18 กุมภาพันธ์ 2554

Possessing the land รุกคืบสู่ดินแดนพระสัญญา

ในค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ผมและพี่น้องในโซนฝั่งธน ได้มารวมตัวการอธิษฐานรวมพลังในหัวข้อ Burning bush พุ่มไม้ไฟลุกโชน เป็นการจุดไฟการทรงสถิต รักษาชีวิตในการอธิษฐานกับพระเจ้า ผมได้แบ่งปันข้อคิดจากประสบการณ์ชีวิตของโมเสส ที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า ในพระธรรมอพยพ บทที่ 3: 1-10 สามารถเข้าไปอ่านได้ใน

http://pattamarot.blogspot.com/2010/12/burning-bush.html

สำหรับในครั้งนี้ เป็นการเคลื่อนไปในมิติที่ลึกขึ้นในชีวิตการอธิษฐานและเตรียมชีวิตในการทำสงครามในฝ่ายวิญญาณในปี 2011 ตามคำเผยพระวจนะของ

Dr. Chuck Pierce ที่มาในประเทศไทยเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่ผ่านมา

(อ่านคำเผยพระวจนะของ Dr. Chuck Pierce ได้ที่ http://pattamarot.blogspot.com/2010/10/dr-chuck-pierce-68.html)

ในครั้งนี้จึงให้หัวข้อว่า Possessing the land รุกคืบสู่ดินแดนพระสัญญา เพื่อการครอบครอง

ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงเตรียมคนในรุ่นของเราเป็น Joshua Generation เพื่อไปสู่แผนการแห่งการครอบครองตามพระสัญญาของพระเจ้า

คนรุ่นที่ผ่านมาเป็นเหมือน โมเสส ที่ได้จัดเตรียมทางและหลักการไว้ให้แล้ว เพียงแต่คนในรุ่นของเราสานต่อนิมิต และรุกคืบเข้าไปครอบครองตามพระสัญญา

จากเหตุการณ์ในพระธรรมโยชูวา บทที่ 1:1-11 เป็นเหตุการณ์หลังจากการจากไปของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้นำอิสราเอลออกจากอียิปต์ตามพระมหาบัญชาของพระเจ้า

พระเจ้าทรงให้โยชูวาบุตรนูนเป็นผู้นำอิสราเอลต่อไป นับเป็นก้าวใหม่ของอิสราเอล ก่อนที่จะก้าวต่อไป

พระเจ้าทรงทบทวน พระสัญญากับผู้รับใช้ของพระองค์และย้ำว่า พระองค์จะทรงสถิตด้วยและประทานชัยชนะ และเขาจะต้องเข้มแข็งและกล้าหาญ และระมัดระวังที่จะกระทำตามพระวจนะพระเจ้า

พระธรรมตอนนี้ให้ข้อคิดที่ดียิ่งสำหรับพวกเราทั้งหลายที่เป็นคนของพระเจ้าสำหรับก้าวใหม่ของเราในปีแห่งพระสิริด้วยการเตรียมชีวิตก้าวไปข้างหน้า ผ่านพ้นสิ่งเก่า เข้าสู่มิติใหม่ในฝ่ายวิญญาณ

มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป พระเจ้าไม่ได้นำแบบเดิมผ่านผู้นำเดิมคือ โมเสส ไม่มีเสาเมฆและเสาเพลิงนำทางแต่พระเจ้าทรงนำโดยพระองค์ ไม่มีมานา เพราะเมื่อเข้าไปในดินแดนพระสัญญาพวกเขาจะได้กินพืชผลจากดินแดนพระสัญญาของพระเจ้า

ฉะนั้นขอหนุนใจจากหลักการที่สำคัญจาหเหตุการณ์ตอนนี้อย่างน้อย 4 ประการ คือ

1. มั่นใจในพระสัญญา (ข้อ 1-4)

3 ทุกๆตำบลถิ่นที่ฝ่าเท้าของเจ้าทั้งหลายจะเหยียบลง เราได้ยกให้แก่เจ้าทั้งหลายดังที่เราได้สัญญาไว้กับโมเสส

พระเจ้าย้ำให้โยชูวามั่นใจในพระสัญญาที่พระองค์จะประทานแผ่นดินคานาอันแก่เขาและชนชาติอิสราเอล ความมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้าเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตของโยชูวาให้ก้าวเดินต่อไปโดยไม่คร้ามกลัวต่อปัญหาและอุปสรรคใดๆ จนประสบความสำเร็จ

