จากคำเผยพระวจนะ เป็นการจุดไฟเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูในประเทศไทย การจุดไฟจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ คนยิวจะจุดไฟที่คันประทีบเพื่อเป็นการเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการพักสงบในวันสะบาโตซึ่งพวกเขาจะใช้เวลาสามัคคีธรรมกับพระเจ้าและสังสรรค์กันในครอบครัว
ช่วงเวลาในเทศกาลต่างๆ จึงเป็นการนัดพบเพื่อจะมีประสบการณ์ใหม่ๆกับพระเจ้า
ในช่วง เทศกาลปัสกา(Passover) ภาษาฮีบรู คือ “เพสัค(Pesach)” ในวันที่ 25 มี.ค.-2 เม.ย.13 ที่ผ่านมา เราได้สัมผัสถึงความรักของพระคริสต์ ชีวิตและชัยชนะ เป็นช่วงเวลาแห่งการระลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ยอมสิ้นพระชนม์ที่กางเขนเพื่อเราและพระองค์ได้ฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมาจากความตายเพื่อประกาศชัยชนะเหนือความบาปความตาย
เมื่อศึกษาจากพระคัมภีร์ สิ่งที่เชื่อมโยงกับปัจจุบันคือ นับจากเทศกาลปัสกา หลังจากที่พระเยซูคริสต์ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระองค์ทรงอยู่กับสาวก 40 วัน และทรงสอนเขาหลังจากที่ทรงฟื้นพระชนม์ (กจ.1:3) ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสวรรค์ พระองค์ทรงกำชับให้รอคอยการเสด็จมาขององค์พระผู้ช่วย (กจ.1:4-8)
สิ่งนี้เป็นไปตามคำพยากรณ์ของ โยเอล 2:28-29 และสำเร็จในพระธรรมกิจการฯ
เหล่าสาวกจำนวน 120 คน มารวมตัวกันที่ห้องชั้นบนด้วยใจหนึ่งเดียวกัน อธิษฐานกันทุกวันก่อนที่พระวิญญาณจะเทลงมาในทศกาลเพ็นเทคอสต์ (Pentecost) หรือภาษาฮีบรู เรียกว่า ชาวูโอต( Shavuot) (กจ.1:14,2:1) เห็นได้ว่าเมื่อพระวิญญาณฯเทลงมา คริสตจักรได้รับใช้ในรูปแบบที่เปลี่ยนไปด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณฯ (กจ.6:4-8) รับใช้อย่างเกิดผล นั่นเป็นสัญญาณแห่งการจุดไฟแห่งการฟื้นฟูของคริสตจักรที่เริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม แคว้นยูเดียและลามไปท่วมโลก
สิ่งเหล่านี้เป็นภาพจริงที่สะท้อนออกจากภาพเงา(Type)ในพระธรรมอพยพบทที่ 19 และ 20 ได้บรรยายถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์ แก่นสาระสำคัญของพระธรรมอพยพ คือ
ปัสกาคือการก้าวออกมาจากความเป็นทาสในอียิปต์แลในวันที่ 50 พวกเขาได้รับประสบการณ์ในการที่พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ 10 ประการแก่พวกเขาให้ถือรักษา
ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม คือ พระบัญญัติ 10 ประการแห่งความจริง ภาพจริงที่ปรากฏให้เห็นคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ประสาทชีวิต (1 คร. 15:45)
นี่คือจุดบรรจบของคำเผยพระวจนะที่สำเร็จเป็นจริง ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม มองไปสู่อนาคตด้วยความเชื่อและความหวังใจเล็งถึงพระคริสต์ที่จะมา แต่ภาพจริงที่ปรากฏในพระคัมภีร์ใหม่สำเร็จเป็นจริงตามคำเผยพระวจนะผ่านทางพระคริสต์ที่ทำสำเร็จแล้วที่ไม้กางเขน และพระองค์ประทานพระวิญญาณในเทศกาลเพ็นเทคอสต์ เมื่อเรามองย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ที่ไม้กางเขนด้วยความเชื่อและความหวังใจ เราจะซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ ที่เราได้รับพระเมตตา คือ การละเว้นสิ่งที่เราต้องได้รับคือความบาปความตาย และพระคุณในสิ่งที่เราไม่สมควรได้รับคือความรอด (รม.5:8) ขอบคุณสำหรับสิ่งที่ต้องตั้งอยู่ในชีวิตของเราคือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก ( 1 คร.13:13)
