12 พฤษภาคม 2553

การรับใช้พระเจ้ากับการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณ

1โครินธ์ 2:4-5
4 คำพูดและคำเทศนาของข้าพเจ้าไม่ใช่คำที่เกลี้ยกล่อมด้วยสติปัญญา แต่เป็นคำซึ่งได้แสดงพระวิญญาณและพระเดชานุภาพ
5 เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้อาศัยสติปัญญาของมนุษย์ แต่อาศัยฤทธิ์เดชของพระเจ้า


•อ.เปาโลได้กล่าวถ้อยคำที่มีจากพระเจ้า
•อ. เปาโล ได้พูดโดยพึ่งพาพระคำของพระเจ้าแม้ท่านเองมีประสบการณ์ในการรับใช้ต่างๆมากมาย
•มีคำพยากรณ์ที่มาถึงประเทศไทย โดย ดร.ซัคเพียสร์ เป็นผู้เผยพระวจนะเกี่ยวกับเรื่องกาลเวลา ทิศทางของสิ่งต่างๆในโลกนี้

•เริ่มเห็นการตอบสนองของคนหนุ่มสาวมากขึ้นเริ่มต้นลุกขึ้นในการรับใช้พระเจ้า
•เมื่อHS ของพระเจ้าเคลื่อนไหวก็จะมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น
•เราสามารถตอบสนองได้ โดยอยู่นิ่งเฉยๆ การเคลื่อนตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ (HS) และการตอบสนอง HS
•ให้เราเคลื่อนไหวตามHS ที่ ทรงนำเรา

กิจการของอัครทูต บทที่ 2
•จากเหตุการณ์ที่สาวกรอคอยHS มีทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งกายภาพให้เห็น คือ ลม และไฟสัญฐานเหมือนลิ้น
•จากนั้นคนเหล่านั้นเริ่มพูดภาษาต่างๆ เป็นอาการที่เหมือนกับคนเมา จนทำให้คนรอบข้างที่เกิดความไม่เข้าใจ
•การที่ HS ที่พระเจ้ามาเคลื่อนไหวเราไม่สามารถรู้
•สิ่งเหล่านี้เป็นเส้นบางๆระหว่างความมีระบบระเบียบกับสิ่งที่พระเจ้าจะทำ

1.ประสบการณ์ต้องมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง

2.คนที่พบประสบการณ์จะต้องนำมาซึ่งการหิวกระหายพระเจ้าปรารถนาที่จะเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น


•ชีวิตจะแตกต่างจากเดิม

3.สำนึกในความบริสุทธิ์ของพระเจ้า

• นำไปสู่การกลับใจมากขึ้น
• คนจะมีชีวิตบริสุทธิ์มากขึ้น ไม่อยู่ในบาป มีชีวิตที่ชอบธรรมมากขึ้น

4.ของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธ์จะถูกปลดปล่อยมากขึ้น
  • รู้สึกหิวกระหายพระเจ้า

5.คำพูดของเขาจะเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจที่มาจากรพระเจ้ามากขึ้น

6.ความชื่นชมยินดีและตื่นเต้นอยู่เสมอ

7.เกิดความรักต่อผู้คนหลงหายและคนที่ยังไม่ได้รู้จักพระเจ้า

  • จะไม่ยึดติดตื่นเต้นกับประสบการณ์ แต่จะปรารถนานำความรักของพระเจ้าออกไป

8.จะเกิดความห่วงใยต่อผู้ด้อยโอกาส


•อสย 61 ปลดปล่อยเชลยสู่อิสรภาพ
  • เมื่อมีประสบการณ์จะเริ่มต้นในการมองที่ผู้อื่นก่อน และปรารถนาในการดูแลผู้อื่นสนใจผู้อื่นมากขึ้น

9.มองไปที่ผลของพระวิญญาณมากกว่าหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ

  • การสำแดงของกายภาพไม่สามารถตอบได้ว่ามาจากอารมณ์หรือไม่
  • ไม่ควรแสวงหารูปแบบการสำแดงอย่างเดียว แต่ควรแสวงหาผลมากกว่า
  • คนที่มีประสบการณ์ในHS ต้องดูว่าชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงหรือไม่
  • รักพระเจ้ามากขึ้นไหม รักคนมากขึ้นหรือไม่ ชนะบาปได้เร็วขึ้นหรือไม่
  • การสัมผัสของพระเจ้า อาจจะเกิดอาการหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่ไม่มีอาการจะหมายถึงการไม่ได้สัมผัสจากพระเจ้า
  • การสัมผัสของพระเจ้าต้องมีเป็นการสัมผัสจากส่วนลึกภายในจิตใจ ที่เกิดจากความสำนึกในความรักของพระเจ้า
  • บางครั้งบางคนเกิดจากมนุษย์ หรือมาจากการตะต้องจากพระเจ้าหรือประสบการณ์จากมนุษย์
  • การสำแดงออกของการกระทำของมนุษย์ในสิ่งต่างๆ เช่น การเห่าหอน การเลื้อย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประสบการณ์จากHS แต่มาจากสิ่งที่อยู่ภายในเราที่ซ่อนอยู่ของคนๆนั้น ที่เมื่อHS เข้ามาก็จะเกิดการต่อสู้ คล้ายการถูกผีเข้าเมื่อรับการชำระแล้วก็จะปกติ
    ประสบการณ์ในพระวิญญาณฯ เช่นการก้มกราบ,การนอนราบ,การล้มลง เราไม่สามารถสรุปได้ว่าประสบการณ์มาจากพระเจ้าหรือไม่แต่ต้องดูที่ผลของสิ่งนั้น

10.ประสบการณ์เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ใช่หลักการ
  • เราไม่สามารถเอาประสบการณ์ของเราเปรียบเทียบกับผู้อื่นเพราะเป็นประสบการณ์ของแต่ละคน
    การสัมผัสพระเจ้าเป็นพียงด่านแรกที่เราต้องปรารถนาลึกลงกับพระเจ้ามากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น