นับตั้งแต่ทศวรรษที่
1970 คำสอนเรื่องของประทานก็เป็นคำสอนที่แพร่หลายมากขึ้นท่ามกลางคริสตจักรทั้งหลาย
ถ้าเพื่อนๆตรวจสอบรายชื่อหนังสือที่สอนถึงเรื่องของประทาน เพื่อนๆจะพบว่า
หนังสือมากมายที่สอนถึงของประทาน ส่วนใหญ่แล้วจะผลิตหลังจากปี 1970 ขึ้นไป
นับได้ว่าทศวรรษ 1970
เป็นทศวรรษสำคัญที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงยกระดับความเข้าใจในเรื่องของประทานให้กับคริสตจักร
นักวิชาการคริสเตียนบางท่าน
แม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญด้านศาสนศาสตร์ในแขนงต่างๆ แต่ถ้าเขาไม่ได้อ่านหนังสือที่เขียนหลังปี
1970 โอกาสที่เขาจะมีความรู้หรือความเข้าใจในเรื่องของประทานก็เป็นไปได้ยาก แม้แต่
มาร์ติน ลูเธอร์ (ผู้นำการปฏิรูปโปรเตสแตนต์ในศตวรรษที่ 16) หรือ จอห์น เวสลีย์
(ผู้นำการฟื้นฟูเรื่องความบริสุทธิ์ในศตวรรษที่ 18)
ก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะศึกษาหรือมีความเข้าใจในเรื่องของประทานได้เท่ากับคริสเตียนในยุคปัจจุบัน
กระทั่ง วอท์ชแมน นี (ผู้นำการฟื้นฟูที่ประเทศจีนช่วงต้นศตวรรษที่ 20)
ก็ไม่อาจที่จะสอนหรืออธิบายเรื่องของประทานได้อย่างละเอียด ทั้งนี้
เพราะหนังสือและแหล่งความรู้เรื่องของประทาน ส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่
20 เป็นส่วนใหญ่
จากการค้นคว้าของผม ผมเห็นว่ามีหลุมพรางสำคัญ
4 ประการเกี่ยวกับของประทาน ที่พวกเราควรหลีกเลี่ยง
เป็นหลุมพรางที่นำไปสู่ความเข้าใจผิดและทำให้เกิดความติดขัดหลายอย่าง หลุมพรางทั้ง
4 นี้คือ
1. คิดว่าของประทานมีแค่ 9 อย่างเท่านั้น
2.
คิดว่าของประทานที่เหนือธรรมชาติ บริสุทธิ์กว่าและสำคัญกว่า
ของประทานที่เป็นธรรมชาติ
3. สถานการณ์นิยม
4. การยัดเยียดของประทาน
ในบทความตอนนี้
ผมจะมาอธิบายหลุมพราง 2 ประการแรกก่อน
(หลุมพรางที่ 1)
คิดว่าของประทานมีแค่ 9 อย่างเท่านั้น
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ได้กล่าวถึงของประทานไว้หลายอย่าง
โดยข้อพระคัมภีร์หลักที่แจกแจงถึงของประทานต่างๆก็คือ (โรม 12) (เอเฟซัส 4) และ (1
โครินธ์ 12) และเมื่อพิจารณาถึงข้อพระคัมภีร์ทั้ง 3 บทนี้แล้ว
รายการของประทานทั้งหมดจะมีดังนี้
(โรม 12)
1.
การเผยพระวจนะ 2. การปรนนิบัติ 3. การสอน 4. การหนุนใจ/การตักเตือน 5.
การให้/การถวาย
6.
การครอบครอง/ความเป็นผู้นำ 7. ความเมตตา
(1 โครินธ์ 12) *ไม่นับอันที่ซ้ำกับ (โรม12)
8.
ถ้อยคำของปัญญา 9. ถ้อยคำของความรู้ 10. ความเชื่อ 11. การรักษา 12. ฤทธิ์เดช/การอัศจรรย์
13.
สังเกตวิญญาณ 14. ภาษาแปลกๆ 15. การแปลภาษาแปลกๆ 16. อัครทูต 17. การช่วยเหลือ
18.
การบริหาร
(เอเฟซัส 4) *ไม่นับอันที่ซ้ำกับรายการข้างบน
19.
