(หากเป็นบ้านเรา เรือที่จอดอยู่กับที่ คงนำไปตั้งไว้ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือแล้ว)
ผมกำลังกล่าวถึงเผ่าหนึ่งใน 12 เผ่าของอิสราเอล นั่นคือ "เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) ซึ่งเป็นเผ่าประจำเดือนสิวัน หรือ สิวาน (Sivan)(ช่วงวันที่ 7 มิ.ย.-6 ก.ค.2016)
เดือนนี้มีเทศกาลที่สำคัญ คือ เทศกาลเพ็นเทคอสต์(Pentecost) (ปี 2016 ตรงกับวันที่11-13 มิ.ย.) หรือ เรียกตามภาษาฮีบรู คือ เทศกาลสัปดาห์(ชาวูโอ็ท-Shavuot) หมายถึง 7 สัปดาห์เพราะนับได้ 7 สัปดาห์ (49 วัน)หลังจากเทศกาลปัสกา(Passover) เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ระลึกถึงพันธสัญญาของพระยาห์เวห์
ในพันธสัญญาเดิมเมื่อคนอิสราเอลเดินทางมาถึงภูเขาซีนาย พวกเขาได้รับพันธสัญญาจากพระยาห์เวห์ พระองค์ได้ประทานพระบัญญัติ 10 ประการ
ในยุคของคริสตจักรคือยุคพันธสัญญาใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จเหนือสาวกที่ห้องชั้นบนในกรุงเยรูซาเล็ม(กจ.2) ในเทศกาลเพ็นเทคอสต์(Pentecost) (Pentecost หมายถึง 50 วัน)
(สามารถอ่านบทความเรื่อง "Pentecost เทศกาลแห่งพันธสัญญา" ได้ที่ link ไว้ครับ)
เดือน "สิวัน"(Sivan) เดือนที่ 8 ตามปฏิทินแบบราชการ (Civil calendar)และเป็นเดือนที่ 3 ตามปฏิทินฮีบรูแบบศาสน(Ecclesiastical Calendar) คำว่า "สิวัน" หมายถึง ฤดูกาล(Season) ,เวลา(Time)
เป็นช่วงเวลาสำคัญใน 3 เดือนแรกของวงจรเวลาแห่งพระพรของพระยาห์เวห์
เดือนสิวันเป็นเดือนที่พระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์อาหสุเอรัสได้ป่าวประกาศออกไป ทำให้คนยิวมีชัยชนะเหนือศัตรูที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์(เอสเธอร์ 8:9)
เดือนสิวันเป็นเดือนแห่ง"เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) ซึ่งเป็นเผ่า 3 เผ่าแรกที่เคลื่อนไปข้างหน้าชนชาติอิสราเอล นั่นคือ ยูดาห์ อิสสาคาร์และเศบูลุน
(เราได้เรียนรู้ในเรื่องของ สิงห์เผ่ายูดาห์ และ เผ่าอิสสาคาร์ ลาที่มีกำลังกล้าหาญ ไปแล้ว สามารถอ่านบทความที่เคยเขียนไว้ได้ตาม Link ครับ )
สัญลักษณ์ประจำ"เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) คือ รูปเรือสำเภา(ship) เพราะอัตลักษณ์ของพวกเขาคือ
เผ่าแห่งนักธุรกิจ พระเจ้าทรงมีเป้าหมายให้พวกเขาไปสู่ความรุ่งเรือง ตามถ้อยคำที่มาสู่เผ่าเศบูลุน
คำอวยพรของยาโคบที่มีต่อเศบูลุน
ปฐมากาล 49:13 "...เศบูลุน จะอาศัยอยู่ที่ท่าเรือริมทะเล เขาจะเป็นท่าจอดเรือ เขตแดนของเขาจะต่อกันกับเมืองไซดอน..."
