พระเจ้าทรงลงโทษความบาป (God punishes sin -GPS)
โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์ (Asher Intrater)
มีหนึ่งความหมายที่เป็นรากฐานสำหรับเนื้อหาพระวจนะส่วนใหญ่ในพระคัมภีร์คือ “จงกลับใจเสียใหม่" เพราะอาณาจักรพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว”
นี่อาจเป็นข้อสรุปของผู้เผยวจนะอิสราเอลทุกคน
เยเรมีย์ 25:5 ‘บัดนี้ทุกคนจงหันกลับจากทางชั่วของตนและจากการกระทำผิดของตน เพื่อจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์ประทานแก่เจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตั้งแต่โบราณและต่อไปเป็นนิตย์
ถ้อยคำนี้มีมาก่อนการเสด็จมาของพระเยซู มัทธิว 3:2“จงกลับใจใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว” และก่อร่างพระกิตติคุณส่วนแรก (กิจการฯ 2:38, 17:30-31)
กิจการฯ 2 :38 เปโตรจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านทั้งหลาย แล้วพวกท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์
กิจการฯ 17:30-31
30ในเวลาเมื่อมนุษย์ยังไร้เดียงสา พระเจ้ามิได้ทรงถือโทษ แต่เดี๋ยวนี้ พระเจ้าได้ตรัสสั่งแก่มนุษย์ทั้งปวงทั่วทุกแห่งให้กลับใจใหม่
31 เพราะพระองค์ได้ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้ ในวันนั้นพระองค์จะทรงพิพากษาโลกตามความชอบธรรม โดยมนุษย์ผู้นั้นซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกไว้ และพระเจ้าได้ทรงโปรดให้คนทั้งปวงมีความแน่ใจในเรื่องนี้ โดยทรงให้มนุษย์ผู้นั้นคืนชีวิต"
รวมทั้งถูกเน้นย้ำในการบันทึกทางพระคัมภีร์ -
การเปิดเผยการล่วงหน้าเกี่ยวกับยุคสุดท้าย (วิวรณ์ 2:5, 14:7)
วิวรณ์ 2:5 เพราะฉะนั้นจงระลึกถึงสภาพเดิมที่เจ้าตกลงมาแล้วนั้น จงกลับใจใหม่และทำตามที่ประพฤติในตอนแรก มิฉะนั้นเราจะมาหาเจ้า และจะย้ายคันประทีปของเจ้าออกจากที่ของมัน นอกจากว่าเจ้าจะกลับใจใหม่
วิวรณ์ 14:7 ท่านประกาศเสียงดังว่า “จงเกรงกลัวพระเจ้า และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาแล้ว จงนมัสการพระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และบ่อน้ำพุทั้งหลาย”
เหตุผลก็คือเมื่อถึงคราวที่อาณาจักรพระเจ้ามาถึง
แต่ละคนจะรับการพิพากษา กล่าวรายงานถึงสิ่งที่ตนได้ทำ
เขาจะได้รับรางวัลสำหรับสิ่งดีและรับการลงโทษสำหรับสิ่งชั่วร้าย
รางวัลจะดีเลิศกว่าที่จินตนาการไว้
และการลงโทษก็จะเลวร้ายกว่าที่จินตนาการไว้เช่นกัน ความหวังที่จะได้รางวัลจุดประกายแรงจูงใจเชิงบวกให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง
การลงโทษก่อให้เกิดแรงจูงใจที่เกรงกลัวเพื่อหยุดการทำผิด
แรงจูงใจจากความเกรงกลัวนี้เป็นบรรทัดฐานในการเข้าใจเนื้อหาของอาณาจักรที่เหลือทั้งหมดแบบ “ไม่มีการฅ่อเฅิม” แก่นแท้ของความจริงนี้มีความยากที่จะเข้าใจ
ผมขอเรียกเป็นตัวย่อง่ายๆว่า "GPS" ซึ่งไม่ใช่ระบบนำทางแต่เป็นพระเจ้าทรงลงโทษความบาปตรงตามภาษาอังกฤษที่ว่า GOD PUNISHES SIN
คำโกหกแรกของมารนั้นคือบอกอาดัมและเอวาว่าพระเจ้าทรงไม่ลงโทษความบาป “เจ้าจะไม่ตายแน่” (ปฐมกาล 3:4) คำโกหกแรกคือ “คุณสามารถทำบาปได้และจะไม่ถูกลงโทษ” คำโกหกนี้คือบิดาแห่งคำโกหกทั้งปวง
มีกลลวงที่แยบยลอีกหลายพันชั้นเกิดขึ้นมาเพื่อปกปิดคำโกหกนี้
ผู้เผยพระวจนะทั้งหลายก็แค่พูดความจริงที่ว่า “ชีวิตที่กระทำบาปจะต้องตาย” (เอเสเคียล 18:20)
มีการลงโทษความบาปหลายรูปแบบ ที่เลวร้ายที่สุดคือการถูกแช่งสาปนิรันดร์ในบึงไฟ(ลูกา12:5) แต่ยังมีการลงโทษที่ระดับเบา ลงมา
บางอย่างเกิดขึ้นในชั่วชีวิตนี้และอื่นๆในโลกที่จะมาถึง (ลูกา12:46-48) พระเยซูสอนว่าความเกรงกลัวหรือความยำเกรงพระเจ้าตั้งอยู่บนการลงโทษหลายรูปแบบตามประเภทของความบาป
มนุษย์เราเห็นความบาปของตัวเองได้ยาก
เราเห็นความผิดของผู้อื่นได้ง่ายกว่า
เรามีแนวโน้มในด้านร้ายที่จะหลอกลวงตนเองว่าสามารถทำผิดได้โดยไม่ถูกลงโทษ
ความสามารถในการโยนความผิดและแก้ตัวย้อนกลับไปได้ถึงในสวนเอเดน ความคิดที่ว่า พระเจ้าลงโทษความบาปนั้นเห็นได้ชัดทั้งทางเหตุผลและทางจริยธรรม
อย่างไรก็ดีแนวโน้มของเราที่จะหลอกตัวเองทำให้เรื่องนี้ยากที่จะเข้าใจ
ให้เราวิ่งมาหาพระเจ้าพระบิดาของเราผู้ทรงรักเรา
ให้เรากลับใจจากบาปอย่างรวดเร็ว ทำลายการหลอกตัวเอง เรียนรู้การยำเกรง ที่งดงามและบริสุทธิ์ต่อพระเจ้า
รับการชำระจากพระโลหิตพระเยซู รับการเติมเต็มจากพระวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์
สติปัญญาและการเปิดเผยสำแดง และเดินในความยินดีแห่งความรอดของเรา
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น