10 พฤษภาคม 2553

ชัยชนะเหนือวิญญาณศาสนา

ปี 2010 เป็นปีใหม่ ที่เราจะทำสิ่งใหม่ ๆ

2 คร.5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น

ฟป.3:12-14
12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว
13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ



• ปี 2010 เป็นปีที่ดีที่จะเปลี่ยนตัวเอง ให้ลึกซึ้งกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น ตัวเก่าใด ๆ ต้องถอนออก ฟังเสียงพระเจ้ามากขึ้น มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ในฝ่ายวิญญาณ
• วันนี้จึงได้นำข้อคิดจากหนังสือ เล่มหนึ่ง ชื่อชัยชนะเหนือวิญญาณศาสนามาแบ่งปัน เพราะเราจะไม่รู้จักพระเยซู หรือดำเนินกับพระองค์เป็นศาสนา เพราะเมื่อเราดำเนินเช่นนั้น เราจะดำเนินอย่างไร้ชีวิต แต่เราปรารถนาที่จะให้ปี 2010 เป็นปีที่เรามีชีวิตชีวากับพระเจ้า เอเมนไหมครับ เราสามารถมีชีวิตชีวาได้ถ้าเรารู้จักพระเจ้าจริง ๆ และไม่ขึ้นกับคน หรือสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรด้วย
• การตรวจสอบวิญญาณศาสนาและการเอาชนะ
• วิญญาณศาสนาคืออะไร
• ซี ปีเตอร์ แวกเนอร์ ให้คำนิยามไว้ว่า “วิญญาณศาสนาคือ ตัวแทนของซาตานที่ได้รับหน้าที่ให้ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง และรักษาสภาพเดิมไว้ โดยการใช้วิธีการทางศาสนา”
• และมีนักวิชาการพระคัมภีร์ ชื่อ โจนัส คลาก ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “วิญญาณศาสนาเป็นวิญญาณชั่วที่ชักจูงให้ผู้คนทำตัวเคร่งศาสนา เห็นว่าตัวเองชอบธรรม หรือมีจิตวิญญาณดี วิญญาณศาสนามีแผนการที่ชัดเจน เพื่อบิดเบือนความเข้าใจของผู้คนว่า พระเยซูทรงเป็นผู้ใด และขัดขวางความพยายามของพระเจ้าในการสร้างคริสตจักรที่มีสง่าราศีของพระองค์”

• สรุปแล้วก็คือ วิญญาณ ศาสนาเป็นกลลวงอันยิงใหญ่ของซาตาน ผู้เชื่อหลายคนมีวิญญาณดังกล่าวและไม่รู้สึกตัว

• ซึ่งปรากฏออกมาเป็น
• พิธีกรรมนิยม – เราทำพิธีกรรมเพื่อเห็นแก่คนที่จับตามองเราอยู่ เราต้องการให้ภายนอกดูดี และต้องการให้บางคนเห็นว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง (รักษาหน้ามากกว่ารักษาใจ) (พึ่งข้อกำหนดทางพิธีกรรมมากกว่าความสัมพันธ์กับพระเจ้า) (พิธีกรรมที่ปราศจากความสัมพันธ์คือศาสนา)
• การพยายามควบคุมพระเจ้า – บังคับพระเจ้าผ่านการอดอาหารหรือการอธิษฐานที่เอาแต่ใจ
• ความเย่อหยิ่ง – มองตัวเองสูงกว่าผู้อื่น
• การแก้ตัว – มากกว่ายอมรับความผิด ทำให้ไม่ปลดปล่อย
• การเห็นว่าตัวเองถูกเสมอ
• การมีวิญญาณติเตืยน “ ริค จอยเนอร์กล่าวว่า คนที่มีวิญญาณศาสนาอาจชี้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ แต่เขาไม่ค่อยมีทางแก้ ยุทธศาสตร์ของศัตรูคือ การยกเลิกความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นและหว่านความท้อใจซึ่งจะจำกัดความก้าวหน้าในอนาคต
• การเห็นแก่ตนเองเป็นหลัก เขาเชื่อว่า คนที่สำคัญที่สุดคือฉัน ความตั้งใจของฉัน แผนการของฉัน
• ไม่สามารถรับการสั่งสอน เพราะคิดว่า รู้ทุกอย่างแล้ว สำเร็จแล้ว
• อุดมคตินิยม - รู้สึกว่าเขาต้องสมบูรณ์แบบไม่มีความผิดพลาดเลย ทุกคนที่ใกล้ชิดเขาต้องดีพร้อม
• มีวิญญาณพิพากษา – มาจากคิดว่าตนดีกว่าคนอื่น ดูหมิ่นคนอื่นจากความเคร่งครัดของกฏบัญญัติ
• มีวิญญาณควบคุม – พยายามควบคุมการกระทำหรืออารมณ์ของคนอื่น

