07 ตุลาคม 2558

พระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิตในเทศกาลอยู่เพิง

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน เชื่อว่าในช่วงเทศกาลอยู่เพิงหรือสุคคท(Sukkot) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-4 ต.ค.2015 ที่ผ่านมา  เราจะมีประสบการณ์อยู่ภายใต้เพิงแห่งพระสิริ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความยินดีในการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าและพี่น้องในพระคริสต์ 

ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเทศกาลอยู่เพิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้อ่านทุกท่านสามารถกลับไปอ่านย้อนหลังได้นะครับ ตาม Link นี้ครับ



สำหรับในปี 5776 นี้ ผมขอเขียนในมุมมองและข้อคิดจากเทศกาลอยู่เพิงที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8 ซึ่งเป็นวันที่คนยิวอยู่ในเพิงมาแล้ว 7 วันและวันที่ 8 คือวันที่เรียกว่า  "ชิมหัต โทราห์" (Simchat Torah)  เป็นวันแห่งการชื่นชมยินดีในพระคำ(Torah)ของพระยาห์เวห์  คนยิวจำนวนมากเต้นรำด้วยถือหนังสือม้วนโทราห์ อ่านตั้งแต่ปฐมกาลข้อแรก และข้อสุดท้ายของเฉลยธรรมบัญญัติ เพื่อแสดงว่าพระวจนะของพระเจ้าไม่มีวันสิ้นสุด 
มีการนมัสการอย่างชื่นชมยินดีธรรมศาลา(Synagogue)
ในพระธรรมยอห์นบทที่ 7 ได้บันทึกว่า พระเยซูคริสต์ทรงมาร่วมเทศกาลอยู่เพิง

ยน. 7:37-39 ​ 
37 ใน​วัน​สุดท้าย​ของ​งาน​เทศกาล​(วันที่ 8 Simchat Torah) ซึ่ง​เป็น​วัน​ยิ่งใหญ่​นั้น ​พระ​เยซู​ทรง​ยืน​ขึ้น​และ​ทรง​ประกาศ​ว่า “ถ้า​ใคร​กระหาย ให้​คน​นั้น​มา​หา​เรา
38 ​และ​ให้​คน​ที่​วางใจ​ใน​เรา​ดื่ม ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘แม่น้ำ​ที่​มี​น้ำ​ดำรง​ชีวิต​จะ​ไหล​ออกมา​จาก​ภาย​ใน​คน​นั้น’​​”
39 ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​นั้น​หมายถึง​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​คน​ที่​วางใจ​พระ​องค์​จะ​ได้รับ เพราะ​ว่า​พระ​วิญญาณ​ยัง​ไม่​สถิต​ด้วย​ เพราะ​พระ​เยซู​ยัง​ไม่ได้​รับ​พระ​เกียรติ


ในช่วงเทศกาลอยู่เพิงมีพิธีเทน้ำ(Beit She'ubah)  โดยทุกเช้าของเทศกาลอยู่เพิง ปุโรหิตซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้โดยเฉพาะจะนำเหยือกทองคำมาที่สระสิโลอัม เพื่อตักน้ำกลับไปยังพระวิหาร โดยจะเดินเข้าทางประตูน้ำ และขณะที่ประชาชนกำลังร้องเพลงสรรเสริญจากพระธรรมสดุดี ปุโรหิตจะค่อย ๆ เทน้ำลงในกรวยรดฐานของแท่นบูชา แล้วไหลลงกลับสู่ดิน  สิ่งนี้เป็นภาพเงาที่เล็งถึงอนาคตข้างหน้าที่พระองค์จะเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเหนืออิสราเอลและผู้เชื่อทุกคนจากทุกชาติทุกภาษา ซึ่งอยู่ภายใต้การครอบครองของพระเมสสิยาห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำเร็จตามคำเผยพระวจนะในพระธรรมกิจการฯบทที่ 2

นอกจากนี้ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ ได้กล่าวไว้ใน ยรม. 17:13 ข้าแต่พระเจ้า ความหวังแห่งอิสราเอล บรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระองค์จะต้องรับความอับอาย บรรดาคนทั้งปวงที่หันไปจากพระองค์จะต้องจารึกไว้ในแผ่นดินโลก เพราะเขาได้ละทิ้งพระเจ้าผู้เป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตเสีย

