14 สิงหาคม 2556

วิธีจัดการ 8 อันธพาลวิญญาณชั่ว (2)

สวัสดีครับเพื่อนผู้อ่านที่รักทุกท่าน กลับมาพบกับบทความ วิธีจัดการ 8 อันธพาลวิญญาณชั่ว กันอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สามารถไปอ่านบทความ วิธีจัดการ 8 อันธพาลวิญญาณชั่ว ครั้งที่ 1 ได้ตาม link นี้ครับ (http://pattamarot.blogspot.com/2013_07_01_archive.html)

โดยในครั้งที่ผ่านมา เราได้ทำความรู้จัก (รู้จักได้แต่อย่าไปสนิทกับมัน) กับเจ้าอันธพาลวิญญาณชั่วทั้ง 4 ไปแล้ว  นั่นคือ

1. วิญญาณราคะตัณหา (Spirit of lust) แอสโมดิวส์(Asmodeus)
2. วิญญาณตะกละ(Spirit of gluttony) เบลเซบับ(Beelzebub)
3. วิญญาณความโลภ(Spirit of greed) แมมมอน (Mammon)
4. วิญญาณเกียจคร้าน (Spirit of sloth ) เบลเฟกอร์ (Belphegor)
 


ในครั้งนี้เราจะทำความรู้จักเพื่อจะเข้าใจลักษณะและการทำงานของมันเพื่อจะนำสู่วิธีการจัดการกับมัน วิญญาณชั่ว 4 ตัวที่เหลือที่จะนำมากล่าวถึงได้แก่

5.วิญญาณริษยา (Spirit of envy ) - ลิเวียธาน (Leviathan)
(คำว่า ริษยา ภาษาละตินคือ คำว่า อินวิเดีย (invidia) 

ลิเวียธาน (Leviathan)
วิญญาณริษยาเป็นเหมือนพวกฟาริสี สะดูสี ธรรมาจารย์ที่อิจฉาริษยาพระเยซูที่มีผู้ติดตามฟังคำสอนพระเยซูจำนวนมาก เพราะคำสอนของพระเยซูมีฤทธิ์เดชแต่คำสอนของพวกฟาริสี สะดูสี ธรรมาจารย์ มีฤทธิ์เหมือนกันไม่ใช่ฤทธิ์เดชแต่เป็นริษยา  สังเกตได้ภายนอกคือ ตาร้อนเพราะอิจฉา จึงหมายที่จะจับพระเยซูและนำพระเยซูไปให้พวกโรมันตรึงกางเขน
 
วิญญาณริษยา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นรับเคราะห์ การไม่ยอมรับผู้อื่นที่มีสิ่งต่างๆดีกว่าตนเอง ทั้งด้านทรัพย์สมบัติ รูปร่างหน้าตาและการประสบความสำเร็จ ความอิจฉานำไปสู่การรังเกียจตนเอง ต้องการอยากจะได้ของผู้อื่น อยากจะเป็นอย่างผู้อื่น นำไปสู่การขโมยและทำลายผู้อื่น สามารถพัฒนาต่อไปสู่วิญญาณตระกละหรือเบลเซบับ(Beelzebub)และโลภหรือแมมมอน (Mammon)ได้
 
ลิเวียธาน (Leviathan) เป็น ปีศาจอสรพิษทะเลแห่งนรก พญานาค หรืองูดึกดำบรรพ์ (old serpent) ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านพระคริสต์(The Anti Christ)
 
วิวรณ์ 13:4 เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคเพราะพญานาคได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า "ใครจะเปรียบปานสัตว์นี้ได้ และใครสามารถจะสู้รบกับสัตว์นี้ได้"
 
วิวรณ์ 13:6 มันกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระเจ้า ต่อพระนามของพระองค์ ต่อสถานที่สถิตของพระองค์ และต่อผู้ที่อยู่ในสวรรค์
 
ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ เรียกว่า "เลวีอาธาน" (לִוְיָתָן แปลว่า ม้วน; ขด )
"เลวีอาธาน" เป็นสัตว์ร้ายในทะเล (สดุดี 74:14,104:26,อิสยาห์ 27:1)
เป็นดังงูดึกดำบรรพ์หรือพญานาค

