระโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์ว่าเป็นสิ่งชั่วช้า และขัดขืนพระวิญญาณผู้ทรงพระคุณนั้น ควรจะถูกลงโทษมากยิ่งกว่าคนเหล่านั้นสักเท่าใด
Hebrews 10:29 "Of how much sorer punishment, suppose ye, shall he be thought worthy, who hath trodden under foot the Son of God, and hath counted the blood of the Covenant, wherewith he was sanctified, an unholy thing, and hath done despite unto the Spirit of grace?"
9.พระวิญญาณแห่งพระสิริ(The spirit of glory)
พระนามนี้เป็นพระนามที่สำแดงพระสิริของพระเจ้า เมื่อพระสิริของพระเจ้าอยู่ที่ใดที่นั่นเต็มไปด้วยสันติสุข
1เปโตร 4:14ถ้าท่านถูกด่าว่าเพราะพระนามของพระคริสต์ ท่านก็เป็นสุข ด้วยว่าพระวิญญาณแห่งพระสิริและของพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่าน
1 Peter 4:14 (kjv) If ye be reproached for the name of Christ, happy are ye; for the spirit of glory and of God resteth upon you: on their part he is evil spoken of, but on your part he is glorified.
10.องค์พระผู้ช่วย , ผู้ช่วย,ผู้เล้าโลม (The Spirit of "Another Comforter")
พระนามนี้เป็นพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสถิตในผู้เชื่อเพื่อจะช่วยเหลือ พระองค์เป็นผู้ช่วยในทุกเรื่อง ทุกสถานการณ์ ทรงอยู่กับเราตลอดเวลาทุกหนทุกแห่งเป็นผู้แนะนำ,ผู้ชี้ทาง,เป็นทนายแก้ ต่าง, ผู้ดูแล,ผู้สอน,ผู้เสริมกำลัง
ยอห์น 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป
John 14:16 (kjv) And I will pray the Father, and he shall give you another Comforter, that he may abide with you for ever;
ยอห์น 15:26 แต่เมื่อองค์พระผู้ช่วยที่เราจะใช้มาจากพระบิดาหาท่านทั้งหลาย คือพระวิญญาณแห่งความจริงผู้ทรงมาจากพระบิดานั้นได้เสด็จมาแล้ว พระองค์ก็จะทรงเป็นพยานให้แก่เรา
John 15:26 (kjv) But when the Comforter is come, whom I will send unto you from the Father, even the Spirit of truth, which proceedeth from the Father, he shall testify of me:
เมื่อเราได้ศึกษาพระนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราได้ตระหนักถึงพระราชกิจของพระองค์ที่
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สถิตอยู่ในชีวิตของเรา เราไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยที่พร้อมเสมอในการช่วยเหลือเรา วันนี้เราต้องยอมให้พระองค์ทำงานผ่านชีวิตของเราและเราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราที่พระองค์ได้กระทำผ่านชีวิตของเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น