08 มีนาคม 2560

นัฟทาลี กวางยอดนักสู้

สุขสันต์สำหรับการเริ่มต้นเดือนใหม่สำหรับเพื่อนผู้อ่านทุกท่านนะครับ เดือนนี้คือเดือนมีนาคม  

หากนับตามปฏิทินฮีบรูก็จะตรงกับเดือน "อาดาร์"(Adar) ปี 5777 (ช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 27 มีนาคม 2017)  

คำว่า "อาดาร์ "(Adar  -אֲדָר) หมายถึง "พละกำลัง","ความแข็งแรง”(strength)  

เดือนอาดาร์ เป็นเดือนที่ 6 ตามปฎิทินยิวแบบราชการ(Civil Calendar)  และเป็นเดือนที่ 12 ตามปฏิทินยิวแบบศาสนา(Ecclesiastical Calendar) เป็นเดือนสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ในเดือนนิสาน(Nisan) 
  
ในปีพิเศษที่เรียกว่า ปีอธิกมาส (leap year) จะมีเดือนอาดาร์ 2 เดือน  เดือนอาดาร์ที่ 1 หรือ “อาดาร์ อาเลฟ” (אֲדָר  א) จะมี 30 วัน เดือนอาดาร์ที่ หรือ “อาดาร์ เบท” ( אֲדָר  ב)  จะมี 29 วัน  ทั้งนี้เนื่องจากปฏิทินฮีบรูเป็นการนับปฏิทินแบบจันทรคติ  จะมีการนับเดือนจันทรคติที่ 13 โดยการเพิ่ม 7 ครั้งในทุก 19 ปี เข้าไปในเดือนจันทรคติที่ 12 เพื่อให้ไม่เกิดการคาดเคลื่อนของฤดูกาลต่างๆ

เราได้เรียนรู้จักลักษณะของเผ่าต่างๆประจำเดือนของอิสราเอลกันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนนิสาน(Nisan) เผ่ายูดาห์ จนถึงเดือนนี้เดือนอาดาร์(Adar) เผ่านัฟทาลี  โดยผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านบทความที่เขียนไว้ตาม Link นี้ครับ

(สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์อิสสาคาร์ - ลาที่มีกำลังกล้าหาญ,เศบูลุน-เรือสำเภามุ่งสู่จุดหมาย,รูเบน - บุตรชายสายน้ำเชี่ยว,สิเมโอน กระบี่ในใจที่ร้ายกาจ,กาด  นักรบผู้เก่งฉกาจเอฟราอิม-กระทิงแห่งศักดิ์ศรีนัสเสห์- ช่อมะกอกที่ออกผล,เบนยามิน -สุนัขป่า นักล่าดาน สันดานงูพิษ,อาเชอร์ ต้นไม้ริมธารน้ำ)

ผมได้ตั้งชื่อเผ่าของอิสราเอล พงศ์พันธุ์ของยาโคบเป็นภาษาไทยเพื่อให้จดจำได้ ดังนี้

รูเบน-"สมชาย"สิเมโอน -"สดับฟัง"เลวี-"สนิทใจ"ยูดาห์-"สรรเสริญ"
อิสสาคาร์-"สินชัย",เศบูลุน-"สมเกียรติ"กาด -"สบโชค"
โยเซฟ-"เสริมพล"มนัสเสห์ -"สิ้นโศก"เอฟราอิม -"เสริมพงศ์", เบนยามิน-"ศักดิ์ชาย",
อาเชอร์- "สุขใจ",นัฟทาลี- "สมชัย", ดีนาห์- "แสนดี"

ในเดือนอาดาร์ก็เช่นเดียวกัน เราสามารถเรียนรู้จากเผ่านัฟทาลี(Naphali) 

นัฟทาลี (Naphali- נַפְתָּלִי) เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของยาโคบ(อิสราเอล) โดยผ่านการตั้งครรภ์ของนางบิลฮาห์ สาวใช้ของนางราเชล เป็นบุตรคนที่ 2 ต่อจากดาน 
ปฐมกาล 30:7-8 
7  บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
 8 นางราเชลจึงว่าข้าพเจ้าปล้ำสู้กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้วนางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี

ดังนั้น ชื่อ “นัฟทาลี” จึงหมายถึง การต่อสู้ ...และชัยชนะ! อุปสรรค (struggle)ของนางราเชล ที่เธอแข่งขันชิงดีกันกับนางเลอาห์เพื่อจะเอาชนะใจสามีคือ ยาโคบ  ชนะใจก็จริงแต่ไม่ใช่ชนะจริงที่ใสสะอาด