ซึ่งเป็นการเผยพระวจนะล่วงหน้าไว้ประมาณ  550 ปี  ก่อนที่พระเยซูคริสต์ทรงมาประสูติบนโลกนี้  คำเผยพระวจนะนี้กล่าวถึง พระเยซูว่าพระองค์ทรงเป็นน้ำพุแห่งชีวิต เป็นทั้งความหวังและเป็นช่วยให้รอด ที่คนยิวได้ละทิ้งไปนั่นเอง พระเยซูจะเข้ามาเติมเต็มให้พวกเขาไม่หิวกระหายอีกต่อไปเมื่อได้พบกลับพระองค์ และพระเยซูคริสต์จะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นน้ำที่ธำรงชีวิตให้กับพวกเขา 

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเหตุการณ์สำคัญในเทศกาลอยู่เพิงในสมัยพระเยซูคริสต์นั้นคือ  พระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิต พระวิญญาณของพระองค์ไม่ได้ประหารคนให้ตายแต่ประทานชีวิตรอด

คร. 3:6 ผู้ทรงโปรดประทานให้เราสามารถที่จะเป็นพันธกรแห่งพันธสัญญาใหม่ อัมิใช่ประมวลกฎแต่เป็นมาโดยพระวิญญาณ ด้วยว่าประมวลกฎนั้นประหารให้ตาย แต่ส่วนพระวิญญาณประทานชีวิต

เมื่อเราได้อ่านต่อไปในพระธรรมยอห์นบทที่ 8:1-11 จะพบกับเหตุการณ์ "คดีเด็ด" ที่ต้องการเผด็จศึกหญิงที่ทำผิดล่วงประเวณี แต่พระเยซูคริสต์ทรงตัดสินคดีด้วยหัวใจ จากคดีเด็ดกลายเป็น "คดีสีชมพู" ด้วยหัวใจแห่งการอภัยของพระเยซู

ในพระธรรมยอห์น บทที่ 8 ข้อที่ 3 -6 บันทึกว่า 

3 พวก​ธรรมาจารย์​และ​พวก​ฟาริสี​พา​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​มา​หา หญิง​คน​นี้​ถูก​จับ​ฐาน​ล่วง​ประเวณี และ​พวก​เขา​ให้​นาง​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​ประชาชน
4 เขา​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​อาจารย์ หญิง​คน​นี้​ถูก​จับ​ขณะ​กำลัง​ล่วง​ประเวณี​อยู่
5 ​ใน​ธรรม​บัญญัติ​นั้น​โมเสส​สั่ง​ให้​เรา​เอา​หิน​ขว้าง​คน​อย่าง​นี้​ให้​ตาย​​ แล้ว​ท่าน​จะ​ว่า​อย่างไร?”
6 เขาพูดอย่างนี้เพื่อทดลองพระองค์โดยหวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูน้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดิน

พวก​ธรรมาจารย์​และ​พวก​ฟาริสีจับหญิงที่ล่วงประเวณี มาพร้อมกับใช้เธอเป็นอุปกรณ์เพื่อจะมาทดลองพระเยซู  พวกเขาเรียกพระองค์ว่าเป็น "ท่าน​อาจารย์(รับบี) " ประมาณว่าท่านทราบไหมว่าพระบัญญัติของพระเจ้าผ่่านทางโมเสสบอกว่าอะไร และต้องลงโทษหญิงคนนี้อย่างไร พระเยซูคริสต์ทรงทราบดีถึงพระบัญญัติของพระเจ้า โทษตามกฏคือต้องประหารเธอให้ตาย! 

ตามพระบัญญัตินั้นมี "กฎเรื่องความหึงหวงของสามี"(กดว.5:11-31) หากสามีระแวงให้พาภรรยาไปหาปุโรหิตและปุโรหิตจะวินิจฉัย หากเธอผิดประเวณีจริงก็ให้เอาหินขว้างมีการให้ดื่มน้ำสาบาน  

