คำว่า “แปล” ในภาษาอังกฤษมีอยู่ สองคำคือ Translate กับ Interpr et ทว่าสองคำนี้ให้ความหมายที่ แตกต่างกัน
การแปลแบบคำต่อคำ กับ การแปลแบบตีความ
Translate หมายถึง การแปลคำต่อคำ เหมือนกับการแปลภาษาอังกฤษเป็ นภาษาไทย เช่น ถ้ามีประโยคภาษาอังกฤษว่า “I am a boy”ก็จะแปลภาษาไทยเป็น “ฉันเป็ นเด็กผู้ชาย” การแปลแบบนี้เกิ ดจากการรู้ว่า I แปลว่า “ฉัน” ส่วน am แปลว่า “เป็น” และ a boy แปลว่า “เด็กผู้ชาย” การแปลภาษาอังกฤษในชีวิ ตประจำของคนส่วนใหญ่แล้วจะเป็ นการแปลคำต่อคำหรือการ Translate
Interpret หมายถึง การแปลแบบตีความ ซึ่งการแปลแบบนี้ไม่จำเป็นต้ องรู้ศัพท์แบบคำต่อคำ แต่หมายถึงการรู้อย่างกว้างๆหรื อการรู้อย่างคร่าวๆว่า ประโยคนี้มีหมายความว่าอะไร การแปลแบบตีความไม่เพียงแต่ใช้ ในเรื่องของ “ถ้อยคำ” เท่านั้น แต่บางทียังเป็นเรื่องของ “ท่ าทาง” หรือ “สัญลักษณ์” ด้วย เช่น ถ้าเพื่อนๆเห็นป้ายนี้
เพื่อนๆก็แปลแบบตีความว่าห้ ามเลี้ยวซ้าย หรือถ้าเพื่อนๆเห็นมนุษย์คนหนึ่ งยิ้มให้เพื่อนๆ เพื่อนๆก็แปลแบบตีความได้ว่ามนุ ษย์คนนี้เป็นมิตรกับเรา
ในภาษาอังกฤษเมื่อพระคัมภีร์ กล่าวถึงการแปลภาษาแปลกๆ ทั้งหมดแล้วล้วนมาจากคำว่าInter pret ที่หมายถึงการแปลแบบตีความ ดังนั้นการแปลภาษาแปลกๆ จึงไม่ใช่เป็นการแปลแบบคำต่ อคำเหมือนการแปลภาษาทั่วๆไป แต่เป็นการแปลแบบตีความที่รู้ อย่างคร่าวๆว่า ภาษาแปลกๆที่กำลังพูดอยู่นี้ หมายถึงอะไรหรือมีเนื้อหาเกี่ ยวกับอะไร
เมล็ดพันธุ์ของการแปลที่ซ่อนเร้ น-ความรู้สึกอย่างคร่าวๆ
เพื่อนๆเคยไหมครับที่ว่า ระหว่างที่ตนเองพูดภาษาแปลกๆอยู่ นั้น เพื่อนๆกลับรู้สึกอย่างคร่าวๆว่ า ตัวเองกำลังนมัสการพระเจ้าอยู่ บางทีเพื่อนๆอาจจะไม่ได้รู้อย่ างชัดเจนว่าตัวเองกำลังพู ดอะไรบ้าง แต่เพื่อนๆรู้สึกอย่างคร่าวๆถึ งการยกย่องพระองค์
บางครั้งที่เพื่อนๆพูดภาษาแปลกๆ เพื่อนๆเคยไหมครับที่รู้สึกว่ าตนเองกำลังวิงวอนเผื่อเรื่ องใดเรื่องหนึ่งอยู่ บางทีเพื่อนๆอาจจะไม่ได้รู้ว่ าภาษาแปลกๆที่พูดมีรายละเอี ยดอะไรบ้าง แต่เพื่อนๆรู้สึกอย่างคร่าวๆว่ าเพื่อนๆกำลังวิงวอนเผื่อเรื่ องหนึ่งอยู่
บางครั้งที่เพื่อนๆพูดภาษาแปลกๆ เคยไหมครับที่เพื่อนๆรู้สึกว่ าตนเองกำลังสู้รบกับสิ่งชั่วร้ ายอยู่ แม้ว่าเพื่อนๆจะไม่ได้รู้ละเอี ยดว่าภาษาแปลกๆที่เพื่อนๆพูดมี ความหมายว่าอะไร แต่เพื่อนๆกลับรู้สึกอย่างคร่ าวๆว่าเพื่อนๆกำลังอธิษฐานต่อต้ านสิ่งชั่วร้ายอยู่
ความรู้สึกระหว่างที่พู ดภาษาแปลกๆ ที่เพื่อนๆรู้อย่างคร่าวๆว่ าตนเองกำลัง “นมัสการ”หรือ “วิ งวอน” หรือ “สู้รบ” อยู่นั้น ก็คือเมล็ดพันธุ์ ของการแปลภาษาแปลกๆที่อยู่ ภายในเพื่อนๆ ทั้งนี้เพราะการแปลภาษาแปลกๆไม่ ใช่เป็นการแปลแบบคำต่อคำเหมื อนการแปลภาษาทั่วๆไป แต่เป็นการแปลแบบตีความที่รู้ อย่างคร่าวๆว่าภาษาแปลกๆที่กำลั งพูดอยู่นั้น มีจุดประสงค์และเนื้อความคร่ าวๆอย่างไร
เมล็ดพันธุ์ของการแปลที่ซ่อนเร้ น-ความรู้สึกที่เจาะจง
ประสบการณ์ของความรู้สึกระหว่ างการพูดภาษาแปลกๆเป็ นประสบการณ์ที่เพื่ อนๆหลายคนอาจจะมีอยู่แล้ว ทว่าเพื่อนๆบางคนอาจจะเหนือชั้ นไปกว่านั้น ระหว่างการพูดภาษาแปลกๆ หลายคนอาจจะรู้สึกเพียงว่ าตนเองกำลังนมัสการพระเจ้าอยู่ แต่บางคนนอกจากที่จะรู้สึกว่ าตนเองกำลังนมัสการพระเจ้าแล้ว เขายังรู้อย่างเจาะจงอีกว่ าตนเองกำลังนมัสการพระเจ้าในทิ ศทางไหน บางคนอาจรู้อย่างเจาะจงว่ าตนเองกำลังนมัสการในความยิ่ งใหญ่ของพระเจ้า หรือรู้อย่างเจาะจงว่าตนเองกำลั งนมัสการในความรักของพระเจ้า
หลายคนระหว่างที่พู ดภาษาแปลกๆอยู่นั้น เขาอาจรู้เพียงว่าตนเองกำลังวิ งวอนเผื่อเรื่องหนึ่งอยู่แต่ไม่ รู้รายละเอียดชัดเจนนัก ทว่าบางคนนอกจากที่จะรู้ว่ าตนเองกำลังวิงวอนแล้ว เขายังรู้อย่างเจาะจงอีกว่ าตนเองกำลังวิงวอนเผื่อเรื่ องอะไรอยู่
ระหว่างที่พูดภาษาแปลกๆ หลายคนอาจรู้สึกเพียงคร่าวๆว่ าตนเองกำลังทำอะไร ทว่าบางคนจะมีความรู้สึกอย่ างละเอียดและเจาะจงมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นการรู้สึกอย่ างคร่าวๆหรือรู้สึกอย่างละเอียด ความรู้สึกเหล่านี้ก็นับเป็น “เ มล็ดพันธุ์ของการแปล” ที่ หลายๆคนมีอยู่
เมล็ดพันธุ์ของการแปลที่ซ่อนเร้ น-รู้สึกในภาษาแปลกๆที่คนอื่นพู ด
เมล็ดพันธุ์ของการแปล คือความรู้สึกหรือความคิดที่รู้ อย่างคร่าวๆว่าภาษาแปลกๆที่พู ดอยู่นั้นมีเนื้อความประมาณใด โดยไม่จำเป็นต้องรู้เนื้ อความแบบละเอียดหรือแบบคำต่อคำ
บางคนนอกจากที่จะมีความรู้สึ กอย่างคร่าวๆในภาษาแปลกๆที่ ตนเองพูดแล้ว เขายังมีความรู้สึกต่ อภาษาแปลกๆที่คนอื่นพูดอีกด้วย บางคนเมื่อได้ยินผู้อื่นพู ดภาษาแปลกๆแล้ว เขาสามารถรู้สึกหรือสัมผัสได้ว่ าภาษาแปลกๆที่คนอื่นพูดอยู่นั้ นเป็น “การนมัสการ” หรือ “การวิ งวอน” นอกจากนี้บางคนยังรู้อย่ างเจาะจงอีกว่า ภาษาแปลกๆที่คนอื่นพูดนั้นเป็ นการนมัสการเรื่องอะไรหรือวิ งวอนในเรื่องไหน ถึงแม้จะไม่รู้อย่างละเอี ยดแบบคำต่อคำ แต่ก็รู้ถึงเนื้อความแบบคร่าวๆ
ความรู้สึกหรือความคิดอย่างคร่ าวๆระหว่างที่พูดภาษาแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาแปลกๆที่ ตนเองพูดหรือที่คนอื่นพูด ก็นับเป็นเมล็ดพันธุ์ ของการแปลที่หลายคนมีอยู่ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความเข้มข้นที่ แตกต่างกันออกไป ทว่ามีเรื่องน่าเสี ยดายประการหนึ่งนั่นคือ หลายคนมีเมล็ดพันธุ์ ของการแปลอยู่ แต่เนื่องด้วยขาดการสอนหรื อขาดคำแนะนำ ทำให้เมล็ดพันธุ์ที่หลายคนมีอยู่ นี้ไม่ได้เจริญเติบโตเท่าที่ควร หลายคนมีความรู้สึกที่รู้อย่ างคร่าวๆถึงเนื้ อความภาษาแปลกๆที่ตนเองพูด แต่เนื่องด้วยการขาดข้อแนะนำ ทำให้เมล็ดพันธุ์ของการแปลที่ อยู่ภายในไม่ได้รับการต่ อยอดออกมา
ไม่มีของประทาน หรือ ของประทานหลับไหล ?
มีบางคนให้ความเห็นว่า “การแปลภ าษาแปลกๆเป็นของประทานซึ่งน้ อยคนจะได้รับ ด้วยเหตุนี้การแปลภาษาแปลกๆจึ งไม่ค่อยมีให้เห็น” แต่จากการค้ นคว้าของผมแล้ว ผมกลับได้ความเห็นอีกทิศทางหนึ่ ง ซึ่งความเห็นของผมก็คือ “การแปล ภาษาแปลกๆเป็นของประทานที่ หลายๆคนมีอยู่ ทว่าเนื่องด้วยการขาดคำสอนหรื อข้อแนะนำ ทำให้ของประทานการแปลที่ หลายคนมีอยู่จึงหลับไหล”
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ ฟังเสียงพระเจ้า เขียนโดย ซินดี้ เจคอปส์
หนังสือ Tongues Interpretation & Prophecyเขียนโดย Don Basham
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น