บทความเรื่อง "ประโยชน์ของการแปลภาษาแปลกๆ" โดย Philip Kavilar
เพื่อนๆบางคนอาจสงสัยว่า
1. การแปลภาษาแปลกๆ
สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้บ้าง ?
2.
พูดภาษาแปลกๆอย่างเดียวโดยไม่ต้องแปลไม่ได้หรือ ?
(1 โครินธ์
14:13) ฉะนั้นคนที่พูดภาษาแปลกๆ ก็ควรอธิษฐานขอให้แปลได้ด้วย
จากพระคัมภีร์ภาษาไทย
ดูเหมือนเปาโลจะไม่ได้ “สั่ง” ให้อธิษฐานขอให้แปลได้ เปาโลเพียงแต่ “แนะนำ” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม
ถ้าว่ากันตามไวยากรณ์กรีกแล้ว ลักษณะของไวยากรณ์กรีกในข้อพระคัมภีร์นี้เป็นแบบ
Imperative Mood ซึ่งเป็นลักษณะของประโยคคำสั่ง
ดังนั้นถ้าดูจากไวยากรณ์กรีกแล้ว ข้อพระคัมภีร์นี้สามารถแปลได้ว่า
(1 โครินธ์
14:13) ฉะนั้นคนที่พูดภาษาแปลกๆ ก็จงอธิษฐานขอให้แปลได้ด้วย
การแปลภาษาแปลกๆเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์นานาประการให้กับทุกฝ่าย
ทั้งผู้ที่พูดภาษาแปลกๆ ทั้งผู้แปลและรวมถึงผู้ฟังคนอื่นๆด้วย ในที่นี้
ผมจะกล่าวถึงประโยชน์สามอย่างของการแปลภาษาแปลกๆ ซึ่งก็คือ (1) ปลดปล่อยฤทธิ์เดช (2)
เป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อ (3) ของประทานอื่นๆได้รับการพัฒนา
ประโยชน์อย่างแรก-ปลดปล่อยฤทธ์เดช
เมื่อผู้หนึ่งพูดภาษาแปลกๆ
ในบางครั้งการพูดภาษาแปลกๆของผู้นั้นก็สามารถปลดปล่อยฤทธิ์เดชของพระเจ้ามายังที่ประชุมได้
หลายครั้งการพูดภาษาแปลกๆยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นของประทานอื่นๆ เช่น
ทำให้การเผยพระวจนะโหมกระพือขึ้น หรือทำให้การรักษาโรคเกิดได้ง่ายขึ้น
มีคำพยานมากมายที่ชี้ว่า เมื่อมีการพูดภาษาแปลกๆในที่ประชุม
ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็ปกคลุมลงมา และการอัศจรรย์ต่างๆก็เกิดได้ง่ายขึ้น
กระนั้น
แม้ว่าการพูดภาษาแปลกๆจะช่วยปลดปล่อยฤทธิ์เดช
แต่การแปลภาษาแปลกๆหลังจากที่เพิ่งพูดภาษาแปลกๆ
ก็จะช่วยยกระดับและปลดปล่อยฤทธิ์เดชให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นอีก บางครั้งการพูดภาษาแปลกๆเพียงยังเดียวอาจจะปลดปล่อยฤทธิ์เดชไม่มากนัก
แต่พอมีผู้หนึ่งเริ่มปลดปล่อยคำแปลออกมา ฤทธิ์เดชก็ปกคลุมลงมามากขึ้น
ส่วนตัวผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งในชีวิตส่วนตัวและในกลุ่มแคร์ บางครั้งเมื่อผมพูดภาษาแปลกๆ ผมก็ยังรู้สึกเต็มล้นด้วยพระวิญญาณไม่มากนัก
แต่เมื่อผมได้ปลดปล่อยคำแปลของภาษาแปลกๆออกมาด้วย
ผมก็รู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณมากขึ้น
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมอยู่ในแคร์
ณ ตอนนั้น ผมได้ให้พี่น้องคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆออกมา
(ระหว่างที่พี่น้องคนนี้กำลังพูดภาษาแปลกๆอยู่
ผมได้กำชับให้คนอื่นเงียบและตื่นตัวรับคำแปล) เมื่อพี่น้องคนนี้พูดภาษาแปลกๆจบ
ทันใดนั้นก็มีพี่น้องอีกคนปลดปล่อยคำแปลออกมา ซึ่งระหว่างที่มีการพูดภาษาแปลกๆ
คนในแคร์ก็ยังไม่รู้สึกถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้ามากนัก
ทว่าระหว่างที่พี่น้องอีกคนปลดปล่อยคำแปล ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็ปกคลุมในที่ประชุมอย่างเข้มข้น
จนพี่น้องหลายๆท่านสัมผัสได้
ประโยชน์อย่างที่สอง-เป็นหมายสำคัญแก่คนไม่เชื่อ
ในจดหมายของเปาโลได้กล่าวถึงพันธกิจด้านหนึ่งของการแปลภาษาแปลกๆไว้ว่า
(1
โครินธ์ 14:22) ฉะนั้นการพูดภาษาแปลกๆ
จึงไม่เป็นหมายสำคัญสำหรับพวกที่เชื่อ แต่สำหรับพวกที่ไม่เชื่อ
พันธกิจอย่างหนึ่งของภาษาแปลกๆคือ
“เป็นหมายสำคัญแก่คนไม่เชื่อ” อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุมไม่จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ
การแปลภาษาแปลกๆก็ไม่เกิดขึ้น
พันธกิจแห่งการเป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อก็ไม่สำเร็จ