คำอวยพรของโมเสสแก่เผ่าเศบูลุน
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18-19 "...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย"
จากการอ่านพระคำทั้ง 2 ตอนนี้เราจะเห็นถึงความชัดเจนในอัตลักษณ์(Identity)และเป้าประสงค์ลิขิต(Destiny) ที่พระยาห์เวห์มีในชีวิตของเขา นั่นคือ พวกเขาเป็นดั่ง "เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย"
ไม่ใช่เรือที่จอดไว้ที่ท่าเรือเท่านั่น พวกเขาต้องออกไปล่าขุมสมบัติ แต่พวกเขาไม่ใช่เรือโจรสลัดนะครับ พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่ออกไปทำการค้า
เรามาทำความรู้จักเผ่าเศบูลุนด้วยกันในครั้งนี้
เผ่าเศบูลุน เป็น 1 ในบรรดา 12 เผ่าของอิสราเอล ตามบันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหมวดพระธรรมเบญจบรรณ(Torah) เศบูลุน ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 10 ของยาโคบ (อิสราเอล) ที่เกิดกับ
นางเลอาห์ ภรรยาคนแรกของยาโคบ โดยเศบูลุนนั้น เป็นบุตรชายคนที่ 6 ที่นางเลอาห์มีให้แก่ยาโคบ
ปฐมกาล 30:20 นางจีงได้กล่าวว่า "บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว" เศบูลุน จึงมาจากคำภาษาฮีบรู ที่ออกเสียงว่า ศาบัล ซึ่งแปลว่า ให้เกียรติ
นางเลอาห์ตั้งชื่อลูกด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมผัวไม่รัก อยากที่จะให้ผัวคือยาโคบรักและให้เกียรติเธอบ้าง เพราะเธอมีลูกชายให้กับยาโคบมาแล้วถึง 6 คนนั่นคือ รูเบน,สิเมโอน,เลวี, ยูดาห์,อิสสาคาร์และเศบูลุน ชื่อแต่ละคนก็สะท้อนความคิดของเธอ ดังนี้ (ผมขอตั้งเป็นชื่อภาษาไทยเผื่อให้จำได้ง่ายๆครับ)
1.รูเบน(Reuben) ลูกชายคนโต ชื่อหมายความว่า "บุตรชาย" หรือ "สมชาย" จะบอกว่ายาโคบว่าเธอมีลูกชายให้แล้วนะ รู้ยัง เพราะการมีลูกชายจะทำให้ยาโคบรักเธอ แต่ยาโคบรักนางราเชล
2.สิเมโอน(Simeon) ชื่อหมายความว่า "รับฟัง" หรือ เด็กชาย"สดับฟัง" เพื่อสำนึกถึงการที่พระยาห์เวห์ทรงสดับรับฟังเสียงคำอธิษฐานของเธอ ทำให้เธอได้มีบุตรคนที่สองกับยาโคบ
3.เลวี(Levi) ชื่อหมายความว่า "สนิทสนม" หรือ เด็กชาย"สนิทใจ" เหตุที่เธอตั้งชื่อบุตรเช่นนี้เพราะต้องการให้สามีสนิทสนมกับเธอบ้าง
4.ยูดาห์(Judah) ชื่อหมายความว่า "การยกมือขึ้น สรรเสริญ" หรือ เด็กชาย "สรรเสริญ" เป็นการแสดงถึงการขอบพระคุณพระยาห์เวห์ที่ทรงประทานบุตรให้กับเธออีก
5.อิสสาคาร์(Issachar) ชื่อหมายความว่า "สินจ้าง"(hire) หรือ เด็กชาย "สินชัย" นางเลอาห์ จึงตั้งชื่อลูกว่า อิสสาคาร์ หมายถึง "สินจ้าง"(hire) ค้าจ้างที่ได้ให้ผลดูดาอิมกับนางราเชลเพื่อได้หลับนอนกับยาโคบ
