บทความเรื่อง "รู้น้ำพระทัยพระเจ้าผ่านหัวใจ" โดย Haiyong Kavilar
พวกเราที่เป็นคริสเตียนย่อมมีใจที่อยากจะรับใช้พระเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นการรับใช้ในโบสถ์หรือนอกโบสถ์
กระนั้นสิ่งหนึ่งที่บางคนมีปัญหาอยู่ก็คือ การไม่รู้ว่าจะรับใช้ในพันธกิจแบบไหนดี เพื่อนๆบางคนอาจมีความรู้สึกลึกๆว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์มิได้เรียกให้เขาทำงานในโบสถ์
แต่ก็ยังไม่รู้น้ำพระทัยพระเจ้าว่าควรจะทำพันธกิจเจาะจงในรูปแบบใด
เมื่อกล่าวถึงการรู้น้ำพระทัยพระเจ้า
เพื่อนๆบางคนจะเน้นในมิติของการเผยพระวจนะ ด้วยมีความเชื่อว่าโดยคำเผยพระวจนะ เขาจะรู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี
เพื่อนๆบางคนอาจจะเน้นในมิติของพระคัมภีร์ ด้วยมีความเชื่อว่า
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำให้เขาล่วงรู้น้ำพระทัยได้ผ่านพระคำที่อยู่ในพระคัมภีร์
อย่างไรก็ตาม ผมขอเสนอการรู้น้ำพระทัยพระเจ้าในอีกวิธีหนึ่งก็คือ การรู้น้ำพระทัยพระเจ้าผ่านหัวใจ
ในพันธสัญญาเดิม
พระวิญญาณบริสุทธิ์มิได้อาศัย “ภายใน”
หัวใจมนุษย์ พระองค์เพียงแต่สถิตอยู่ “บน” มนุษย์เพื่อให้ฤทธิ์เดชเป็นครั้งคราว
แต่ในพันธสัญญาใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ “บน” มนุษย์เพื่อให้ฤทธิ์เดช และยังอาศัยอยู่ “ภายใน”
หัวใจมนุษย์เพื่อนำพาให้มนุษย์กระทำตามพระทัยพระองค์
(เอเสเคียล
36:27) เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ภายในของเจ้าทั้งหลาย
แล้วทำให้เจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษากฎหมายของเรา
ทั้งทำตามนั้น
สัญลักษณ์ของ Glory of Zion
|
ในพันธสัญญาเดิม
พระบัญญัติถูกจารึกไว้บนศิลาและเรียกร้องให้มนุษย์เชื่อฟัง แต่ในพันธสัญญาใหม่
พระบัญญัติถูกจารึกไว้ในหัวใจของมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ซึ่งจะทำให้มนุษย์เชื่อฟังพระเจ้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพากำลังของตัวเอง
ในหลักข้อเชื่อข้อที่7
ของ Glory of
Zion ได้กล่าวถึงพระคุณของพระเจ้าว่า
"โดยพันธสัญญาใหม่ พระบัญญัติถูกจารึกไว้บนหัวใจของพวกเรา
การดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมจึงไม่ใช่การพยายามรักษามาตรฐานภายนอก
แต่เป็นการเชื้อเชิญให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ผลิตผลของพระองค์ภายในเรา"
ในพันธสัญญาใหม่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้กระทำกิจอยู่ในหัวใจของผู้เชื่อ
และได้ผลักดันให้ผู้เชื่อกระทำตามน้ำพระทัยของพระองค์
ดังนั้นด้านหนึ่งผู้เชื่อจึงสามารถล่วงรู้น้ำพระทัยพระเจ้าได้ผ่านความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของเขา
ถ้าความปรารถนาลึกๆของเพื่อนๆคือการเป็นพรต่อเด็กๆ
นั่นอาจหมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำให้เพื่อนๆทำพันธกิจกับเด็กๆ
ถ้าความปรารถนาลึกๆของเพื่อนๆคือการแก้ไขปัญหาสังคม