กดว. 5:27 เมื่อให้หญิงนั้นดื่มน้ำแล้ว ถ้านางทำตัวเป็นมลทินและประพฤตินอกใจสามี น้ำที่ทำให้เกิดการสาปแช่งนั้นจะเข้าในตัวนางและทำให้เจ็บปวดมาก ท้องของนางจะป่องและมดลูกจะลีบไป และนางจะเป็นที่แช่งสาปท่ามกลางชนชาติของนาง
ผู้ที่เป็นปุโรหิตจะบันทึกเรื่องราวคดีความไว้ในสมุดแห่งพระวิหาร  ผู้ที่จะเอาหินขว้างคนแรกแสดงว่า เป็นสามีหรือชู้ของนาง เพราะสามีเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องเอาเรื่องได้ตามพระบัญญัติ  

สายตาประชาชนที่มาที่ลานประตูเมือง มาเฝ้าดูคดีนี้อย่างใจจดใจจ่อว่า คดีนี้จะสิ้นสุดอย่างไร และในเทศกาลอยู่เพิง ช่วงวัน"ชิมหัต โทราห์" รับบีเยซูจะทำอย่างไรกับคดีนี้

เพราะถ้าพระเยซูเพิกเฉยต่อพระบัญญัติ ปล่อยหญิงที่ล่วงประเวณี คนจะดูหมิ่นพระองค์และพระบัญญัติของพระเจ้า แต่ถ้าพระองค์ทำตามพวกเขาคือ ประหารหญิงที่ล่วงประเวณีคนนี้ พระองค์ก็จะทำผิดต่อพระบิดาซึ่งเปี่ยมด้วยพระคุณและความรัก 

แต่ในข้อ 8-11 จะเห็นถึงพระสติปัญญาของพระเยซูในการแก้ไขคดีด้วยหัวใจแห่งการอภัยและพระคุณที่ไม่ละเลยพระบัญญัติ พระเยซูไม่ได้ลบล้างพระบัญญัติแต่ทำให้ครบถ้วนด้วยพระคุณ

7 และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก
8 แล้วพระองค์น้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดินอีก
9 แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
10 พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?”
11 นางทูลว่า ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลยแล้วพระเยซูตรัสว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก


มีนักวิชาการพระคัมภีร์หลายท่านตีความ ว่า พระเยซูคริสต์เขียนอะไรที่พื้นดิน บ้างก็ว่าเขียนพระบัญญัติจากพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 5 หรือพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 17  ผมคงไม่ได้สรุปว่าพระองค์เขียนพระบัญญัติตอนนี้ แต่ผมเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงทราบดีถึงพระบัญญัติข้อนี้ดี  พระธรรมยอห์นไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพระองค์เขียนที่ดินว่าอะไร แต่พระองค์ทรงใช้พระบัญญัติของพระเจ้าในการตัดสินคดีนี้


(ผมขอสรุปความจากพระบัญญัติของพระเจ้าจาก กดว.5:11-31 และ ฉธบ. 17:5-7 ดังนี้)

