15 กุมภาพันธ์ 2560

อาเชอร์ ต้นไม้ริมธารน้ำ

สุขสวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน  เรากำลังอยู่ในเดือนแห่ง"ความสุข" เพราะเดือนนี้ คือ เดือนเชบัท (Shevat)  ปี 5777  (ช่วงวันที่ 28 มกราคม - 26 กุมภาพันธ์  2017)    
เชบัท (Shevat) เป็นเดือนแห่งเผ่าอาเชอร์ (Asher)  หมายถึง ความสุข”  

เดือนเชบัท (Shevatเป็นเดือนที่ 11 ตามปฏิทินยิวแบบศาสนา(Ecclesiastical calendar)และเป็นเดือนที่ ตามปฏิทินแบบราชการ(Civil calendar  
ในเดือนนี้มีเหตุการณ์สำคัญที่พระคัมภีร์บันทึกไว้คือ   เป็นเดือนที่โมเสส กล่าวพระบัญญัติแก่คนอิสราเอล
 

เฉลยธรรมบัญญัติ 1:3 ในวันที่ 1เดือนที่11(เชบัท)  ปีที่ 40 โมเสสได้กล่าวแก่คนอิสราเอล ตามบรรดาพระดำรัสที่พระเจ้าทรงประทานแก่ท่านเป็นพระบัญญัติให้แก่เขาทั้งหลาย 

เป็นเดือนที่เศคาริยาห์ กล่าวคำเผยพระวจนะแก่คนอิสราเอล

เศคาริยาห์ 1:7 เมื่อวันที่24เดือนที่11 ซึ่งเป็นเดือนเชบัท ในปีที่2 แห่งรัชกาลดาริอัส พระวจนะของพระเจ้ามายังเศคาริยาห์ ผู้เผยพระวจนะบุตรเบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรอิดโด และเศคาริยาห์กล่าวว่า


เดือนนี้เทศกาลสำคัญ  นั่นคือ ทิวบา เชบัท”  (Tu B'Shevat)  คือ ในช่วงวันที่ 15 เชบัท ( 11 ก.พ. 2017)  เป็นวัน "ต้นไม้แห่งชาติ" ของชาวยิว ( Jewish Arbor Day) เพื่อระลึกถึงการจัดสรรของพระเจ้าในการเข้าสู่ดินแดนพันธสัญญา  3 ปีแรกห้ามรับประทาน ปีที่ 4 นำมาถวายแด่พระเจ้า และปีที่ 5 สามารถรับประทานได้


เลวีนิติ 19:23-25
23 “เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินและปลูกต้นไม้ทุกชนิดที่มีผลเป็นอาหาร ผลที่ได้นั้นต้องเป็นผลที่ต้องห้าม 3 ปีเจ้าอย่ารับประทานเลย
24 และปีที่ 4 ผลที่ได้ทั้งหมดจะเป็นของบริสุทธิ์เป็นเครื่องบูชายอพระเกียรติแด่พระเจ้า
25 แต่ในปีที่ 5 จ้าจงรับประทานผลไม้นั้นได้เพื่อจะบังเกิดผลทวีขึ้นเพื่อเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ทิวบา เชบัท”   ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ของต้นไม้ต่างๆ  เดือนนี้ต้นอัลมอนด์จะเริ่มผลิดอกบาน  ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนจากฤดูหนาว(Winter)เป็นฤดูใบไม้ผลิ(Spring) ในเดือนนิสาน


ดร.ชัค เพียร์ส(Dr.Chuck Pierce) ได้เผยพระวจนะในช่วงเดือนเชบัท และให้ร้องตะโกนว่า  "พระพรนานัปการของข้าพเจ้ากำลังเดินทางมาถึงแล้ว!"  (my blessings are on the way!)
เดือนนี้เป็นช่วงเวลาของการประกาศิตว่า "การหายโรคโดยพระเจ้า! การรื้อฟื้นจากสวรรค์!" 