ผมตั้งชื่อ"นัฟทาลี" เป็นชื่อภาษาไทยว่า "สมชัย" เพราะนัฟทาลีเป็นชัยชนะที่สมใจอยากของนางราเชล 

สัญลักษณ์ของเผ่านัฟทาลี เป็นภาพของกวาง ตามคำเผยพระวจนะของยาโคบที่อวยพรลูกๆของตน ต่อมาเป็นเผ่าต่างๆของอิสราเอล ท่านอวยพรนัฟทาลีว่า 

Genesis 49:21 ​​​​​​​Naphtali is a free running doe, ​​​​​​he speaks delightful words.

ปฐมกาล 49:21 นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมียที่ปลดปล่อย เขากล่าวคำอันไพเราะ  (ฉบับไทย คิง เจมส์)

นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมีย ในภาษาอังกฤษใช้ว่า "doe"  (ผมนึกถึงบทเพลงหัดร้องดนตรี โดเรมี...จากหนังเรื่อง The sound of music ร้องว่า  Doe, a deer, a female deer. Ray, a drop of golden sun...)


กวาง มีรูปร่างงดงาม ปราดเปรียว  เป็นสัตว์สะอาดไม่เป็นมลทิน(Kosher)ตามธรรมบัญญัติ(ลนต.11)ใช้เป็นอาหารได้ ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง 

อัตลักษณ์ของเผ่านัฟทาลี เป็นภาพกวางตัวเมียที่กระโดดออกมาจากถูกจับกุม  และวิ่งออกมาอย่างมีเสรีภาพด้วยพระคุณ นอกจากนี้นัฟทาลียังเป็นผู้ “กล่าวคำอันไพเราะ”  ดังนั้นนัฟทาลีจึงมีถ้อยคำที่ไพเราะ 


 “นัฟทาลี” เป็นศิลปิน เป็นเผ่าแห่งนักประพันธ์  เป็นนักเต้นรำและนักเขียนบทกวี

เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหาร  พระองค์ทรงให้ฮีรามซึ่งแม่ของเขามาจากเผ่านัฟทาลี เพื่อที่จะทำงานช่างทองแดง (1 พกษ.7:12-14) 

เผ่านัฟทาลียังเป็นนักรบอีกด้วย  เรียกว่า "นัฟทาลี เป็นนักรบที่ห้าวหาญ และนักรักที่หวานซึ้ง" (อารมณ์ประมาณเพลงจากหนังเรื่อง "สายโลหิต" ที่ร้องว่า "ออกศึกข้านึกแต่รบ  จบศึก ข้านึกแต่รักพระเจ้าเท่านั้น " :)

ในพระธรรมฮาบากุก 3:19 กล่าวว่า “พระ‍องค์​ทรง​ทำ​ให้​เท้า​ของ​ข้าพ‌เจ้า​เหมือน​ตีน​กวาง​ตัว‍เมีย พระ‍องค์​ทรง​ทำ​ให้​ข้าพ‌เจ้า​เดิน​ไป​บน​ที่​สูง​ทั้ง‍หลาย

พระธรรมฮาบากุก ใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการคำเผยพระวจนะของยาโคบอธิบายว่านัฟทาลีเป็นนักรบแห่งชัยชนะ!
เผ่านัฟทาลีมีเท้าที่เกาะอย่างมั่นคงและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว!   พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแต่เก่งด้านศิลปะและความงดงามเท่านั้น  แต่พวกเขาถูกเรียกมาเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูและมีชัยชนะ!

เผ่านัฟทาลี เป็นกวางยอดนักสู้ 

การเคลื่อนทัพของอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร
เผ่านัฟทาลีอยู่ในตำแหน่งที่เคลื่อนทัพด้านหลัง อยู่ในกลุ่มที่คอยระมัดระวังหลัง  เมื่อศัตรูเข้ามาโจมตีจากด้านหลัง ดาน,อาเชอร์และนัฟทาลี  จะอยู่ในตำแหน่งที่ป้องกัน เมื่อคนอิสราเอลเดินในถิ่นทุรกันดาร
การตั้งที่พำนักของกองทัพอิสราเอล