สดุดี 74:14 พระองค์ทรงขยี้หัวทั้งหลายของเลวีอาธาน {สัตว์ทะเล ขนาดมหึมา} พระองค์ประทานมันให้เป็นอาหารของสรรพสัตว์แห่งถิ่นทุรกันดาร

สดุดี 104:26 กำปั่นแล่นไปโน่นแน่ะ และเลวีอาธาน {สัตว์ทะเล ขนาดมหึมา} ที่ พระองค์สร้างไว้ให้เล่นในนั้น

อิสยาห์ 27:1 ในวันนั้น พระเจ้าจะทรงลงโทษด้วยพระแสงอันแข็งกระด้างอันใหญ่ และอันแรงกล้าของพระองค์ต่อเลวีอาธานคือพญานาคที่หนีไปนั้น เลวีอาธาน พญานาคที่ขด และพระองค์จะทรงประหารมังกรที่อยู่ในทะเล
    
ในพระธรรมโยบบทที่  41 ได้บรรยายลักษณะของ"เลวีอาธาน"ไว้อย่างละเอียด สรุปได้ว่า

"....เป็นสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ เพศเมีย มีหลายหัว มันมีพละพลังมหาศาล มีโครงสร้างร่างกายที่แกร่งกล้า มีเกล็ดตามร่างกายที่หนาถึง 2 ชั้นซึ่งเปรียบเหมือนเสื้อนอก ที่แต่ละชั้นแนบชิดติดตัวและต่อกันเป็นเนื้อเดียวเหมือนตราผนึกที่แข็งแกร่ง จนลมไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ มันมีดวงตาที่ส่องสว่างเปรียบเหมือนแสงอันเจิดจ้าของอรุณรุ่ง (หมายถึงมันโผล่ตาขึ้นมาเหนือน้ำเหมือนที่จระเข้ทำเวลาล่าเหยื่อ ตามันจะโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เหมือนพระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขาในตอนเช้า)  มีฟันแหลมคมเหมือนจระเข้"    

มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความอิจฉาริษยา  เพราะมันอิจฉาที่มนุษย์อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีอิสระเสรี แต่มันต้องถูกกักขังอยู่ในท้องทะเล  มันอิจฉาในพลังอำนาจของพระเป็นเจ้า  
ในภาษาฮีบรู Leviathan แปลว่าอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "วาฬ" ลักษณะเหมือนปลาตัวใหญ่ จึงมีหลายทฤษฏีคิดว่า โยนาห์ถูกกลืนไปในท้องของ "เลวีอาธาน"เป็นเวลา 3 วัน  อย่างไรก็ตามไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
ศาสนจักรโรมันคาธอลิก ให้สัญลักษณ์ของวิญญาณริษยา คือ สุนัข
 
 6. วิญญาณโทสะ (Spirit of wrath / anger) -วิญญาณมังกรแห่งพระดาโกน ( Dragon Spirit)

(คำว่า โทสะหรือโกรธ ภาษาละตินคือ คำว่า ไอรา (ira) )

วิญญาณโทสะ คือ ความโกรธเคืองและพยาบาทที่ขาดความเหมาะสม

Dragon Spirit
มันจะทนรับสภาพในบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ มันจะแสวงหาหนทางผิดกฎหมายบ้านเมือง ในศีลธรรมในการล้างแค้น การมุ่งร้ายที่จะทำสิ่งต่างๆแก่บุคคลที่ตนไม่ชอบ รวมถึงการไม่ชอบบุคคลอื่นโดยไร้เหตุผล เช่น สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา นำไปสู่การฆ่าและฆาตกรรมผู้อื่น
มาจากวิญญาณของมักรที่กล่าวไว้ใน

วิวรณ์ 13:2 และพญานาค (Dragon)ได้ให้ฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และที่นั่งของมันแก่สัตว์ร้ายนั้น
 
ในพระคัมภีร์ระบุว่าเป็น "มังกร" ใน วิวรณ์ 20:2 และท่านได้จับพญานาค (Dragon)ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์  (Old serpent)...
 