เป็นเดือนที่ต้นอัลมอนด์ออกดอกบานสะพรั่งในประเทศอิสราเอล ต้นอัลมอนด์เป็นต้นไม้พันธุ์แรกที่เริ่มออกดอกบาน และเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของวงจรใหม่ จงร้องเรียกหาองค์เจ้าชีวิต  สำหรับการผลิดอกออกผล"ใหม่"ภายในเรา เมื่อพวกเรากำลังอธิษฐาน เราจะออกผลมากในปีนี้ และเพื่อที่เราจะผลิบาน และส่งกลิ่นหอมที่จะเป็นกลิ่นหอมแห่งชีวิตในพระคริสต์ 
เดือนเชบัท เป็นเดือนแห่งอาเชอร์

ผมได้ตั้งชื่อเผ่าของอิสราเอล พงศ์พันธุ์ของยาโคบเป็นภาษาไทยเพื่อให้จดจำได้ ดังนี้

รูเบน-"สมชาย", สิเมโอน -"สดับฟัง", เลวี-"สนิทใจ", ยูดาห์-"สรรเสริญ", 
อิสสาคาร์-"สินชัย",เศบูลุน-"สมเกียรติ", กาด -"สบโชค", 
โยเซฟ-"เสริมพล", มนัสเสห์ -"สิ้นโศก", เอฟราอิม -"เสริมพงศ์", เบนยามิน-"ศักดิ์ชาย",

อาเชอร์- "สุขใจ",นัฟทาลี- "สมชัย", ดีนาห์- "แสนดี"
(หมายเหตุ  เรียนรู้จักลักษณะของเผ่าต่างๆประจำเดือนของอิสราเอลโดยสามารถอ่านบทความที่เขียนไว้ตาม Link นี้ครับ  สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์อิสสาคาร์ - ลาที่มีกำลังกล้าหาญ,เศบูลุน-เรือสำเภามุ่งสู่จุดหมาย,รูเบน - บุตรชายสายน้ำเชี่ยว,สิเมโอน กระบี่ในใจที่ร้ายกาจ,กาด นักรบผู้เก่งฉกาจ,เอฟราอิม-กระทิงแห่งศักดิ์ศรีนัสเสห์- ช่อมะกอกที่ออกผล,เบนยามิน -สุนัขป่า นักล่า, ดาน สันดานงูพิษ)
  
อาเชอร์ (Asher - אָשֵׁר )  หรือ นาย "สุขใจ" เป็นบุตรชายคนที่ 8 ของยาโคบ(อิสราเอล) เป็นบุตรของนางเลอาห์ซึ่งเกิดจากนางศิลปาห์สาวใช้ของเธอ

ปฐมกาล. 30:13 เลอาห์ก็ว่า ข้าพเจ้ามีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นสุขนางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์

อาเชอร์ ได้รับการอธิษฐานอวยพรจากบิดา คือ ยาโคบดังนี้ 

ปฐมกาล. 49:20  อาหารของอาเชอร์จะบริบูรณ์ และเขาจะผลิตเครื่องเสวยสำหรับกษัตริย์ 

นี่เป็นคำเผยพระวจนะที่เผ่าอาเชอร์จะได้ครอบครองดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด  สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นเป็นจริง!

เผ่าอาเชอร์ได้รับมรดก ในดินแดนพันธสัญญา นั้นคือได้ครอบครองตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน(Mediterranean)  ระหว่างเมืองไทระ(Tyre)และภูเขาคาร์เมล(Mt.Carmel) ... เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในคานาอัน 

สังเกตได้จากเป็นดินแดนที่มีข้าวสาลี  ข้าวโพดและไวน์อุดมสมบูรณ์  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการอวยพรที่เต็มขนาดของพระเจ้า
 
ดินแดนนี้มีพืชที่อุดมสมบูรณ์  มีเพียงพอ สร้างความพึงพอใจอย่างมากสำหรับเผ่าอาเชอร์  และยังสามารถส่งออกไปให้กับเผ่าอื่นๆได้ด้วย  กษัตริย์ซาโลมอนทรงได้นำผลผลิตจากที่ดินของเผ่าอาเชอร์นี้  ไว้ในพระคลังของพระองค์เอง (1 พงศ์กษัตริย์ 4:20-28)

หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี สถานที่ที่พระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น (ยอห์น 2:1-11) ก็เป็นดินแดนที่เป็นมรดกของเผ่าอาเชอร์  ดินแดนของเผ่าอาเชอร์นี้ เป็นสถานที่ที่พระเยซูทรงสำแดงพระองค์ว่าทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต

คำอวยพรของโมเสส กล่าวเผยพระวจนะถึงเผ่าอาเชอร์ว่า 

เฉลยธรรมบัญญัติ 33:24-25 
 “ขอให้อาเชอร์ได้รับพระพรเหนือบรรดาบุตรอื่นๆ ของยาโคบ ขอให้เป็นที่โปรดปรานในบรรดาพี่น้อง  ให้เขาจุ่มเท้าลงในน้ำมันมะกอก  ขอให้ดาลประตูของเขาเป็นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ กำลังของเขาคงอยู่ตลอดชีวิตของเขา” 

เมืองของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองโดยประตูเหล็กและทองสัมฤทธิ์  และความแข็งแกร่งของพวกเขาจะมีอายุตราบเท่าที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่

โมเสสจึงอวยพรแก่เผ่าอาเชอร์ ให้มีลูกดก (เผ่าอาเชอร์กลายเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่มีจำนวนมากที่สุด)

เผ่าอาเชอร์อาศัยอยู่อย่างสงบสุขกับชนเผ่าอื่นๆ และมีความเจริญรุ่งเรือง   การล้างเท้าด้วยน้ำมันมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง 

สัญลักษณ์ประจำเผ่าอาเชอร์ คือ "ต้นไม้"  

เผ่าอาเชอร์เป็นเสมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ที่เกิดผลตามฤดูกาล

สดุดี  1:3 เขา​เป็น​เหมือน​ต้น​ไม้​ที่​ปลูก​ไว้​ริม​ธาร​น้ำ ซึ่ง​เกิด​ผล​ตาม​ฤดู​กาล และ​ใบ​ก็​ไม่​เหี่ยว​แห้ง ทุก​อย่าง​ที่​เขา​ทำ​ก็​จำ​เริญ​ขึ้น

ดูภาพรวมๆแล้วเป็นเผ่าที่มีความสุขมาก ตามชื่อนายสุขใจ แต่ว่าพวกเขาก็เคยได้รับความยากลำบากเมื่อพวกเขากบฏต่อพระเจ้าในอดีตที่ผ่านมา

เผ่าอาเชอร์ได้เข้าร่วมเป็น 10 เผ่าของอิสราเอลทางตอนเหนือที่กบฏต่อสู้กับอาณาจักรยูดาห์ (1 พงศ์กษัตริย์ 12) 
สาเหตุหนึ่งที่พวกเขากบฏไป  อาจจะมาจากการที่กษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหาร  พระองค์ได้ทรงให้ยกเมือง 20 เมืองจากอาณาเขตของเผ่าอาเชอร์ ให้กับฮีรามกษัตริย์เมืองไทระ  เพื่อแลกเปลี่ยนสำหรับความช่วยเหลือของฮีราม 
 พงศ์กษัตริย์ 9:11-12 
11 แล้ว​พระ​ราชา​ซา​โล​มอน​ก็​ประ​ทาน​เมือง 20 เมือง​ใน​แผ่น​ดิน​กา​ลิ​ลี​แก่​ฮี​ราม​กษัตริย์​แห่ง​ไท​ระ เพราะ​ฮี​ราม​ได้​ส่ง​ไม้​สน​สี​ดาร์ ไม้​สน​สาม​ใบ​และ​ทอง​คำ​ให้​แก่​ซา​โล​มอน ตาม​ที่​พระ​องค์​มี​พระ​ประ​สงค์
12 แต่​เมื่อ​ฮี​ราม​เสด็จ​จาก​เมือง​ไท​ระ​เพื่อ​ชม​เมือง​ที่​ซา​โล​มอน​ประ​ทาน​แก่​ท่าน เมือง​เหล่า​นั้น​ไม่​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​ท่าน

