30 มิถุนายน 2553

คิดนอกกรอบ คุยนอกสนาม World Cup 2010

(บทความนี้ลงในข่าวคริสตชน วันที่ 1ก.ค.2010)
http://groups.google.com/group/christianthai/browse_frm/thread/12a66dd14db8d5a7?hl=en

World cup 2010 Logo



สวัสดีครับ พี่น้องและเพื่อนๆ ทุกท่าน ตอนนี้กระแส World cup feverมาแรงมากจริง ๆ ขณะที่ผมเขียนบทความนี้ก็เข้าสู่รอบ8 ทีมสุดท้ายแล้ว อีกไม่นานเราก็คงจะทราบว่าชาติได้จะได้ครอบครองถ้วยฟุตบอลโลก 2010

ในครั้งนี้ผมจึงขอนำเสนอความคิดแบบนอกกรอบ ในมุมมองฟุตบอลโลกที่ไม่ได้เห็นในจอ TV และนำมาแบ่งปันพูดคุยกันแบบสบายๆ นอกสนาม มีสิ่งที่จะแบ่งปันให้ฟังดังนี้


เกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย

บทเพลงที่ได้ยินเสียงบ่อยที่สุดในช่วงนี้คือ Waka ! Waka ! This time for Africa. ของนักร้องสาวชาว Colombia นามว่า Shakira เนื้อหาประมาณว่า ลุยเลยๆ ได้เวลาสำหรับชาวแอฟริกันแล้ว ซึ่งเป็นเพลงประจำของเกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ เพราะเป็นการรอคอยมานานถึง 4 ปีจึงจะมีสักหน และมีการถ่ายทอดสดไปกว่า 215 ประเทศทั่วโลก

ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะไม่แพ้ฟุตบอลโลกครั้งไหน โดยเฉพาะเรื่องของเงินรางวัล โดยได้รับการยืนยันจาก เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ว่า ชาติที่ครองตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 จะได้รับเงินสูงถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,020 ล้านบาท) และทุกทีมที่เข้าร่วมชิงชัยในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย จะได้เงินทีมละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34 ล้านบาท) ด้วย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมทีม ยอดรวมเงินรางวัลสำหรับทั้ง 32 ชาติที่เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกปีหน้า มีทั้งหมด 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,280 ล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้นจากฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี ถึง 61 เปอร์เซ็นต์

โอ้โห ! เห็นเงินรางวัลก้อนโตแล้ว อดนึกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ทีมไทยจะได้ไปบ้างนะ แต่บอลโลกก็แค่สะใจ บอลไทยอยู่ในสายเลือด ก็คงต้องเชียร์กันต่อไป ในครั้งนี้คนไทยขอนั่งชมไปก่อน วันหนึ่งเราคงจะได้ไปเล่นกับเขาบ้างน่า


เกร็ดความรู้ฟุตบอลโลกในครั้งนี้มีดังนี้ครับ (ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/)

ฟุตบอลโลก 2010 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 ที่เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2010

สัญลักษณ์การแข่งขัน (Mascot)

ซากูมี, Mascot ของฟุตบอลโลก 2010 Mascot อย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ชื่อ ซากูมี (Zakumi) (เกิดเมื่อ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1994 (อายุ 16 ปี)), เป็นมนุษย์ครึ่งเสือดาวผมสีเขียว ชื่อของเขามีที่มาจาก "ZA", ซึ่งเป็นรหัสประเทศของประเทศแอฟริกาใต้, และ "kumi", ซึ่งมีความหมายว่า "สิบ" ซึ่งเป็นจำนวนภาษาที่หลากหลายในแอฟริกา สีนี้บ่งบอกถึงชุดที่ทีมเจ้าภาพใช้ทำการแข่งขัน คือ สีเหลือง และสีเขียว

วันเกิดของซากูมีใช้วันเดียวกับวันเด็กในประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งเป็นวันที่ทีมชาติแอฟริกาใต้จะทำการแข่งขันนัดที่ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม นอกจากนี้วันเกิดของซากูมิยังหมายถึงวันแรกของแอฟริกาใต้ที่มีการเลือกตั้งแบบไม่จำกัดสีผิวและเชื้อชาติ

คำขวัญของซากูมี คือ: "Zakumi's game is Fair Play." ซึ่งแปลว่า "เกมของซากูมิคือเกมที่ขาวสะอาด" โดยคำขวัญนี้ได้แสดงในป้ายโฆษณาดิจิทัลระหว่างการแข่งขันคอนเฟเดอเรชันคัพ 2009, และจะปรากฏอีกในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010

