🙅🏽 เอซาว How to ทิ้งสิทธิ์บุตรหัวปี ทิ้งอย่างไรถึงเอาคืนไม่ได้ 🥣
เอซาว(Esau-עֵשָׂוj หรือนายขนดก(hairy)เป็นความหมายของชื่อเขาเมื่อเกิดมา เขาเป็นแฝดผู้พี่ของน้องชายคือนายยาโคบ(Jacob-יַעֲקֹב) หรือนายจับส้นเท้า เพราะตอนแรกเกิดจับส้นเท้าของเอซาวตามออกมาจากครรภ์มารดาทั้งสองคนนี้เป็นลูกชายของอิสอัคกับนางเรเบคาห์
👬 แม้จะเป็นพี่น้องฝาแฝดแต่ทั้งสองคนนี้มีความแตกต่างกันอย่างมาก
👩🌾 เอซาว เป็นนายพราน สายเนื้อ ชอบไปล่าสัตว์จึงเป็นลูกรักของป๋าอิสอัค สายเปย์
👨🍳 ยาโคบ เป็นเชฟ ชอบทำอาหารอยู่กับบ้านและเป็นลูกรักของนางเรเบคาห์ ผู้เป็นแม่
🌈 เอซาว เป็นที่โปรดปรานของพ่อ ผู้ที่จะเป็นผู้อวยพรให้กับบุตรหัวปี ได้รับพร 2 เท่าตามธรรมบัญญัติ
📕เฉลยธรรมบัญญัติ 21:17
“...โดยแบ่งทุกสิ่งที่มีให้แก่บุตรหัวปีสองเท่า เพราะว่าคนนี้เป็นต้นกำลังของบิดา สิทธิของบุตรหัวปีเป็นของเขา”
“...โดยแบ่งทุกสิ่งที่มีให้แก่บุตรหัวปีสองเท่า เพราะว่าคนนี้เป็นต้นกำลังของบิดา สิทธิของบุตรหัวปีเป็นของเขา”
🌈แต่เอซาวกลับไม่เห็นคุณค่าสิทธิบุตรหัวปี
เมื่อเกิดความหิวก็ยอมทิ้งสิทธิบุตรหัวปี โดยแค่แลกกับขนมถั่วแดงที่ยาโคบทำเพียงถ้วยเดียว🥣
เมื่อเกิดความหิวก็ยอมทิ้งสิทธิบุตรหัวปี โดยแค่แลกกับขนมถั่วแดงที่ยาโคบทำเพียงถ้วยเดียว🥣
📕ปฐมกาล 25:27-30, 32-34
“...วันหนึ่งขณะที่ยาโคบต้มอาหารอยู่ เอซาวกลับมาจากท้องทุ่งหิวจัด เอซาวพูดกับยาโคบว่า
“ขอให้ฉันกินของแดงนั้น ของแดงนั้นน่ะ เพราะฉันหิวจัด”
“ขอให้ฉันกินของแดงนั้น ของแดงนั้นน่ะ เพราะฉันหิวจัด”
เอซาวว่า “ดูสิ ฉันกำลังจะตายอยู่แล้ว สิทธิบุตรหัวปีจะเป็นประโยชน์อะไรแก่ฉัน?”