เมื่อชนเผ่าทางตอนเหนือก่อกบฎต่อต้านกษัตริย์เรโหโบอัม  พระโอรสของกษัตริย์ซาโลมอน เผ่าอาเชอร์ก็ไปกับพวกเขาในการกบฏ

แต่เผ่าอาเชอร์ได้กลับใจใหม่อีกครั้ง! 
เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้รื้อฟื้นการจัดงานฉลองเทศกาลปัสกา  พระองค์ทรงส่งสารไปยังเมืองของ 10 ชนเผ่าทางตอนเหนือ เพื่อให้พวกเขาที่จะเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม

2 พงศาวดาร 30:9-11
9 เพราะถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมายังพระเจ้า พี่น้องของท่านและลูกหลานของท่านจะประสบความเอ็นดูจากผู้ที่จับเขาไปเป็นเชลย และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้อีก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระเมตตาและกรุณา ถ้าท่านกลับมาหาพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงหันพระพักตร์ไปจากท่าน”...
11 มีแต่คนเผ่าอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุนบางคนที่ถ่อมตัวและมายังเยรูซาเล็ม


ฝูงชนมากมายทั้งชายและหญิงจากเผ่าอาเชอร์ เดินทางมาเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ จากชนเผ่าทางตอนเหนือและเดินทางไปยังอาณาจักรยูดาห์  พวกเขาได้นมัสการพระเจ้าที่แท้จริง!

2 พงศาวดาร 11:16 และบรรดาผู้ที่ปักใจแสวงพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ก็ติดตามเขาทั้งหลายมาจากเผ่าทั้งปวงของอิสราเอลยังเยรูซาเล็ม เพื่อถวายสัตวบูชาต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย

2 พงศาวดาร 15:9 และพระองค์ทรงรวบรวมยูดาห์และเบนยามินทั้งปวง และคนเหล่านั้นจากเอฟราอิม มนัสเสห์ และจากสิเมโอน ผู้อาศัยอยู่กับเขาทั้งหลาย เพราะคนเป็นจำนวนมากได้หลบหนีมาหาพระองค์จากอิสราเอล เมื่อเขาเห็นว่าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพระองค์สถิตกับพระองค์

ผลที่ได้คือเผ่าอาเชอร์ก็ไม่ได้ "เป็นชนเผ่าที่สูญหาย" เมื่อราชอาณาจักรภาคเหนือถูกนำตัวไปเป็นเชลย มีคนจากเผ่าอาเชอร์หลงเหลือในแผ่นดิน!


เผ่าอาเชอร์เป็นนักรบ กองหลังที่แข็งแกร่ง 


เวลาเคลื่อนทัพของอิสราเอล เผ่าอาเชอร์จะเดินในกลุ่มสุดท้าย เพื่อป้องกันหลัง  เมื่อศัตรูโจมตีจากด้านหลัง เผ่าอาเชอร์เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลในการป้องกันศัตรูเมื่อมีการจัดทัพเดินผ่านถิ่นทุรกันดาร
เมื่อมีการจัดค่ายรอบพลับพลา เผ่าอาเชอร์ถูกจัดวางอยู่ทางด้านทิศเหนือของค่ายพร้อมกับเผ่าดานและเผ่านัฟทาลี  เป็นตำแหน่งที่วางไว้เพื่อปกป้องชนชาติอิสราเอล!  ในพระคัมภีร์  การโจมตีจากศัตรูมักจะโจมตีจากทางทิศเหนือ

การจัดตั้งรูปแบบค่ายของคนอิสราเอลและการตั้งพลับพลา (กันดารวิถี 2:1-34,3:21-38)  จะเห็นได้ว่าพลับพลาจะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของค่าย  ซึ่งมีเผ่าต่างๆ 12 เผ่าของอิสราเอลอยู่บริเวณรอบพลับพลา  มี 3 เผ่าตั้งค่ายอยู่ที่จุดของแต่ละเข็มทิศรอบพลับพลา เผ่าเลวีจะเข้าไปทำหน้าที่ในพลับพลา


 เผ่าอาเชอร์ ได้รับการอวยพรในเรื่องความแข็งแรงและการเกิดผล(เฉลยธรรมบัญญัติ 33 :24-25)  แต่เผ่าอาเชอร์ยังลังเลที่จะไปในการต่อสู้!