เทศกาลเพ็นเทคอสต์ ที่เรียกว่า “ชาวูโอต” “Shavuot” นี่เป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกเทศกาลนี้ในหนังสือโทราห์ (อพย. 34:22 ;ฉธบ.16:10) ที่เรียกว่า “เทศกาลสัปดาห์” เพราะมีขึ้นเป็นเวลา 7 สัปดาห์หนึ่งวันหลังจากเทศกาลปัสกา (7X7=49 วัน) เป็น เทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บเกี่ยว ที่ใช้ชื่อนี้เพราะเทศกาลเพ็นเทคอสต์แสดงถึงการสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ (อพย.23:16)
เทศกาลปัสกา มีการถวายผลแรกซึ่งเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแต่ในเทศกาลสัปดาห์ พวกเขาได้เก็บเกี่ยวอย่างเต็มขนาดมาถวายให้กับพระเจ้า(ลนต.23:1-11)
เทศกาลปัสกา รับประทานขนมปังไร้เชื้อเป็นเสมือนการชำระชีวิตเป็นเตรียมชีวิตให้บริสุทธิ์ กำจัดเชื้อที่ไม่ดีออกจากชีวิต( 1คร.5:7-8)
แต่ในเทศกาลสัปดาห์ คนอิสราเอลได้รับประทานพืชพันธุ์ธัญญาหารและขนมปังที่มีเชื้อที่ฟู เล็งถึงเชื้อการฟื้นฟูของอาณาจักรของพระเจ้า (ลนต.23:15-20,มธ.13:33)
การฟื้นฟูใหญ่ในชีวิตของเราจะเต็มขนาดเมื่อผ่านช่วงเวลาแห่งการเตรียมชีวิต !
คำว่า เพ็นเทคอสต์(Pentecost) ชื่อนี้เป็นคำภาษากรีกซึ่งพวกเราคริสเตียนส่วนมากรู้จักดี เป็นคำที่มาจากคำแปลภาษากรีกใน กจ.2:1 ,
กจ. 20:16
และ 1 คร. 16:8 คำกรีก “pentekostes” หมายความว่า ห้าสิบ ที่ใช้คำนี้เพราะ shavuot
เกิดขึ้นหลังจากเทศกาลปัสกา 50
วัน
หากเรานับเวลาหลังจากวันแรกของเทศกาลปัสกามา 50 วัน ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 14 พ.ค.13 เราจะได้เฉลิมฉลองเทศกาลเพ็นเทคอสต์ การเสด็จลงมาของพระวิญญาณฯ เป็นการเริ่มต้นจุดไฟแห่งช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวพระพรซึ่งเป็นผลแรกของการฟื้นฟูคริสตจักรในสมัยแรก
นอกจากนี้สิ่งที่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญคือช่วง 40 วันหลังจากเทศกาลปัสกา พระเยซูคริสต์ทรงอยู่ ทรงอยู่กับสาวก 40 วัน และในวันที่พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ (Ascension day) ทรงกำชับถึงพระมหาบัญชาให้กับเหล่าสาวก (มธ.28:19-20)
ในปี
2013 วันที่รำลึกถึงพระเยซูคริสต์ขึ้นสวรรค์ (Ascension day)จะตรงวันที่คือในวันที่ 7 พ.ค.13 ซึ่งเรามีการจัดค่ายประจำปี 2013 "Revival
Fire -ไฟแห่งการฟื้นฟู" คริสตจักรแห่งพระบัญชา ในช่วงวันที่ 4-7 พ.ค.13
ผมเชื่อว่าค่ายครั้งนี้จะเป็นการจุดไฟแห่งการฟื้นฟู ขอให้เราได้รักษาชีวิตในการรักษาไฟแห่งการทรงสถิตและส่งต่อการฟื้นฟูไปสู่ผู้อื่น ไม่ใช่แค่จบลงในค่ายเท่านั้น แต่คาดหวังและเคลื่อนไปสู่วาระเวลาแห่งปีการอัศจรรย์ของพระเจ้า วันนี้ให้เราเริ่มต้นจุดไฟแห่งการฟื้นฟูใจของเราก่อนเพื่อจะส่งไฟแห่งการฟื้นฟูของพระเจ้าต่อไป
ผมมีประสบการณ์กับเหตุการณ์แห่งวันเพนเทคอสมาหลายครั้ง
ตอบลบและคาดหวังว่า คนที่มีความเชื่อก็จะได้รับเช่นเดียวกัน แม้ว่าวันเวลาจะล่วงผ่านไปนาน แต่เพราะพระคริสต์ยังทรงพระชนม์อยู่ ดังนั้น เมื่อผู้ใดมีความเชื่อก็ยังสามารถได้รับได้สัมผัสกับประสบการณ์อันมหัศจรรย์นี้ครับ