16 มิถุนายน 2561

ประโยชน์ของการแปลภาษาแปลกๆ


บทความเรื่อง "ประโยชน์ของการแปลภาษาแปลกๆ" โดย Philip Kavilar



เพื่อนๆบางคนอาจสงสัยว่า
1. การแปลภาษาแปลกๆ สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้บ้าง ?
2. พูดภาษาแปลกๆอย่างเดียวโดยไม่ต้องแปลไม่ได้หรือ ?
 เพื่อนๆบางคนอาจคิดว่า พูดภาษาแปลกๆอย่างเดียวก็น่าจะพอแล้ว ไม่เห็นต้องมาแปลเลย กระนั้นความคิดนี้ก็ดูเหมือนจะขัดกับจดหมายของเปาโลที่กล่าวว่า

(1 โครินธ์ 14:13) ฉะนั้น​คน​ที่​พูด​ภา​ษา​แปลกๆ ก็​ควร​อธิษ​ฐาน​ขอ​ให้​แปล​ได้​ด้วย
           จากพระคัมภีร์ภาษาไทย ดูเหมือนเปาโลจะไม่ได้ สั่ง ให้อธิษฐานขอให้แปลได้ เปาโลเพียงแต่ แนะนำเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าว่ากันตามไวยากรณ์กรีกแล้ว ลักษณะของไวยากรณ์กรีกในข้อพระคัมภีร์นี้เป็นแบบ Imperative Mood ซึ่งเป็นลักษณะของประโยคคำสั่ง ดังนั้นถ้าดูจากไวยากรณ์กรีกแล้ว ข้อพระคัมภีร์นี้สามารถแปลได้ว่า

(1 โครินธ์ 14:13) ฉะนั้น​คน​ที่​พูด​ภา​ษา​แปลกๆ ก็​จงอธิษ​ฐาน​ขอ​ให้​แปล​ได้​ด้วย
         ตามข้อพระคัมภีร์นี้ เปาโลไม่เพียงแค่ แนะนำ เท่านั้น แต่เขา สั่ง คนที่พูดภาษาแปลกๆด้วย โดยสั่งให้พวกเขาอธิษฐานขอให้แปลได้ 
การแปลภาษาแปลกๆเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์นานาประการให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ที่พูดภาษาแปลกๆ ทั้งผู้แปลและรวมถึงผู้ฟังคนอื่นๆด้วย ในที่นี้ ผมจะกล่าวถึงประโยชน์สามอย่างของการแปลภาษาแปลกๆ ซึ่งก็คือ (1) ปลดปล่อยฤทธิ์เดช (2) เป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อ (3) ของประทานอื่นๆได้รับการพัฒนา

ประโยชน์อย่างแรก-ปลดปล่อยฤทธ์เดช
          เมื่อผู้หนึ่งพูดภาษาแปลกๆ ในบางครั้งการพูดภาษาแปลกๆของผู้นั้นก็สามารถปลดปล่อยฤทธิ์เดชของพระเจ้ามายังที่ประชุมได้ หลายครั้งการพูดภาษาแปลกๆยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นของประทานอื่นๆ เช่น ทำให้การเผยพระวจนะโหมกระพือขึ้น หรือทำให้การรักษาโรคเกิดได้ง่ายขึ้น มีคำพยานมากมายที่ชี้ว่า เมื่อมีการพูดภาษาแปลกๆในที่ประชุม ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็ปกคลุมลงมา และการอัศจรรย์ต่างๆก็เกิดได้ง่ายขึ้น

กระนั้น แม้ว่าการพูดภาษาแปลกๆจะช่วยปลดปล่อยฤทธิ์เดช แต่การแปลภาษาแปลกๆหลังจากที่เพิ่งพูดภาษาแปลกๆ ก็จะช่วยยกระดับและปลดปล่อยฤทธิ์เดชให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นอีก บางครั้งการพูดภาษาแปลกๆเพียงยังเดียวอาจจะปลดปล่อยฤทธิ์เดชไม่มากนัก แต่พอมีผู้หนึ่งเริ่มปลดปล่อยคำแปลออกมา ฤทธิ์เดชก็ปกคลุมลงมามากขึ้น

ส่วนตัวผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งในชีวิตส่วนตัวและในกลุ่มแคร์ บางครั้งเมื่อผมพูดภาษาแปลกๆ ผมก็ยังรู้สึกเต็มล้นด้วยพระวิญญาณไม่มากนัก แต่เมื่อผมได้ปลดปล่อยคำแปลของภาษาแปลกๆออกมาด้วย ผมก็รู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณมากขึ้น

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมอยู่ในแคร์ ณ ตอนนั้น ผมได้ให้พี่น้องคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆออกมา (ระหว่างที่พี่น้องคนนี้กำลังพูดภาษาแปลกๆอยู่ ผมได้กำชับให้คนอื่นเงียบและตื่นตัวรับคำแปล) เมื่อพี่น้องคนนี้พูดภาษาแปลกๆจบ ทันใดนั้นก็มีพี่น้องอีกคนปลดปล่อยคำแปลออกมา ซึ่งระหว่างที่มีการพูดภาษาแปลกๆ คนในแคร์ก็ยังไม่รู้สึกถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้ามากนัก ทว่าระหว่างที่พี่น้องอีกคนปลดปล่อยคำแปล ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็ปกคลุมในที่ประชุมอย่างเข้มข้น จนพี่น้องหลายๆท่านสัมผัสได้