นั่นอาจหมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเพื่อนๆให้ทำพันธกิจเพื่อปฏิรูปสังคม
ถ้าความปรารถนาลึกๆของเพื่อนๆคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคริสตจักร
นั่นอาจหมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเพื่อนๆให้ทำพันธกิจในการรื้อฟื้นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
คำอธิษฐานหนึ่งที่เพื่อนๆบางคนอาจอธิษฐานก็คือ
“อย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์
แต่ให้เป็นไปตามพระทัยพระองค์”
อย่างไรก็ตามคำอธิษฐานนี้ปรากฏอยู่แค่เหตุการณ์เดียวในพระคัมภีร์คือในคืนก่อนที่พระเยซูถูกตรึง
ซึ่งตลอดพระคัมภีร์เองก็ไม่ได้มีคำอธิษฐานแบบนี้
แม้แต่พระเยซูก็อธิษฐานแบบนี้แค่ครั้งเดียวในพระคัมภีร์
จึงกล่าวได้ว่าคำอธิษฐานนี้ไม่ได้เป็นเรื่องปกติในชีวิตพระเยซู กระทั่งเหล่าอัครทูตก็ไม่เคยแนะนำให้ผู้เชื่ออธิษฐานแบบนี้
คำอธิษฐานนี้ไม่ได้เป็นเรื่องปกติในชีวิตคริสเตียน
คำอธิษฐานที่พระเยซูสอนสาวกใน
(มัทธิว 6) มีส่วนหนึ่งที่กล่าวว่า “ขอให้เป็นไปตามพระทัยพระองค์” แต่ตามภาษากรีกแล้วคำอธิษฐานสามารถแปลเป็น “ขอให้น้ำพระทัยพระองค์จงสำเร็จ”
ซึ่งพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ก็แปลแบบนี้ (Your will be done) ในคำอธิษฐานนี้พระเยซูไม่ได้สอนสาวกให้หยุดการใช้หัวใจแต่อย่างใด
เพราะในพันธสัญญาใหม่ หัวใจของผู้เชื่อมีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่
และน้ำพระทัยพระเจ้าจะปรากฏและสำเร็จได้เมื่อผู้เชื่อดำเนินตามสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ประทานภาระให้ในหัวใจของเขา คำอธิษฐานที่ว่า “อย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์” จึงไม่ใช่คำอธิษฐานปกติในชีวิตคริสเตียน
อย่างไรก็ตาม
นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเราจะเป็นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
บางครั้งความคิดที่ชั่วร้ายก็อาจผุดขึ้นในหัวใจของเราก็ได้
ซึ่งเราก็ต้องแยกแยะโดยอาศัยพระวจนะ
แต่หลายครั้งหลายคราสิ่งดีและความปรารถนาดีที่อยู่ในหัวใจลึกๆของผู้เชื่อนั้นคือภาระที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ประทานให้กับเขา
บางทีความใฝ่ฝันลึกๆที่อยู่ในหัวใจของผู้เชื่อ
คือเมล็ดพันธุ์ของพระเจ้าที่พระองค์ทรงหว่านไว้และพระองค์กำลังรอคอยให้เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เติบโตขึ้น
ผมขอจบบทความนี้ด้วยกลอนแปดที่ผมเคยแต่งเมื่อนานมาแล้วว่า
ในวิญญาณในหัวใจในความคิด เห็นนิมิตในวิญญาณคือการเผยฯ
ด้วยความคิดใช้ปัญญาไม่ละเลย แต่เฉยเมยกับหัวใจอาจวิบัติ
ด้วยความคิดใช้ปัญญาไม่ละเลย แต่เฉยเมยกับหัวใจอาจวิบัติ
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หลักข้อเชื่อของ
Glory of Zion จาก http://www.gloryofzion.org/gzihome/beliefs.php
Systematic
Theology for The New Apostolic Reformation เขียนโดย Harold Eberle
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น