นิมิตที่โยชูวาได้รับเมื่อท่านไปสำรวจดินแดนร่วมกับคาเลบ(กดว.14)แม้เวลาผ่านไปหลายสิบปี แต่ท่านก็มั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้าไม่สั่นคลอน

นิมิตถ้าไม่มีการกระทำคงเป็นแค่ความฝัน การกระทำที่ไร้นิมิตก็ไร้ประโยชน์เสียเวลาเปล่า นิมิตที่แสดงออกมาเป็นการกระทำจะสามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้

"Vision without action is merely a dream. Action without vision just passes the time. Vision with action can change the world." (Joel Barker)





ใชีวิตของเราก็เช่นกัน เมื่อเราดำเนินอยู่ในทางของพระเจ้าอย่างชอบธรรม พระเจ้าสัญญาว่าจะให้เราเก็บเกี่ยวการเกิดผล เราต้องมั่นใจในพระสัญญา เพื่อเราจะฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่างๆ และไปถึงซึ่งความสำเร็จ

2. รักษาชีวิตการทรงสถิต (ข้อ 5,9)

5 ไม่มีผู้ใดจะยืนหยัดต่อสู้เจ้าได้ตลอดชีวิตของเจ้า เราอยู่กับโมเสสมาแล้วฉันใด เราจะอยู่กับเจ้าฉันนั้น เราจะไม่ละเลยหรือละทิ้งเจ้าเสีย

9 เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า

พระเจ้ากำชับโยชูวาเพื่อให้เขามั่นใจว่างานจะสำเร็จแน่เพราะพระองค์อยู่ด้วย องค์ประกอบแห่งความ

สำเร็จที่สำคัญ คือการทรงสถิตของพระเจ้า

หากเราปรารถนาให้ปีแห่งชีวิตในพระสิริของพระเจ้า เราต้องมั่นใจในการทรงสถิตของพระเจ้า โดยการ

รักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ และไวต่อการกลับใจอย่างแท้จริง

ในปีนี้จะเป็นปีแห่งการมองเห็นในมิติฝ่ายวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น ความเชื่อจะทำให้มีสายตาที่มองผ่าน

ปัญหาไปได้ ความเชื่อในพระสัญญาในดินแดนคานาอัน ทำให้โยชูวามองผ่านแม่น้ำจอร์แดนและก้าว

ข้ามไปได้

3. ติดสนิทพึ่งพาพระเจ้(ข้อ 6-7)

6 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะกระทำให้ชนชาตินี้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก ซึ่งเราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายว่าจะยกให้เขา

7 เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด ระวังที่จะกระทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย เพื่อว่าเจ้าจะไปในถิ่นฐานใดเจ้าจะได้รับความสำเร็จอย่างดี

· ในการไปถึงดินแดนแห่งพระสัญญา พระเจ้ารู้ว่ามีปัญหามากมายที่โยชูวาต้องฟันฝ่าและเพื่อไม่ให้ท้อถอยใจ พระเจ้าจึงกำชับให้เขาเข้มแข็งและกล้าหาญ ด้วยการมีชีวิตที่มั่นคงในพระเจ้า

· ในชีวิตของเราก็เช่นกัน ไม่มีความสำเร็จใดได้มาอย่างง่ายๆ ดังนั้น เป้าหมายที่เราวางแผนจะทำในขวบปีข้างหน้าจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย หากเราปรารถนาจะไปถึงความสำเร็จนั้น เราจำเป็นต้องเข้ามาพึ่งพาพระเจ้ามากขึ้น มอบแผนการให้พระองค์สถาปนา งานของเราจะราบรื่น (สภษ.16:1-3) มีชีวิตแห่งการติดสนิทในพระเจ้า “ติดสนิทเบื้องบนจะเกิดผลเบื้องล่าง” ติดสนิทพระเจ้าจะเกิดผลมาก (ยน.15:4-7)

4. เข้าใจพระวจนะอย่างเข้าถึง (ข้อ 8)

8 อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี


พระเจ้าย้ำโยชูวาให้ยึดมั่น ไตร่ตรอง และใคร่ครวญพระวจนะตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่า

พระวจนะของพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญมาก

หากเราต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต เราควรเริ่มต้นและดำเนินชีวิตด้วยการให้หลักการ

พระวจนะนำหน้า เข้าใจพระวจนะของพระเจ้าอย่างเข้าถึง ใคร่ครวญพระคำอย่างสม่ำเสมอ

ในปีนี้ เราควรใส่ใจพระวจนะมากขึ้นโดยใช้เวลาศึกษาพระวจนะทั้งส่วนตัวและส่วนรวมให้

มากกว่าปีที่ผ่านมา

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น