เมื่อคนอิสราเอลตั้งค่ายล้อมพลับพลา(Tabernacle)  เผ่านัฟทาลีถูกจัดวางอยู่ทางด้านทิศเหนือของค่ายพร้อมกับเผ่าดานและเผ่าอาเชอร์  เพื่อปกป้องชนชาติอิสราเอล เนื่องจากการโจมตีจากศัตรูมักจะโจมตีจากทางทิศเหนือ

ในผู้วินิฉัยบทที่ 4 เราเห็นว่า "บาราค" (Barak) มาจากเผ่านัฟทาลี  เขาได้รับเลือกจากพระยาห์เวห์ที่จะนำกำลังทหาร 10,000 นายของเผ่าของเขา ต่อสู้กับคานาอันที่เข้ามากดขี่ข่มเหงพวกเขา  ด้วยความช่วยเหลือของเดโบราห์  พวกเขาจึงได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่

ผู้วินิฉัย 4:6  นางใช้คนไปเรียก​ บาราค​  บุตรอาบีโนอัม  ให้มาจากเคเดชในนัฟทาลีและกล่าวแก่เขาว่า “​พระ​ยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลมิได้ทรงบัญชาท่านหรือว่าไปซิรวบรวมพลไว้ที่ภูเขาทาโบร์ จงเกณฑ์จากเผ่านัฟทาลีและเผ่าเศบูลุนหนึ่งหมื่นคน

ในบทเพลงเพลงของเดโบราห์, เผ่านัฟทาลีได้รับการยกย่องสำหรับความกล้าหาญ ในการรบชนะสิเสราและคานาอัน

ผู้วินิฉัย  5:18  เศบูลุนเป็นเผ่าที่เสี่ยงชีวิตเข้าสู่ความตาย  ฝ่ายนัฟทาลีก็ทำเช่นกัน  ณ ที่สูง ในสนามรบ

ในหนังสือผู้วินิจฉัยบทที่  6-7  เมื่อกิเดโอนยกกองทัพของเขา  เผ่านัฟทาลีตอบสนองเข้าร่วมรบได้อย่างรวดเร็ว  คนอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี ร่วมกันขับไล่พวกคนมีเดียน

ผู้วินิจฉัย 7:23 คนอิสราเอลถูกเรียกออกมาจากนัฟทาลี และจากอาเชอร์ และจากทั่วมนัสเสห์และพร้อมกันติดตามพวกมีเดียนไป 

เมื่อดาวิดขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออิสราเอล  เผ่านัฟทาลีที่เป็นทหารถือโล่และหอกได้เข้าร่วมกับกษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน  จึงเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่และกองคาราวานของอาหารที่เพรียบพร้อม

1 พงศาวดาร 12:34 จากคนเผ่านัฟทาลี ผู้บังคับบัญชาหนึ่งพัน ซึ่งมีคนติดโล่และหอกมาด้วยสามหมื่นเจ็ดพันคน

1 พงศาวดาร 12: 40 และผู้ที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลายด้วยคือไกลออกไปถึงอิสสาคาร์ และเศบูลุน และนัฟทาลีได้จัดอาหารบรรทุกลา อูฐ ล่อ และวัวกับเสบียงอาหารมากมายเป็นแป้ง ขนม มะเดื่อ ช่อองุ่นแห้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะว่ามีความชื่นบานในอิสราเอล

นอกจากนี้แล้วยังมีคำเผยพระวจนะอื่นๆ  ที่โมเสสกล่าวถึงเผ่านัฟทาลี ว่า

เฉลยธรรมบัญญัติ  33:23 และท่านกล่าวถึงนัฟทาลีว่าโอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระคุณ และหนำด้วยพระพรของพระเจ้า จงยึดครองทะเลสาบและทางใต้

โมเสสได้ให้คำเผยพระวจนะเกี่ยวกับดินแดนของเผ่านัฟทาลี  เผ่านัฟทาลีจะได้รับมรดกในที่ดินแดนพันธสัญญา

เมื่ออิสราเอลเข้าไปยึดดินแดนพันธสัญญา   มีการจัดสรรที่ดินให้กับแต่ละเผ่าของอิสราเอล

เผ่านัฟทาลีได้รับที่ดินพื้นที่มีขนาดใหญ่ในภาคเหนือ มีพรมแดนติดกับเผ่าอาเชอร์,เศบูลุนและอิสสาคาร์ตามที่โมเสสได้พยากรณ์ไว้ว่า "เผ่านัฟทาลีจะขยายพื้นที่ไปทางทิศใต้  รอบๆทะเลสาปกาลิลี"  ซึ่งป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ร่ำรวยที่สุดและมีผลผลิตมากที่สุดของดินแดนพันธสัญญา

