31 ธันวาคม 2554

Gift of love ความรัก...ของขวัญจากพระเจ้า

ในช่วงเดือนธันวาคม ผมได้มีโอกาสไปให้โอวาทคู่สมรสคู่หนึ่ง เกี่ยวกับเรื่อง "Gift of love ความรัก...ของขวัญจากพระเจ้า" ในครั้งนี้จึงขอนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตและนำมาแบ่งปันให้ได้อ่านกันครับ
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ให้กับโลกนี้ พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่รู้จักพระองค์ก็จะมีความรักของพระองค์และสะท้อนออกมาเป็นการกระทำ
1 ยน.4:7-8
7 ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า
8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
ความรักไม่ใช่ของประทาน เพราะของประทานจะมีไว้สำหรับบางคน เพื่อการรับใช้ แต่ความรักเป็นผลพระวิญญาณ(กท.5:22-23)ไม่ใช้มาจากผลของการกระทำ ที่ป้อนข้อมูล (Input) และผ่านกระบวนการประมวลผล (Process) ออกมาเป็นผล (Output)หากแต่เป็นผลที่สำแดงออกมาในชีวิตของผู้ที่เชื่อเป็นลักษณะชีวิต ดังเช่นต้นไม้ดีทุกต้นย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว (มธ.7:17)

ความรักจึงเป็นของขวัญที่พระจ้ามอบให้กับเราทั้งหลาย ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสวันที่25ธ.ค. ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งการให้ และในวันที่ 26ธันวาคมเป็นวันแกะกล่องของขวัญ(Boxing day)หลายคนอยากได้ของขวัญต่างๆที่ตนเองถูกใจ เมื่อสอบถามคนทั่วไปว่าอยากจะได้ของขวัญอะไรในเทศกาลนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะตอบว่า "อยากจะได้เจอผู้ชายดีๆสักคน" สำหรับผู้ชายอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น ผู้ชายจะตอบว่า "อยากได้ผู้หญิงไม่ต้องดีมากก็ได้...แต่ขอหลายๆคน" นั่นเป็นความคิดของคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่เชื่อในพระเจ้าแล้ว พระเยซูคริสต์เป็นของขวัญทีล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้(ยน.3:16)“เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
ดังนั้นเราทั้งหลายที่เป็นผู้เชื่อจึงเป็นผู้ที่ได้รับของขวัญนี้และแบ่งปันออกไปด้วยการมอบความรักของพระองค์ต่อไป ด้วยของขวัญชิ้นนี้ คำว่า "ของขวัญ" ในภาษาอังกฤษคือคำว่า "Gift" วันนี้ผมขอนำข้อคิดเรื่องความรักจากตัวอักษรทั้ง 4 ของคำ
"GIFT" ดังนี้ครับ


G-Gratefulness -การมีใจขอบพระคุณ

ของขวัญแห่งความรักที่เราได้รับ ไม่ได้วัดที่มูลค่าของสิ่งของที่ให้เป็นของขวัญตามราคา แต่สิ่งที่สำคัญคือท่าทีของผู้ที่ให้ พระเจ้าทรงให้ความรักแก่เราโดยให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เราคือการให้พระเยซูคริสต์มาตายเพื่อเราบนกางเขนแม้ว่าเราเป็นคนบาปไม่สมควรจะได้รับ(รม.5:8) ดังนั้นคำว่า "พระคุณ(Grace)"จึงเป็นของขวัญที่พระเจ้าให้กับเราโดยเราไม่ได้รับเพราะความดีที่เราทำแต่พระเจ้าประทานโดยพระคุณ(อฟ.2:8-9)ดังเช่นของประทานที่พระเจ้าให้กับเราในภาษากรีกคือคำว่า"Charisma"(Charis-grace คือ พระคุณ +Mata-Gift ของขวัญ)ทั้งของประทานใน3มิติคือของประทานพระบิดา(รม.12:3-8)ของประทานพระวิญญาณ(1คร12:8-10)ของประท่านพระคริสต์ พันธกรทั้ง5(อฟ.4:11-13)ดังนั้นสิ่งแรกในการดำเนินชีวิต คือการขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ประทานให้ ในชีวิตครอบครัว เราจะต้องมีใจในการขอบคุณกันและกัน
1ธส.5:18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่ง ปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย

I-Intimacy-การมีความสนิทสนม
ในภาษากรีก คำว่า "สนิทสนม" หรือ Fellowship นี้มาจากคำว่า "Koinonia" แปลได้ว่า การมีส่วนร่วม (communion) การติดต่อสื่อสารทำให้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด (communication) ความสนิทสนม (intimacy )การเข้าไปเชื่อม มีส่วนร่วมด้วย (Joint participation)ความสัมพันธ์แบบสนิทสนมเหมือนกับการเข้าหุ้นส่วน หรือ เป็นเหมือนคู่สมรสที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน สิ่งสำคัญคือการต้องมีเวลาในการทำความรู้จักกันและกัน ทั้งนี้ไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณเวลาที่ใช้ร่วมกันแต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเวลาที่ใช้ด้วยกัน
การสนิทสนมกับอีกภาพหนึ่งก็คือ การเคลื่อนไปด้วยกัน(moving together with)นี่เป็นภาพเหมือนกับการขนส่ง ดังนั้นครอบครัวที่ดีคนในครอบครัวต้องตกลงกันและเคลื่อนไปด้วยกันสู่เป้าหมายของครอบครัวด้วยกัน สิ่งที่สำคัญในชีวิตครอบครัวคือการสนิทสนมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยให้พระองค์เป็นหุ้นส่วนในชีวิตและเคลื่อนไปกับพระองค์

F-Forgiveness-การให้อภัยกัน
ในชีวิตครอบครัวเมื่อเรามาอยู่ร่วมกันต้องมีทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดาดังสุภาษิตไทยว่าไว้คือลิ้นกับฟัน ดังนั้นความรักที่มีต่อกันและกันคือการไม่ฉุนเฉียวไม่ช่างจดจำความผิดและเชื่อในส่วนดีเสมอ(1คร.13:4-7)
ในการดำเนินชีวิตครอบครัวนอกจากจะต้องมีคำว่า "ขอบคุณ"อยู่เสมอ อีกคำหนึ่งที่จะต้องใช้อยู่เสมอคือคำว่า "ขอโทษ"ให้กล่าวเสมอเมื่อทำผิด และผู้ที่ถูกทำผิดเมื่อมีคนขอโทษก็อย่าให้โทษ แต่ต้องให้อภัยเสมอ เหมือนดังที่พระเจ้าให้อภัยเราเมื่อเราทำผิดและให้โอกาสเราเสมอเมื่อเราสารภาพบาปต่อพระองค์(1ยน.1:9)หลักการในการใช้ชีวิตครอบครัวคือ "ให้อภัย ไม่จดจำ ทำเพื่อพระเจ้า" (Forgive-ให้อภัย Forget-ไม่จดจำ For God-ทำเพื่อพระเจ้า)

T-Tender-การทะนุถนอมรัก
ภาษาฮีบรูของคำว่า “ทะนุถนอม” หมายถึง ซ่อนไว้ ปกป้อง สงวนรักษาไว้ด้วยความรักใคร่ และถูกแปลในสดุดี 27:5 ว่า “ซ่อน” “เพราะพระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้า ในที่กำบังของพระองค์ ในยามยากลำบาก พระองค์จะปิดข้าพเจ้าไว้ภายใต้ร่มพลับพลาของพระองค์ พระองค์จะทรงตั้งข้าพเจ้าไว้สูงบนศิลา”
ในฐานะที่เราเป็นคนของพระเจ้า คือ เรามีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า เราเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่าของพระองค์ เป็นผู้ที่พระองค์ทรงทะนุถนอม ซ่อนไว้ ปกป้องและสงวนรักษาไว้ด้วยความรัก
อัครทูตเปาโลกำชับ
สามีให้รักภรรยาเหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และให้เลี้ยงดูและ “ทะนุถนอมเหมือนพระคริสต์ทรงกระทำแก่คริสตจักร” (อฟ.5:29)
เราอาจจะใช้เวลาในการบอกรักกันเพียงไม่กี่นาที แต่เราต้องพิสูจน์ความรักที่มีให้กันตลอดชีวิต ดังนั้นต้องรักและถนอมความรักที่มีต่อกันไว้ ฉะนั้นเมื่อเราได้ตกลงใจมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เราจะต้องถนอมความรักที่มีต่อกันไว้เสมอเหมือนดังที่พระเจ้าทรงรักเราไม่มีเสื่อมคลาย


ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านให้ได้รับความรักจากพระองค์ ซึ่งเป็นของขวัญที่เราได้รับโดยพระคุณที่ได้โดยเปล่าๆและให้เราให้ออกไปเปล่าๆด้วยเช่นเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น