สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ผมขอนำ สรุปความ...คำเผยพระวจนะของดร.ชัค เพียร์ซที่เผยพระวจนะสำหรับประเทศไทย มาอ่านทบทวนกันอีกครั้ง และอธิษฐานป่าวประกาศตามคำเผยพระวจนะ
เพื่อเตรียมชีวิตของเราในงาน 40 วันแห่งพระสิริ ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.-5 ธ.ค. 2014 นี้
ขอพระเจ้าอวยพรประเทศไทย ให้เกิดการรื้อฟื้นและการปฏิรูปใหม่ เพื่อ…โลกนี้จะรู้จักประเทศไทยว่า “เป็นแผ่นดินแห่งการนมัสการ”
เมื่อวัน ที่ 24 สิงหาคม 2008 ดร.ชัค เพียร์ซ ได้เผยวจนะถึงประเทศไทยที่คริสตจักรใจสมานมีข้อความบางตอนว่า
…“จงเตรียมตัว ให้พร้อม” เพราะเจ้าจะเป็นผู้เปิดประตูนำไปสู่การนมัสการนมัสการ และนมัสการ
และ วันที่ 16 ตุลาคม 2010 มีข้อความบางตอนว่า …โลกนี้จะรู้จักประเทศไทยว่า “เป็นแผ่นดินแห่งการนมัสการ”
ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม 2011 ในการสัมมนา “นมัสการในมิติสวรรค์”
วันที่ 4 ส.ค.11 (ในช่วงเวลานมัสการ)
“เราเองเป็นผู้เรียกเวลานี้และการประชุมนี้ เราได้เลือกประเทศไทยให้แบกหีบของเราเข้ามา
การผลักดันกำลังจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย เราได้กู้และป้องกันประเทศนี้ไว้สำหรับการผงาดขึ้นของเรา”…
“เราจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ แผ่นดินนี้จะเห็นเรา พวกเจ้าจะเห็นคนเป็นหมื่นมาหาเราภายในวันเดียว”…
“ที่ประชุมของพระเจ้ากำลังจะเปิดออก และพระนิเวศน์ของพระเจ้าจะเป็นที่ลี้ภัยสำหรับทุกคนในสามวันเราจะเริ่มชำระประเทศนี้ เราจะเริ่มก้าวเข้าสู่มิติแห่งพระสิริของเรา ซึ่งพวกเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
(ในช่วงเทศนา)
การรวมตัวของท่านทั้งหลายเป็นเหตุให้ประเทศนี้ก้าวไปข้างหน้า “ประเทศนี้จะเป็นประเทศที่นมัสการ” ประเทศทุกประเทศจะต้องเลือกว่าจะนมัสการพระเจ้าของอิสราเอลหรือไม่ และผมเชื่อว่าประเทศไทยได้เลือกแล้วที่จะติดต่อกับประเทศอิสราเอลและนมัสการพระเจ้าของอิสราเอลแล้ว ผมต้องการให้คุณคาดหวังว่าพระเจ้าจะสัมผัสคุณ ผมต้องการที่จะให้พวกคุณคาดหวังว่าพระเจ้าจะจัดการกับพวกคุณเป็นการส่วนตัว
“เมื่อคุณมีสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า พระองค์ตอบคำอธิษฐานและความต้องการของคุณ ก่อนที่คุณจะเอ่ยปากขอเสียอีก พระเจ้าเป็นผู้ทำสิ่งที่พระองค์ได้พูดกับคุณแล้วว่าพระองค์จะทำ พระองค์เตรียมผู้เป็นต้นแบบ (Prototype) ของการนมัสการ อันแรกของสิ่งต่าง ๆ อีกมาก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในอดีต เพื่อคนสามรุ่นอายุต่อจากนี้จะเคลื่อนต่อไป ในช่วงสามปีที่ผ่านมาพวกคุณได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง แต่พระเจ้ามักจะส่งใครบางคนเข้ามาเพื่อที่คุณจะทำสิ่งที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ให้พวกคุณทำให้สำเร็จ เรากำลังก้าวเข้าสู่รูปแบบของอาณาจักรใหม่ของพระเจ้าสำหรับอนาคต” …
