10 กรกฎาคม 2553

ป้ายบอกทางชีวิต

บทความหมวด:คิดนอกกรอบ
ลงข่าวคริสตชน 11 ก.ค.2010
(http://groups.google.com/group/christianthai/browse_frm/thread/2ca6b9c858562bae?hl=en)

สวัสดีครับพี่น้องที่น่ารักทุกท่าน ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้รถใช้ถนน และต้องเดินทางบ่อยๆ ช่วงนี้หน้าฝน ฝนตกหนักและทำให้ถนนลื่นต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถมากขึ้น หวังว่าพี่น้องที่ใช้รถจะขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้นกว่าปกติ
แม้ว่าเรามีพระเจ้าและพระองค์ให้เรามีทูตสวรรค์ประจำตัวคอยปกป้องเราแต่เราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาก่อน(Safety First) อย่าขับเร็วเกินไป มีข้อคิดเตือนใจดังนี้ว่า
ขับความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม. ทูตสวรรค์รายล้อมอยู่รอบตัวเรา
ขับความเร็วเกิน 80กม./ชม. ทูตสวรรค์คอยมองดูอยู่ห่างๆ
ขับความเร็วเกิน 100 กม./ชม.ทูตสวรรค์ไปรอเราอยู่บนสวรรค์


ผมได้ขับรถได้เห็นป้ายจราจรต่างๆ หากเราทุกคนขับรถถูกกฎช่วยลดอุบัติเหตุ การจราจรคงไม่จราจลเหมือนทุกวันนี้ ขับรถดีมีน้ำใจก็คงจะสบายใจทั้งผู้ขับและผู้ใช้ถนนด้วยเช่นกัน

หากเปรียบเทียบชีวิตของเราเป็นการเดินทาง เราทุกคนคงปรารถนาที่จะไปให้ถึงซึ่งจุดหมาย ป้ายบอกทางชีวิต เมื่อเผชิญสถานการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้เดินทาง เพื่อนำทาง และเป็นสัญญาณเตือนให้ระวัง เพื่อเดินทางไปสู่จุดหมายโดยสวัสดิภาพ

ดังนั้นพระวจนะของพระเจ้าจึงเปรียบเสมือนแผนที่บอกทาง และพระวิญญาณเปรียบเสมือนผู้นำทาง (Navigator)ที่ส่งสัญญาณ GPS (God Provides Salvation) เชื่อมต่อจากพระบิดาบนสวรรค์นำทางสู่ความรอด

ดังนั้นเราต้องเริ่มให้ถูกทาง ไปกับคนที่ถูกต้อง และจะพบหนทางแห่งความจริง นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์

ยอห์น 14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา"


เราจึงพร้อมจะเดินทางชีวิตไปกับพระองค์ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
สำรวจชีวิตก่อนออกเดินทาง


อย่าเพิ่งรีบเดินทาง ไปเร็วอาจจะไปไม่ถึง ต้องดูกาลเวลาที่เหมาะสมด้วยสัญญาณไฟจราจรก่อน



ไฟแดง หยุดตรวจสำรวจชีวิตก่อนเดินทาง ตั้งสติก่อนสตาร์ท เพื่อไม่ผิดพลาด สำรวจชีวิตฝ่ายวิญญาณ อะไรบ้าง

ตรวจตราเติมน้ำมันแห่งการเจิม เป็นเชื้อเพลิงการเดินทางชีวิต
ตรวจเช็คลมยาง เติมลมพระวิญญาณฯให้เต็ม เพื่อการขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและปลอดภัย (ยอห์น 3:8)
ตรวจเช็ดหม้อน้ำ เติมน้ำแห่งชีวิตธำรงอยู่อย่างเต็มล้น ไม่ให้เหือดแห้ง เครื่องยนต์ชีวิตจะได้ไม่พัง (ยอห์น 7:38)
ตรวจเช็คแบตเตอร๊่ ชาร์จไฟไว้เสมอไม่ดับพระวิญญาณ (1เธสะโลนิกา 5:19)ไม่อย่างนั้น "ไฟแบตหมดรถไม่ไป"
ทิ้งสิ่งที่ถ่วงรถ คือบาป การเดินทางชีวิตจึงมีอุปสรรค จะได้ไปได้เร็วมากขึ้นและประหยัดพลังงาน
ฮีบรู 12:1 ...ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา

ก่อนออกเดินทางอย่าลืมคาดความจริงเป็นเข็มขัดนิรภัย (safety belt) (เอเฟซัส 6:14)
ที่สำคัญอย่าลืมพาเพื่อนร่วมทางไปด้วย เพื่อคอยช่วยเหลือกัน ไปคนเดียวไปได้เร็วแต่ไม่ไกล ไปด้วยกันไปถึงจุดหมาย

