30 มิถุนายน 2558

กฏหมายรักร่วมเพศ เสรีภาพในความบาป

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ทราบข่าวจากสื่อออนไลน์ ถือว่าเป็นข่าวช็อคโลก! 
เมื่อศาลสูงสุดของประเทศสหรัฐอเมริการับรองสิทธิในการแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน  

โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า  ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำพิพากษาเมื่อ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา  ยืนยันรัฐธรรมนูญอเมริการับรองสิทธิในการแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน ถือเป็น การออกกฎหมายครั้งประวัติศาสตร์  ซึ่งหมายความว่าแต่ละรัฐจะไม่สามารถมีกฎหมายท้องถิ่นแบนการแต่งงานเกย์ได้อีก และทำให้คู่รักร่วมเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในทั้ง 50 รัฐทั่วอเมริกา

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา (Barack   Obama)แห่งสหรัฐฯ ได้เปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ระบุว่าคำพิพากษานี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในอเมริกาที่เกิดขึ้น “ราวกับสายฟ้าแลบ”

“คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับอเมริกา… เพราะเป็นการยืนยันสิทธิที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนต่างเชื่อมั่นในใจอยู่แล้ว เมื่อพลเมืองทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เราก็จะมีสังคมที่เสรีมากยิ่งขึ้น”

จากคำสั่งของศาลนี้ทำให้คนที่เป็นพวกรักร่วมเพศได้มีการร่วมฉลองโบกธงสีรุ้งกันทั่วประเทศ และมีการเปลี่ยนรูป profile ใน Facebook เป็นรูปธงสีรุ้ง   รวมถึงบุคคลต่างๆได้แสดงความคิดเห็นสนับสนุนด้วยการการเปลี่ยนรูป profile เป็นธงสีรุ้ง 

ธงสีรุ้ง หรือ ธงแห่ง LGBT  มาจากอักษรตัวแรกของคำว่า Lesbian (เลสเบี้ยน), Gay (เกย์), Bisexual (ไบเซ็กชวล) และ Transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) ที่ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งภายใต้คำชื่อกลุ่ม LGBT สะท้อนถึงความหลากหลายทางเพศและการแสดงออกทางเพศในสังคม ซึ่งคำว่า LGBT มิได้หมายถึงเฉพาะกลุ่มคนรักร่วมเพศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพศทางเลือกอื่น ๆ อย่างเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ 

(ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th, dailynews.co.th, manager.co.th )
(ภาพจาก genderfluidity.tumblr.com)


ในฐานะที่ผมเป็นคริสตชนแล้ว ผมไม่ได้รังเกียจคนที่เป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ ผมเห็นใจในความอ่อนแอของเขา แต่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเขาทำ ผมเข้าใจในเรื่องสิทธิเสรีภาพ  แต่ผมจะไม่เข้าข้างพวกเขา เพราะมันเป็นเสรีภาพในการดำเนินอยู่ในความบาป

เพราะสิ่งที่เรียกว่า "รักร่วมเพศ" (Homosexual) เป็นความบาป 

พระคริสตธรรมกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า "การรักร่วมเพศเป็นความบาป" (ปฐมกาล 19:1-13; เลวีนิติ 18:22; โรม 1:26-27; 1 โครินธ์ 6:9) 

โรม 1:26-27 
26เพราะ‍เหตุ‍นี้ พระ‍เจ้า​ทรง​ปล่อย​ให้​เขา​มี​กิ‌เลส​ตัณ‌หา​อัน​น่า‍อัปยศ พวก​ผู้‍หญิง​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยน​จาก​เพศ‍สัม‌พันธ์​ตาม​ธรรม‍ชาติ ให้​ผิด​ธรรม‍ชาติ​ไป27ส่วน​ผู้‍ชาย​ก็​เลิก​มี​เพศ‍สัม‌พันธ์​กับ​ผู้‍หญิง​ให้​ถูก​ตาม​ธรรม‍ชาติ​เช่น‍กัน และ​เร่า‍ร้อน​ด้วย​ไฟ​ราคะ‍ตัณ‌หา​ที่​มี​ต่อ​กัน ผู้‍ชาย​กับ​ผู้‍ชาย​ด้วย‍กัน​ประ‌กอบ‍กิจ​อัน​น่า‍ละ‍อาย​อย่าง‍ยิ่ง เขา​จึง​ได้​รับ​ผล‍กรรม​อัน​สม‍ควร​แก่​ความ​ผิด​ของ​เขา1 โครินธ์ 6:9-10
9ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​รู้​แล้ว​ไม่​ใช่​หรือ​ว่า​คน​ไม่​ชอบ‍ธรรม​จะ​ไม่‍มี​ส่วน​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า? อย่า​หลง‍ผิด​เลย พวก​ที่​ล่วง‍ประ‌เวณี พวก​ไหว้​รูป‍เคารพ พวก​ผิด‍ผัว‍ผิด‍เมีย พวก​โส‌เภ‌ณี​ชาย พวก​รัก‍ร่วม‍เพศ10พวก​ขโมย พวก​ที่​โลภ พวก​ขี้‍เมา พวก​ชอบ​กล่าว‍ร้าย พวก​ฉ้อ‍โกง จะ​ไม่‍มี​ส่วน​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า
การรักร่วมเพศเป็นผลของการปฏิเสธและไม่เชื่อฟังพระเจ้า   เมื่อพวกรักร่มเพศดำเนินอยู่ในความบาปและตั้งใจไม่เชื่อฟังพระวจนะ  พระเจ้าจึงทรง “ปล่อยให้เขา” ทำความชั่วร้ายและเลวทรามมากขึ้น เพื่อแสดงให้เขาเห็นถึงชีวิตที่สิ้นหวังและหาประโยชน์ไม่ได้เมื่อออกห่างจากพระเจ้า  คนเหล่านี้จะไม่ได้เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า