6.เศบูลุน(Zebulun) ชื่อหมายความว่า "การให้เกียรติ" หรือ เด็กชาย "สมเกียรติ"
จะเห็นได้ว่าแม้ว่า นางเลอาห์จะมีลูกชายถึง 6 คนให้กับยาโคบแต่สิ่งที่นางไม่ได้รับคือ ความสนใจและความรักที่สามีควรจะมีต่อภรรยา ไม่ว่าจะมี เด็กชาย สมชาย,สดับฟัง,สนิทใจ,สรรเสริญ,สินชัยและเด็กชายสมเกียรติ แต่ยาโคบก็ยังมีความรักต่อนางราเชลไม่เปลี่ยนแปลง
แม้ว่าครอบครัวของเศบูลุนจะเป็นเช่นไร แต่เป้าประสงค์ลิขิตที่พระยาห์เวห์ทรงมีในชีวิตของเขา พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จ เศบูลุนมีการเจิมไปสู่ความรุ่งเรือง
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18-19
"...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย"
เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย
การเจิมของเผ่าอิสสาคาร์และเศบูลุนทำงานร่วมกัน โมเสสอวยพรเผ่าเศบูลุนและอิสสาคาร์พร้อมกัน เพราะทั้ง 2 เผ่า มีแม่คนเดียวกัน คือ นางเลอาห์ และมีอาชีพเป็นพ่อค้าเหมือนกัน
คำว่า "ดูดความอุดมจากทะเล" หมายความว่า เผ่าทั้ง 2 เผ่าทำการเกษตรและค้าขายทางทะเล
การเจิมของเผ่าอิสสาคาร์เป็นความเข้าใจ(Understanding) พวกเขาอยู่ในเต็นเพื่อศึกษาพระวจนะของพระยาห์เวห์ เพื่อทราบวาาระเวลาของพระองค์
ส่วนการเจิมของเผ่าเศบูลุนเป็นการยอมรับ(Acknowledgement)ความจริงใจ(sincerely) ที่เดินไปร่วมกันตามการทรงนำของพระเจ้า
พวกเขาเป็นนักธุรกิจและเป็นนักถวายที่สำคัญ พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนกองกำลังของอิสราเอล เพราะเขานำสิ่งต่างๆมาถวายเพื่อสร้างพลับพลาที่ประทับของพระยาห์เวห์
นอกจากนี้พวกเขามีความสัตยซื่อในการดำเนินชีวิต เผ่าเศบูลุนเป็นเผ่านักรบที่ไม่ได้เป็นคน “สองจิตสองใจ”(double minded) ร่วมต่อสู้กับกษัตริย์ดาวิด(1 พศด.12:33) นี่คือ ความสัตย์ซื่อที่เป็นเหตุให้พระเจ้าอวยพระพรเพราะเขามีใจเดียว ไม่ลังเล เขาจึงได้รับการจัดสรรจัดเตรียมเสบียงอาหารต่างๆ มาเลี้ยงฉลองในงานเลี้ยงเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรนอีกด้วย
สิ่งที่เราเรียนรู้จากเผ่าเศบูลุน คือ เราต้องไม่ยอมให้ค่านิยมของโลกมาทำลายความเชื่อในพระเจ้าของเรา(โรม12:2) และดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและทำส่วนของเราอย่างเต็มที่ เพื่อรับพระพรและความโปรดปรานในความชอบธรรม(ยากอบ4:4-6)
แม้ว่าพวกเขาจะมีความจำกัดแต่พระยาห์เวห์ทรงขยายขอบเขตความจำกัดในชีวิตของเขาให้มากขึ้น