ผู้ประกาศ 20. ศิษยาภิบาล
รายการของประทานทั้ง
20 อย่างนี้เป็นรายการของประทานที่พระคัมภีร์เขียนไว้อย่างชัดเจน ทว่า
ในพระคัมภีร์บทอื่นๆก็ยังได้พูดถึงของประทานอันอื่นๆอีกแต่ไม่ได้ชัดเจนเท่านี้
เช่น ของประทานการต้อนรับแขก (1 เปโตร 4:9) ของประทานการเป็นมิชชันนารี (เอเฟซัส 3:6-8) เป็นต้น
หลุมพรางประการแรกเกี่ยวกับของประทานก็คือ
ความคิดที่เข้าใจว่า ของประทานมีเพียง 9 อย่างเท่านั้น ทั้งๆที่ตามพระคัมภีร์แล้ว
ของประทานทั้งหมดมีอย่างน้อย 20 อย่าง อนึ่ง
ความคิดที่เข้าใจว่าของประทานมีเพียงแค่ 9 อย่างนั้นมักจะยกข้อพระคัมภีร์เฉพาะ (1
โครินธ์ 12) ในช่วงต้นเท่านั้น
(หลุมพรางที่ 2) คิดว่าของประทานที่เหนือธรรมชาติ
บริสุทธิ์กว่าและสำคัญกว่า ของประทานที่เป็นธรรมชาติ
ในเรื่องเกี่ยวกับของประทาน
บางคนก็อาจคิดไปว่า ของประทานที่เหนือธรรมชาติ (เช่น การเผยพระวจนะ ภาษาแปลกๆ)
มีความบริสุทธิ์และสำคัญกว่า ของประทานที่ดูเป็นเรื่องธรรมชาติ (เช่น การปรนนิบัติ
ความเป็นเมตตา) ทว่า ในกรอบความคิดแบบฮีบรู พระเจ้าทรงสร้างจักรวาลที่มีทั้ง
ของประทานที่เหนือธรรมชาติ และของประทานที่เป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นของประทานแบบเหนือธรรมชาติที่หวือหวา
หรือของประทานที่ดูเป็นเรื่องธรรมชาติที่ปกติ ต่างก็เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมาทั้งคู่
ทั้งสองสิ่งนี้ต่างก็เป็นสิ่งที่มาจากพระองค์ ด้วยเหตุนี้ ในกรอบความคิดแบบฮีบรู
ของประทานที่เหนือธรรมชาติกับของประทานที่ดูเป็นเรื่องธรรมชาติ
ต่างก็เป็นของประทานที่มีความบริสุทธิ์และสำคัญพอๆกัน นอกจากนี้ ในบางวาระ
ของประทานที่ดูเป็นเรื่องธรรมชาติ
ก็อาจมีความสำคัญกว่าของประทานที่เหนือธรรมชาติด้วยซ้ำ
ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือ
ตามหลักความคิดแบบฮีบรู ของประทานที่ดูปกติทั่วๆไป (เช่น ความเมตตา การปรนนิบัติ)
ก็มีความบริสุทธิ์และสำคัญพอๆกับของประทานที่เหนือธรรมชาติ (เช่น ภาษาแปลกๆ
การเผยพระวจนะ) ดังนั้น พวกเราจึงควรให้เกียรติพี่น้องทุกคน
พวกเราควรให้เกียรติทั้งพี่น้องที่มีของประทานที่เหนือธรรมชาติ
และให้เกียรติกับพี่น้องที่มีของประทานที่ดูไม่เหนือธรรมชาติด้วย หลายครั้ง คนเราก็สามารถสัมผัสถึงความรักของพระคริสต์ผ่านของประทานที่ดูเป็นเรื่องธรรมชาติ
ซึ่งบางที
คนที่ไม่ได้มีของประทานที่เหนือธรรมชาติอาจจะสำแดงความรักของพระคริสต์ได้ยิ่งกว่าคนที่มีของประทานที่เหนือธรรมชาติเสียอีก
ในบทความนี้ ผมขอไว้เท่านี้ก่อน
ถ้าไม่ติดอะไร สัปดาห์หน้าผมอาจจะเขียนบทความนี้ต่อในตอนที่สองนะครับ
ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เพิ่มกำลังเพื่อนๆครับ
พระคุณจงมีแด่ทุกท่าน
Philip Kavilar
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ
Discover
Your Spiritual Gifts เขียนโดย C. Peter
Wagner
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น