23 มกราคม 2560

พระเจ้าทรงนำผ่านสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคุณ!

บทความเรื่อง "พระเจ้าทรงนำผ่านสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคุณ!" 

โดย Haiyong Kavilar

เมื่อไม่นานมานี้มีพี่น้องท่านหนึ่งฝากให้ผมช่วยค้นคว้าความหมายของคำว่า ปฏิเสธตนเอง ในข้อพระคัมภีร์ที่ว่า

(มัทธิว 16:24) พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​บรร​ดา​สา​วก​ของ​พระ​องค์​ว่า “ถ้า​ใคร​ต้อง​การ​จะ​ติด​ตาม​เรา
ให้​คน​นั้น​ปฏิ​เสธ​ตน​เอง รับ​กาง​เขน​ของ​ตน​แบก​และ​ตาม​เรา​ม

สมัยก่อนผมเคยใคร่ครวญความหมายของการ ปฏิเสธตนเอง ซึ่งแต่ก่อนผมตีความหมายวลีนี้ว่า ให้ปฏิเสธความต้องการของตนเองหรือปฏิเสธความคิดเห็นของตนเอง และรับเอาน้ำพระทัยและความคิดเห็นของพระเจ้าเข้ามาแทนที่

อย่างไรก็ตามเมื่อวันเวลาผ่านไป ผมก็รู้สึกว่าความเข้าใจแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยเหลือผมในการดำเนินชีวิตกับพระคริสต์มากนัก แถมยังทำให้ผมดำเนินชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมชาติด้วย เพราะมัวแต่กลัวว่าความคิดหรือความต้องการของตัวเองจะขัดแย้งกับน้ำพระทัยของพระเจ้า ต่อมาผมก็ได้ค้นพบว่าในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้ามิได้เพียงแค่ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับผู้เชื่อเท่านั้น แต่พระเจ้าประทาน หัวใจใหม่ ให้กับผู้เชื่อด้วย

(เอเสเคียล 36:26) เรา​จะ​ให้​ใจ​ใหม่​แก่​พวก​เจ้า และ​เรา​จะ​บรรจุ​วิญ​ญาณ​ใหม่​ไว้​ภาย​ใน​ของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย เรา​จะ​นำ​ใจ​หิน​ออก​จาก​เนื้อ​ของ​เจ้า และ​ให้​ใจ​เนื้อ​แก่​เจ้า

วินาทีที่ผู้เชื่อบังเกิดใหม่ ไม่เพียงแต่วิญญาณของผู้เชื่อเปลี่ยนแปลง แต่หัวใจของผู้เชื่อก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ในพันธสัญญาใหม่พระเจ้าได้ทรงจารึกพระบัญญัติไว้ที่หัวใจของผู้เชื่อ ซึ่งต่างจากพันธสัญญาเดิมที่พระเจ้าจารึกพระบัญญัติไว้ที่แผ่นศิลา ด้วยเหตุนี้ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าทรงนำผู้เชื่อผ่านความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของผู้เชื่อด้วย บางครั้งเราสามารถรู้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าได้ผ่านความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของเรา

ฮาโรลด์ เอเบอร์เล (อัครทูตผู้เขียนหนังสือ ศาสนศาสตร์ระบบสำหรับการปฏิรูปอัครทูตครั้งใหม่) ได้กล่าวไว้ว่า บางครั้งเมื่อผมยุ่งอยู่กับพันธกิจจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป แทนที่ผมจะใคร่ครวญว่าน้ำพระทัยของพระเจ้าคืออะไร ผมจะถามตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่ผมต้องการทำมากที่สุดในตอนนี้ เหตุที่ผมถามตัวเองเช่นนี้ เพราะผมเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้ทำกิจอยู่ในหัวใจผม หัวใจของผมจึงเป็นช่องทางหลักที่พระเจ้าทรงนำ

ในพันธสัญญาใหม่ นอกจากที่พระเจ้าประทานหัวใจใหม่ให้กับผู้เชื่อแล้ว พระองค์ยังทรงประทานให้ผู้เชื่อมีความคิดของพระคริสต์อยู่ภายในด้วย

(1 โครินธ์ 2:16) เพราะ​ว่า “ใคร​เล่า​รู้​พระ​ทัย​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ? เพื่อ​จะ​แนะ​นำ​สั่ง​สอน​พระ​องค์​ได้” แต่​เรา​ก็​มี​พระ​ทัย​[ความคิด]ของ​พระ​คริสต์

 Dr. Harold R. Eberle
หลายครั้งความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของผู้เชื่อหรือสิ่งที่ผู้เชื่อกำลังคิด คือสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังนำผู้เชื่อ บางครั้งเมื่อมีการสอนเรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณ ผู้เชื่อบางคนก็กลัวว่ามารอาจจะใส่ความคิดที่ไม่ดีมายังเขา จริงอยู่ที่ว่าบางครั้งมารก็อาจจะใส่ความคิดที่ไม่ดีมาล่อลวงเรา แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงฤทธิ์ยิ่งกว่ามารก็สามารถประทานความคิดของพระองค์มายังเราได้ด้วย ผมอยากให้เพื่อนๆวางใจในพระเจ้าว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงประทานความคิดของพระคริสต์มายังเรามากยิ่งกว่าที่มารจะใส่ความคิดของมันเพื่อมาล่อลวงเรา โอ ขอให้การสรรเสริญฤทธานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์จงทวียิ่งกว่าการเชิดชูความสามารถของมารเถิด


เมื่อผมเข้าใจว่าในพันธสัญญาใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถนำผู้เชื่อผ่านหัวใจและความคิดได้ การตีความวลี ปฏิเสธตนเอง จึงเปลี่ยนไป โจนาธาน เวลตัน (ผู้เผยพระวจนะและนักวิชาการด้านพระคัมภีร์) ได้กล่าวถึงความหมายของการปฏิเสธตัวเองไว้ในหนังสือ Eyes of Honor ว่า คำว่าตนเองนี้ไม่ได้หมายถึงเนื้อหนังหรือจิตของเรา แต่หมายถึงชื่อเสียงของเรา ตามความเข้าใจของผู้เชื่อในศตวรรษแรก ความหมายของการแบกกางเขนตามพระเยซูคือการยอมสละชื่อเสียงของตน เนื่องจากในสมัยนั้นการติดตามพระเยซูคือการถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นอาชญากร (พระเยซูเองก็ถูกตรึงกางเขนอย่างอาชญากร) การปฏิเสธตัวเองตามบริบทนี้จึงหมายถึงการสละชื่อเสียง ไม่ได้หมายถึงการตรึงเนื้อหนังแต่อย่างใด

หนังสือแนะนำเพิ่มเติม

Jesus Came Out of the Tomb So Can You เขียนโดย Harold Eberle
Eyes of Honor
เขียนโดย Jonathan Welton 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น