Mascot "Zakumi"



พิธีเปิดที่ยิ่งใหญ่อลังการ สีสันหลากหลายแตกต่าง แต่งแต้มความงดงามของมิตรภาพ ตามแบบฉบับแอฟริกา




นับตั้งวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดจะจัดขึ้น ที่เมือง Johannesburg ในสนาม Soccer city ซึ่งมีรูปทรง "คาลาบาช" หรือหม้อทำอาหารแบบแอฟริกา โดยสามารถจุผู้ชมได้ว่า 94,000 ที่นั่ง และ มีนักร้องผิวสีแนว R&B ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาอย่าง อาร์.เคลลี (R. Kelly) เป็นผู้ร้องเพลง Sign of a Victory เปิดงานอย่างเป็นทางการของมหกรรมฟุตบอลโลก

การแสดงที่สุดยอดอลังการ นำเสนอศิลปะและวัฒนธรรม เพลง และการเต้นรำสไตล์แอฟริกา โดยศิลปินชาวแอฟริกาใต้และชาติอื่นของทวีป โดยเฉพาะบรรดา 6 ชาติ อันประกอบด้วยแอฟริกาใต้, ไอวอรี่ โคสต์, กาน่า, ไนจีเรีย, คาเมอรูน และแอลจีเรีย ที่ได้เล่นรอบสุดท้ายครั้งนี้ การแสดงในรูปแบบชนพื้นเมืองชาวแดนกาฬทวีป ใช้นักแสดง แดนเซอร์ ศิลปินและนักดนตรีกว่า1,581 ชีวิต ภายใต้แนวความคิด “สีสันแห่งแอฟริกา” ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ ตลอดระยะเวลาพิธีเปิดทั้งสิ้น 30 นาที

นอกจากนี้สิ่งที่ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวแอฟริกัน คือการเป่าเครื่องดนตรีที่ชื่อว่า วูวูเซลา (vuvuzela,เป็นภาษาซูลู แปลว่า ทำให้เกิดเสียงดัง) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าคล้ายทรัมเป็ต เป็นเครื่องดนตรีและวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองแอฟริกาใต้ มีความยาวประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้ ยังใช้ในการเชียร์กีฬา ปัจจุบัน วูวูเซลานิยมทำจากพลาสติก เสียงของวูวูเซลา เป็นไปในลักษณะดังกึกก้อง คล้ายเสียงร้องของช้าง เสียงนี้จะดังระงมตลอดการแข่งขันใครั้งนี้



มิตรภาพเหนือพรมแดน

ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของทวีปแอฟริกาที่ได้จัด ทำให้เป็นการยืนยันว่ากีฬาฟุตบอลเป็นสื่อมิตรภาพไปสู่นานาประเทศ
นอกจากนี้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ยังมีกิจกรรม Fifa World Cup Trophy Tour
ถ้วย FIFA World Cup นับว่าเป็นถ้วยที่มีคุณค่าสูงสุดในวงการกีฬาฟุตบอลของโลก ได้นำถ้วยเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้แฟนกีฬาฟุตบอลทั่วโลกได้ร่วมชื่นชมถ้วยฟุตบอลโลกอย่างใกล้ชิด เดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ 86 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ก่อนเดินทางถึงประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 รวมการเดินทางของถ้วยรางวัลทั้งหมด 225 วัน

สำหรับประเทศไทยจัดให้แฟนบอลชาวไทยได้ชื่นชมในวันที่ 21-23 มกราคม 2553 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์
สยามพารากอน โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน และ เป็นคนเดียวในประเทศที่ได้สัมผัส ถ้วยบอลโลก เพราะ ผู้ที่สามารถจับถ้วยด้วยมือเปล่านั้น ต้องเป็นทีมแชมป์โลก หรือ ผู้นำของแต่ละประเทศเท่านั้น!

ใครอยากจะได้ชูถ้วย Fifa World Cup Trophy ต้องเล่นฟุตบอลให้เก่ง หรือ เล่นการเมืองเป็นนายกฯนะครับ




ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ผมคิดว่าผู้เล่นแต่ละทีมเล่นได้มีน้ำใจนักกีฬามาก สมกับคำขวัญของซากูมี คือ: "Game is Fair Play." สังเกตจากจำนวนใบเหลืองใบแดงน้อย และไม่ค่อยมีจังหวะที่เล่นรุนแรงเกินเหตุ เมื่อเทียบกับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
นอกจากนี้มีการรณรงค์เรื่องการให้ความเคารพผู้ตัดสินมากเป็นพิเศษ จะมีป้ายที่สนามว่า Respect ซึ่งครั้งนี้ต้องขอชม
FIFA และแต่ละทีมให้ความร่วมมือกันอย่างดี เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่เยาวชนดูอยู่ทั่วโลก