จากคำเผยพระวจนะนั้นเผ่าเศบูลุนจะมั่งคั่งผ่านการค้าขายทางทะเล แต่ปัญหาก็คือดินแดนของเผ่าเศบูลุนไม่ติดกับทะเล แต่พระยาห์เวห์ได้ขยายขอบเขตให้แก่เผ่าเศบูลุนผ่านทางดินแดนของเผ่านัฟทาลี(มัทธิว 4:13)
ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงมีเป้าประสงค์ในชีวิตของเราจะไม่มีสิ่งใดที่จำกัด เราต้องอธิษฐานขอให้พระองค์ขยายขอบเขตชีวิตเราให้มากขึ้น
ดั่งเช่นคำอธิษฐานของยาเบส 1 พงศาวดดาร 4:10 ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า “ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์…”
สิ่งที่เราเรียนรู้จากชีวิตของยาเบสและเศบูลุนคือ ยาเบส ชื่อของเขาแปลว่า เจ็บปวด แต่เขาไม่ยอมให้สิ่งนี้มาขัดขวางชีวิตของเขา เขาขอการอวยพรและการขยายชีวิตของเขาออกไปเพื่อรับพระพร
เศบูลุนก็เช่นเดียวกัน แม้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่แม่ของเขาคือเลอาห์ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ได้รับเกียรติ แต่เศบูลุนไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อม ครอบครัว แต่เขาสัตย์ซื่อดำเนินชีวิตตามถ้อยคำแห่งการอวยพรและเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสำเร็จ
พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย ไม่ยอมให้เป็นเรือที่ยอมแน่นิ่งอยู่บนท่าเรือ และไม่ยอมให้ความเชื่อค่านิยมของโลกทำให้เรืออับปาง เรือต้องอยู่บนน้้ำไม่ใช่กระแสสังคมที่เป็นน้ำที่สาดเข้ามาในเรือจนทำให้เรือจมลงไปและอับปาง
เรือสำเภาที่ยึดสมอไม่ให้อับปาง
อัครทูตเปาโลได้เขียนจดหมายถึงทิโมธี และเตือนพี่น้องในคริสตจักรให้ระมัดระวังค่านิยมโลก คำสอนที่ผิด และยึดความเชื่อไว้ไม่ให้ความเชื่ออับปางลงไป
1 ทิโมธี 1:19 จงยึดความเชื่อไว้ และมีจิตสำนึกว่าตนชอบ ซึ่งข้อนี้บางคนได้ละทิ้งเสีย ความเชื่อของเขาจึงอับปางลง
สิ่งที่เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่เป็นักธุรกิจเพื่อพระเจ้า เป็นดั่งเช่นเผ่าเศบูลุนคือ ต้องไม่รับค่านิยมของโลกเข้ามาในชีวิต ต้องระลึกถึงว่าเงินที่หามาได้ มาจากการอวยพรของพระเจ้า และต้องเตือนใจตลอดเวลาในการทำงานว่า ให้เป็นเรือที่มีจุดหมายเพื่อเป้าประสงค์ของพระเจ้า ไม่เช่นนั้น เรือนั้นอาจจะเป็นเรือโจรสลัด สะสมทรัพย์สมบัติที่หามาได้เพื่อตนเอง
ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เรือของเผ่าเศบูลุนเหมือนเรือที่เจอมรสุมเศรษฐกิจ แต่ขอให้พระเจ้าทรงเป็นความหวัง เป็นดั่งสมอที่ยึดเรือไว้เพื่อผ่านคลื่นลม
ฮีบรู 6:19 ความหวังที่เรายึดนั้นเป็นเสมือนสมอที่แน่และมั่นคงของจิตใจ ...