การไม่จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆทำให้ศักยภาพที่แฝงอยู่ในภาษาแปลกๆไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
ซ้ำร้ายยังเป็นหินสะดุดสำหรับคนที่ไม่เชื่อหรือคนที่รู้ไม่ถึงด้วย
อย่างไรก็ตาม
หากคริสตจักรหรือกลุ่มแคร์ จัดระบบระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ การแปลภาษาแปลกๆก็เกิดขึ้นได้ง่าย
และด้วยของประทานการพูดภาษาแปลกๆและการแปลที่ดำเนินไปอย่างควบคู่กัน
สิ่งนี้ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ไม่เชื่อ
เป็นเหตุให้คนไม่เชื่อได้เปิดใจต่อพระคริสต์
พันธกิจแห่งการเป็นหมายสำคัญต่อคนไม่เชื่อก็สำเร็จ
มีเรื่องน่าเศร้าบางประการที่ผมสังเกตจากโบสถ์สายฤทธิ์เดช
จากสถิติที่ผมเห็น โบสถ์สายฤทธิ์เดชที่ไม่ได้จัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ
ดูเหมือนจะมีการเก็บเกี่ยวที่ไม่มาก
จำนวนสมาชิกของโบสถ์สายฤทธิ์เดชที่ไม่มีการแปลภาษาแปลกๆดูเหมือนจะมาจากโบสถ์อื่นๆซะส่วนใหญ่
ทั้งนี้เพราะการพูดภาษาแปลกๆเพียงอย่างเดียว
อาจจะดึงดูดได้เฉพาะคนที่เป็นคริสเตียนอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ดึงดูดต่อคนไม่เชื่อ
บางทีการไม่จัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ
ก็ยังเป็นเหตุให้คนไม่เชื่อปิดใจต่อพระคริสต์ด้วยซ้ำ
ดังนั้นหากคริสตจักรก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆโดยมีการจัดระเบียบของการพูดภาษาแปลกๆ
การเก็บเกี่ยวจากทุ่งนาแห่งคนไม่เชื่อก็เกิดได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์อย่างที่สาม-ของประทานอย่างอื่นได้รับการพัฒนา
การแปลภาษาแปลกๆนับเป็นการฝึกฝนทักษะของการรับข้อมูลจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
เมื่อผู้หนึ่งเริ่มก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ ไม่เพียงแต่ที่ของประทานการแปลจะพัฒนาเท่านั้น
แต่ของประทานการเผยพระวจนะก็จะรับการพัฒนาด้วย
นอกจากนี้สำหรับคนที่มีของประทานการสังเกตวิญญาณ
การแปลภาษาแปลกๆบ่อยๆก็จะมีส่วนช่วยให้การสังเกตวิญญาณมีความคมชัดขึ้น
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะการแปลภาษาแปลกๆมีความเกี่ยวโยงกับการรับการสำแดงจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
เมื่อผู้หนึ่งแปลภาษาแปลกๆบ่อยๆ
ของประทานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการรับการสำแดงก็จะพัฒนาตามไปด้วย
ส่วนตัวผมก็มีประสบการณ์ในทำนองนี้
ก่อนที่ผมจะเดินในมิติของการแปลภาษาแปลกๆ
ของประทานการเผยพระวจนะของผมก็ยังไม่เติบโตนัก ต่อมาเมื่อผมได้เดินในมิติของการแปลภาษาแปลกๆ
ของประทานการเผยพระวจนะของผมก็ได้รับการพัฒนา
ภายหลังผมจึงสามารถเห็นนิมิตและแยกแยะเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้รวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก
นอกจากที่การเผยพระวจนะจะได้รับการพัฒนาแล้ว
การแปลภาษาแปลกๆยังมีส่วนช่วยให้ของประทานการพูดภาษาแปลกๆเติบโตขึ้นด้วย
เมื่อผมก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ
ภาษาแปลกๆที่ผมเคยพูดก็ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด สมัยก่อนที่เคยพูดแต่ “ลาๆๆๆ” หรือ “ชามะนาว ชามะนาว ชามะนาว” ก็เปลี่ยนเป็นรูปแบบประโยคและถ้อยคำที่ดูสละสลวยและมีความเป็นภาษามากขึ้น
เมื่อคนหนึ่งก้าวเข้าสู่มิติของการแปลภาษาแปลกๆ
ถ้อยคำภาษาแปลกๆของเขาก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จากถ้อยคำที่เป็นเหมือนการรัวลิ้นแบบเด็กๆ ก็จะกลายเป็นถ้อยคำภาษาที่สวยงามและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ Spirit Life Training เขียนโดย Timothy Jorgensen
หนังสือ Diverse Kinds of Tongues เขียนโดย Dale Sides
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น