 เมื่อเผ่าอาเชอร์เข้ามาในดินแดน  พวกเขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่จะขับไล่ชาวคานาอันออกไป
เผ่าอาเชอร์ล้มเหลวที่จะขับไล่ชาวเมืองต่างๆออกไป 
ผู้วินิฉัย 1:31  อาเชอร์มิได้ขับไล่ชาวเมืองอัคโค หรือชาวเมืองไซดอน หรือชาวเมืองอัคลาบ หรือชาวเมืองอัคซิบ หรือชาวเมืองเฮลบาห์ หรือชาวเมืองอาฟิกหรือชาวเมืองเรโหบ

ในช่วงเวลาที่ผู้วินิจฉัย เผ่าอาเชอร์ปฏิเสธที่จะต่อสู้เคียงข้างกับเดโบราห์และบาราค ทำให้เดโบราห์ได้ตำหนิ โดยเอ่ยชื่อ เผ่าอาเชอร์ในบทเพลงแห่งชัยชนะของเธอ!

ผู้วินิฉัย  5:17 กิ เลอาดอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ส่วนดานอาศัยอยู่กับเรือกำปั่น ทำไมเล่า อาเชอร์นั่งเฉยอยู่ที่ฝั่งทะเล ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามท่าจอดเรือของเขา

เราเห็นได้จากการศึกษาเดือนที่แล้วคือ เดือนเทเบท  ว่า เผ่าดาน สันดานงูพิษไม่ยอมกลับใจ แต่เผ่าอาเชอร์   พวกเขากลับใจใหม่!

เผ่าอาเชอร์ตอบสนองการตักเตือนของเดโบราห์ เปลี่ยนจากนักหลับ นั่งเฉย ที่เคยมีคติประจำใจว่า "ไม่หลบ ไม่อู้ก็สู้ไม่ไหว" 
พวกเขาสำนึกผิด! จะมัวหลับ หลบ อู้ไม่ได้แล้ว ต้องเป็นนักรบที่ห้าวหาญ

เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์ เราจะพบว่าเผ่าอาเชอร์ ไม่เคยหันหลังหลับเมื่อถูกเรียกให้ออกไปรบ!
ในหนังสือผู้วินิจฉัยบทที่ 6-7 เมื่อกิเดโอน รวบรวมกองทัพไปรบ เผ่าอาเชอร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว!
พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ทรงสวมทับกิเดโอน ... และท่านส่งผู้สื่อสารไปทั่วทั้งเผ่ามนัสเสห์ เพื่อเรียกพวกเขาออกไปรบและส่งผู้สื่อสารไปยังเผ่าอาเชอร์ เศบูลุนและนัฟทาลี  พวกเขาก็ขึ้นไปพบกับผู้สื่อสาร

ผู้วินิฉัย  7:23 คนอิสราเอลถูกเรียกออกมาจากนัฟทาลี และจากอาเชอร์ และจากทั่วมนัสเสห์และพร้อมกันติดตามพวกมีเดียนไป

ใน 1 พงศาวดาร 12 เมื่อกษัตริย์เดวิด ตั้งกองทัพของพระองค์  กองทัพที่ใหญ่เป็นอันดับสองของชนเผ่าทั้งหมดมาจากเผ่าอาเชอร์!
1 พงศาวดาร 12:36  จากคนอาเชอร์ 40,000 คนที่พร้อมออกรบในสงคราม
1พงศาวดาร 12:38  ทหารทั้งสิ้นเหล่านี้ พร้อมที่จะทำศึก มายังเฮโบรน ด้วยเจตนาเต็มเปี่ยมเพื่อตั้งดาวิดให้เป็นพระราชาเหนือ อิสราเอลทั้งสิ้น ในทำนองเดียวกันคนอิสราเอลที่เหลืออยู่ ก็เป็นใจเดียวกันที่จะตั้งดาวิดเป็นพระราชา