โจเซฟัส(Josephus) นักประวัติศาตร์ชาวยิวที่มีเชื้อสายโรมันได้อธิบายว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นเหมือนดังดินแดนสวรรค์บนโลก ... เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยการอวยพระพรของพระเจ้า  ดังนั้นนัฟทาลีจึงได้รับการอวยพระพรอย่างอัศจรรย์ตามคำเผยพระวจนะของโมเสส ที่ว่า...โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระคุณ และหนำด้วยพระพรของพระเจ้า จงยึดครองทะเลสาบและทางใต้

แม้จะได้รับพระพรมากแต่เผ่านัฟทาลีก็ได้เลือกไปสู่หนทางที่ผิด

เมื่อครั้งที่เผ่าต่างๆทางตอนเหนือของอิสราเอล 10 เผ่า กบฏและแยกอาณาจักรอิสราเอลกับอาณาจักรยูดาห์  เผ่านัฟทาลีก็ไปร่วมพวกเขาด้วย!   พวกเขาได้ปฏิเสธพระยาห์เวห์ พระเจ้าที่เที่ยงแท้ ไปกราบไหว้รูปเคารพ 

แม้ว่าพระเจ้าทรงให้โอกาสมากมายเพื่อให้พวกเขากลับใจใหม่   เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์จัดงานฉลองเทศกาลปัสกาครั้งใหญ่  พระองค์ส่งสารไปยังเมืองของ 10 เผ่าทางตอนเหนือ เพื่อเชิญให้พวกเขามาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาของพระเจ้า

2 พงศาวดาร 30:9 เพราะถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมายังพระเจ้า  พี่น้องของท่านและลูกหลานของท่านจะประสบความเอ็นดูจากผู้ที่จับเขาไปเป็นเชลย และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้อีก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระเมตตาและกรุณา ถ้าท่านกลับมาหาพระองค์พระองค์จะไม่ทรงหันพระพักตร์ไปจากท่าน

เนื่องจากการส่งสารของกษัตริย์เฮเซคียาห์ต้องผ่านจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมือง  เพื่อกระตุ้นให้คนกลับใจกลับมาหาพระเจ้า  แต่คนทางอาณาจักรทางตอนเหนือกลับหัวเราะเยาะและเย้ยหยัน แทนที่จะกลับใจใหม่   ส่งผลให้พระเจ้าทรงอนุญาตให้เผ่าต่างๆทางตอนเหนือ ถูกศัตรูบุกรุกรานเอาชนะพวกเขาและทำให้พวกเขาถูกจับไปเป็นเชลย

เนื่องจากเผ่านัพทาลีอยู่ในตำแหน่งที่ไกลทางตอนเหนือ  นัฟทาลีจึงเป็นเผ่าแรกของอาณาจักรตอนเหนือที่ถูกจับไปเป็นเชลย  แม้ว่าเผ่านัฟทาลีถูกเรียกมาเพื่อต่อสู้และมีชัยเหลือศัตรู  แต่เมื่อพวกเขาหันหลังจากการติดตามพระเจ้า  พวกเขาจึงตกอยู่ใต้คำแช่งสาปและศัตรูสามารถเอาชนะพวกเขาได้ 

ในปี 732 ก่อนคริสตกาล ทิกลัท-ปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรีย ได้ยกทัพมาและยึดครอง แผ่นดิน  เผ่านัฟทาลีทั้งหมด ถูกกวาดไปเป็นเชลยที่อัสซีเรีย

2 พงศ์กษัติย์ 15:29 ​ในรัชกาลของเปคาห์พระราชาแห่งอิสราเอล ทิกลัทปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรียได้ยกมาและยึดเมืองอิโยน เอเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ คาเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี แผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมด และกวาดต้อนประชาชนเป็นเชลยไปยังอัสซีเรีย


ดินแดนของเผ่านัฟทาลี อยู่รอบๆทะเลกาลิลี
พวกอัสซีเรียได้จับ ผู้นำ,นักรบ, นักการศึกษา, ช่างฝีมือที่มีทักษะไปเป็นเชลย! คนที่เหลืออยู่ในเผ่านัฟทาลีก็กระจัดกระจายไป  พวกเขาใช้ชีวิตเป็นอยู่อย่างยากจนข้นแค้นอย่างที่สุดท่ามกลางซากปรักหักพัง ดินแดนของเผ่านัฟทาลีกลายเป็นเมืองของอัสซีเรีย!   