วิญญาณโทสะนี้มาจากวิญญาณศาสนาโบราณคือพระดาโกน  1ซามูเอล 5:1-5
1 เมื่อคนฟีลิสเตียยึดหีบแห่งพระเจ้าไปนั้น เขานำไปจากเอเบนเอเซอร์ถึงเมืองอัชโดด 2 และคนฟีลิสเตียก็นำเอาหีบแห่งพระเจ้าเข้าไปไว้ในโบสถ์ของพระดาโกน และวางไว้ข้างพระดาโกน 3 และเมื่อประชาชนชาวอัชโดดตื่นเช้าในวันรุ่งขึ้น ดูเถิด พระดาโกนได้ล้มหน้าคว่ำลงมายังพื้นดินตรงหน้าหีบแห่งพระเจ้า เขาทั้งหลายจึงยกพระดาโกนขึ้นตั้งไว้ในที่เดิม 4 แต่เมื่อเขาทั้งหลายตื่นเช้าในวันรุ่งขึ้น ดูเถิด พระดาโกนก็ล้มหน้าคว่ำลงมายังพื้นดินตรงหน้าหีบแห่งพระเจ้า เศียรของพระดาโกนและมือทั้งสองก็หักออกอยู่ที่ธรณีประตู เหลืออยู่แต่ลำตัวพระดาโกน 5 เพราะเหตุนี้เอง ปุโรหิตของพระดาโกนและผู้ที่เข้าไปในโบสถ์ของพระดาโกนจึงไม่ เหยียบธรณีประตูโบสถ์พระดาโกนที่เมืองอัชโดดจนถึงทุกวันนี้
 "ดาโกน" เป็นพระที่ชาวฟิลิสเตียนับถือ เมื่อมาต่อสู้กับชาวอิสราเอล พวกเขายึดหีบพันธสัญญาไปครอง แต่ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าทำให้พระดาโกนล้มคว่ำ ชาวฟิลิสเตียจึงได้ส่งคืนหีบแห่งพันธสัญญาให้กับชาวอิสราเอล จะเห็นได้ว่า ทำไมเวลาเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อศาสนาจึงไม่ให้เหยียบธรณีประตู เพราะสิ่งเหล่านั้นมีวิญญาณที่เฝ้าอยู่ที่ประตู  


จะเห็นได้ว่าวิญญาณมังกรจะเกี่ยวกับศาสนาโบราณ จะใช้พญานาคและมังกรเป็นสัญลักษณ์เพื่อกราบไว้นมัสการ ที่แท้จริงวิญญาณมังกรมาจากซาตาน (Satan) ปีศาจแห่งวิญญาณโทสะที่มันโมโหเดือดดาลอยู่ภายใน
ตามหลักการพระคัมภีร์ ความโกรธไม่ใช่เป็นความบาป แต่หากโกรธจะนำไปสู่ความบาปได้

เอเฟซัส 4:26 จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่
 
เราจึงต้องสารภาพบาปและยกโทษให้อภัยผู้ที่ทำให้เราโกรธก่อนที่จะข้ามวันไป ไม่เช่นนั้นเราอาจจะทำบาปโดยความโกรธที่ยังขุนเคืองใจเราอยู่
ดังตัวอย่างคาอินที่มีความโกรธไม่พอใจพระเจ้าที่โปรดปรานอาแบลน้องชายมากกว่าตนจึงได้ฆ่าน้องชายจนตาย 
 
ปฐมกาล 4:6-8
6 พระเจ้าจึงตรัสถามคาอินว่า "เจ้าโกรธเคืองหน้าบูดบึ้งอยู่ทำไม         7 ถ้าเจ้าทำดี เราก็จะพอใจรับเจ้ามิใช่หรือ ถ้าเจ้าทำไม่ดี บาปก็หมอบอยู่ที่ประตู อยากตะครุบเจ้า เจ้าจะต้องเอาชนะบาปนั้นให้ได้"
8 ฝ่ายคาอินก็พูดชวนอาแบลน้องชายของตนว่า   "เราไปนากันเถอะ" เมื่ออยู่ที่นาด้วยกัน   คาอินก็โถมเข้าฆ่าอาแบลน้องชายของตนเสีย