กดว.5:11-31 
...12 “จง​บอก​คน​อิสราเอล​ว่า ถ้า​ภรรยา​ของ​ชาย​คน​ไหน​หลง​ผิด​และ​ประพฤติ​นอกใจ​สามี
13 ​มี​ชาย​อื่น​มา​นอน​กับ​นาง​ใน​ที่​ลับ​ตา​สามี​ของ​นาง นาง​ก็​มี​มลทิน​แล้ว​แม้​ถูก​ปิดบัง​ไว้ และ​แม้​ไม่​มี​พยาน ทั้ง​จับ​ไม่ได้​คา​หนัง​คา​เขา
14 ​จิต​หึง​หวง​ก็​มา​อยู่​ใน​ตัว​สามี เขา​จึง​หึง​หวง​ภรรยา​ผู้​มี​มลทิน​นั้น หรือ​ว่า​มี​จิต​หึง​หวง​อยู่​ใน​สามี เขา​จึง​หึง​15 ​ให้​ชาย​นั้น​พา​ภรรยา​ของ​เขา​ไป​หา​ปุโรหิต และ​นำ​เครื่องบูชา​สำหรับ​ภรรยา​ไป​ด้วย คือ​แป้ง​บาร์เลย์​ประมาณ​หนึ่ง​กิโลกรัม แต่​ไม่ให้​เขา​เท​น้ำ​มัน​หรือ​ใส่​กำยาน​ใน​แป้ง​นั้น เพราะ​เป็น​ธัญ​บูชา​เกี่ยวกับ​ความ​หึง​หวง เป็น​ธัญ​บูชา​แห่ง​การ​ระลึก​คือ​ให้​ระลึก​ถึง​ความ​ผิด
16 “ปุโรหิต​จะ​นำ​นาง​มา​ใกล้​และ​ให้​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์
17 ​และ​ปุโรหิต​จะ​เอา​น้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ใส่​ใน​ภาชนะ​ดิน แล้ว​เอา​ผง​คลี​จาก​พื้น​พลับพลา​ใส่​ใน​น้ำ​นั้น
18 ​ปุโรหิต​จะ​ให้​นาง​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์ และ​แก้​มวย​ผม​ของ​นาง​ออก แล้ว​ส่ง​ธัญ​บูชา​แห่ง​การ​ระลึก​ให้​นาง​ถือ​ไว้ ซึ่ง​เป็น​ธัญ​บูชา​แห่ง​ความ​หึง​หวง ส่วน​ปุโรหิต​จะ​ถือ​น้ำ​แห่ง​ความ​ขม​ขื่น​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นั้น​ไว้
19 ​จาก​นั้น​ปุโรหิต​จะ​ให้​นาง​สาบาน​และ​พูด​กับ​นาง​ว่า ‘ถ้า​ไม่​มี​ชาย​ใด​มา​นอน​กับ​เจ้า หรือ​ถ้า​เจ้า​ไม่ได้​หลง​ผิด​ไป​มี​มลทิน เมื่อ​เจ้า​ยัง​อยู่​กิน​กับ​สามี ​ก็​ให้​เจ้า​พ้น​จาก​น้ำ​แห่ง​ความ​ขม​ขื่น​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นี้
20 ​แต่​ถ้า​เจ้า​หลง​ผิด​ใน​ขณะที่​เจ้า​อยู่​กิน​กับ​สามี​แล้ว​มี​มลทิน โดย​ชาย​อื่น​ที่​ไม่ใช่​สามี​ได้​นอน​กับ​เจ้า
21 ​(​และ​ให้​ปุโรหิต​บอก​หญิง​นั้น​กล่าว​คำ​สาบาน​ของ​การ​สาปแช่ง ทั้ง​บอก​กับ​หญิง​นั้น​ว่า​) ขอ​พระ​ยาห์เวห์ท​รง​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​คำ​แช่ง และ​คำ​สาป​ท่ามกลาง​ชน​ชาติ​ของ​เจ้า โดย​การ​ที่​พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​มดลูก​ของ​เจ้า​ลีบ และ​ท้อง​เจ้า​ป่อง...
27 ​เมื่อ​ให้​หญิง​นั้น​ดื่ม​น้ำ​แล้ว ถ้า​นาง​ทำ​ตัว​เป็น​มลทิน​และ​ประพฤติ​นอกใจ​สามี น้ำ​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นั้น​จะ​เข้า​ใน​ตัว​นาง​และ​ทำ​ให้​เจ็บปวด​มาก ท้อง​ของ​นาง​จะ​ป่อง​และ​มดลูก​จะ​ลีบ​ไป และ​นาง​จะ​เป็น​ที่​แช่ง​สาป​ท่ามกลาง​ชน​ชาติ​ของ​นาง
28 ​ถ้า​หญิง​นั้น​ไม่ได้​มี​มลทิน​และ​นาง​บริสุทธิ์ นาง​ก็​จะ​พ้น​ความ​ผิด​และ​ตั้งครรภ์
29 “นี่​เป็น​กฎ​เรื่อง​ความ​หึง​หวง เมื่อ​ภรรยา​ได้​หลง​ไป​ทำ​ตัว​ให้​มี​มลทิน​ทั้ง​ที่​ยัง​อยู่​กิน​กับ​สามี
30 ​หรือ​เมื่อ​มี​จิต​หึง​หวง​อยู่​ใน​ผู้ชาย และ​เขา​หึง​หวง​ภรรยา​ของ​ตน เขา​ต้อง​ให้​นาง​ไป​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์ และ​ปุโรหิต​จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​นาง​ตาม​บัญญัติ​นี้​ทุก​ประการ
31 ​ผู้ชาย​จึง​จะ​พ้น​ผิด ส่วน​ผู้หญิง​จะต้อง​รับ​ความ​ผิด​ของ​นาง”