สัญญาณเตือน
• วิญญาณศาสนาพยายามหยุดเสียงของคุณไม่ให้ประกาศความจริง
• วิญญาณศาสนาพยายามทำลายความหวัง ความฝัน นิมิต และการทรงเรียก
• วิญญาณศาสนาพยายามทำลายความรักร้อนรน
• วิญญาณศาสนาพยายามริดรอนความสัมพันธ์ทั้งกับพระเจ้าและมนุษย์
• วิญญาณศาสนาพยายามแยกเราออกจากผู้เชื่ออื่น
• วิญญาณศาสนาทำให้เราหยุดใช้ของประทาน
• วิญญาณศาสนาพยายามขโมยความชื่นชมยินดีออกจากชีวิต

• เช็กลิสต์ต่อไปนี้จะช่วยให้ท่านสำรวจตัวเองว่า ท่านถูกลอกหลวงด้วยหรือเปล่า ถ้ามีให้ท่านเปิดใจทำตามขั้นตอนข้างล่าง

คำสอนของ RICK JOYNER ได้บอกเพิ่มเติม

• เช็กลิสต์ดังกล่าวจะช่วยให้ท่านรู้ว่าท่านมีวิญญาณศาสนาหรือไม่

1. ไม่สามารถยอมรับการตักเตือนจากคนอื่นโดยเฉพาะคนที่ดูเหมือนต่ำกว่าเราฝ่ายวิญญาณ
สภษ 29.1 บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังแข็งคอ ประเดี๋ยวคอจะหักรักษาไม่ได้


2. รู้สึกผิดที่ไม่สามารถไปถึงมาตรฐานของพระเจ้าได้
ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องของเรากับพระเจ้าที่แท้จริงนั้นตั้งอยู่บนกางเขนของ พระเยซู เราต้องกลับใจจากความพยายามของตัวเราเอง

รม.8.1-2
1 เหตุฉะนั้นการลงโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์
2 เพราะว่ากฎของพระวิญญาณแห่งชีวิต ในพระเยซูคริสต์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย


ยน.15.1-7
1 "เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นผู้ดูแลรักษา
2 แขนงทุกแขนงในเรา ที่ไม่ออกผลพระองค์ก็ทรงตัดทิ้งเสีย และแขนงทุกแขนงที่ออกผล พระองค์ก็ทรงลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น
3 ท่านทั้งหลายได้รับการชำระให้สะอาดแล้วด้วยถ้อยคำที่เราได้กล่าวแก่ท่าน
4 จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน แขนงจะออกผลเองไม่ได้ นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น
5 เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย
6 ถ้าผู้ใดมิได้เข้าสนิทอยู่ในเรา ผู้นั้นก็ต้องถูกตัดทิ้งเสียเหมือนแขนง แล้วก็เหี่ยวแห้งไป และถูกเก็บเอาไปเผาไฟ
7 ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใด ซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น


3. เปรียบเทียบชีวิตฝ่ายวิญญาณกับคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การอธิษฐาน ความเข้าใจใน พระคัมภีร์ กิจการต่างๆ และอื่นๆ เมื่อเราเปรียบเทียบก็มีสองสิ่งตามมาคือ หนึ่ง รู้สึกแย่ หรือสองเย่อหยิ่ง การโตฝ่ายวิญญาณที่แท้จริงมาจากการใกล้ชิดกับพระเยซูไม่ใช่การเปรียบเทียบ กับคนอื่น

ยน. 20.21-23
21 พระเยซูตรัสกับเขาอีกว่า "สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น"
22 ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขา ตรัสกับเขาว่า "จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด
23 ถ้าท่านจะยกความผิดบาปของผู้ใด ความผิดบาปนั้นก็จะถูกยกเสีย และถ้าท่านจะให้ความผิดบาปติดอยู่กับผู้ใด ความผิดบาปก็จะติดอยู่กับผู้นั้น"