เรือสำเภานำข่าวประเสริฐออกไปทั่วโลก
เรื่องราวของเผ่าเศบูลุน ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกประการ นั่นคือ พวกเขาเป็นเผ่าที่ได้รับข่าวประเสริฐและส่งมิชชั่นนารีออกไปสู่ปลายแผ่นดิน
ในสมัยก่อนนั้นดินแดนของเผ่าเศบูลุนและนัทาลี(กาลิลี) เป็นเขตแดนที่เป็นที่ดูหมิ่น เหยียดหยาม คนยิวจากยูเดียเรียกบริเวณนี้ว่า เป็น “กาลิลีของพวกนอกรีต ดินแดนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งความตาย"
แต่ถ้อยคำเผยพระวจนะจากอิสยาห์ กล่าวไว้ว่า นี่คือดินแดนแห่งความรุ่งโรจน์
อิสยาห์ 9:1-2
1 แต่กระนั้นแผ่นดินนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ ให้เจ็บปวดทรมานอย่างมาก
2 ชนชาติที่ดำเนินในความมืดได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่แล้ว บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างได้ส่องมาบนเขา
คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ก็ได้สำเร็จเป็นจริงในสมัยของพระเยซูคริสต์
มัทธิว 4:12-16
12 ครั้นพระเยซูทรงทราบข่าวว่ายอห์นถูกจำไว้แล้ว พระองค์ก็เสด็จไปยังแคว้นกาลิลี
13 แล้วย้ายที่ประทับจากเมืองนาซาเร็ธไปที่เมืองคาเปอรนาอุม ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบที่เขตเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี
ปฐมากาล 49:13 "...เศบูลุน จะอาศัยอยู่ที่ท่าเรือริมทะเล เขาจะเป็นท่าจอดเรือ เขตแดนของเขาจะต่อกันกับเมืองไซดอน..."
คำอวยพรของโมเสสแก่เผ่าเศบูลุน
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18-19 "...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย"
จากการอ่านพระคำทั้ง 2 ตอนนี้เราจะเห็นถึงความชัดเจนในอัตลักษณ์(Identity)และเป้าประสงค์ลิขิต(Destiny) ที่พระยาห์เวห์มีในชีวิตของเขา นั่นคือ พวกเขาเป็นดั่ง "เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย"
ไม่ใช่เรือที่จอดไว้ที่ท่าเรือเท่านั่น พวกเขาต้องออกไปล่าขุมสมบัติ แต่พวกเขาไม่ใช่เรือโจรสลัดนะครับ พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่ออกไปทำการค้า
Zebulun |
เผ่าเศบูลุน เป็น 1 ในบรรดา 12 เผ่าของอิสราเอล ตามบันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหมวดพระธรรมเบญจบรรณ(Torah) เศบูลุน ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 10 ของยาโคบ (อิสราเอล) ที่เกิดกับ
นางเลอาห์ ภรรยาคนแรกของยาโคบ โดยเศบูลุนนั้น เป็นบุตรชายคนที่ 6 ที่นางเลอาห์มีให้แก่ยาโคบ
ปฐมกาล 30:20 นางจีงได้กล่าวว่า "บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว" เศบูลุน จึงมาจากคำภาษาฮีบรู ที่ออกเสียงว่า ศาบัล ซึ่งแปลว่า ให้เกียรติ
นางเลอาห์ตั้งชื่อลูกด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมผัวไม่รัก อยากที่จะให้ผัวคือยาโคบรักและให้เกียรติเธอบ้าง เพราะเธอมีลูกชายให้กับยาโคบมาแล้วถึง 6 คนนั่นคือ รูเบน,สิเมโอน,เลวี, ยูดาห์,อิสสาคาร์และเศบูลุน ชื่อแต่ละคนก็สะท้อนความคิดของเธอ ดังนี้ (ผมขอตั้งเป็นชื่อภาษาไทยเผื่อให้จำได้ง่ายๆครับ)