ไฟเหลือง เฝ้าระวังรักษาใจก่อนเดินทางชีวิต
สุภาษิต 4:23 จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้านเพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ

ไฟเขียว ไปตามทางอย่างมั่นใจ และมั่นคง
สดุดี 119:33 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสอนทางกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะรักษาทางนั้นไว้จนสุดปลาย

ป้ายบอกทางชีวิต ใคร่ครวญคิดก่อนตัดสินใจในทุกสถานการณ์


"ทางแคบ นำสู่ชีวิต ทางที่คิดว่าถูกกลับผิด"
มัทธิว 7:13-15
13 "จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก
14 เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย





"ถึงทางแยก ต้องตัดสินใจ เลือกทางวางใจ พระเจ้า และทางเราจะไปทางอย่างราบรื่น"

มาถึงจุดนี้ต้องมีพระวจนะในการตัดสินใจ ยอมให้พระเจ้านำทางไปสู่ความจริงอย่างถูกต้องและราบรื่น
สุภาษิต 3:5-6
5 จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง
6 จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น




"ห้าม U-Turn เดินทางไปให้ถึงฝัน ไม่หันหลังกลับ"
มุ่งหน้าอย่างแน่วแน่ ท้อแต่ไม่ถอย ล้มแต่ไม่เลิก หนทางชีวิตติดตามพระคริสต์ไม่คิดหันหลังกลับ

ลูกา 9:62 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "ผู้ใดเอามือจับคันไถแล้ว หันหน้ากลับเสีย ผู้นั้นก็ไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า"

"พบทางตัน ทุกหนทางปัญหาก็มีทางออกเสมอ"








"อย่ามัวแต่วนเวียนปรักปรำกับความผิด แต่จงคิดหาทางออกของปัญหา"
สุภาษิต 16:1-3
1 แผนงานของดวงความคิดเป็นของมนุษย์ แต่คำตอบของลิ้นมาจากพระเจ้า
2 ทางทั้งสิ้นของมนุษย์ก็บริสุทธิ์ในสายตาของเขาแต่พระเจ้าทรงชั่งจิตใจ
3 จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้


"อย่าปล่อยให้มารแทรกแซงความคิด"



เขตห้ามมารแทรกแซง ขอน้อมนำความคิดไว้ใต้พระคริสต์ด้วยการเชื่อฟังและชีวิตจะมีสันติสุข
2โครินธ์ 10:4-5
4 เพราะว่าศาสตราวุธของเราไม่เป็นฝ่ายโลกียวิสัย แต่มีฤทธิ์เดชจากพระเจ้า อาจทำลายป้อมได้
5 คือทำลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์



"เหนื่อยนักก็พักใจไว้กับพระคริสต์"
ฟิลิปปี 4:4-7
4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด
5 จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว
6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ
7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์


อย่าขับรถจนเหนื่อยล้าต้องพักรถ พักการเดินทางชีวิต พักสงบในพระองค์ ระวังอย่าฝืนขับจน "หลับในฝ่ายวิญญาณ"

(spiritual slumber)หลักการของพระเจ้าในชีวิตคือให้เราตื่นตัวเสมอ และมีเวลาพักสงบวางใจในพระองค์
พระองค์จึงกำหนดการหยุดพักไว้เพื่อเราจะเข้ามาแสวงหาพระองค์

เดินหน้าสู่จุดหมาย มีวิสัยทัศน์ที่ไกลและไปให้ถึง

เดินทางอย่างมีจุดหมาย วิ่งแข่งอย่างมีเป้า แข่งขันเพื่อได้รับรางวัล

1โครินธ์ 9:25-26
25 ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบ เขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย
26 ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้อย่างนักมวยที่ชกลม


ดังนั้นการเดินทางชีวิตของเราจะผิดพลาด ไปตามแผนการแต่ขอให้พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทางไปสู่หนทางของเราทุกก้าวเดิน

แม้แผนการไม่เป็นไปดังใจหมาย แม้ความหวังสูญสลายมลายสิ้น
แต่ฉันยังวางใจฝากชีวิน พระเจ้านำหน้าทุกถิ่นที่ก้าวไป

ป้ายบอกทางชีวิต เป็นสิ่งเราควรตระหนักในทุกสถานการณ์ชีวิต ขอให้เราหยุดคิด เอาใจใส่ไม่ละเลย ป้ายเตือน และไปตามทางที่ป้ายบอก เพื่อพบทางที่เหมาะสมในชีวิตของเรา ขอพระเจ้าให้เราไปสู่จุดหมาย และเดินทางชีวิตโดยสวัสดิภาพ

Bon Voyage.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น