แต่การแข่งขันในครั้งนี้ เป็นผู้ตัดสินเองที่ทำหน้าที่ผิดพลาดในหลายนัดด้วยกัน ส่งผลให้ทีมขวัญใจชาวไทยอย่างทีมสิงโตคำรามอังกฤษต้องตกรอบ เพราะยิงเข้าประตูไปแต่ไม่ได้ประตู พอเอาเทป VDO มาดูอีกครั้งจะเห็นได้ว่าผู้ตัดสินทำผิดพลาดแบบต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เห็นที FIFA ต้องทบทวนเรื่องการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินแล้วละครับ เพราะมีความผิดพลาดบ่อยครั้งส่งผลใหญ่หลวงต่อการแข่งขัน

ต้องขอขอบคุณบริษัท RS ที่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดแบบไม่มีโฆษณาให้รำคาญใจ ครบทั้ง 64 นัด ซึ่งน้อยประเทศจะมีโอกาสแบบประเทศไทยเรา แม้แต่นักท่องเที่ยวหลายประเทสก็เดินทางมาเมืองไทย เพื่อดูถ่ายทอดฟุตบอลโลก แบบนี้การท่องเที่ยวครึกครื้นเศรษฐกิจคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าได้ลืมตาอ้าปากได้ หลังจากเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา แหม! อยากจะให้มีบ่อยๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย


ผลการแข่งขันที่เหนือความคาดหมาย


การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นที่เป็นที่กล่าวถึงกันก็คือ "ผลการแข่งขันที่เหนือความคาดหมาย" หลายทีมดังต้องตกรอบแรก เช่น อิตาลี แชมป์เก่า ฝรั่งเศส รองแชมป์ นั่นมาจากความไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นักฟุตบอลประท้วงโค้ช ไม่ยอมซ้อม และอายุของผู้เล่นที่เริ่มโรยรา เกิดปัญหาบาดเจ็บ และร่างกายไม่พร้อม

ทีมจากเอเชียของเรา 2 ทีมที่ทำผลงานน่าประทับใจ คือ โสมขาว เกาหลีใต้ และ Blue Samurai ญี่ปุ่น ได้เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้ FIFA เพิ่มโควต้าให้ทีมจากเอเชียจากเดิม 4 ทีมเป็น 5 ทีม ครั้งหน้าไทยเราจะได้ลุ้นมากขึ้น

แต่ที่น่าผิดหวังคือ ทีมจากทวีปแอฟริกา เจ้าภาพจัดการแข่งขัน ตกรอบเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพ แอฟริกาใต้,ไอวอรี่ โคสต์,ไนจีเรีย,คาเมอรูน และแอลจีเรีย จะมีเพียงทีมดาวดำ กาน่า ที่ฉายแววโชว์ฟอร์มหล่อหลบใน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แบบเข็มขัดสั้น คาดไม่ถึงซะงั้น
นี่แหละน่า กีฬาฟุตบอล ลูกกลมๆ มีลมอยู่ข้างใน เอาแน่นอนไม่ได้ โดยเฉพาะลูกฟุตบอล Jabulani ที่ใช้แข่งขันครั้งนี้ เป็นฝันร้ายสำหรับผู้รักษาประตูจริงๆ ผู้รักษาประตูที่ฝีมือดี ต้องมาเสียท่ากับลุูกบอลนี้ไปหลายประตู โดยเฉพาะ Robert Green นายประตูอังกฤษที่รับบอลพลาดหลุดเข้าประตู


เหตุผลการแข่งขันที่เหนือความคาดหมายเพราะใครที่เล่นการพนันก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

สำหรับฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ผมในฐานะคริสตชน และเป็นแฟนบอลคนหนึ่งก็อยากจะหนุนใจให้ข้อคิดในการดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ให้สนุกและได้สาระ ดังนี้ครับ