4. ท่านมีแนวโน้มที่จะโต้แย้งหรือแสวงหาจุดอ่อนของ คนอื่น คริสตจักร หรือผู้รับใช้ หรือเปล่า ท่านสนใจแต่จุดอ่อนมากกว่าจุดดีหรือเปล่า

มธ 7.1-5
1 "อย่ากล่าวโทษเขา เพื่อพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน
2 เพราะว่าท่านทั้งหลายจะกล่าวโทษเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงกล่าวโทษท่านอย่างนั้น และท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะได้ทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น
3 เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านก็ไม่รู้สึก
4 เหตุไฉนท่านจะกล่าวแก่พี่น้องว่า "ให้เราเขี่ยผงออกจากตาของเธอ" แต่ที่จริงไม้ทั้งท่อนมีอยู่ในตาของท่านเอง
5 ท่านคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้


5. ท่านมีแนวโน้มที่ว่า ฉันจะฟังแต่พระเจ้าหรือพระคัมภีร์เท่านั้น ฉันไม่สนใจคนอื่นไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม อฟ.4.1-16

6. ท่านมีสไตล์การเป็นผู้นำชอบบงการ หรือชี้ความผิดของคนอื่นเสมอ คนที่ทำแบบนี้มักจะมองข้ามความผิดของตัวเอง


7 ท่านมีแนวโน้มที่คิดว่าฉัน ครอบครัวของฉัน คริสตจักรของฉัน หรือพันธกิจของฉันดีกว่าหรือเจ๋งกว่าของคนอื่นเสมอ (ของฉันต้องดีกว่าเสมอ)

8 ชอบสะสมคะแนนฝ่ายวิญญาณ เช่นอธิษฐานมาอาทิตย์แล้ว หรือ อ่านพระคัมภีร์ตั้ง สองรอบและอื่นๆ (รู้สึกเหนือกว่าคนอื่นเพราะได้ทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อพระเจ้ามากกว่า)

9 ชอบทำสิ่งต่างๆให้คนอื่นเห็นและชม นี้เป็นสัญลักษณ์ว่าต้องการการยอมรับ จาก มนุษย์ หรือกลัวมนุษย์ เป็นการกราบไหว้รูปเคารพอย่างหนึ่ง
1 คร.10.11-14

10 สนใจความสำเร็จหรือสิ่งที่พระเจ้าทำในอดีตมากกว่าจะมาสนใจปัจจุบัน (ยึดติดกับอดีด)

11. มีแนวโน้มจะต่อต้านการเคลื่อนไหวใหม่ๆหรือสิ่งใหม่ๆจากพระเจ้า

12 แสวงหาการยืนยันจากพระเจ้าอย่างเหนือธรรมชาติ เช่น ถ้ามาจากพระเจ้าให้ต้นไม้ต้นนี้ล้มลงมาเลย เป็นต้น

13 ไม่สามารถร่วมงานหรือยอมรับคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ (เน้นความสมบูรณ์แบบ)


วิธีการชนะวิญญาณศาสนา
- พัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าในที่สงบ (มธ.6.6 ยอห์น5.44)


- สารภาพบาปและสร้างวินัยใหม่โดยมีการรายงานต่อผู้นำ (ยากอบ 1.8-10 ฮบ.10.25)

- อธิษฐานให้ความรักพระบิดาเข้ามาในเราและชุมชนของเรา ยอห์น 17.26

- แสวงหาพระเจ้าผ่านพระวิญญาณและผ่านพระคัมภีร์ (1 คร 12:10:1-4, 12:13, อฟ 5:18, ยน4:14, 2 ทธ.2:15)

- เปลี่ยนจากการวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นมาเป็นอธิษฐานวิงวอนเพื่อเขา (ยากอบ 5:20, 1 ปต. 4:8)

- อธิษฐานให้พระเจ้าปกป้องท่านจากวิญญาณศาสนาและสงครามฝ่ายวิญญาณ (อฟ 6:10-20)

- เมื่อล้มลงจงขอให้พระเจ้าและคนอื่นอภัยให้เราและช่วยเรา (ฟป3:13-14, 1 ยน 1:8-10)

1 ความคิดเห็น: