28 กันยายน 2562

ย้อนกลับไปนับพระพรก่อนเข้าสู่ปี 5780

ก่อนที่เราจะเข้าสู่เทศกาล Rosh Hashanah ปี 5780 ในค่ำวันที่ 29 ก.ย.2019 นี้ 

ปี 5780 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นทศวรรษใหม่ เปลี่ยนจากช่วงปีของตัวอักษรเอยิน(Ayin - ע) ภาพของดวงตา คือ การเฝ้าดู(behold) สิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงทำกิจต่างๆในชีวิตของเรา เข้าสู่ปีของตัวอักษรเพ (Pey-פ) ซึ่งเป็นภาพของปาก เป็นการอธิษฐานป่าวประกาศถ้อยคำของพระวจนะออกไปและเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ (New era)ในทศวรรษใหม่ของปี 5780 

ผมขอนำเพื่อนๆทุกท่านย้อนกลับไปนับพระพรถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำตั้งแต่ปี 5771-5779 ที่ผ่านมา 


ปฏิทินฮีบรูให้ความหมายของตัวอักษรภาพในภาษาฮีบรูในเชิงเผยพระวจนะดังเช่น

5700 = “ขอให้เป็นปีแห่ง...”   70 = อักษเอยิน(Ayin - ע)  ในช่วงทศวรรษ 70 ทศวรรษแห่งการมองเห็น  
อักษรเอยิน(Ayin - ע)  เป็นภาพของ”ดวงตา”  ในฤดูกาลเอยิน พระยาห์เวห์ต้องการเพิ่มความสามารถของเราในการเห็น!
พระองค์กำลังบอกว่า  ดูใหม่อีกครั้ง!   เราคิดว่าเราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว แต่ให้มองใหม่อีกครั้งและเราจะเห็นชัดเจนขึ้นอีก!  เราลองมองกลับไปนับพระพรในแต่ละปีกันอีกครั้งดังนี้


(สามารถ click เข้าไป อ่านบทความแต่ละปีตาม link ได้นะครับ)


ปี 5771 ปี Ayin Aleph  ปีแห่งฤดูกาลแห่งสิทธิอำนาจใหม่ ด้วยฤทธานุภาพ การยอมจำนนต่อจอมกษัตรา (A season of new authority,power,and submission to the King)





ปี 5772 ปี Ayin Beth ปีแห่งพันธสัญญา พระเจ้าทรงมองมาที่บ้านของพระองค์



 ปี 5773 ปี Ayin Gimel ปีแห่งมวลอฐ ปีแห่งพระพรความมั่งคั่ง ปีการรื้อฟื้นสู่การไถ่กลับมาทั้งหมด ปีที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างช่องว่างของอดีตไปสู่อนาคต (From recovery to wholeness : A year to bridge the gap between past and future)





ปี 5774 ปี Ayin Dalet ปีแห่งประตู "เชิญเข้ามาเถิด เพื่อจะเห็นการเปิดประตูสู่สายธารน้ำพุใหม่" (Enter In! Seeing the Open Door to New Springs!)



ปี 5775 ปีแห่งพายุหมุน อ้าแขนรับเสียงลมหมุนแห่งสวรรค์ ( Embracing the Sound of the Whirlwind of Heaven!)



ปี 5776 Ayin Vav ปีของการสถาปนาอนาคตของเราโดยพระยาห์เวห์ ตัวอักษรวาร์ฟ(Vav)ให้ภาพหมุดเต็นท์ ที่เราต้องตอกย้ำเชื่อมโยงอนาคตของเรากับแผนการของพระเจ้า และเราต้องปกป้องประตูแห่งอนาคตของเรา ไม่ให้ศัตรูมาทำลาย ปีที่สวรรค์นำการแทรงแซงเข้ามาในโลก 
นอกจากนี้ยังเป็นปีแห่งเสียงแตรเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งการอิสรภาพและปลดปล่อย  พระเจ้าทรงนำความโปรดปรานมาสู่ชีวิตของเรา (เลวีนิติ 25:8-12)




สำหรับในปี 5778 ปีนี้เป็นปีแห่งตัวอักษรฮีบรูคือ เอยิน เฆ็ท(Ayin Chet) ตัวอักษรเฆ็ท ประตูที่เป็นช่องทางผ่านไปสู่หนทางข้างหน้า

ในปี 5774 เป็นปีแห่งประตูเช่นเดียวกัน แต่ตัวอักษรปีนั้นคือ ד Dalet  หมายถึงประตู(door) ที่เป็นประตูที่พักอาศัย เช่นเต็นท์หรือบ้าน
แต่ในปี 5778 เป็นภาพของประตูที่เป็นช่องทาง (Doorway) ตัวอักษรเฆ็ท เป็นตัวอักษรผสมกันระหว่างตัวอักษรที่ 6 คือ ו Vav
ภาพของมนุษย์ และอักษรตัวที่ 7 คือ อักษร ז Zayin คือ ดาบ ดังนั้นปี 5778 จึงเป็นภาพของคนทีถือดาบกำลังเดินเข้าสู่ประตู เป็นการต่อสู่เพื่อไปสู่ประตูแห่งอนาคตซึ่งเป็นหนทางสู่เป้าประสงค์(destiny)ของพระยาห์เวห์ในชีวิต




ปี 5779 (Ayin Teth) ตัวอักษรประจำปีนี้คือตัวอักษร Teth -ט
เป็นภาพของวงจร(wheel) ครรภ์(womb) หมายถึงวรจรเวลาใหม่กำลังเคลื่อนมาถึงแล้ว และสิ่งใหม่ๆกำลังคลอดออกมา ดั่วทารกที่ถูกฟูมฟักอยู่ในครรภ์ถึง 9 เดือน เป็นเวลาแห่งการยินดีที่จะฉลองในปีแห่งผลองุ่นที่สดใหม่



ปี 5779 จะเป็นปีแห่งก้าวใหม่ที่ไปไกลขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่เป็นความใฝ่ฝัน นิมิตการสำแดงที่รอคอยจะเกิดขึ้นเป็นจริง(Our visions come forth) ตามถ้อยคำการเผยพระวจนะ


Rosh Hashanah ปีนี้จะเริ่มเย็นวันที่ 29 กันยายน. 2019 เป็นการเข้าสู่ปี 5780 ปีแห่งทศวรรษใหม่ ปีแห่งตัวอักษรฮีบรู คือ Pe פ

เราจะได้รับฟังจากอ.นิมิต และร่วมฉลอง Rosh Hashanah 5780 ในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.2019 โปรดติดตามอ่านได้เร็วๆนี้ครับ
 

14 กันยายน 2562

วิธีนมัสการที่ทูตสวรรค์ทำไม่ได้

วิธีนมัสการที่ทูตสวรรค์ทำไม่ได้
โดย Philip Kavilar
ทางเลือกที่หนึ่ง นมัสการพระเจ้าในฐานะที่พระองค์เป็นกษัตริย์
ในพระคัมภีร์อธิบายว่า ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์นั้นมีฐานันดรของการเป็นพลไพร่ของพระเจ้า (ทิตัส 2:14), (ฮีบรู 4:10)
เมื่อพลไพร่ของพระเจ้านมัสการพระองค์ด้วยบทเพลงแห่งพระเกียรติ ทูตสวรรค์ก็สามารถร้องบทเพลงแห่งพระเกียรตินี้ได้เช่นกัน เพราะโดยทั่วๆไปแล้ว ทูตสวรรค์ก็ให้เกียรติพระเจ้า ดังนั้นการนมัสการด้วยทางเลือกนี้ ทูตสวรรค์ก็ทำได้
ทางเลือกที่สอง นมัสการพระเจ้าในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นคุณพ่อ(พระบิดา)
ในพระคัมภีร์อธิบายว่า เมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งเชื่อเข้าสู่พระคริสต์ มนุษย์ผู้นั้นก็ได้รับฐานันดรของการเป็นบุตรของพระเจ้า (นอห์น 1:12)  ด้วยเหตุนี้ในพันธสัญญาใหม่ มนุษย์ที่เชื่อจึงเรียกพระเจ้าว่า “คุณพ่อหรือพระบิดา”
มีข้อพระคัมภีร์บางข้อที่ตีความได้ว่า ทูตสวรรค์ก็มีฐานันดรแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้าด้วย (สดุดี 89:6), (โยบ 1:6) ด้วยเหตุนี้ เมื่อมนุษย์เทิดทูนพระเจ้าด้วยบทเพลงแห่งความรักของพระบิดา ทูตสวรรค์ก็อาจจะนมัสการด้วยบทเพลงแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนมัสการแบบหัวใจพระบิดา ทูตสวรรค์ก็อาจทำได้
ทางเลือกที่สาม นมัสการพระเจ้าพระบุตรในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นองค์เจ้าบ่าว
เมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งเชื่อเข้าสู่พระคริสต์ มนุษย์ผู้นั้นก็ได้รับฐานันดรของการเป็น “พลไพร่ของพระเจ้า” และได้รับฐานันดรของการเป็น “บุตรของพระเจ้า” ด้วย ทว่ายังมีอีกฐานันดรหนึ่งที่ผู้เชื่อในพระคริสต์ทุกคนพึงได้รับ ฐานันดรนั้นก็คือฐานันดรของการเป็นเจ้าสาวของพระเยซู
จริงอยู่ว่าทูตสวรรค์อาจจะเป็นพลไพร่ของพระเจ้า และแม้ทูตสวรรค์อาจจะมีฐานันดรของการเป็นบุตรชายของพระเจ้า แต่ก็ไม่มีข้อพระคัมภีร์ใดที่เขียนว่า ทูตสวรรค์เป็นเจ้าสาวของพระเจ้า ดังนั้นเมื่อมนุษย์เทิดทูนพระเยซูด้วยบทเพลงแห่งความรักแบบเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทูตสวรรค์ก็ไม่อาจที่จะร้องเพลงในลักษณะนี้ได้ บางทีการนมัสการแบบเจ้าบ่าวเจ้าสาวถือเป็นเขตแดนที่ทูตสวรรค์ไม่อาจเอื้อมถึง

01 กันยายน 2562

ห้าประการใหญ่ๆ ของคำว่า ทั้งหมด “ALL” (Five Big “All’s”)

 ห้าประการใหญ่ๆ ของคำว่า – ทั้งหมด “ALL” (Five Big “All’s”)

 โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์( Asher Intrater)

ในขณะที่เราเข้าสู่ยุคสุดท้ายและเข้าใกล้การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูมากขึ้น มีหลายกระแสหลักที่กำลังมุ่งหน้าไปยังการบรรลุเป้าหมายของมันเอง แน่นอนว่าพวกเราในอิสราเอลกำลังมองไปยังการฟื้นฟูใหญ่ตามพระสัญญาที่มีให้กับคนของเรา

โรม 11:26 และเมื่อเป็นดังนั้น พวกอิสราเอลทั้งปวง (ALL Israel) ก็จะได้รับความรอด

ในการอธิษฐานสำหรับเหตุการณ์ที่ได้รับพระพรนี้ ผมตระหนักว่าการฟื้นฟูเช่นนี้ในอิสราเอลจะเชื่อมโยงกับการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย การฟื้นฟูในอิสราเอลและการเทลงมาทั่วโลกเป็นส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

กิจการ 2:17 พระเจ้าตรัสว่าในวาระสุดท้าย เราจะเทฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของเราโปรดประทานแก่มนุษย์ ทั้งปวง (ALL Flesh)

การฟื้นฟูในอิสราเอลและการเทลงมาของพระวิญญาณเป็นสัญลักษณ์แห่งวาระสุดท้ายของพระมหาบัญชา ที่มาถึงจุดสำเร็จเสร็จสิ้นในเวลาเดียวกัน

มาระโก 16:15 (มัทธิว 28:19) เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก (ALL the world) ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน

ในขณะที่สามเหตุการณ์เหล่านี้มาถึงความไพบูลย์ คริสตจักรนานาชาติ (ecclesia) ก็จะมาถึงซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างเต็มขนาดด้วยเช่นกัน

ยอห์น 17:21 เพื่อเขาทั้งหลาย (they ALL) จะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

คำอธิษฐานของพระเยซูเป็นมากกว่าแค่เพียงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่เพื่อความไพบูลย์ของความรัก พระสิริ และความบริสุทธิ์ภายในคนของพระเจ้า การฟื้นฟูในอิสราเอล การเทลงมาทั่วโลก และการเสร็จสิ้นของพระมหาบัญชาเกิดขึ้นด้วยกันกับพระกายของพระเมสสิยาห์มาถึงซึ่งความไพบูลย์

เมื่อการพัฒนาที่งดงามเหล่านี้มาถึงความไพบูลย์ ซาตานและโลกจะต่อต้านพวกเขาด้วย "ความไพบูลย์" ทั้งหมดของพวกเขาเช่นกัน ประชาชาติจะถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวในการโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เพื่อที่จะขัดขวางการกลับมาของพระเยซู

เศคาริยาห์ 14:2 เพราะเราจะรวบรวมประชาชาติทั้งสิ้น (ALL the nations) ให้ทำศึกกับเยรูซาเล็ม

แผนการของพระเจ้าคือ "ทั้งหมด" (ALL) รวมถึงทุกสิ่งในสวรรค์และแผ่นดินโลก (เอเฟซัส 1:10) และพระสัญญาของพระองค์จะเป็นจริง (II โครินธ์ 1:20) เหตุการณ์ทั้งหมดของยุคสุดท้ายนั้นเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน

ข้อมูลโดย :
https://tribe.reviveisrael.org/five-big-alls/

(Five Big “All’s ) by Asher Intrater

As we enter more into the End Times and closer to the second coming of Yeshua, there are several major trends which are moving toward their fulfillment. Of course, we in Israel are looking toward the great promised revival of our people.

Romans 11:26
And so ALL Israel will be saved.
In praying for this blessed event, I realized that such a revival in Israel would undoubtedly be connected with a wider outpouring of the Holy Spirit. The revival in Israel and the worldwide outpouring are part of one and the same occurrence.

Acts 2:17
It will come to pass in the end days, that I will pour out My spirit on ALL flesh.
The revival in Israel and the worldwide outpouring represent the last stage of the great commission. The gospel commission likewise comes to its completion at the same time.

Mark 16:15 (Matthew 28:19)
Go into ALL the world and preach the gospel to every creature.
As these three events come to their fullness, so will the international Church (ecclesia) come into its full unity.

John 17:21
May they ALL be one.
Yeshua’s prayer is more than for just unity, but for the fullness of love, glory and holiness within the people of God. The revival in Israel, the worldwide outpouring, and the completion of the great commission take place together with the Body of Messiah coming into its fullness.

As these wonderful developments come to their fullness, so will Satan and the world react against them with all of their “fullness.” The nations will be united in a massive attack on Israel in order to try to prevent, as it were, the coming of Yeshua.

Zechariah 14:2
I will gather ALL the nations to Jerusalem for war.
The plan of God is “all” inclusive, of everything in heaven and earth (Ephesians 1:10); and all His promises will come to pass (II Corinthians 1:20). All these events of the End Times are connected one with another.

สติปัญญาสุดท้ายจากแวกเนอร์ (การบริหารเงินในโบสถ์)

หนังสือเล่มสุดท้ายที่แวกเนอร์เขียน
ปีเตอร์ แวกเนอร์
ก่อนที่อัครทูตปีเตอร์ แวกเนอร์ จะล่วงหลับ
ท่านได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง อันเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายที่ท่านเขียนก่อนจะสิ้นลม
หนังสือเล่มนี้นับเป็น สติปัญญาสุดท้ายที่ท่านได้มอบให้กับคริสตจักร
หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า The Great Transfer of Wealth
ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “การถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งยิ่งใหญ่”

ลักษณะของวิญญาณแห่งความยากจน
หนังสือการถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งยิ่งใหญ่
ปกติแล้ว เมื่อคนที่มีวิญญาณแห่งความยากจน ได้รับเงินก้อนใหญ่
ผลสำรวจพบว่า ภายในเวลาไม่กี่ปี เงินก้อนใหญ่นี้ก็จะหายสาบสูญหมด
จากงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับ ผู้คนที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ (แบบหลายสิบล้าน)
ผลวิจัยพบว่า ไม่เกินสิบปี คนส่วนใหญ่ที่ถูกลอตเตอรี่มักจะมีความเป็นอยู่ที่เหมือนเดิมหรือไม่ก็แย่ลงกว่าเดิม นอกจากนี้เงินก้อนใหญ่ที่พวกเขาเคยมีก็มักจะสูญหายหมด

ลักษณะของวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง
อนึ่ง สำหรับคนที่มีวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง เมื่อพวกเขาได้รับเงินก้อนใหญ่
ภายในเวลาไม่กี่ปี เงินก้อนใหญ่ที่พวกเขามี ก็มักจะเพิ่มพูนขึ้นไปอีก