1.รูเบน(Reuben) ลูกชายคนโต ชื่อหมายความว่า "บุตรชาย" หรือ "สมชาย" จะบอกว่ายาโคบว่าเธอมีลูกชายให้แล้วนะ รู้ยัง เพราะการมีลูกชายจะทำให้ยาโคบรักเธอ แต่ยาโคบรักนางราเชล
2.สิเมโอน(Simeon) ชื่อหมายความว่า "รับฟัง" หรือ เด็กชาย"สดับฟัง" เพื่อสำนึกถึงการที่พระยาห์เวห์ทรงสดับรับฟังเสียงคำอธิษฐานของเธอ ทำให้เธอได้มีบุตรคนที่สองกับยาโคบ
3.เลวี(Levi) ชื่อหมายความว่า "สนิทสนม" หรือ เด็กชาย"สนิทใจ" เหตุที่เธอตั้งชื่อบุตรเช่นนี้เพราะต้องการให้สามีสนิทสนมกับเธอบ้าง
4.ยูดาห์(Judah) ชื่อหมายความว่า "การยกมือขึ้น สรรเสริญ" หรือ เด็กชาย "สรรเสริญ" เป็นการแสดงถึงการขอบพระคุณพระยาห์เวห์ที่ทรงประทานบุตรให้กับเธออีก
5.อิสสาคาร์(Issachar) ชื่อหมายความว่า "สินจ้าง"(hire) หรือ เด็กชาย "สินชัย" นางเลอาห์ จึงตั้งชื่อลูกว่า อิสสาคาร์ หมายถึง "สินจ้าง"(hire) ค้าจ้างที่ได้ให้ผลดูดาอิมกับนางราเชลเพื่อได้หลับนอนกับยาโคบ
6.เศบูลุน(Zebulun) ชื่อหมายความว่า "การให้เกียรติ" หรือ เด็กชาย "สมเกียรติ"
จะเห็นได้ว่าแม้ว่า นางเลอาห์จะมีลูกชายถึง 6 คนให้กับยาโคบแต่สิ่งที่นางไม่ได้รับคือ ความสนใจและความรักที่สามีควรจะมีต่อภรรยา ไม่ว่าจะมี เด็กชาย สมชาย,สดับฟัง,สนิทใจ,สรรเสริญ,สินชัยและเด็กชายสมเกียรติ แต่ยาโคบก็ยังมีความรักต่อนางราเชลไม่เปลี่ยนแปลง
แม้ว่าครอบครัวของเศบูลุนจะเป็นเช่นไร แต่เป้าประสงค์ลิขิตที่พระยาห์เวห์ทรงมีในชีวิตของเขา พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จ เศบูลุนมีการเจิมไปสู่ความรุ่งเรือง
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18-19
"...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย"
เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย
การเจิมของเผ่าอิสสาคาร์และเศบูลุนทำงานร่วมกัน โมเสสอวยพรเผ่าเศบูลุนและอิสสาคาร์พร้อมกัน เพราะทั้ง 2 เผ่า มีแม่คนเดียวกัน คือ นางเลอาห์ และมีอาชีพเป็นพ่อค้าเหมือนกัน
คำว่า "ดูดความอุดมจากทะเล" หมายความว่า เผ่าทั้ง 2 เผ่าทำการเกษตรและค้าขายทางทะเล
ส่วนการเจิมของเผ่าเศบูลุนเป็นการยอมรับ(Acknowledgement)ความจริงใจ(sincerely) ที่เดินไปร่วมกันตามการทรงนำของพระเจ้า
พวกเขาเป็นนักธุรกิจและเป็นนักถวายที่สำคัญ พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนกองกำลังของอิสราเอล เพราะเขานำสิ่งต่างๆมาถวายเพื่อสร้างพลับพลาที่ประทับของพระยาห์เวห์
นอกจากนี้พวกเขามีความสัตยซื่อในการดำเนินชีวิต เผ่าเศบูลุนเป็นเผ่านักรบที่ไม่ได้เป็นคน “สองจิตสองใจ”(double minded) ร่วมต่อสู้กับกษัตริย์ดาวิด(1 พศด.12:33) นี่คือ ความสัตย์ซื่อที่เป็นเหตุให้พระเจ้าอวยพระพรเพราะเขามีใจเดียว ไม่ลังเล เขาจึงได้รับการจัดสรรจัดเตรียมเสบียงอาหารต่างๆ มาเลี้ยงฉลองในงานเลี้ยงเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรนอีกด้วย
