12 มิถุนายน 2553

Kaka นักฟุตบอลคริสเตียน



(บทความนี้ลงในข่าวคริสตชน เมื่อวันที่ 21มิ.ย.2010)http://groups.google.com/group/christianthai/browse_frm/thread/be087808e84cffc1#

บอลโลกเริ่มแล้ว วันนี้ขอแนะนำทีมฟุตบอลหนึ่งที่ผมเชียร์ทุกครั้งในบอลโลก คือ บราซิล ในครั้งนี้ขอแนะนำให้รู้จักนักเตะสุดหล่อคนหนึ่ง คือ

ริคาร์โด้ อิเซคสัน ดอส ซานโตส ไลเต้ (Ricardo Izecson dos Santos Leite) หรือรู้จักกันในชื่อ ริคาโด้ กาก้า (Ricado Kaká) เป็นนักฟุตบอลทีมชาติบราซิล ปัจจุบันสังกัดสโมสรฟุตบอลรีลมาดริด สวมเสื้อหมายเลข 8


ริคาโด้ กาก้าเกิดเมื่อ 22 เมษายน ค.ศ. 1982ในบราซิเลีย ประเทศบราซิล

คำพยานชีวิต kaka

เนื่องจากเกิดและโตในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ แตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆ ในทีมที่มาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะยากจน แต่ความแตกต่างทางฐานะก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดเนื่องจากกาก้า เองก็มีความรักในนักฟุตบอลอาชีพ และทุ่มเทเพื่อความฝันไม่น้อยกว่าใคร

ในกันยายน ปี 2000 เมื่อ กาก้าอายุได้ 18 ปี เขาเกือบจะจบเส้นทางลูกหนังของเขาไปแล้ว เมื่อประสบอุบัติเหตุในขณะที่กระโดดน้ำมาจากสปริงบอร์ด แต่ลงผิดจังหวะ ทำให้ข้อกระดูกสันหลังแตกจนทำให้เกือบเป็นอัมพาต ในช่วงนั้นเขา พักเยียวยาตัวเอง และเมื่อวันอาทิตย์มาถึง ทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าโบสถ์บ่อยกว่าเดิม

หลังจากนั้น1 ปี อาการบาดเจ็บดังกล่าวก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง และกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ในเกม ทอร์เนโร่ ริโอ นัดชิงชนะเลิศ โดยโค้ชส่งเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วง 14 นาทีสุดท้าย ที่ทีมต้นสังกัด เซาเปาโล ตามหลังคู่แข่งอยู่ 1ประตู และจากการตัดสินใจของโค้ช เซาเปาโล ที่ส่ง กาก้า ลงสนามนั้น ผู้บรรยายในสนาม Commenter ที่กำลังบรรยายเกมอยู่ถึงกับพูดออกมาว่า “ โค้ช เซาเปาโล นั้นต้องบ้าแน่ๆ “ แต่หลังจากนั้น 2 นาที กาก้า ก็จัดการปิดปากผู้บรรยายรายนี้ด้วยการยิง 2ประตูช่วยให้ทีมพลิกมาคว้าชัยได้อย่างเหลือเชื่อ กาก้า ให้เหตุผลการกลับมาในครั้งนี้ว่า “ เป็นผลมาจากการที่เขาเข้าโบถส์บ่อย จนได้รับของขวัญจากพระเจ้า “

และหลังจากวันนั้นชีวิตก็ไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะพระเจ้าที่เขาเชื่อมีแผนการที่ดีต่อเขา จากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้ความเชื่อ และวางใจของเขาที่มีต่อพระเยซูยิ่งเพิ่มพูน จนกลายเป็นความเชื่อที่เข้มแข็ง จะเห็นได้ว่า เมื่อทุกครั้งที่เขายิงประตูได้ เขาจะชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระเจ้าที่ช่วยเหลือการยิงแต่ละลูกของเขา และมากไปกว่านั้น หากแมชท์นั้นเป็นการแข่งขันในระดับสำคัญของประเทศ สโมสร หรือระดับโลก เช่น ในปี 2004 คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา กับเอซี มิลาน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 2002 ให้กับทีมชาติบราซิลที่ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น (นักฟุตบอลทีมชาติบราซิลชุดนี้ เกินครึ่งเป็นคริสตเตียนที่เข้มแข็ง) เป็นต้น

เขากล้าแสดงออกมากกว่าใครๆด้วยการถอดเสื้อของโมสรออก แล้วโชว์เสื้อยืดอีกตัวที่เขาสวมไว้ข้างใน ซึ่งมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า

“ I Belong to Jesus หมายถึง ชีวิตผมเป็นของพระเยซู”

สิ่งนี้แสดงถึงจิตใจภายในตัวกาก้าว่า เขามีความมั่นคงในพระเยซู เป็นคริสตเตียนแท้ ที่กล้าจะแสดงจุดยืนในความเชื่อของเขา และนอกจากนี้ยังสามารถพิสูจน์ได้อีกว่าเขามีชีวิตส่วนตัวกับพระเจ้าอย่างแน่นแฟ้น จนพระเจ้าอวยพรเขาให้เป็นหัวมิใช่หาง ตามที่พระองค์ทรงสัญญาต่อคนที่รักพระองค์ ไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ..... "จะเกิดผลดีในทุกสิ่ง"....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น