ดังนั้นดินแดนของเผ่านัฟทาลีจึงกลายเป็นดินแดนที่น่ารังเกียจ เช่นเดียวกับแคว้นสะมาเรียของเผ่าเอฟราอิม    ชาวยิวที่มาจากแคว้นยูเดียเรียกดินแดนของเผ่านัฟทาลีนี้ว่า "แคว้นกาลิลีของคนต่างชาติ ดินแดนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งความตาย"

การฟื้นฟูมาสู่ดินแดนแห่งเผ่านัฟทาลี!

ในพระธรรม 2 พงศวดาร 34:6-7 กล่าวว่า “ในหัวเมืองของเผ่ามนัสเสห์ เอฟราอิมและสิเมโอน และไปถึงนัฟทาลี ในที่ปรักหักพังซึ่งอยู่โดยรอบ
กษัตริย์โยสิยาห์ทรงทำลายแท่นบูชา และทรงทุบบรรดาอาเชราห์และรูปเคารพให้เป็นผง และทรงโค่นแท่นเครื่องหอมทั้งสิ้นลงทั่วแผ่นดินอิสราเอล ..

นี่เป็นภาพของคนที่เหลืออยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง  และกษัตริย์โยสิยาห์ได้เข้ามาทำลายแท่นบูชาของรูปเคารพ  คนที่เหลืออยู่ของเผ่านัฟทาลีจึงได้หันกลับไปหาพระเจ้าที่เที่ยงแท้ !

ข้อคิด คือ ในคนจำนวนมากที่หลงผิดและหลงหาย แต่จะมีคนส่วนน้อยที่หลงเหลืออยู่(remnant) ที่ไม่ได้หลงผิดไป พระเจ้าจะนำการฟื้นฟู(revival)

เราจะเห็นได้ว่า ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้สูญสลายไปแล้วสำหรับเผ่านัฟทาลีแต่แล้วผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ ปลดปล่อยถ้อยคำแห่งการฟื้นใจ  ท่านกล่าวว่า พระเจ้ายังไม่เสร็จกิจสำหรับคนเผ่านัฟทาลี สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนเผ่านัฟทาลี จะมาถึงพวกเขา นั่นคือ...

เผ่านัฟทาลีกลับใจ นำความรอดมาสู่คนต่างชาติ

อิสยาห์ 9:1-2  

1 ​เมืองนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น  แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติให้รุ่งโรจน์

ชนชาติที่ดำเนินในความมืด จะได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างจะได้ส่องมาบนเขา 

คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ได้สำเร็จเป็นจริงในช่วงเวลาของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่(NT) ดินแดนของเผ่านัฟทาลี 


พระเยซูเริ่มต้นทำพระราชกิจในดินแดนของนัฟทาลี
มัทธิวบทที่ 4 กล่าวถึงว่า  เมื่อพระเยซูทรงได้ยินข่าวว่ายอห์น(บัพติศโต)ถูกจับตัวไปคุมขัง พระองค์ได้เดินทางกลับไปยังแคว้นกาลิลี และออกจากเมืองนาซาเร็ธ(Nazareth)  พระองค์ทรงอาศัยอยู่ในเมืองคาเปอร์นาอูม(Capernaum) อยู่ในดินแดนของเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี ซึ่งคำเผยพระวจนะสำเร็จตามถ้อยคำของ
อิยาห์ 9:1-2  

เมืองนาซาเร็ธ ดินแดนของเผ่านัฟทาลีที่คนเคยดูหมิ่น แม้แต่นาธานาเอลยังกล่าวว่า "สิ่ง​ดี​อัน​ใด​จะ​มา​จาก​นาซาเร็ธ​ได้​หรือ” ​(ยน. 1:46​) 
แต่นาธานาเอลและฟิลิปได้พบกับพระมาซีฮา พระผู้ช่วยให้รอดของชาวยิวที่มาจากเมืองนี้ 

นาซาเร็ธเป็นสถานที่ที่พระเยซูคริสต์ทรงเติบโต และคาเปอร์นาอูมเป็นศูนย์กลางการรับใช้ของพระเยซู ทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ในแคว้นนี้คือ นัฟทาลี!

พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์ที่แคว้นนัฟทาลี  และทรงเรียกสาวกพวกแรกของพระองค์ในแคว้นนี้  (มธ.4:13-22)  คำเทศนาส่วนใหญ่ของพระเยซูคริสต์ ทรงเทศนาในแคว้นนัฟทาลี!
การอัศจรรย์ส่วนใหญ่ของพระองค์ ทรงกระทำในแคว้นนัฟทาลี

เมื่อเราอ่านพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์  พระองค์ทรงดำเนินรอบๆทะเลสาปกาลิลีและทรงเรียกเปโตร,ยากอบ,ยอห์นและสาวกคนอื่นๆของพระองค์  ซึ่งอยู่ในแคว้นนัฟทาลี !

มีบางคนบอกว่าอัครสาวกทั้งหมดของสาวกของพระเยซู  ยกเว้นยูดาสและเลวี(มัทธิว)มาจากเผ่านัฟทาลี!

ดังนั้นแล้วเผ่านัฟาลีซึ่งได้รับการเผยพระวจนะว่า  จะกระโดดไปข้างหน้าเหมือนดังกวางตัวเมีย
ให้เราได้ออกไปปลดปล่อยข่าวดี ... และก้าวกระโดดไปข้างหน้าภายใต้สิทธิอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปสู่คนทั้งโลก!

เมื่อเผ่านัฟทาลีมีความหยิ่งและกบฏไปร่วมกับอาณาจักรตอนเหนือ พระเจ้าทรงอนุญาตให้พวกเขาตกไปเป็นเชลย  แต่เมื่อพวกเขาถ่อมใจ และหันกลับมาหาพระเจ้า  
เป้าประสงค์ลิขิตของพระองค์ก็สำเร็จ  พระเจ้าทรงกดคนที่หยิ่งลงและยกชูคนที่ถ่อมใจขึ้น  

นัฟทาลี เคยถูกดูหมิ่น และนาซาเร็ธเป็นเมืองที่ต่ำต้อยที่สุด  แต่นาซาเร็ทเป็นเมืองที่พระเยซูเติบโตและแคว้นนัฟทาลีเป็นสถานที่ที่พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์!

ให้เราป่าวประกาศการเริ่มต้นใหม่ในเดือนอาดาร์ เดือนแห่งเผ่านัฟทาลี ดังนี้

เดือนแห่งความยินดีเมื่อได้รับพระพร

อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ ฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 ​…โอ นัฟ​ทา​ลี ผู้​อิ่ม​ด้วย​พระ​กรุณา ​และ​เต็ม​ด้วย​พระ​พร​ของ​พระ​ยาห์เวห์ ​...


เดือนนี้เป็นเดือนแห่งเผ่านัฟทาลี(Naphtali) หมายถึง "ความหวานต่อฉัน" เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เพราะคำแช่งสาปและความขมขื่นใจจะกลับกลายเป็นหวานชื่นสำหรับเรา  

เดือนแห่งการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในชีวิตของเรา

อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ 2 โครินธ์ 12:9 “การ​มี​พระ​คุณ​ของ​เรา​ก็​เพียงพอ​กับ​เจ้า เพราะ​ว่า​ความ​อ่อนแอ​มี​ที่​ไหน ฤทธานุภาพ​ของ​เรา​ก็​ปรากฏ​เต็มที่​ที่​นั่น

ในเดือนนี้มีเทศกาลสำคัญของคนยิวคือ เทศกาลปูริม (Purim) ในวันที่ 12-13 มี.ค. เป็นเทศกาลที่เล็งถึงชัยชนะและการไถ่ชีวิตจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยฮามาน พระยาห์เวห์ทรงใช้พระราชินีเอสเธอร์ให้เป็นผู้เปลี่ยนเหตุการณ์ร้ายให้กลายเป็นวันแห่งชัยชนะ (เอสเธอร์ 9:26-27)


ดังนั้นเดือนนี้ให้เราป่าวประกาศชัยชนะในชีวิตของเรา หากเราต้องเผชิญวิกฤตการณ์ในชีวิต นี่คือโอกาสทองของเราที่เราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ที่ทรงทำในชีวิตของเรา

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรให้เราเป็นดั่งเผ่า"นัฟาลี กวางยอดนักสูั" ที่เราจะกระโดดไปข้างหน้าด้วยเสรีภาพในพระคุณ และออกไปปลดปล่อยข่าวดี ... และก้าวกระโดดไปข้างหน้าภายใต้สิทธิอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปสู่คนทั้งโลก!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น