1.บริหารเวลาให้เหมาะสม ดูได้ไม่เสียการเสียงาน

สิ่งสำคัญก็คือเวลาการแข่ง วันหนึ่งมีมากสุด 3 ช่วงคือ 18.30 , 21.00 และ 01.30 หนุ่มๆสาวๆ ที่มีเรียนหรือทำงาน ต้องชั่งใจกันหน่อย อาจจะแก้ด้วยการนอนสะสมไว้ แต่ปัญหาใหญ่จริงๆ อยู่ที่ตีหนึ่งครึ่ง แนะนำว่าช่วงดึกนี้เลือกดูเฉพาะอยากดูจริงๆ ดีกว่า ตั้งนาฬิกาปลุกมาอีกตอนตีหนึ่งครึ่ง อย่างนี้ก็พอไหวอยู่ อีกวิธีที่รักษาสุขภาพตัวเองคือ การดูแบบวันเว้นวันก็ได้ หรืออาจจะดูสรุปข่าว หรือ Hi-light การแข่งขันจาก Website ต่างๆ เช่น http://www.fifa.com ก็ได้ครับ

2.ดูบอลอย่างมีศิลป์ เล่นบอลอย่างมียุทธศาสตร์ และเชียร์บอลอย่างมีน้ำใจนักกีฬา

ดูบอลอย่างมีศิลป์ คือ ดูให้เป็นกีฬา ไม่ใช่การพนัน ไม่อย่างนั้นหมดสนุก ทุกข์สงัด ทีมโปรดที่เราเชียร์จะกลายเป็นทีมโกรธที่เราชัง ดูทีมฝรังเศส แล้วแพ้ก็จะกลายเป็น เศษฝรั่ง,อิตาลีกลายเป็นอีตารั่ว,โปรตุเกส กลายเป็น โปรตูกร่อย

นี่คือผลเสียของการเล่นการพนัน ได้มาก็เสียไป ไม่มีใครรวยได้เพราะการพนัน

ดูบอลอย่างมีศิลปะ คือ ดูทักษะของ นักฟุตบอลที่ชอบ ไม่บ่อยเลยที่นักเตะระดับสุดยอดของโลกมารวมทีมสาดแข้งกันมากมายขนาดนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะจับตาดูเหล่านักเตะบิ๊กเนม เพื่อเราจะนำมาใช้ในการเล่นฟุตบอลของเราอย่างมียุทธศาตร์

เล่นบอลอย่างมียุทธศาตร์ คือ การเก็บข้อมูลศึกษาพัฒนาการเล่นฟุตบอลของเรา เพราะเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย จากโค็ชทีมต่างๆ ที่วางแผนการเล่น การจัดทีม และในเรื่องสีสันต่างๆ กองเชียร์,สนามแข่งขัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราสามารถเรียนรู้ได้จากการเล่นที่มีสาระและทำให้เพลิดเพลิน เรียกว่า "Plearn (เพลิน)" คือ Play (เล่น) สนธิคำกับคำว่า Learn (เรียน)

สิ่งที่ผมได้รับข้อคิดจากฟุตบอลโลกครั้งนี้ คือ

1.ทำงานเป็นทีม นำมาซึ่งความสำเร็จ ไม่มี One man Show มีแต่ Teamwork - Together We Will Succeed.
2.วางผู้เล่นให้เหมาะสมกับตำแหน่ง เชื่อฟังเล่นตาม Tactic ของ Coach ทำให้ทีมประสบชัยชนะ
3.ความขยันทุ่มเท ฝึกซ้อม ร่างกายพร้อม นำมาซึ่งชัยชนะ
4.รู้เขา รู้เรา ศึกษาทีมคู่แข่ง ตั้งรับให้แน่น เปิดเกมรุกให้แม่น นำมาซึ่งชัยชนะ
5.ความผิดพลาดเป็นครู เรียนรู้เพื่อพัฒนา นำมาซึ่งความสำเร็จ หลายทีมพ่ายแพ้นัดแรก แต่แก้ตัวได้ในนัดต่อไป
เพราะเรียนรู้ความผิดพลาด และ Coach เห็นปัญหารีบแก้ไข


เชียร์อย่างมีน้ำใจนักกีฬา

เชียร์อย่างไรให้มันถึงใจ คือ รวมตัวเชียร์กันไปพร้อมๆ เพื่อนคอบอลด้วยกันเลย เพราะดูอยู่หน้าจอคนเดียว มันไม่มันสุดๆ เท่าร่วมเชียร์กับเพื่อนๆ อยู่แล้ว ซื้อเสื้อทีมต่างๆ เพื่อเพ่มสีสันในการเชียร์

การเชียร์แบบมีน้ำใจนักกีฬาคือ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไม่แซวกันทำให้ผิดใจ ไม่ทับถมทีมที่แพ้ เพราะไม่มีใครแพ้ตลอด เราชนะวันหนึ่งอาจจะแพ้ก็ได้
เชียร์ให้สร้างสรรค์ เสริมสร้างมิตรภาพ เสื้อสีไหนก็คนไทยด้วยกันนะ จะสีเหลืองบราซิล หรือ สีแดง สเปน ไม่ใช่ใครอื่น คนไทยเหมือนกัน ปรองดองกันไว้ดีกว่า