สิ่งที่เราเรียนรู้จากเผ่าเศบูลุน คือ เราต้องไม่ยอมให้ค่านิยมของโลกมาทำลายความเชื่อในพระเจ้าของเรา(โรม12:2) และดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและทำส่วนของเราอย่างเต็มที่ เพื่อรับพระพรและความโปรดปรานในความชอบธรรม(ยากอบ4:4-6)
แม้ว่าพวกเขาจะมีความจำกัดแต่พระยาห์เวห์ทรงขยายขอบเขตความจำกัดในชีวิตของเขาให้มากขึ้น
จากคำเผยพระวจนะนั้นเผ่าเศบูลุนจะมั่งคั่งผ่านการค้าขายทางทะเล แต่ปัญหาก็คือดินแดนของเผ่าเศบูลุนไม่ติดกับทะเล แต่พระยาห์เวห์ได้ขยายขอบเขตให้แก่เผ่าเศบูลุนผ่านทางดินแดนของเผ่านัฟทาลี(มัทธิว 4:13)
ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงมีเป้าประสงค์ในชีวิตของเราจะไม่มีสิ่งใดที่จำกัด เราต้องอธิษฐานขอให้พระองค์ขยายขอบเขตชีวิตเราให้มากขึ้น
ดั่งเช่นคำอธิษฐานของยาเบส 1 พงศาวดดาร 4:10 ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า “ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์…”
สิ่งที่เราเรียนรู้จากชีวิตของยาเบสและเศบูลุนคือ ยาเบส ชื่อของเขาแปลว่า เจ็บปวด แต่เขาไม่ยอมให้สิ่งนี้มาขัดขวางชีวิตของเขา เขาขอการอวยพรและการขยายชีวิตของเขาออกไปเพื่อรับพระพร
เศบูลุนก็เช่นเดียวกัน แม้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่แม่ของเขาคือเลอาห์ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ได้รับเกียรติ แต่เศบูลุนไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อม ครอบครัว แต่เขาสัตย์ซื่อดำเนินชีวิตตามถ้อยคำแห่งการอวยพรและเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสำเร็จ
พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย ไม่ยอมให้เป็นเรือที่ยอมแน่นิ่งอยู่บนท่าเรือ และไม่ยอมให้ความเชื่อค่านิยมของโลกทำให้เรืออับปาง เรือต้องอยู่บนน้้ำไม่ใช่กระแสสังคมที่เป็นน้ำที่สาดเข้ามาในเรือจนทำให้เรือจมลงไปและอับปาง
เรือสำเภาที่ยึดสมอไม่ให้อับปาง
อัครทูตเปาโลได้เขียนจดหมายถึงทิโมธี และเตือนพี่น้องในคริสตจักรให้ระมัดระวังค่านิยมโลก คำสอนที่ผิด และยึดความเชื่อไว้ไม่ให้ความเชื่ออับปางลงไป
1 ทิโมธี 1:19 จงยึดความเชื่อไว้ และมีจิตสำนึกว่าตนชอบ ซึ่งข้อนี้บางคนได้ละทิ้งเสีย ความเชื่อของเขาจึงอับปางลง
สิ่งที่เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่เป็นักธุรกิจเพื่อพระเจ้า เป็นดั่งเช่นเผ่าเศบูลุนคือ ต้องไม่รับค่านิยมของโลกเข้ามาในชีวิต ต้องระลึกถึงว่าเงินที่หามาได้ มาจากการอวยพรของพระเจ้า และต้องเตือนใจตลอดเวลาในการทำงานว่า ให้เป็นเรือที่มีจุดหมายเพื่อเป้าประสงค์ของพระเจ้า ไม่เช่นนั้น เรือนั้นอาจจะเป็นเรือโจรสลัด สะสมทรัพย์สมบัติที่หามาได้เพื่อตนเอง
ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เรือของเผ่าเศบูลุนเหมือนเรือที่เจอมรสุมเศรษฐกิจ แต่ขอให้พระเจ้าทรงเป็นความหวัง เป็นดั่งสมอที่ยึดเรือไว้เพื่อผ่านคลื่นลม
ฮีบรู 6:19 ความหวังที่เรายึดนั้นเป็นเสมือนสมอที่แน่และมั่นคงของจิตใจ ...