1 พงศาวดาร7:40 ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของอาเชอร์ เป็นผู้นำตระกูลของพวกเขา เป็นนักรบกล้าหาญที่ถูกคัดเลือกไว้เป็นผู้นำของเหล่าเจ้านาย จำนวนคนที่พร้อมรบในสงครามตามที่บันทึกไว้ใน ทะเบียนลำดับพงศ์คือ 26,000 คน

สิ่งที่เรียนรู้ คือ เผ่าอาเชอร์ได้เลือกทางที่ผิด แต่พวกเขากลับใจและได้รับการรื้อฟื้นในการเป็นผู้นำจนไปสู่ความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของเขา พวกเขาคือ นักรบของพระยาห์เวห์

เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่เราจะเตือนใจตัวเองว่า โยเอล 3:10 ... ให้​คน​อ่อน​แอ​พูด​ว่า “ข้า​เป็น​นัก​รบ”

เดือนเชบัท จึงเป็นเดือนที่เราจะอธิษฐานป่าวประกาศดังนี้ 

    เดือนแห่งความบริบูรณ์   

อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ  ปฐมกาล 49:20 อาหารของอาเชอร์จะบริบูรณ์ และเขาจะผลิตเครื่องเสวยสำหรับกษัตริย์   

เดือนนี้เป็นเดือนที่เราจะรับพระพรเพื่อเรานำพระพรออกไปสู่ผู้อื่น!

     เดือนแห่งการเยียวยารักษา

อธิษฐานป่าวประกาศ ตามพระวจนะ   เยเรมีย์  33:6 ดูเถิด เราจะนำอนามัย และการรักษามาให้ และเราจะรักษาเขาทั้งหลายให้หายและเผยสวัสดิภาพและความมั่นคงอย่างอุดม

เดือนนี้เป็นแห่งการเยียวยารักษา เหมือนดังพระธรรมวิวรณ์ 22:1-2 กล่าวถึงแม่น้ำแห่งชีวิตที่ไหลไปที่ใดเกิดการเยียวยารักษา จิตใจของเราจะเป็นดั่งรากฐานของต้นไม้ที่จะถูกปลุกขึ้นมาด้วยแม่น้ำแห่งชีวิต

     เดือนแห่งความชอบธรรมที่เป็นรากฐานของชีวิต

อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ  เยเรมีย์  33:16 ​ในกาลครั้งนั้น ยูดาห์จะได้รับการช่วยให้รอด และเยรูซาเล็มจะอาศัยอยู่อย่างมั่นคง พระเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา’  

ตัวอักษรภาษาฮีบรูประจำเดือนนี้ คือ ตัวอักษร “ซาเด” (tsade) เป็นสัญลักษณ์ของ "ผู้ชอบธรรม"  ความหมายมาจากพระนามคือ พระยาห์เวห์ธิเคนู” (Yahweh Tsidkenu )  ความชอบธรรมจึงเป็นรากฐานของชีวิต อย่าให้ความอธรรมมาทำให้เราสั่นคลอน คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ(โรม 1:17)

     เดือนแห่งพระวจนะที่หล่อเลี้ยงชีวิต

อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ    สดุดี 119:103 ​พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริงๆ หวานกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากข้าพระองค์

เดือนนี้จะเป็นเดือนที่เราจะได้อิ่มหนำในการอ่านพระวจนะ พระวจนะเป็นกำลังและเป็นอาหารที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ  (สดุดี 1:2-3)แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง

จงเป็นดังเผ่าอาเชอร์  เป็นต้นไม้ริมธารน้ำที่เกิดผลและอยู่ในนิเวศของพระเจ้าเสมอ


สดุดี 52:8 ส่วน​ข้าพ​เจ้า​เป็น​เหมือน​ต้น​มะกอก​เขียว​สด​ใน​พระ​นิ​เวศ​ของ​พระ​เจ้า ข้าพ​เจ้า​วาง​ใจ​ใน​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​เจ้า​เป็น​นิตย์​นิ​รันดร์

พบกันใหม่เดือนหน้าเดือนอาดาร์ เดือนแห่งเผ่านัฟทาลีนะครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น