พระคัมภีร์กล่าวว่า "บาปก็หมอบอยู่ที่ประตู อยากตะครุบเจ้า เจ้าจะต้องเอาชนะบาปนั้นให้ได้"

วิญญาณมังกรแห่งความโกรธเคืองของพระดาโกนหมอบที่ธรณีประตูอยู่ อย่าให้ความโกรธทำให้เราต้องทำบาป

ศาสนจักรโรมันคาธอลิก ให้สัญลักษณ์ของวิญญาณโทสะคือ หมี  
 
เราจะเห็นได้ว่าวิญญาณริษยาและวิญญาณโทสะมีส่วนที่ทำงานร่วมกัน เป็นดั่งงูพิษและพวกไสยศาสตร์ พวกหมอผีแม่มด (witchcraft) คือ พวกเล่นเวทมนตร์คาถา คำนี้ มาจากภาษากรีกว่า pharmakeia (เป็นรากของภาษาอังกฤษ คือ pharmacy -ร้านขายา) ซึ่งหมายถึงการรักษาด้วยยาและการเล่นมายากล รากศัพท์ของคำนี้มาจากคำว่า pharmakeus หมายถึงคนวางยาพิษ หรือ เวทมนตร์ซึ่งเป็นยาพิษ

เมื่อเรามีความโกรธเคืองหรือเกิดความคิดริษยาผู้อื่น เราจึงต้องขอการให้อภัยจากพระเจ้า อย่าปล่อยไว้จะทำให้เป็นบาดแผลในใจ ต้องรับการรักษาจากพระเจ้า และเวลาจะช่วยให้เราหายดี

ผมสรุปข้อคิดไว้ดังนี้
"พระเจ้าทรงปิดบาดแผลเพื่อเยียวยารักษาให้หาย เพราะพระองค์ทรงเป็น"นายแพทย์" ผู้ประเสริฐ (Yahweh Ropheka)

แต่ซาตานวิญญาณชั่ว เปิดบาดแผลให้กลับกลายเป็นแผลเป็นด้วยคำหลอกลวง มันเป็นดังเช่น... "นางแพศยา" 

 พระเจ้าทรงเป็นดั่ง "นางพยาบาล"ให้ยารักษา ป้อนอาหาร แต่ซาตานเป็นดั่ง "นางพยาบาท" ผูกใจเจ็บ  วางยาพิษเพื่อปิดชีพ

 

7. วิญญาณการควบคุม (Spirit of control) -เยเซเบล (Jezebel)

เยเซเบล (Jezebel)
เยเซเบล (Jezebel) เป็นชื่อของมเหสีของกษัตริย์อาหับซึ่งกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ 1 พงศ์กษัตริย์ พระนางเป็นจอมเผด็จการครอบงำกษัตริย์อาหับให้ทำตามวิธีการของเธอ เหมือนดั่งการใส่แอกเพื่อควบคุม
คำว่า เยเซเบล (Jezebel)นั่นให้ความหมายถึงการไม่มีผู้ร่วมอาศัยด้วย เรียกว่าตั้งตัวเองเป็นเอกเทศ กบฏและไม่ขึ้นกับใคร ดังนั้น เยเซเบล (Jezebel) จึงเป็นวิญญาณที่ปฏิเสธการอาศัยหรืออยู่ร่วมกับคนอื่น วิญญาณนี้จะไม่อยู่กับใคร เว้นแต่ได้ควบคุมหรือครอบงำผู้อื่น
วิญญาณเยเซเบลไม่มีเพศ หมายความว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็อาจจะถูกครอบงำจากวิญญาณนี้ได้ แต่วิญญาณนี้จะสนใจผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงที่ทำบทบาทผู้ที่ควบคุมสิทธิอำนาจของผู้ชายโดยเฉพาะผู้ที่เป็นสามี

(ทำให้เกิดสำนวนว่า “Painted Jezebel” หรือหญิงเจ้าเล่ห์)