ฉธบ. 17:5-7
ท่านจงนำชายหรือหญิง ผู้ทำสิ่งชั่วร้ายนั้นออกมาที่ประตูเมือง และท่านจงเอาหินขว้างชายหรือหญิงนั้นเสียให้ตาย
ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ ห้ามลงโทษใครถึงตายด้วยพยานปากเดียว
นการประหารชีวิตนั้น ให้พวกพยานลงมือก่อน ต่อไปคนทั้งปวงจึงร่วมมือด้วย แล้วท่านจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน

คำถามที่สำคัญของพระเยซูคริสต์คือ  ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก”(ยน.8:7) ผลคือ เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์(ยน.8:9)

ในเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในบริเวณพระวิหาร พระเยซูเอานิ้วเขียนที่ดินในเขตพระวิหาร สิ่งที่พระเยซูทรงเขียนคือ  ชื่อคน คดีความ โจทย์และจำเลย ตามพระบัญญัติการเอาความต้องมีพยาน 2 ปาก ( ฉธบ. 17:6 ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ ห้ามลงโทษใครถึงตายด้วยพยานปากเดียว )
แต่เมื่อเหลือพระเยซูกับหญิงล่วงประเวณีเพียง 2 คน มีแต่จำเลย ไม่มีโจทย์ มีแต่พระเยซูคริสต์ที่เป็นพยานในเวลานั้น  พยานปากเดียวเอาโทษไม่ได้  

ยน.8:10-11
10 พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมดไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?”
11 นางทูลว่า ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก

เมื่อพระเยซูตรัสกับหญิงคนนั้นว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก
พระเยซูคริสต์ทรงให้อภัยเธอ แต่สิ่งที่พระองค์กำชับคือ "
อย่าทำบาปอีก” 

ดังนั้นพระบัญญัติของพระเจ้าที่ให้กับเราเพื่อให้เราได้ทราบถึงความร้ายแรงของบาป  เมื่อเราทั้งหลายได้รับการให้อภัยโดยพระคุณ เราควรที่จะกลับใจใหม่และอย่ากลับไปทำบาปอีก เป็นการดูหมิ่นพระคุณที่เราได้รับจากพระเจ้า 

รม. 6:14-15 
14 ​บาป​จะ​ไม่​ครอบงำ​พวก​ท่าน​ต่อไป เพราะ​ว่า​ท่าน​ไม่​อยู่​ใต้ธรรม​บัญญัติ แต่​อยู่​ใต้​พระ​คุณ
15 ถ้า​เช่นนั้น​จะ​ว่า​อย่างไร? เรา​จะ​ทำ​บาป​เพราะ​ไม่​อยู่​ใต้ธรรม​บัญญัติ แต่​อยู่​ใต้​พระ​คุณ​อย่าง​นั้น​หรือ? เปล่า​เลย

สิ่งที่พระเยซูเขียนที่ดินอาจจะเป็นประเด็นถกเถียงต่อไปในทางศาสนศาสตร์  แต่สิ่งที่เป็นความจริงคือ  
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความหวังและ​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิตในเทศกาลอยู่เพิง

ยรม. 17:13 ข้าแต่พระเจ้า ความหวังแห่งอิสราเอล บรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระองค์จะต้องรับความอับอาย บรรดาคนทั้งปวงที่หันไปจากพระองค์จะต้องจารึกไว้ในแผ่นดินโลก เพราะเขาได้ละทิ้งพระเจ้าผู้เป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตเสีย

ในเทศกาลอยู่เพิงนั้น  ​พระ​เยซู​ทรง​ยืน​ขึ้น​และ​ทรง​ประกาศ​ว่า “ถ้า​ใคร​กระหาย ให้​คน​นั้น​มา​หา​เรา
​และ​ให้​คน​ที่​วางใจ​ใน​เรา​ดื่ม ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘แม่น้ำ​ที่​มี​น้ำ​ดำรง​ชีวิต​จะ​ไหล​ออกมา​จาก​ภาย​ใน​คน​นั้น’​​”  สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​นั้น​หมายถึง​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​คน​ที่​วางใจ​พระ​องค์​จะ​ได้รับ 

ในเทศกาลอยู่เพิงที่เราได้ฉลองกันอยู่ในทุกปีนั้น แสดงถึงพระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิต ที่อยู่ในชีวิตของเรา ขอให้เรามีประสบการณ์ในเพิงแห่งพระสิริในชีวิตของเรา เอเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น