ประโยชน์อย่างที่สอง-เป็นหมายสำคัญแก่คนไม่เชื่อ
            ในจดหมายของเปาโลได้กล่าวถึงพันธกิจด้านหนึ่งของการแปลภาษาแปลกๆไว้ว่า

(1 โครินธ์ 14:22) ฉะนั้น​การ​พูด​ภา​ษา​แปลกๆ จึง​ไม่​เป็น​หมาย​สำ​คัญ​สำหรับ​พวก​ที่​เชื่อ แต่​สำ​หรับ​พวก​ที่​ไม่​เชื่อ

            พันธกิจอย่างหนึ่งของภาษาแปลกๆคือ เป็นหมายสำคัญแก่คนไม่เชื่อ อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุมไม่จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ การแปลภาษาแปลกๆก็ไม่เกิดขึ้น พันธกิจแห่งการเป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อก็ไม่สำเร็จ การไม่จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆทำให้ศักยภาพที่แฝงอยู่ในภาษาแปลกๆไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ซ้ำร้ายยังเป็นหินสะดุดสำหรับคนที่ไม่เชื่อหรือคนที่รู้ไม่ถึงด้วย

            อย่างไรก็ตาม หากคริสตจักรหรือกลุ่มแคร์ จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ การแปลภาษาแปลกๆก็เกิดขึ้นได้ง่าย และด้วยของประทานการพูดภาษาแปลกๆและการแปลที่ดำเนินไปอย่างควบคู่กัน สิ่งนี้ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ไม่เชื่อ เป็นเหตุให้คนไม่เชื่อได้เปิดใจต่อพระคริสต์ พันธกิจแห่งการเป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อก็สำเร็จ

            มีเรื่องน่าเศร้าบางประการที่ผมสังเกตจากโบสถ์สายฤทธิ์เดช จากสถิติที่ผมเห็น โบสถ์สายฤทธิ์เดชที่ไม่ได้จัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ ดูเหมือนจะมีการเก็บเกี่ยวที่ไม่มาก จำนวนสมาชิกของโบสถ์สายฤทธิ์เดชที่ไม่มีการแปลภาษาแปลกๆดูเหมือนจะมาจากโบสถ์อื่นๆซะส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพราะการพูดภาษาแปลกๆเพียงอย่างเดียว อาจจะดึงดูดได้เฉพาะคนที่เป็นคริสเตียนอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ดึงดูดต่อคนไม่เชื่อ บางทีการไม่จัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ ก็ยังเป็นเหตุให้คนไม่เชื่อปิดใจต่อพระคริสต์ด้วยซ้ำ ดังนั้นหากคริสตจักรก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆโดยมีการจัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ การเก็บเกี่ยวจากทุ่งนาแห่งคนไม่เชื่อก็เกิดได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์อย่างที่สาม-ของประทานอย่างอื่นได้รับการพัฒนา
            การแปลภาษาแปลกๆนับเป็นการฝึกฝนทักษะของการรับข้อมูลจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อผู้หนึ่งเริ่มก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ ไม่เพียงแต่ที่ของประทานการแปลจะพัฒนาเท่านั้น แต่ของประทานการเผยพระวจนะก็จะรับการพัฒนาด้วย นอกจากนี้สำหรับคนที่มีของประทานการสังเกตวิญญาณ การแปลภาษาแปลกๆบ่อยๆก็จะมีส่วนช่วยให้การสังเกตวิญญาณมีความคมชัดขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะการแปลภาษาแปลกๆมีความเกี่ยวโยงกับการรับการสำแดงจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อผู้หนึ่งแปลภาษาแปลกๆบ่อยๆ ของประทานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการรับการสำแดงก็จะพัฒนาตามไปด้วย
           
ส่วนตัวผมก็มีประสบการณ์ในทำนองนี้ ก่อนที่ผมจะเดินในมิติของการแปลภาษาแปลกๆ ของประทานการเผยพระวจนะของผมก็ยังไม่เติบโตนัก ต่อมาเมื่อผมได้เดินในมิติของการแปลภาษาแปลกๆ ของประทานการเผยพระวจนะของผมก็ได้รับการพัฒนา ภายหลังผมจึงสามารถเห็นนิมิตและแยกแยะเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้รวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก

นอกจากที่การเผยพระวจนะจะได้รับการพัฒนาแล้ว การแปลภาษาแปลกๆยังมีส่วนช่วยให้ของประทานการพูดภาษาแปลกๆเติบโตขึ้นด้วย เมื่อผมก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ ภาษาแปลกๆที่ผมเคยพูดก็ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด สมัยก่อนที่เคยพูดแต่ ลาๆๆๆ หรือชามะนาว ชามะนาว ชามะนาว ก็เปลี่ยนเป็นรูปแบบประโยคและถ้อยคำที่ดูสละสลวยและมีความเป็นภาษามากขึ้น เมื่อคนหนึ่งก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ ถ้อยคำภาษาแปลกๆของเขาก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากถ้อยคำที่เป็นเหมือนการรัวลิ้นแบบเด็กๆ ก็จะกลายเป็นถ้อยคำภาษาที่สวยงามและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น


แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ Spirit Life Training เขียนโดย Timothy Jorgensen
หนังสือ Diverse Kinds of Tongues เขียนโดย Dale Sides

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น