05 ธันวาคม 2559

แผ่นดินสวรรค์คืออะไรกันแน่?

บทความเรื่อง "แผ่นดินสวรรค์คืออะไรกันแน่?"  โดย  Haiyong Kavilar

ก่อนหน้าทศวรรษที่ 1990 คำว่าอัครทูตไม่ได้เป็นที่พูดถึงหรือใช้กันมากนัก ผู้นำคริสตจักรในยุคนั้นมักถูกเรียกว่า ศิษยาภิบาล ทว่าในทศวรรษ 1990 เกิดกระบวนการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของคริสตจักรที่เรียกว่าการปฏิรูปอัครทูตครั้งใหม่(New Apostolic Reformation) และเมื่อคริสตจักรก้าวเข้าสู่ปี 2001 ตำแหน่งและคำว่า อัครทูต จึงเป็นที่พูดถึงและได้รับการยอมรับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การปฏิรูปอัครทูตครั้งใหม่นี้กำลังจะพลิกโฉมหน้าของคริสตจักรโปรเตสแตนต์ จากกรอบความคิดแบบศิษยาภิบาลสู่กรอบความคิดแบบอัครทูต ในกรอบความคิดแบบศิษยาภิบาล จุดจดจ่อจะอยู่ที่ "โบสถ์ แต่กรอบความคิดแบบอัครทูต จุดจดจ่อจะอยู่ที่ อาณาจักรพระเจ้า

มีคำศัพท์อยู่ 3 คำในพระคัมภีร์ที่แตกต่างกันคือคำว่า สวรรค์(Heaven) แผ่นดินสวรรค์(Kingdom of Heaven) และแผ่นดินของพระเจ้า(Kingdom of God) แต่ต่อจากนี้ผมจะไม่แปลคำว่า Kingdom เป็น แผ่นดิน แต่จะขอแปลคำว่า Kingdom เป็น อาณาจักร แทน ดังนั้นในที่นี้จะใช้คำว่า อาณาจักรสวรรค์ แทนคำว่า แผ่นดินสวรรค์และจะใช้คำว่าอาณาจักรพระเจ้า แทนคำว่า แผ่นดินของพระเจ้า

คำว่า อาณาจักรสวรรค์ กับ อาณาจักรพระเจ้า มีความหมายเหมือนกัน ในพระคัมภีร์คำว่าอาณาจักรสวรรค์ปรากฏเฉพาะในพระกิตติคุณมัทธิวเท่านั้น จากคำตรัสอันเดียวกันของพระเยซู ถ้าเป็นพระกิตติคุณมัทธิวจะใช้คำว่าอาณาจักรสวรรค์ แต่ถ้าเป็นพระกิตติคุณเล่มอื่นๆ(เช่น มาระโก ลูกา) จะใช้คำว่าอาณาจักรพระเจ้า นี่บ่งชี้ว่าอาณาจักรสวรรค์กับอาณาจักรพระเจ้ามีความหมายเหมือนกัน เหตุที่หนังสือมัทธิวหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าอาณาจักรพระเจ้าเป็นเพราะหนังสือมัทธิวเขียนให้คนยิวอ่านโดยเฉพาะ ซึ่งคนยิวที่เคร่งครัดจะไม่ออกนาม พระเจ้าเท่าใดนัก มัทธิวจึงเลี่ยงการใช้คำว่าอาณาจักรพระเจ้า โดยใช้คำว่าอาณาจักรสวรรค์แทน

คำว่า "สวรรค์" หมายถึง ที่ประทับของพระเจ้า ซึ่งมีทูตสวรรค์อยู่มากมาย ส่วนคำว่าอาณาจักรสวรรค์หรืออาณาจักรพระเจ้าหมายถึงขอบข่ายที่พระเจ้าทรงปกครอง ขอบข่ายที่พระเจ้าปกครองนี้ไม่ได้มีเฉพาะในสวรรค์เท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายถึงแผ่นดินโลกด้วย หากมีกลุ่มคนใดหรือภูมิภาคใดบนแผ่นดินโลกที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อาณาจักรสวรรค์หรืออาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั้น อาณาจักรพระเจ้าเป็นขอบข่ายฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าทรงปกครองซึ่งขอบข่ายนี้แผ่ขยายไปถึงแผ่นดินโลกด้วย

คำว่า สวรรค์ กับ อาณาจักรสวรรค์ จึงไม่เหมือนกัน โดยสวรรค์จะหมายถึงสถานที่ที่พระเจ้าประทับ ส่วนอาณาจักรสวรรค์หมายถึงขอบข่ายที่พระเจ้าทรงปกครองอันเป็นขอบข่ายฝ่ายวิญญาณ

