บทความเรื่อง "กรอบความคิดเรื่องอาณาจักรแบบปุโรหิตและกษัตริย์ " โดย Haiyong Kavilar
กรอบความคิดแบบอัครทูตมีความแตกต่างจากกรอบความคิดแบบศิษยาภิบาล
กรอบความคิดแบบอัครทูตจะมีจุดจดจ่ออยู่ที่ “อาณาจักร” แต่กรอบความคิดแบบศิษยาภิบาลจะมีจุดจดจ่ออยู่ที่ “โบสถ์” มุมมองแบบอัครทูตจะเน้นที่การนำอาณาจักรพระเจ้าเข้าสู่แผ่นดินโลก
แต่มุมมองแบบศิษยาภิบาลจะเน้นที่การเพิ่มพูนคริสตจักร
อย่างไรก็ตามแม้มุมมองแบบอัครทูตจะเน้นที่อาณาจักร
แต่มุมมองแบบอัครทูตก็ไม่ได้ทอดทิ้งการเพิ่มพูนคริสตจักร
เพราะการเพิ่มพูนคริสตจักรก็เป็นส่วนหนึ่งของการแผ่ขยายอาณาจักรพระเจ้า
ทว่าการแผ่ขยายอาณาจักรไม่ได้จำกัดอยู่ในกำแพงโบสถ์เท่านั้น
พระเยซูทรงมีตำแหน่งเป็นมหาปุโรหิต
อันเป็นตำแหน่งในการนำผู้คนเข้าสู่พระเจ้า ในฐานะของมหาปุโรหิต พระคริสต์ทรงเป็น “แกะ” ที่ถูกถวายบูชาเพื่อนำผู้คนกลับคืนดีกับพระเจ้า
แต่พระเยซูมิได้มีตำแหน่งของมหาปุโรหิตอย่างเดียวเท่านั้น
พระเยซูทรงมีตำแหน่งเป็นมหากษัตริย์ด้วย ในฐานะของมหากษัตริย์
พระองค์ทรงสถาปนาอาณาจักรพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
และทรงปรารถนาให้คริสตจักรนำอาณาจักรนี้แผ่ขยายไปยังทุกๆส่วนของแผ่นดิน ในตำแหน่งของมหากษัตริย์
พระคริสต์ทรงเป็นดั่ง “สิงห์”
ที่เป็นภาพสะท้อนของการครอบครอง
ในฐานะมหาปุโรหิต
พระคริสต์ทรงเป็นแกะและพระผู้ช่วยให้รอด(Savoir)
ก่อให้เกิดนิเวศน์อธิษฐานอันเป็นพระวิหารที่พระเจ้าทรงสถิต ในฐานะมหากษัตริย์
พระคริสต์ทรงเป็นสิงห์และองค์พระผู้เป็นเจ้า(Lord) ก่อให้เกิดอาณาจักร
ซึ่งเป็นดั่งเยรูซาเล็มเมืองหลวงที่พระเจ้าทรงปกครอง
ในพระคัมภีร์พระวิหารให้ภาพของคริสตจักรที่มีพันธกิจแบบนิเวศน์อธิษฐานซึ่งเน้นในการปฏิสัมพันธ์กับพระเจ้า
ส่วนเยรูซาเล็มให้ภาพของคริสตจักรที่มีพันธกิจแบบอาณาจักรซึ่งเน้นในด้านการปกครองของพระเจ้า
ด้วยลักษณะของปุโรหิต
พันธกิจด้านนิเวศน์อธิษฐานก็ถือกำเนิดขึ้น ในนิเวศน์อธิษฐาน
ผู้คนก็ได้เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับพระเจ้าเหมือนดั่งปุโรหิตที่เข้าหาพระเจ้า พันธกิจแบบปุโรหิตเน้นที่การรวมตัวของผู้เชื่อเพื่อนมัสการพระเจ้า
อันเป็นสิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในคริสตจักร
อย่างไรก็ตามคริสตจักรที่ขับเคลื่อนแบบอัครทูต
พันธกิจของคริสตจักรจะไม่ได้มีเพียงแต่นิเวศน์อธิษฐานเพียงอย่างเดียว
การขับเคลื่อนแบบอัครทูตยังมีพันธกิจของการแผ่ขยายอาณาจักรด้วย การขับเคลื่อนแบบอัครทูตไม่ได้มองว่าพระคริสต์ทรงเป็นแกะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ยังมองเห็นพระคริสต์ในลักษณะของสิงห์ การขับเคลื่อนแบบอัครทูตจึงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะพันธกิจแบบปุโรหิต
แต่ยังมีพันธกิจแบบกษัตริย์ที่เน้นในเรื่องอาณาจักร ซึ่งผู้เชื่อทุกคนมีส่วนในการนำอาณาจักรพระเจ้าเข้าครอบครองแผ่นดินโลก
การปฏิรูปโปรเตสแตนต์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่
16 เน้นในเรื่องการชำระให้ชอบธรรมผ่านทางความเชื่อ อันเป็นพันธกิจแบบปุโรหิตที่มองว่าพระคริสต์ทรงเป็นแกะ
แต่การปฏิรูปอัครทูตครั้งใหม่ที่เริ่มเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21
จะเน้นเรื่องการแผ่ขยายอาณาจักร อันเป็นพันธกิจแบบกษัตริย์ที่มองว่าพระคริสต์ทรงเป็นสิงห์
ในการปฏิรูปโปรเตสแตนต์
ผู้เชื่อทุกคนเป็นดั่งปุโรหิตที่มีพันธกิจในการนำผู้คนเข้าหาพระเจ้า
แต่ในการปฏิรูปอัครทูตครั้งใหม่
ผู้เชื่อทุกคนเป็นดั่งกษัตริย์ที่มีพันธกิจในการแผ่ขยายอาณาจักร
รูปจากหนังสือ Releasing Kings
for Ministry in the Marketplace
เขียนโดย John Garfield และ Harold Eberle |
ในฐานะกษัตริย์
ผู้เชื่อทุกคนมีพันธกิจแบบอาณาจักรที่ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในกำแพงโบสถ์เท่านั้น
พันธกิจแบบอาณาจักรยังมุ่งเน้นในการเปลี่ยนแปลงสังคมภายนอกโบสถ์
เพื่อนำพาให้แผ่นดินโลกเต็มด้วยอาณาจักรพระเจ้า ในพันธกิจแบบกษัตริย์
ผู้เชื่อที่ไม่ได้ทำงานในโบสถ์จึงมีส่วนสำคัญต่อการแผ่ขยายอาณาจักร ผู้ที่พระเจ้าเรียกให้ทำงานในโลกนับว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อการพลิกฟื้นสังคมให้สะท้อนลักษณะของอาณาจักรพระเจ้า
ในฤดูกาลของการขับเคลื่อนแบบอัครทูตนี้
การทรงเรียกมิได้เป็นศัพท์ที่ใช้เฉพาะงานในโบสถ์เท่านั้น แต่การทรงเรียกจะเป็นศัพท์ที่ใช้ในงานอาชีพด้วย
ในมุมมองแบบอัครทูต พระเจ้าทรงเรียกบางคนให้ทำพันธกิจแบบปุโรหิตที่เน้นนิเวศน์อธิษฐาน
และพระเจ้าทรงเรียกบางคนให้ทำพันธกิจแบบกษัตริย์ที่เน้นการแผ่ขยายอาณาจักร
ในพันธกิจแบบกษัตริย์จะไม่ได้เน้นที่การเก็บเกี่ยวเพียงอย่างเดียว
แต่จะเน้นการเปลี่ยนแปลงสังคม ที่ทำงาน และครอบครัวให้สะท้อนถึงอาณาจักรพระเจ้า
ในมุมมองแบบศิษยาภิบาล
คนที่ทำงานในโบสถ์มักจะถูกเรียกว่าผู้รับใช้
ส่วนคนที่ทำงานในโลกมักจะถูกเรียกว่าฆราวาส ทว่ามุมมองแบบอัครทูตจะไม่มีการแยกผู้เชื่อเป็นผู้รับใช้กับฆราวาส
ในมิติแบบอัครทูต ผู้เชื่อทุกคนเป็นผู้รับใช้ โดยบางคนถูกเรียกให้ทำพันธกิจแบบปุโรหิตในโบสถ์
และบางคนถูกเรียกให้ทำพันธกิจแบบกษัตริย์ในโลก ไม่ว่าผู้เชื่อจะทำงานในโบสถ์หรือในโลก
ผู้เชื่อทุกคนก็เป็นผู้รับใช้พระคริสต์และทุกคนก็เป็นผู้รับใช้เต็มเวลา โอ
ขอให้ผู้เชื่อที่เป็นดั่งกษัตริย์ จงลุกขึ้นเถิด
หนังสือแนะนำเพิ่มเติม
Releasing
Kings for Ministry in the Marketplace เขียนโดย John
Garfield & Harold Eberle
ที่มาของรูป
รูปแกะ จาก
http://kingofwallpapers.com/lamb.html
รูปแกะ จาก
http://kingofwallpapers.com/lamb.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น