ดั่งเช่นตัวอย่างที่พระเจ้าทรงทำลายเมืองโสโดม โกโมราห์   คนทั้ง 2 เมืองนี้เป็นพวก"รักร่วมเพศ" (Homosexual)  กันทั้งเมือง พระเจ้าทรงเกลียดชัง และทรงส่งไฟมาทำลายเมืองทั้งเมือง  

ปฐมกาล 19:4-5   
4 ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่ทั้งหมดจากทุกมุมเมืองพากันมาล้อมบ้านนั้นไว้
5 พวกเขาร้องเรียกโลทว่าพวกผู้ชายที่มาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน จงส่งพวกเขาออกมาให้เรา  เราจะได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา

แท้จริงแล้ว เมืองที่ถูกทำลายในเวลานั้น มีถึง 4 เมือง ไม่ใช่ แค่เมืองโสโดม โกโมราห์ เท่านั้น แต่ยังมีอีก 2 เมืองคือ เศโบอิม และอัดมาห์  ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะบาปในเรื่องของ "รักร่วมเพศ" เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะการที่พวกเข้าดำเนินชีวิตอยู่ในทางของบาป และไม่ยอมกลับใจใหม่ แม้ว่าพระเจ้าจะทรงมีพระเมตตาต้องการให้เขากลับใจใหม่ แต่เขาก็ไม่ยอมกลับใจ แผ่นดินจึงถูกสาปและถุกทำลายด้วยไฟกำมะถัน     
เฉลยธรรมบัญญัติ 29:23 คือ​แผ่นดิน​ทั้งหมด​เป็น​กำมะถัน​และ​เป็น​เกลือ​เพราะ​ถูก​เผา​ไฟ ไม่​มี​ใคร​ปลูก​หว่าน และ​ไม่​มี​อะไร​งอก​ขึ้น เป็น​ที่​ซึ่ง​หญ้า​ไม่​งอก เป็น​การ​ที่​ถูก​คว่ำ​อย่างโสโดม​และ​โกโมราห์​ อัด​มาห์​และเศ​โบอิม ซึ่ง​พระ​ยาห์เวห์ท​รง​คว่ำ​ด้วย​ความ​กริ้ว​และ​พระ​พิโรธ

จะเห็นได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศทรงอิทธิพลของโลก เมื่อมีกฏหมายแบบนี้ออกมาจะส่งผลกระทบให้กับประเทศต่างๆ ตามมา แต่นี่คือความเสื่อมทรามทางจริยธรรมของสังคมของอเมริกา ซึ่งผลท้ายสุด เมื่อพวกเขาเจตนาที่จะดำเนินอยู่ในบาป นำเรื่องที่ผิดบาป มาทำให้ถูกกฏหมาย อาจจะเป็นเหตุทำให้ประเทศได้รับการแช่งสาปตามมาก็เป็นไปได้

อย่างไรก็ตามคริสเตียนในประเทศอเมริกาและผู้นำคริสตจักรหลายแหล่งได้ออกมาคัดค้าน  โดยเฉพาะที่รัฐเท็กซัส 
ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ลงนามผ่านกฏหมายคุ้มครองศิษยาภิบาล เพื่อดำรงรักษาสิทธิของศิษยาภิบาลที่จะไม่ประกอบพิธีสมรสใดๆ ที่ขัดกับความเชื่ออย่างจริงใจของตน
ทั้งนี้ เป็นความวิตกกังวลของผู้นำคริสเตียนหลายคน กรณีที่ศาลสูงสหรัฐมีมติรับรองให้การแต่งงานรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฏหมายใน 50 รัฐของอเมริกา ซึ่งอาจเปิดช่องให้คู่รักเกย์หลายคู่ฟ้องร้องศิษยาภิบาลที่ไม่ยอมประกอบพิธีสมรสให้ตนได้ 

(ข้อมูลจาก http://gov.texas.gov/news/signature/21027)

สำหรับเราในฐานะคริสตชนสิ่งที่เราควรจะทำคือการอธิษฐานเผื่อประเทศสหรัฐอเมริกา และผู้นำคริสตจักรต่างๆให้ได้รับการปกป้องจากสิ่งที่เป็นความบาป 
ดั่งเช่นอับราฮัมได้เคยอธิษฐานเพื่อปกป้องเมืองโสโดม โกโมราห์ เผื่อจะไม่ถูกทำลาย แต่สุดท้ายเมื่อพวกเขาไม่กลับใจใหม่ คนของพระเจ้าก็จำเป็นต้องออกจากเมืองนั้น ดังเช่นอับราฮัมไปช่วยโลท หลานชายให้ออกจากเมือง ก่อนที่เมืองนั้นจะถูกทำลาย 

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งตามแผนการของพระเจ้าที่ทรงเขย่าคนยิว  ชนชาติของพระองค์ ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องออกจากเมืองกลับสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น