สรุปเป็นสมการได้ว่า
สวรรค์
อาณาจักรสวรรค์
อาณาจักรสวรรค์
= อาณาจักรพระเจ้า

ก่อนที่พระเยซูจะสิ้นพระชนม์ พระองค์ตรัสว่า อาณาจักรพระเจ้ามาใกล้แล้ว นี่หมายความว่าก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงกางเขน อาณาจักรสวรรค์ยังมิได้มาถึง(เพียงแต่มาใกล้แล้ว) ทว่าหลังจากที่พระเยซูเป็นขึ้นและนั่งที่เบื้องขวาพระเจ้าในสวรรคสถาน พระองค์ก็มิได้ตรัสเช่นนี้อีก นี่แสดงว่าหลังจากที่พระเยซูประทับที่สวรรคสถาน อาณาจักรพระเจ้าก็ได้ถูกสถาปนาขึ้นในโลกโดยมีพระเยซูคริสต์เป็นกษัตริย์ และถ้าพื้นที่ใดหรือกลุ่มคนใดที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั่น

อาณาจักรพระเจ้าเป็นขอบข่ายในฝ่ายวิญญาณอันเป็นขอบข่ายที่พระเจ้าปกครอง อาณาจักรพระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่กว้างกว่าคำว่าคริสตจักร คำว่าคริสตจักรมีความหมายสื่อถึง ประชากรของพระเจ้า แต่อาณาจักรหมายถึงการปกครองของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าปรารถนาที่จะให้ผู้เชื่อนำอาณาจักรนี้เข้าไปยังแผ่นดินโลกผ่านที่ทำงานหรืองานอาชีพ อาณาจักรพระเจ้าจึงไม่ได้จำกัดเฉพาะในอาคารโบสถ์


คุณสมบัติบางส่วนของอาณาจักรพระเจ้าที่ปรากฏในพระคัมภีร์ก็คือ ความชอบธรรม สันติสุข ความยินดี และฤทธิ์เดช เมื่อผู้เชื่อทำให้สังคมหรือองค์กรที่ตนรับผิดชอบมีความชอบธรรม อาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั่น ถ้าผู้เชื่อนำพาให้ครอบครัวมีสันติสุข อาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั่น ถ้าผู้เชื่อสามารถขจัดความยากจนบนภูมิภาคหนึ่งได้ อาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั่น นอกจากนี้ถ้าหมายสำคัญหรือการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์เกิดขึ้นที่ใด อาณาจักรพระเจ้าก็มาถึงที่นั่น พันธกิจของการแผ่ขยายอาณาจักรพระเจ้านี้ถูกนำพาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์กำลังเคลื่อนไหวทั่วแผ่นดินโลก ทรงดลใจทั้งผู้เชื่อและผู้ไม่เชื่อ (ในพระคัมภีร์มีหลายเหตุการณ์ที่พระเจ้าดลใจคนต่างชาติให้ทำภารกิจบางอย่างด้วย)

จุดจดจ่อของการขับเคลื่อนแบบอัครทูตก็คือ อาณาจักรพระเจ้า พันธกิจแบบอัครทูตจึงไม่ถูกจำกัดเฉพาะงานรับใช้ในโบสถ์เท่านั้น แต่พันธกิจแบบอัครทูตยังหมายถึงการนำอาณาจักรพระเจ้าเข้าไปยังสังคมภายนอกโบสถ์ด้วย เอกลักษณ์หนึ่งของการขับเคลื่อนแบบอัครทูตคือส่งคนออกไปเพื่อแผ่ขยายอาณาจักรพระเจ้า ซึ่งต่างจากการขับเคลื่อนแบบศิษยาภิบาลที่เน้นเพียงแต่การเก็บเกี่ยวและรวมตัวกันในโบสถ์ การเคลื่อนไหวแบบอัครทูตคือส่งคนออกไป การเคลื่อนไหวแบบศิษยาภิบาลคือดึงดูดคนเข้ามา กรอบความคิดแบบศิษยาภิบาลเน้นพันธกิจเพื่อโบสถ์ แต่กรอบความคิดแบบอัครทูตเน้นพันธกิจเพื่ออาณาจักร


หนังสือแนะนำเพิ่มเติม
Thy Kingdom Come                  เขียนโดย Harold Eberle
Changing Church                    เขียนโดย C. Peter Wagner

ที่มาของรูป
รูปหนังสือ
Apostolic Church Arising จาก
https://www.arsenalbooks.com/Apostolic-Church-Chuck-Pierce-and-Robert-Heidler-p/9780979167881.htm

รูปมงกุฎ จาก
https://twitter.com/KINGDOMCROWN2

รูปขั้นบันได จาก
https://www.gloryofzion.org/docs/Apostolic%20Centers_sm.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น