โดย Philip Kavilar
ทางเลือกที่หนึ่ง นมัสการพระเจ้าในฐานะที่พระองค์เป็นกษัตริย์
ในพระคัมภีร์อธิบายว่า ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์นั้นมีฐานันดรของการเป็นพลไพร่ของพระเจ้า (ทิตัส 2:14), (ฮีบรู 4:10)
เมื่อพลไพร่ของพระเจ้านมัสการพระองค์ด้วยบทเพลงแห่งพระเกียรติ ทูตสวรรค์ก็สามารถร้องบทเพลงแห่งพระเกียรตินี้ได้เช่นกัน เพราะโดยทั่วๆไปแล้ว ทูตสวรรค์ก็ให้เกียรติพระเจ้า ดังนั้นการนมัสการด้วยทางเลือกนี้ ทูตสวรรค์ก็ทำได้
ทางเลือกที่สอง นมัสการพระเจ้าในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นคุณพ่อ(พระบิดา)
ในพระคัมภีร์อธิบายว่า เมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งเชื่อเข้าสู่พระคริสต์ มนุษย์ผู้นั้นก็ได้รับฐานันดรของการเป็นบุตรของพระเจ้า (นอห์น 1:12) ด้วยเหตุนี้ในพันธสัญญาใหม่ มนุษย์ที่เชื่อจึงเรียกพระเจ้าว่า “คุณพ่อหรือพระบิดา”
มีข้อพระคัมภีร์บางข้อที่ตีความได้ว่า ทูตสวรรค์ก็มีฐานันดรแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้าด้วย (สดุดี 89:6), (โยบ 1:6) ด้วยเหตุนี้ เมื่อมนุษย์เทิดทูนพระเจ้าด้วยบทเพลงแห่งความรักของพระบิดา ทูตสวรรค์ก็อาจจะนมัสการด้วยบทเพลงแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนมัสการแบบหัวใจพระบิดา ทูตสวรรค์ก็อาจทำได้ทางเลือกที่สาม นมัสการพระเจ้าพระบุตรในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นองค์เจ้าบ่าว
เมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งเชื่อเข้าสู่พระคริสต์
มนุษย์ผู้นั้นก็ได้รับฐานันดรของการเป็น “พลไพร่ของพระเจ้า”
และได้รับฐานันดรของการเป็น “บุตรของพระเจ้า” ด้วย
ทว่ายังมีอีกฐานันดรหนึ่งที่ผู้เชื่อในพระคริสต์ทุกคนพึงได้รับ
ฐานันดรนั้นก็คือฐานันดรของการเป็นเจ้าสาวของพระเยซู
จริงอยู่ว่าทูตสวรรค์อาจจะเป็นพลไพร่ของพระเจ้า
และแม้ทูตสวรรค์อาจจะมีฐานันดรของการเป็นบุตรชายของพระเจ้า
แต่ก็ไม่มีข้อพระคัมภีร์ใดที่เขียนว่า ทูตสวรรค์เป็นเจ้าสาวของพระเจ้า
ดังนั้นเมื่อมนุษย์เทิดทูนพระเยซูด้วยบทเพลงแห่งความรักแบบเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ทูตสวรรค์ก็ไม่อาจที่จะร้องเพลงในลักษณะนี้ได้ บางทีการนมัสการแบบเจ้าบ่าวเจ้าสาวถือเป็นเขตแดนที่ทูตสวรรค์ไม่อาจเอื้อมถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น