ยาโคบว่า “สาบานให้ฉันวันนี้ก่อน” เอซาวจึงสาบานให้ และขายสิทธิบุตรหัวปีของเขาแก่ยาโคบ ยาโคบจึงให้ขนมปังและถั่วแดงต้มแก่เอซาว เขาก็กินและดื่ม แล้วลุกไป
ดังนี้เอซาวก็ดูหมิ่นสิทธิบุตรหัวปีของเขา”
🔥เอซาว ได้ละทิ้งสิ่งสำคัญล้ำค่า คือ สิทธิบุตรหัวปี แต่ยอมแลกได้ด้วยถั่วแดงเพียงถ้วยเดียว
เมื่อเขากินอิ่มและหายหิวแล้ว ก็ไม่สามารถเรียกเอาสิทธิบุตรหัวปีกลับคืนมาได้
🙅🏽เพราะสิทธิ์นี้ไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นตำแหน่งที่พระเจ้าทรงตั้งไว้ให้
❌การปฏิเสธและละทิ้งก็เป็นการไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ ☹️
🔥เอซาวได้สูญเสียสิทธิ์บุตรไปโดยสมบูรณ์
🌈ยาโคบได้ทำการสวมรอยเป็นเอซาวเข้าไปสวมสิทธิ์รับการอวยพรบุตรหัวปีจากอิสอัค โดยการรู้เห็นเป็นใจของเรเบคาห์ ผู้เป็นแม่
📕 ปฐมกาล 27:1-4, 6-7, 17-19
“เมื่ออิสอัคชราและตามัว ท่านก็เรียกเอซาวบุตรคนโตของท่านมา และกล่าวแก่เขาว่า “ลูกเอ๋ย” เขาตอบว่า “ลูกอยู่นี่” ท่านว่า “นี่แน่ะ พ่อแก่แล้ว พ่อไม่รู้วันตายของพ่อ เจ้าจงเอาอาวุธของเจ้า คือแล่งธนูและคันธนูออกไปที่ท้องทุ่ง หาเนื้อมาให้พ่อ เตรียมอาหารอร่อยให้พ่อ อย่างที่พ่อชอบนั้น และนำมาให้พ่อกิน เพื่อพ่อจะได้อวยพรแก่เจ้าก่อนพ่อตาย”
เรเบคาห์จึงพูดกับยาโคบบุตรของนางว่า “แม่ได้ยินพ่อของเจ้าพูดกับเอซาวพี่ชายของเจ้าว่า ‘จงนำเนื้อมาให้พ่อและจัดอาหารอร่อยให้พ่อกิน และพ่อจะอวยพรเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ก่อนพ่อตาย’
แล้วนางก็มอบอาหารอร่อยและขนมปังที่นางทำให้ยาโคบบุตรชายของนางถือไป เขาจึงเข้าไปหาบิดาและพูดว่า “พ่อ” และท่านว่า “พ่ออยู่นี่ ลูกเอ๋ย เจ้าคือใคร?” ยาโคบตอบบิดาของเขาว่า “ลูกเป็นเอซาวบุตรหัวปีของพ่อ ลูกทำตามที่พ่อบอกลูกแล้ว เชิญลุกขึ้นนั่งรับประทานเนื้อที่ลูกหามาเถิด เพื่อพ่อจะได้อวยพรแก่ลูก”
🌈จากนั้นยาโคบได้หลบหนีไป และต่อมายาโคบก็ได้รับพรตามพระสัญญาโดยเป็นต้นตระกูลอิสราเอล 12 เผ่า
🌈จากนั้นยาโคบได้หลบหนีไป และต่อมายาโคบก็ได้รับพรตามพระสัญญาโดยเป็นต้นตระกูลอิสราเอล 12 เผ่า
🔥แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมางของสองพี่น้องเอซาวและยาโคบ แม้ว่าต่อมาจะได้กลับมาคืนดีกันก็ตาม
🔥 แต่เชื้อสายของเขา คือ คนอาหรับเชื้อสายของเอซาวและคนอิสราเอลเชื้อสายของยาโคบก็ยังมีเรื่องบาดหมางกันจนถึงทุกวันนี้
🌈 นี่คือเรื่องราวของ เอซาว How to ทิ้งสิทธิ์บุตรหัวปี
🌈 เมื่อเขาทิ้งไปแล้วก็สูญเสียสิทธิ์ทำให้ชีวิตเสียศูนย์ แทนที่จะได้รับพรอย่างที่ควรจะได้รับ
เพียงเพราะเห็นแก่สิ่งของเล็กน้อยที่อยากได้ตอนหิวเท่านั้น
🌈 เมื่อเขาทิ้งไปแล้วก็สูญเสียสิทธิ์ทำให้ชีวิตเสียศูนย์ แทนที่จะได้รับพรอย่างที่ควรจะได้รับ
เพียงเพราะเห็นแก่สิ่งของเล็กน้อยที่อยากได้ตอนหิวเท่านั้น
🌈 ข้อคิดคือ “อย่าให้ความต้องการทางเนื้อหนังของเรา อันเกิดจากความหิวและความอยาก
ทำให้เราทำพลาดและได้ทิ้งสิทธิบุตรที่จะได้รับพรจากพระเจ้า เพราะมันจะได้โดยไม่คุ้มเสีย ทำให้เราต้องเสียดายและเสียใจในสิ่งที่เสียไปในที่สุด”
ทำให้เราทำพลาดและได้ทิ้งสิทธิบุตรที่จะได้รับพรจากพระเจ้า เพราะมันจะได้โดยไม่คุ้มเสีย ทำให้เราต้องเสียดายและเสียใจในสิ่งที่เสียไปในที่สุด”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น