11 กันยายน 2555

Rosh Hashanah ปี 5773 ปีแห่งพระพรความมั่งคั่ง

สวัสดีครับเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ในครั้งนี้ผมได้กลับมาเขียนบทความลงใน  Blog อีกครั้งหลังจากไม่ได้เขียนมานานเกือบเดือน เนื่องจากติดภารกิจหลายประการและเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 28 ส.ค.-6 ก.ย.12 ที่ผ่านมา  ผมได้จดบันทึกการเดินครั้งนี้ไว้ ในโอกาสต่อไปคงจะได้มาเขียนเพื่อเล่าสู่กันฟัง
ในช่วงเดินทางไปอิสราเอลได้ทำความเข้าใจหลายประการเกี่ยวกับวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตและความหมายของคำในภาษาฮีบรูของชาวอิสราเอลเพิ่มขึ้น ทำให้เข้าใจสิ่งที่เป็นความสำคัญของพระวจนะของพระเจ้าที่บันทึกในพระคัมภีร์มากยิ่งขึ้น เป็นการท่องโลกในพระคัมภีร์ ดังนั้นประเทศอิสราเอลจึงเป็นประเทศที่น่าหลงไหล การทรงสถิตของพระเจ้าในประเทศนี้ทำให้ผมหลงรักประเทศเทศนี้ ผมเชื่อว่าเมื่อผู้ใดไปแล้วคงต้องอยากจะกลับไปอีกครั้ง 
สำหรับบทความในครั้งนี้ ผมขอแบ่งปันในเรื่องเทศกาลเสียงแตรเขาสัตว์ หรือที่เรียกว่า "รอช ฮาชชะนาห์"(Rosh Hashanah)เทศกาลนี้มีความสำคัญอย่างไร นั่นก็คือ เป็นการเริ่มต้นปี (Head of the year)หรือเรียกง่ายว่า เทศกาลปีใหม่ของชาวอิสราเอล  การเป่าแตรเขาสัตว์(Shofar)เป็นการปลุกให้ตื่นขึ้นเพื่อจะกลับมาแสวงหาพระเจ้า ในวัฒธรรมของชาวอิสราเอลหรือชาวยิว เขาจะมีการเป่าแตรเขาสัตว์ในทุกต้นเดือนที่เราเรียกว่า "รอช โคเดช" (Rosh Chodesh) คำว่า "รอช" (Rosh)หมายถึง ต้น หรือ หัว(head) ส่วนคำว่า "โคเดช" (Chodesh) ให้ความหมายว่า การชำระชีวิต(sanctify)เป็นการ "ตั้งสติก่อนสตาร์ท"เพื่อให้พระเจ้าอวยพระพรชีวิตก่อนเริ่มต้นในแต่ละเดือนโดยนับจากวันขึ้นค่ำดวงจันทร์วันใหม่(new moon)ของการเริ่มต้นเดือนใหม่ตามปฏิทินแบบจันทรคติของยิว 
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้จาก บทความ :ความเข้าใจเกี่ยวกับผลแรกในวันต้นเดือน(Rosh Chodesh))

ฉะนั้น "รอช ฮาชชะนาห์"(Rosh Hashanah)จึงให้ความหมายถึง เป็นการเริ่มต้นปี (Head of the year)ตรงกับวันที่ 1ของเดือนทิชรี(Tishrei)เป็นเดือนแรกตามปฎิทินฮีบรูแบบราชการ(government calendar)แต่เป็นเดือนที่ 7 ตามปฎิทินฮีบรูแบบศาสนา(Ecclesiastical calendar)ในสมัยก่อนเรียกว่า เดือน "เอธานิม" (Ethanim)หากเราจำเหตุการณ์สำคัญในเดือนนี้ได้เดือนนี้เป็นเดือนที่กษัตริย์ซาโลมอนมอบถวายพระวิหารแด่พระเจ้าและพระสิริของพระเจ้าเทลงมาอย่างเต็มขนาด(2 พศด 6:12-42)เดือนทิชรี(Tishrei)(ปี 2012 ตรงกับช่วงวันที่ 17ก.ย.-16 ต.ค.12)จึงเป็นเดือนที่สำคัญและมีเทศกาลสำคัญถึง 3 เทศกาลด้วยกันคือ