มีคำคมหนึ่งกล่าวไว้ว่า
เมื่อคุณให้เงิน 1 ล้าน กับคนที่มีวิญญาณแห่งความยากจน
1 ปีผ่านไป พวกเขาจะมีรถยนต์สุดหรู และมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ แต่เงิน 1 ล้านนั้นจะหายไปหมด
ทว่าเมื่อคุณให้เงิน 1 ล้านกับคนที่มีวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง
1 ปีผ่านไป เงิน 1 ล้านนั้นจะเพิ่มพูนเป็นล้านกว่าๆ 

ในวิญญาณแห่งความยากจน เงินก้อนใหญ่จะร่อยหรอและสูญหายไปเรื่อยๆ
แต่ในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง เงินก้อนใหญ่จะเพิ่มพูนและงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ

วิญญาณแห่งความยากจนและวิญญาณแห่งความมั่งคั่งในโบสถ์
บางทีถ้าคริสตจักรอยู่ในวิญญาณแห่งความยากจน
สมมติถ้าเกิดมีเงินก้อนใหญ่โอนเข้ามา ภายในเวลาไม่กี่ปี คริสตจักรก็จะใช้เงินจนหมด
แต่ถ้าคริสตจักรอยู่ในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง
แล้วถ้าเกิดมีเงินก้อนใหญ่โอนเข้ามา วันเวลาผ่านไป เงินทุนของคริสตจักรก็จะมีแด่เพิ่มพูนขึ้น

ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือ “การทำลายวิญญาณแห่งความยากจนในคริสตจักร”
ถ้าคริสตจักรยังคงอยู่ในวิญญาณแห่งความยากจน
ต่อให้มีเงินทุนก้อนใหญ่โอนมา คริสตจักรก็อาจจำเริญขึ้นในระยะสั้น แต่ในระยะยาวสภาพของคริสตจักรก็อาจจะคงเดิมหรือแย่กว่าเดิม
แต่ถ้าคริสตจักรเต็มล้นในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง
ถ้าเกิดมีเงินทุนก้อนโตโอนมา คริสตจักรก็สามารถจำเริญขึ้นได้ในระยะยาว
เพราะโดยวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง คริสตจักรก็สามารถรับมือกับเงินทุนก้อนใหญ่ได้อย่างดี

และต่อไปนี้ คือคำแนะนำจากสติปัญญาสุดท้ายของอัครทูตปีเตอร์ แวกเนอร์

4 ห่วงโซ่ของกระแสเงินสด
ในหนังสือ “การถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งใหญ่” แวกเนอร์ได้อธิบายประมาณว่า
สำหรับโบสถ์นั้น กระแสเงินสดจะมีห่วงโซ่สำคัญอยู่ 4 ห่วงโซ่


รูป ห่วงโซ่ของการกระแสเงินสด


โดยห่วงโซ่แรกเรียกว่า เงินทุนที่เข้ามา (ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาผ่านการถวาย)
ห่วงโซ่ที่สองเรียกว่า ผู้จัดการ (Manager)
ห่วงโซ่ที่สามและสี่เรียกว่า การแจกจ่ายและการใช้เงินที่หน้างาน

แวกเนอร์ได้อธิบายว่า ในบรรดา 4 ห่วงโซ่นี้
ห่วงโซ่ที่อ่อนแอที่สุด ณ ตอนนี้ก็คือ ห่วงโซ่ผู้จัดการ
หลายครั้งเมื่อโบสถ์ได้รับเงินถวายไม่ว่าจะเป็นก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก
โบสถ์ก็มักจะนำเงินถวายไปแจกจ่ายและใช้ที่หน้างานจนหมด
สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ต่างจากคนที่อยู่ในวิญญาณแห่งความยากจนเลย
คนที่อยู่ในวิญญาณแห่งความยากจน ต่อให้ได้เงินมาเท่าไร ก็ใช้จ่ายจนหมด

การบริหารในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง
คนที่อยู่ในวิญญาณแห่งความยากจน เมื่อได้รับเงินทุนเข้ามาก็จะรีบใช้จ่ายจนหมด
ทว่าคนที่อยู่ในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง เมื่อได้รับเงินทุนมาแล้วก็จะไม่รีบใช้จ่ายทันที
คนที่อยู่ในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง จะนำเงินทุนที่ได้รับมาไปเพิ่มพูนก่อน
และเมื่อเงินทุนได้รับการเพิ่มพูนแล้ว จึงค่อยนำเงินในส่วนที่เพิ่มพูนไปใช้จ่ายอีกทีหนึ่ง