3.เปิดประตูสู่การประกาศ เป็นพยาน

การแข่งขันฟุตบอลโลกถือเป็นโอกาสที่ดี ที่คริสตชนอย่างเราจะได้พูดคุยกับผู้ที่สนใจ คอบอลเหมือนกัน คนเหล่านี้เปิดใจที่จะรับฟังข่าวประเสริฐ ฉะนั้นเราควรจะใช้เป็นประตู เปิดโอกาส ประกาศ เป็นพยาน ขอบพระคุณพระเจ้าที่ คณะกรรมการเพื่อการประกาศและเพิ่มพูนคริสตจักร (กปพ.) ได้จัดทำ DVD The Prize: Chasing the Dream รางวัลจากการตามหาความฝัน เป็นคำพยานชีวิตนักฟุตบอลคริสเตียน เช่น คำพยานของ Kaka (ที่เคยลงในบทความไปแล้ว)หรือนักฟุตบอลคนอื่นๆ เป็นต้น
สามารถติดต่อได้ที่ http://thaivision2010.com/about-us/about-tec.php หากต้องการ DVD เพื่อใช้ในการประกาศ



อย่าลืมหากดูฟุตบอลหรือไปเล่นฟุตบอลอย่าลืมเป็นพยาน นำคนมารู้จักความรักพระเจ้านะครับ

4.รักษาสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย

เมื่อชอบดูฟุตบอลโลก ต้องอดหลับอดนอน สิ่งที่สำคัญคือรักษาสุขภาพ ต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นออกกำลังกายเช่น ไปเล่นกีฬา หลีกเลี่ยงของที่ทำให้เสียสุขภาพ เช่น ดื่มเหล้า เบียร์ เพื่อเชียร์บอล หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำที่สะอาด รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์


5.เสริมสร้างสุขภาพฝ่ายวิญญาณ

นอกจากรักษาสุขภาพฝ่ายกายภาพแล้ว ต้องเสริมสร้างสุขภาพฝ่ายวิญญาณด้วยนะครับ บางท่านตื่นมาดูบอลกลางดึก ก็ต้องตื่นมาอ่านพระคัมภีร์เฝ้าเดี่ยวด้วยนะครับ อย่าเอาแต่ดูบอลจนเสียการงานฝ่ายวิญญาณ

1ทิโมธี 4:7-8
7...จงฝึกตนในทางธรรม
8 เพราะถ้าการฝึกทางกายนั้นมีประโยชน์อยู่บ้าง ทางของพระเจ้าก็มีประโยชน์ในทุกทาง เพราะทรงไว้ซึ่งประโยชน์สำหรับชีวิตปัจจุบันและชีวิตอนาคตด้วย


1โครินธ์ 9:24-26
24 ท่านไม่รู้หรือว่าคนเหล่านั้นที่วิ่งแข่งกันก็วิ่งด้วยกันทุกคน แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว เหตุฉะนั้นจงวิ่งเพื่อชิงรางวัลให้ได้
25 ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบ เขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย
26 ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้อย่างนักมวยที่ชกลม


อัตรทูตเปาโล ยังหนุนใจให้ฝึกตนทั้งทางกาย และชีวิตฝ่ายวิญญาณ เพื่อประโยชน์สำหรับเรา นอกจากนี้ท่านยังเปรียบเทียบชีวิตของเราต้องแข่งขันกับตนเอง มีระเบียบวินัยในชีวิต มีเป้าหมายเพื่อรับรางวัลของพระคริสต์

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อหมดเวลาการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ทีมที่พร้อมที่สุดจะได้ชูถ้วย FIFA World Cup แต่ในชีวิตของเราเมื่อแข่งขันจนถึงที่สุด เราจะได้รับรางวัลที่พระเยซูคริสต์เตรียมไว้บนสวรรค์สำหรับเรา

ฟิลิปปี 3:14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ


จบฟุตบอลโลกจะนำข้อคิดนอกกรอบ มาคุยนอกสนามใหม่นะครับ ขอพระเจ้าอวยพระพรนะครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ แวะเยี่ยมฟังเพลงนมัสการ อีสานที่ http://missionkorat.blogspot.com/ บล็อกเล็กๆของผมด้วยนะครับ

    ขอบคุณพระเจ้าที่พบกับ คริสตจักร ถุงหนังใหม่ด้วยกัน

    ตอบลบ