1.Rosh Hashanah (เริ่มเย็นวันที่ 16 ก.ย.12จนถึงเย็นที่ 18 ก.ย.12)
2.เทศกาลวันลบมลทินบาป(ยม คิปปูร์-Yom Kippur)(ช่วง 10วันแห่งความยำเกรงพระเจ้า วันที่ 1-10 Tishrei หรือวันที่ 16-26 ก.ย.12 วันที่ 26 ก.ย.เป็นวันลบมลทินบาป(Yom Kippur)
3.เทศกาลอยู่เพิง(สุคต-Sukkot)(ช่วงวันที่ 15-21Tishrei - วันที่1-7ต.ค.12)
สำหรับในเทศกาล"รอช ฮาชชะนาห์"(Rosh Hashanah)ปี 2012 นี้ เป็นการเริ่มต้นปี 5773 ปีแห่งพระพรความมั่งคั่ง  ปี 5773 เป็นปีการรื้อฟื้นสู่การไถ่กลับมาทั้งหมด ปีที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างช่องว่างของอดีตไปสู่อนาคต (From recovery to wholeness : A year to bride the gap between past and future)

หากพิจารณาตามความหมายเชิงสัญลักษณ์ของอักษรฮีบรู คือ ปี "Ayin-Gimel"ג ע ผมขอนุญาตสรุปความหมายโดยสังเขปดังนี้ (ในช่วงสัมมนา Issacar camp วันที่ 26-28ต.ค.นี้ Dr.Robert Heidler จาก Glory of Zion จะมาอธิบายให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้น)

ตัวอักษรเอยิน ע (Ayin) คือ ตัวอักษรที่เป็นภาพของดวงตาที่มองเห็น เป็นปีแห่งการเปลี่ยน หมายถึงเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแล้วไม่ใช่เป็นปีของสิ่งเดิมๆ เปลี่ยนในที่นี้หมายถึงเป็นปีแห่งการจบสิ้นสิ่งเก่าและเริ่มต้นสิ่งใหม่ ไม่ใช่คิดว่าเริ่มต้นสิ่งใหม่แต่ยังวังวนในสิ่งเก่านี่ไม่ใช่การเริ่มต้นสิ่งใหม่ สิ่งใหม่ก็คือสิ่งใหม่ พระเจ้ากำลังทำสิ่งใหม่

ตัวอักษรกิเมล ג (Gimel) คือ ตัวอักษรภาพที่เป็นภาพของตัวอูฐ หมายถึง ความมั่งคั่ง พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรแห่งสวรรค์ก็ยาก เราบอกท่านทั้งหลายอีกว่า ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า"
พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า  เมื่อพวกสาวกของพระองค์ได้ยินก็ประหลาดใจมาก จึงทูลว่า "ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้" พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวกและตรัสกับเขาว่า "ฝ่ายมนุษย์ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้เป็นไปได้ทุกสิ่ง"(มธ 19:24-26)
แนวคิดของพระคัมภีร์โยงอูฐกับความมั่งคั่งนั้น พระเยซูคริสต์ทรงตระหนักและยืนยันสิ่งนี้เมื่อพระองค์ทรงเลือกอูฐเพื่อเปรียบเทียบกับคนรวยในหนึ่งในคำสอนที่มีชื่อเสียงของพระองค์ ซึ่งได้แสดงไว้ในตอนต้นของบทนี้ด้วย กล่าวว่า  "ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า"
รูเข็มให้ความหมาย 2 แบบคือโพลงที่ให้สัตว์รอดช่องที่กำแพง หรืออาจจะเป็นรูเข็มจริงๆที่ใช้เย็บผ้าก็ได้ แต่ในฝ่ายวิญญาณหมายถึงทางแคบแห่งกางเขนซึ่งผู้ที่ติดตามพระคริสต์ต้องปรารถนาจะวางทุกสิ่งลงโดยสมบูรณ์เพื่อที่จะเข้าไปในแผ่นดินของพระเจ้าได้ ดังที่มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตของตนรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร หรือผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาจิตวิญญาณของตนกลับคืนมา"(มธ.16:25-27)

แม้พระเจ้าทรงประสงค์จะเป็นที่หนึ่งในหัวใจคนของพระองค์ พระองค์ก็ทรงรับประกันว่าทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์ และปฏิเสธตนเองจะได้รับรางวัล ดังที่พระเยซูคริสต์เจ้าเองก็ทรงสัญญาเช่นนั้นว่าจะได้รับตอบแทนร้อยเท่า คือบ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตรและที่ดิน ทั้งจะถูกการข่มเหงด้วย และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์(มก. 10:29)