ดังนั้นถ้าโบสถ์อยู่ในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง เมื่อโบสถ์ได้รับเงินทุนมาแล้ว
โบสถ์ก็จะไม่รีบใช้เงินทุนที่มี แต่โบสถ์จะนำเงินทุนที่ได้รับมานั้นไปเพิ่มพูนก่อน
และเมื่อเงินทุนเกิดมีการเพิ่มพูน โบสถ์จึงค่อยนำเงินในส่วนที่เพิ่มพูนมาใช้จ่ายอีกทีหนึ่ง
การบริหารเงินในวิญญาณแห่งความมั่งคั่ง จะช่วยทำให้โบสถ์มีเงินสนับสนุนพันธกิจในระยะยาว

กระแสเงินสดควรมีครบทั้ง 4 ห่วงโซ่
ที่ผ่านมา กระแสเงินสดที่เกิดขึ้นในโบสถ์มักจะมีแค่สามห่วงโซ่
ก็คือ 1. ได้รับเงินทุนเข้ามา 2. แจกจ่ายเงินทุนในพันธกิจต่างๆ 3. ใช้จ่ายเงินทุนที่หน้างาน
กระแสเงินสดแบบนี้ มักจะทำให้เงินทุนที่มีอยู่หมดอย่างรวดเร็ว

ในคำแนะนำของแวกเนอร์ได้กล่าวถึงกระแสเงินสดที่มี 4 ห่วงโซ่ก็คือ
1. เงินทุนที่เข้ามา 2.ผู้จัดการ 3.การแจกจ่าย 4.ใช้หน้างาน
ทั้งนี้ห่วงโซ่ที่สำคัญสำหรับการสนับสนุนพันธกิจในระยะยาวก็คือ ห่วงโซ่ผู้จัดการ

ในคำแนะนำของแวกเนอร์ ผู้จัดการควรเป็นอัครทูตที่มีการเจิมด้านการเงิน
โดยหน้าที่หลักของผู้จัดการก็คือ นำเงินทุนที่เข้ามาไปเพิ่มพูน
ตามหลักของแวกเนอร์ โบสถ์ไม่ควรจะรีบใช้เงินทุนในทันที 
แต่โบสถ์ควรนำเงินทุนที่ได้รับมาไว้ในมือของผู้จัดการ
แล้วผู้จัดการจะนำเงินทุนที่ได้มาไปเพิ่มพูนก่อน
เมื่อเงินทุนได้รับการเพิ่มพูนแล้ว โบสถ์จึงค่อยใช้เงินที่เพิ่มพูนไปแจกจ่ายแล้วใช้ที่หน้างานอีกทีหนึ่ง

อนึ่ง แนวทางการเพิ่มพูนเงินของผู้จัดการนั้น ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี
ซึ่งอัครทูตด้านการเงินมักจะมีการเจิมที่รู้ว่า ต้องนำเงินไปเพิ่มพูนอย่างไรถึงจะเกิดผลสุกงอมในระยะยาว

ปัญญาอย่างสุดท้ายที่แวกเนอร์มอบให้กับคริสตจักร
การไม่รีบใช้เงินทุน แต่นำเงินทุนไปเพิ่มพูนด้วยอัครทูตด้านการเงิน ก่อนที่จะใช้จ่ายนั้น
ถือเป็นข้อแนะนำจากหนังสือ “การถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งใหญ่” 
อันเป็นปัญญาอย่างสุดท้ายที่อัครทูตแวกเนอร์ได้มอบให้กับคริสตจักร

ชาโลม

ค้นคว้าเพิ่มเติมได้จาก
หนังสือ “The Great Transfer of Wealth” เขียนโดย C. Peter Wagner

Philip Kavilar นักวิชาการด้านฟิสิกส์ ผู้ศึกษาพระคัมภีร์เป็นงานอดิเรก เป็นผู้ที่มีของประทานด้านวิชาการและการเผยพระวจนะผสมผสานกัน  ท่านมีความปรารถนาที่จะเห็นการร่วมประสานกันระหว่างพี่น้องในสายวิชาการกับพี่น้องในสายฤทธิ์เดช และหนุนใจให้คริสตจักรขับเคลื่อนในการเผยพระวจนะและการแปลภาษาแปลกๆ