(อ.นิมิต พานิช ศบ.คริสตจักรแห่งพระบัญชา ได้แบ่งปันคำสอนเรื่องนี้อย่างละเอียด สามารถไปฟังได้  ในคำสอนเรื่อง ปลดแอกจากวิญญาณเยเซเบล http://www.uccfellowship.com/index.php?option=com_content&view=article&id=147:2010-08-12-11-59-26&catid=5:admin&Itemid=14)



จุดจบของพระนางเยเซเบล
 
เยฮูได้รับพระบัญชาจากพระเจ้าให้ “ทำลายครอบครัวกษัตริย์อาหับ

เยฮูได้ต้อนพระนางเยเซเบลให้จนมุมในพระราชวังของพระนางเอง พระนางฯ ทรงตระหนักว่าจะถูกปลงพระชมน์จึงทรงแต่งพระพักตร์ และถูกโยนลงมาจากหน้าต่างตาย

2พงศ์กษัตริย์ 9:31-38
   31   และเมื่อเยฮูผ่านเข้าประตูวังมาพระนางมีพระเสาวนีย์ว่า  "เจ้าผู้ฆ่านายของเจ้า  อย่างเจ้าศิมรี  มาอย่างสันติหรือ"
   32   แล้วเยฮูแหงนพระพักตร์ทอดพระเนตรที่พระแกลตรัสว่า  "ใครอยู่ฝ่ายเรา  ใครบ้าง"  มีขันทีสองสามคนชะโงกหน้าต่างออกมาดูพระองค์
   33   พระองค์ตรัสว่า  "โยนนางลงมา"  เขาจึงโยนพระนางลงมา  และโลหิตของพระนางก็กระเด็นติดผนังกำแพงและติดม้า  และพระองค์ทรงม้าย่ำไปบนพระนาง
   34   แล้วพระองค์เสด็จเข้าไป  เสวยและทรงดื่ม  และพระองค์ตรัสว่า  "จัดการกับหญิงที่ถูกสาปคนนี้  เอาไปฝังเสีย  เพราะเธอเป็นธิดาของพระราชา"
   35   แต่เมื่อเขาจะไปฝังศพพระนาง  เขาก็พบแต่กระโหลกพระเศียร  พระบาทและฝ่าพระหัตถ์ของพระนาง
   36   เมื่อเขากลับมาทูลพระองค์  พระองค์ตรัสว่า  "นี่เป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า  ซึ่งพระองค์ตรัสทางเอลียาห์ชาวทิชบีผู้รับใช้ของพระองค์ว่า  สุนัขจะกินเนื้อของเยเซเบลในเขตแดนยิสเรเอล
   37   และศพของเยเซเบลจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนพื้นทุ่งในเขตแดนยิสเรเอล  เพื่อว่าจะไม่มีใครกล่าวว่า  "นี่คือ  เยเซเบล"
 
8.วิญญาณความหยิ่ง (Spirit of pride)- ลูซิเฟอร์ (Lucifer)
 (คำว่า หยิ่ง ภาษาละตินคือ คำว่า ซูเปอร์เบีย(superbia))

คำว่า "ลูซิเฟอร์" เป็นคำละตินมาจากคำว่า "ลักซ์ "(Lux) แปลว่า "แสงสว่าง" เป็นที่มาของคำว่า Lux คือค่า ความสว่าง (illuminance หรือ illumination)ของแสงคำว่า แฟร์เรอร์ "Ferrer" แปลว่า ผู้นำมา หรือผู้ถือ นำมารวมกันแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง" หรือแปลในแบบที่เข้าใจง่ายๆ ว่า "รุ่งอรุณ" หรือ "ดาวแห่งแสงสว่าง"

วิญญาณความหยิ่ง (Spirit of pride) มาจากอันธพาลวิญญาณตัวเอ้ คือ
ลูซิเฟอร์ (Lucifer) เจ้าแห่งมารซาตาน เพราะมันเคยเป็นถึงระดับ

ลูซิเฟอร์ (Lucifer)
อัครเทวทูตาธิบดี(Archangel) เทียบเท่ากับท่าน กาเบียล อัครเทวทูตาธิบดีด้านการสื่อสาร และอัครเทวทูตาธิบดี มิคาเอล ด้านการทำสงคราม  ลูซิเฟอร์ (Lucifer)เคยเป็นผู้ที่นมัสการพระเจ้าอยู่บนสวรรค์ แต่ด้วยความหยิ่งและอยากที่จะเป็นเหมือนพระเจ้าที่มีเหล่าทูตสวรรค์มานมัสการ ทำให้มันกบฏต่อพระเจ้า และถูกขับไล่ให้ตกลงมาจากสวรรค์