ดังนั้นความมั่งคั่งที่จะมาสู่ชีวิตของเรา เราจะต้องเผชิญปัญหาความยากลำบาก เหมือนการผ่านเข้าไปในช่องแคบ และต้องหาทางออกให้ได้
ผมนึกถึงตอนที่ผมอยู่ที่ประเทศอิสราเอล จะมีช่องอุโมงค์ที่กษัตริย์ดาวิดให้ทหารขุดไปเพื่อไปยึดและเอาชนะคนเยบุสได้ จึงสถาปนาเป็นเมืองของดาวิด(City of David)ได้ 
ทีมที่เราไปอิสราเอลได้เดินผ่านอุโมงค์นั้น และอธิษฐานเป็นการทะลุทะลวงฝ่ายวิญญาณ(breakthrough)วันนี้เราต้องเอาชนะปัญหาของเราให้ได้เพื่อรับพระพรจากพระเจ้า


ตัวอักษร กิเมลในพระธรรมที่ยิ่งใหญ่คือสดุดี 119:17 นั้นเปิดเผยหัวใจอันมั่งคั่งของตัวอักษรนี้ โดยกล่าวว่า “ขอทรงดี (ฉบับ King James - bountifully, ภาษาฮีบรู -"gomel") ต่อผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่ และจะปฏิบัติตามพระวจนะของพระองค์” 
รากศัพท์ของคำว่า "gomel" ใช้ในความหมายของ ผู้อุปการะ หรือ ผู้ที่ปฏิบัติอย่างใจกรุณา ความหมายนี้มีฐานมาจากข้อกิเมลในท้ายบทที่31ของพระธรรมสุภาษิต (สภษ 31:12) “เธอจะทำความดีให้เขา ไม่ทำความร้าย ตลอดชีวิตของเธอ” เช่นกัน พระคัมภีร์ก็ใช้รากฐานอันนี้แหละเพื่อบรรยายความรักที่ท่วมท้นที่พระเจ้าประทานแก่เรา

คำว่า "อูฐ" ถูกพูดถึงครั้งแรกในเหตุการณ์ที่ฟาโรห์ให้ของขวัญกับอับราฮัมหลังจากเกิดเหตุที่น่าเสียใจกับซาราห์ภรรยาของเขา หลังจากนั้นก็ถูกพูดถึงเมื่อคนรับใช้ของอับราฮัมถูกส่งออกไปให้หาภรรยาให้กับอิสอัค และ “คนรับใช้นำอูฐ 10 ตัวจากอูฐของเจ้านายและออกไป เพื่อสิ่งดีทั้งสิ้นของเจ้านายจะอยู่ในมือของเขา” แล้วเมื่อเขาได้พบกับหญิงผู้นั้นผู้ซึ่งองค์เจ้านายได้ตั้งไว้ให้เป็นภรรยาของอิสอัค เขาก็ได้พรรณนาความมั่งคั่งของเจ้านายของเขาต่อเธอและครัวเรือนของเธอ กล่าวว่า

พระเยโฮวาห์ทรงอวยพระพรแก่นายข้าพเจ้าอย่างมากมาย ท่านก็เจริญขึ้น และพระองค์ทรงประทานฝูงแพะแกะ และฝูงวัว เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา (ปฐก 24:35)

อูฐยังพบอีกในการพรรณนาความมั่งคั่งของยาโคบ ลูกชายของอิสอัค (ปฐก 30:43)

อีกครั้งคือเมื่อราชินีแห่งเชบาซึ่งเป็นคนต่างชาติได้ยินถึงชื่อเสียงของซาโลมอน พระนางเสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม พร้อมด้วยข้าราชบริพารมากมาย มีฝูงอูฐบรรทุกเครื่องเทศและทองคำเป็นอันมาก และเพชรพลอยต่างๆ(1พกษ. 10:2)