เมื่อพระเจ้าเริ่มสร้างโลกและมนุษย์นั้น พระเจ้าได้เอาความสับสนวุ่นวายออกไป พระองค์เอาดินที่พระองค์ได้เอาความสับสนวุ่นวายออกไปแล้วมาสร้างเป็นพวกเรา และพระองค์ได้ทำสิ่งที่พระองค์ไม่ได้ทำต่อบรรดาสัตว์ชนิดไหน นั่นก็คือ พระองค์ได้ระบายลมปราณของพระองค์เข้าสู่ดินนั้น ทำให้มนุษย์เป็นผู้มีชีวิตขึ้นมา ลมปราณนั้นคือชีวิตของพระเจ้านั่นเอง จากนั้นพระเจ้าก็ปลูกสวนแห่งหนึ่ง แล้วพระเจ้าก็วางมนุษย์ไว้ในสวนนั้น “พระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงนำมนุษย์ไปอยู่ในสวนเอเดนให้ดูแลและรักษาสวน” (ปฐมกาล 2.15) การดูแลรักษาสวนนั้นจะเป็นการนมัสการของมนุษย์ แต่มนุษยได้เลือกที่จะฟังสิ่งที่อยู่ในสวนนั้น นอกเหนือจากพระเจ้า ไม่เพียงแต่บรรยากาศของมนุษย์เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่บรรยากาศของสวนนั้นก็เปลี่ยนไปด้วย
พระเจ้าพาเรากลับไปสู่การมีความสัมพันธ์กับพระองค์ที่สอดคล้องกับการนมัสการที่พระองค์ต้องการ “จงกลับสู่ที่ใหม่แห่งการนมัสการ” ถ้าเจ้าทำสิ่งนี้ เราจะทำให้ประเทศนี้กลับมาสู่เรา เราจะรื้อฟื้นสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเจ้าให้กลับคืนมา เราจะทำให้ประชากรแห่งอาณาจักรของเราเกิดขึ้นในประเทศนี้ ถ้าเขานมัสการเรา เขาเองจะเป็นผู้ดูแลรักษาประเทศนี้ เพราะว่าเป็นแผนการของเราที่จะให้คนนมัสการเราจากประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศหนึ่ง ถ้าเจ้านมัสการเราในวันนี้ เราจะรื้อฟื้นครอบครัวของเจ้า เราจะรื้อฟื้นธุรกิจของพวกเจ้า
ให้เสียงแห่งชัยชนะดังสนั่นลั่นออกมา ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะร้องเพลงบทใหม่!
เมื่อคุณนมัสการ พระเจ้าซ่อมยุ้งฉางให้กับคุณเพื่อที่คุณจะประสบความสำเร็จ เมื่อคุณนมัสการ พระเจ้าจะสำแดงให้คุณเห็นว่าพระเจ้าปลูกคุณไว้ที่ไหนเพื่อที่คุณจะมั่งคั่งและรุ่งเรือง…
พระเจ้าพร้อมแล้วที่คริสตจักรและรัฐบาลของไทยที่จะเปลี่ยนแปลง พระองค์พร้อมแล้วที่รัฐบาลไทยจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อคุณนมัสการและอธิษฐาน คุณก็ได้ส่งเสียงของสวรรค์ และที่สูงที่วิญญาณชั่วยึดไว้นั้นก็ถล่มลงมา สิ่งที่ถูกปิดเอาไว้ก็ถูกเปิดออก การเจิมก็ลงมาแล้วคุณก็รู้ถึงน้ำพระทัยของพระองค์ ทันใดนั้นคุณก็รู้ว่าจะขอพระองค์ว่าอย่างไร และบทเพลงใหม่ก็ถูกปลดปล่อยออกมา และเมื่อบทเพลงใหม่ปลดปล่อยออกมาวงจรเก่า ๆ ก็ถูกทำลายไป
พระเจ้ากำลังรื้อฟื้นเราให้กลับมาสู่พระองค์
“จงเตรียมตัวให้พร้อม” เพราะเจ้าจะเป็นผู้เปิดประตูนำไปสู่การนมัสการ นมัสการ และนมัสการ …โลกนี้จะรู้จักประเทศไทยว่า “เป็นแผ่นดินแห่งการนมัสการ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น