อิสยาห์ 14:12-15
12 "โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณเจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ  13 เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า 'ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้าณที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน {คือ สถานเทพชุมนุม}ณที่อุดรไกล 14  ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด  15 แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตาย ยังที่ลึกของปากแดน

จากดาวรุ่ง "โอรสแห่งรุ่งอรุณ" กลายเป็น "ดาวร่วง" ร่วงตกสวรรค์ จากทูตสวรรค์ กลายเป็น "ผีพุ่งใต้" ตกจากสวรรค์พร้อมพวกอีก 1 ใน 3 ของทูตสวรรค์ที่กบฏ กลายเป็นผีวิญญาณชั่วที่อยู่อาศัยในโลกนี้ และในวาระสุดท้ายจะถูกพระเจ้าพิพากษาให้ไปอยู่ในบึงไฟนรกตลอดนิรันดร์ นี่คือสาเหตุที่ทำไมเหล่าอันธพาลวิญญาณชั่ว มันจึงมาล่อลวงมนุษย์เพื่อทำให้มนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายา(ปฐก.2:27-28)และพระองค์ทรงรัก กบฏต่อพระเจ้าและตกไปในนรกเช่นเดียวกับพวกมัน  ความหยิ่งนำหน้าการถูกทำลาย แต่ความถ่อมใจจะได้รับเกียรติ  สุภาษิต 16:18-1918 ความเย่อหยิ่งเดินหน้าการถูกทำลาย และจิตใจที่ยโสนำหน้าการล้ม
19 ที่จะเป็นคนมีใจถ่อมอยู่กับคนยากจน ก็ดีกว่าแบ่งของริบมาได้กับคนเย่อหยิ่ง

วันนี้เราจึงต้องรับความรักของพระเจ้ามาสวมกอดเอาไว้ และสวมกอดสติปัญญาของพระเจ้าไว้  เพื่อให้เราพ้นภัยจากอันธพาลวิญญาณชั่ว

สุภาษิต 4:8 จงตีราคาปัญญาให้สูง และปัญญาจะยกย่องเจ้าถ้าเจ้า กอดปัญญาไว้ ปัญญาจะให้เกียรติเจ้า

ผมขอสรุปข้อคิดทิ้งท้ายไว้ดังนี้ครับ

เราต้องเผชิญอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสงครามฝ่ายวิญญาณ ต้องฉลาดและมีสติปัญญาเหมือนงู แต่ไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ ที่ถ่อมใจ ดั่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

ผมขอใช้คำว่า "กอด"ในภาษาอังกฤษคือ"HUG" เป็นคำย่อเพื่อเป็นข้อคิดย้ำเตือนใจดังนี้ครับ

ก-กลับใจใหม่ด้วยความถ่อมใจ
อ-อธิษฐานรับการปกคลุมชีวิต
ด-ดำเนินในความชอบธรรมของพระเจ้าเสมอ

ใช้หัวเข่าแทนหัวคิด ถ่อมใจอธิษฐานแสวงหาการปกคลุมจากพระเจ้าให้พ้นจากอันธพาลมารร้าย (HUG -Humble Unto God) 


มัทธิว 6:12-13
12 และขอทรงโปรด ยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น
13 และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย {หรือ มารร้าย} เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน
 
ครั้งนี้ เราได้รู้เขา คือ ทำความรู้จักกับศัตรูของเราคือ 8 อันธพาลวิญญาณชั่ว ไปจนครบแล้ว ครั้งต่อไปเราจะมาเรียนรู้ รู้เรา ทำความเข้าใจในตัวเรา และวิธีการจัดการ8 อันธพาลวิญญาณชั่ว ในบทความครั้งต่อไปนะครับ

 ขอพระเจ้าอวยพระพรนะครับ พบกันใหม่ครับ








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น