เช่นเดียวกัน พระเจ้าใช้ อูฐ ในอิสยาห์บทที่ 60:5-6 เพื่อพรรณนาทรัพย์สมบัติยิ่งใหญ่ที่จะไหลมาสู่คนยิว
5 ความอุดมสมบูรณ์ของทะเลจะหันมาหาเจ้า ความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติจะมายังเจ้า
6 มวลอูฐจะมาห้อมล้อมเจ้า อูฐหนุ่มจากมีเดียนและเอฟาห์ บรรดาเหล่านั้นจากเชบาจะมา เขาจะนำทองคำและกำยาน และจะบอกข่าวดีถึงกิจการอันน่าสรรเสริญของพระเยโฮวาห์
(มวลอูฐ ไม่ใช่ มูลอูฐ มวลอูฐจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งที่จะมา)
ตัวอักษรกิเมล เครื่องหมายแสดงพระกรุณานิรันดร์ของพระเจ้า พระเจ้าทรงประทานสิ่งเหล่านี้แก่เรา  กิเมลเป็นเครื่องหมายแสดงพระกรุณานิรันดร์ของพระเจ้า นี่เป็นของความหมายที่เราต้องทำความเข้าใจเพื่อเราจะได้คาดหวังในการได้รับมรดกแห่งพระพรความมั่งคั่งเมื่อเราเชื่อมต่อกับชนชาติของพระเจ้าคืออิสราเอล (ปฐก.12) เราจะได้รับพระพร
หากเปรียบเทียบอูฐเป็นยานพาหนะในปัจจุบัน จะเป็นเสมือนรถยนต์โก้หรู ยี่ห้อประมาณ Benz ,Volvo หรือบางคนอาจจะใช้รถยี่ห้อ Jaguar เป็นการเสริมสร้างบารมีเรียกว่า "รถโชว์" ไม่ใช่ "รถใช้" เพราะรถใช้งานจะเป็นพวกรถยี่ห้อ Toyota หรือ Honda หรือรถกระบะ ทนทานสมบุกสมบัน
ในประเทศอิสราเอลในสมัยก่อนจะใช้ลาหรือล่อในการเดินทาง หากผู้ใดมีอูฐถือว่ามีความมั่งคั่ง เมื่อผมเดินทางไปภูเขามะกอกเทศที่อิสราเอล จะมีลาเช่าให้ขี่รอบเมือง เพื่อระลึกถึงตอนที่พระเยซูคริสต์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มโดยทรงลูกลา(มธ.21)คนที่นั่นจะเรียกว่า "Jesus's taxi"


ความมั่งคั่งที่พระเจ้าจะอวยพรให้เราผ้ที่เชื่อในปีนี้นั้น ไม่ได้ให้เราเก็บไว้แต่ตนเองฝ่ายเดียว เพราะนั่นเป็นวิญญาณความยากจนที่จะครอบงำชีวิตเรา เพราะบางครั้งคนที่มีเงินเป็นเศรษฐีแต่กลับยากจนฝ่ายวิญญาณเพราะ "มีใจงก" ไม่ยอมแจกจ่ายออกไป แต่ต้องเป็นเศรษฐี "มีใจงาม"ที่แจกจ่ายออกไป แบบคริสตจักรชาวแคว้นมาซิโดเนีย ที่อัครทูตเปาโลชมเชย 2คร.8:1-3 ยิ่งกว่านี้ พี่น้องทั้งหลาย เราใคร่ให้ท่านทราบถึงพระคุณของพระเจ้า โดยที่พระองค์ได้ทรงโปรดประทานแก่คริสตจักรต่างๆในแคว้นมาซิโดเนีย เพราะว่าเมื่อคราวที่พวกเขาถูกทดลองอย่างหนักได้รับความทุกข์ยาก ความยินดีล้นพ้นของเขาและความยากจนแสนเข็ญของเขานั้น ก็ล้นออกมาเป็นใจโอบอ้อมอารีของเขา เพราะข้าพเจ้าเป็นพยานได้ว่า เขาถวายโดยสุดความสามารถของเขา ที่จริงก็เกินความสามารถของเขาเสียอีก และเขายังได้วิงวอนเรามากมายขอให้เรายอมรับของถวายนั้น และให้เขามีส่วนในการช่วยวิสุทธิชนด้วย ไม่เหมือนที่เราได้คาดหมายไว้ แต่ได้ถวายตัวเขาเองแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าก่อน แล้วได้มอบตัวให้เราตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ดังนั้นเราคงเข้าใจแล้วว่าทำไมพระธรรม 2 คร. จึงทำให้อัครทูตเปาโลผู้ซึ่งทนทุกข์หนักหนาในพันธกิจแห่งข่าวประเสริฐของเขาได้พรรณนาตัวเขาไว้ว่า “เหมือนคนยากจน แต่ยังทำให้คนเป็นอันมากมั่งมี เหมือนคนไม่มีอะไรเลย แต่ยังมีสิ่งสารพัดบริบูรณ์” และทำไมท่านจึงใช้ถ้อยคำแบบเดิมในเวลาต่อมาในพระธรรมนี้เพื่อบรรยายข่าวประเสริฐในรูปของความยากจนและความมั่งคั่ง เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายเพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์(2คร.8:9)
พระเยซูคริสต์ พระองค์ผู้ทรงอยู่ในสภาพพระเจ้ามิได้ทรงเห็นว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นการแย่งชิงเอาไปเสีย แต่ได้ทรงกระทำพระองค์เองให้ไม่มีชื่อเสียงใดๆ และทรงรับสภาพอย่างผู้รับใช้ ทรงถือกำเนิดในลักษณะของมนุษย์ และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลง ยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน
(ฟป. 2:6-7)
พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์จากสวรรค์ของเรา พระองค์ทรงส่งทูตของพระองค์ขี่อูฐ(camel)มาเป็นผู้เปิดประตูสวรรค์ด้วยกุญแจที่มาจากพระโลหิตของพระองค์เพื่อช่วยจิตวิญญาณของเราจากขุมนรกและนำเราเข้าไปในอาณาจักรแห่งพระสิริของพระองค์ เป็นไถ่สิ่งที่เราสูญเสียไปในอดีตโดยมารซาตาน ถึงแล้วที่เราในฐานะคริสตจักรของพระองค์จะต้องใช้กุญแจแห่งความเชื่อนี้ เปิดประตูความตาย "เพื่อปล้นนรก ปลูกอาณาจักรของพระเจ้า" ตามที่พระเยซูคริสต์มอบไว้(มธ.16:18)