เรือสำเภานำข่าวประเสริฐออกไปทั่วโลก
เรื่องราวของเผ่าเศบูลุน ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกประการ นั่นคือ พวกเขาเป็นเผ่าที่ได้รับข่าวประเสริฐและส่งมิชชั่นนารีออกไปสู่ปลายแผ่นดิน
ในสมัยก่อนนั้นดินแดนของเผ่าเศบูลุนและนัทาลี(กาลิลี) เป็นเขตแดนที่เป็นที่ดูหมิ่น เหยียดหยาม คนยิวจากยูเดียเรียกบริเวณนี้ว่า เป็น “กาลิลีของพวกนอกรีต ดินแดนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งความตาย"
แต่ถ้อยคำเผยพระวจนะจากอิสยาห์ กล่าวไว้ว่า นี่คือดินแดนแห่งความรุ่งโรจน์
อิสยาห์ 9:1-2
1 แต่กระนั้นแผ่นดินนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ ให้เจ็บปวดทรมานอย่างมาก
2 ชนชาติที่ดำเนินในความมืดได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่แล้ว บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างได้ส่องมาบนเขา
คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ก็ได้สำเร็จเป็นจริงในสมัยของพระเยซูคริสต์
มัทธิว 4:12-16
12 ครั้นพระเยซูทรงทราบข่าวว่ายอห์นถูกจำไว้แล้ว พระองค์ก็เสด็จไปยังแคว้นกาลิลี
13 แล้วย้ายที่ประทับจากเมืองนาซาเร็ธไปที่เมืองคาเปอรนาอุม ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบที่เขตเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี
14 เพื่อจะสำเร็จตามพระวจนะ
ซึ่งตรัสไว้โดยอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า
15 แคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลี ทางข้างทะเลฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น
คือกาลิลี แห่งบรรดาประชาชาติ
16
ประชาชนผู้นั่งอยู่ในความมืด ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่
และผู้ที่นั่งอยู่ในแดนและเงาแห่งความตาย ก็มีความสว่างขึ้นส่องถึงเขาแล้ว”
เผ่าเศบูลุนเป็นเผ่าที่ได้ยินข่าวประเสริฐครั้งแรกของโลก
เมื่อพระเยซูคริสต์ดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี
ทรงเรียกเปโตร ยากอบ และยอห์น และสาวกคนอื่นๆ มาเป็น “ผู้จับคนดั่งจับปลา” และเป็นผู้ได้ชื่อว่า "ชาวประมงผู้คว่ำโลก"(ลูกา 5:1-11)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตแดนของเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี เมืองนาซาเร็ธเป็นเมืองที่พระเยซูคริสต์ทรงเติบโตขึ้น คาเปอรนาอูม เป็นเมืองศูนย์กลางในการทำพันธกิจของพระองค์ ทั้ง 2 เมืองอยู่ในเขตแดนของเผ่าเศบูลุน
พระเยซูทรงเทศนาบนเรือในทะเลกาลิลี ทรงส่งสาวกของพระองค์ออกไปทั่วโลก
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งเผ่าเศบูลุน-เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย ขอพระองค์ทรงเป็นกัปตันเรือ พระวิญญาณทรงเป็นลมที่พาเรือไป และพระวจนะของพระองค์ทรงเป็นแผนที่ที่เราทุกคนจะไปสู่เป้าประสงค์ของพระองค์
ติดตามตอนต่อไปนะครับ เดือนทัมมุส เดือนแห่งเผ่ารูเบน