ในปีนี้คริสตจักรแห่งพระบัญชา(UCC)เรามีการเฉลิมฉลองในวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย.เรามีการอธิษฐานและนมัสการจนถึงเวลาหกโมงเย็น เพื่อเป็นการนับถอยจากปี 5772 ปีแห่งพันธสัญญา ไปสู่ปี 5773 เป็นปีพระพรแห่งความมั่งคั่ง
ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลในภาพรวม เราสามารถเตรียมชีวิตของเราและฉลองเทศกาลต่างๆในเดือนนี้ในภาพส่วนบุคคลได้ ผมขอเสนอแนวทางการปฏิบัติในเทศกาลในกลุ่มย่อยๆ ดังนี้ครับ

ในเทศกาล Rosh Hashanah มีการเป่าเสียงแตรเขาสัตว์ เป็นเสียงเตือนให้กลับมาหาพระเจ้า เป็นช่วงเวลาของการทำลายสิ่งเก่าและรุกเข้าไปสู่สิ่งใหม่

จงออกมาจากรูปแบบเดิมที่รู้สึกมั่นคง คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์แสวงหาความมั่นคงปลอดภัยในพระองค์

จงทำลาย นิสัยเดิมๆ คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ใจของข้าพระองค์ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง

กลับใจจากวิธีคิดแบบเดิมๆ คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์ออกจากสิ่งเก่าเข้าสู่สิ่งใหม่

แผนการของพระเจ้าสำหรับการเริ่มต้นปี เข้าสู่ประสบการณ์สู่พระสิริของพระเจ้า

1. ฟังเสียงปลุกให้ตื่น ดังเช่นการเข้าสู่เทศกาลเสียงแตรโดยตื่นจากหลับใหลเข้าสู่เวลาของพระองค์

2. เสาะแสวงหาพระเจ้า ในช่วง 10วันแห่งความยำเกรง (Yom Kippur)

3. รับการรื้อฟื้น อธิษฐานสารภาพบาปในวันลบมลทินบาป กลับใจจากสิ่งเลวร้าย เข้ามาพึ่งพาพระคุณพระเจ้า

4. ชื่นชมในการทรงสถิตของพระเจ้า ดังเช่นการเข้าสู่เทศกาลอยู่เพิง ด้วยความหวังใจ พระเยซูเป็นดังที่พำนักในชีวิตของเรา พระองค์ทางอยู่ทามกลางเรา


การฉลองในเทศกาล Rosh Hashanah มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ที่นิยมคือ การรับประทานแอปเปิ้ลจิ้มน้ำผึ้งในช่วงวันขึ้นปีใหม่ จะอวยพรกันว่า

"Shana- Tova" ชานา โตวา แปลว่า สุขสวัสดีในช่วงปีใหม่ ( A Good and Sweet Year)
    ขอพระเจ้าอวยพระพรในเทศกาลแห่งปีใหม่นี้ครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น