เรียบเรียงจากคำสอนของอ.Joshua Mills และอ.นิมิต พานิช
- อย่าไปให้ความสนใจ ใส่ใจกับศัตรู เพราะพวกเรามีชัยชนะแล้ว
โคโลสี 2:15 พระองค์ทรงปลดเทพผู้ครองและศักดิเทพเสีย พระองค์ได้ทรงประจานเขา และชนะเขาโดยกางเขนนั้น
1 ยอห์น 2:13-14
13 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายได้ชนะมารร้ายนั้น ท่านทั้งหลายผู้เป็นลูก ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระบิดา
14 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่านทั้งหลาย และท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว
1 ยอห์น 4:4 ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านเป็นฝ่ายพระเจ้า และได้ชนะเขาเหล่านั้น เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในท่านทั้งหลายเป็นใหญ่กว่าผู้นั้นที่อยู่ในโลก
2. อย่าฝ่ายวิญญาณทุกอย่างจนเกินไป ทุกอย่างให้อยู่ในข้อแนะนำของพระคัมภีร์
มัทธิว 6:5 "เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าเป็นเหมือนคนหน้าซื่อใจคด เพราะเขาชอบยืนอธิษฐานในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะให้คนทั้งปวงได้เห็น เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
สดุดี 119:15-18
15 ข้าพระองค์จะภาวนาข้อบังคับของพระองค์ และจับตาของข้าพระองค์อยู่ที่วิถีทั้งหลายของพระองค์
16 ข้าพระองค์จะปีติยินดีในกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ลืมพระวจนะของพระองค์
17 ขอทรงโปรดปรานผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตและจะถือพระวจนะของพระองค์
18 ขอเบิกตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์จากพระธรรมของพระองค์
3. อย่าอยู่ในมิติเนื้อหนัง อย่าให้จิตใจ อารมณ์ ความรูสึก อยู่เหนือฝ่ายวิญญาณ ให้ทำตามพระวจนะ ไม่ใช้อารมณ์
กาลาเทีย 5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ อย่าสนองความต้องการของเนื้อหนัง
1 ยอห์น 2:16
16 เพราะว่าสารพัดซึ่งมีอยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนังและตัณหาของตา และความทะนงในลาภยศไม่ได้เกิดมาจากพระบิดา แต่เกิดมาจากโลก
4. อย่าแยกตัวออกมาโดดเดี่ยว เพราะศัตรูจะทำอะไรก็ได้ พระคัมภีร์ไม่ให้เราขาดการประชุม ให้คนอื่นรู้เรื่องราวเพื่อช่วยชีวิตเรา
ฮีบรู 10:25 อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
กิจการ 2:42 เขาทั้งหลายได้ขะมักเขม้นฟังคำสอนของจำพวกอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม ทั้งขะมักเขม้นในการหักขนมปังและการอธิษฐาน
1 ยอห์น 1:7 แต่ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น
5. อย่าครอบงำผู้อื่น อธิษฐานให้น้ำพระทัยพระเจ้าปรากฏ เพื่อเราจะเรียนรู้การทำงานร่วมกับพระองค์
1 ยอห์น 5:14-15
14 และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา
15 และถ้าเรารู้ว่า พระองค์ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆเราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์
6. อย่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่แปลกประหลาด ที่ไม่ช่วยอะไรในชีวิตของเรา ที่ไม่เกิดผลอะไร
เอเฟซัส 4:17 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอยืนยันและเป็นพยานในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปท่านอย่าประพฤติอย่างคนต่างชาติที่เขาประพฤติกันนั้น คือมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไร้สาระ
กาลาเทีย 1:6 ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจ ที่พวกท่านพากันละทิ้งพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ แต่ท่านกลับหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย
7. อธิษฐานจากสวรรค์ชั้นที่สามเพื่อเห็นการสำแดง นำมาประกาศในการอธิษฐาน
1 โครินธ์ 2:10 พระเจ้าได้ทรงสำแดงสิ่งเหล่านั้นแก่เราทางพระวิญญาณ เพราะว่าพระวิญญาณทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งแม้เป็นความล้ำลึกของพระเจ้า
เอเฟซัส 1:9 พระเจ้าได้ทรงโปรดให้เรารู้ความล้ำลึกในพระทัยของพระองค์ ตามพระเจตนารมณ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงดำริไว้ในพระคริสต์
8. ให้เราอยู่ใกล้ชิดกับหัวใจพระเจ้า จะทำให้เรารับใช้ด้วยความรัก เมตตา
ยอห์น 15:4 จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน แขนงจะออกผลเองไม่ได้ นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น
1 โครินธ์ 13:2 แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้ และเข้าใจในความล้ำลึกทั้งปวงและมีความรู้ทั้งสิ้น และมีความเชื่อมากยิ่งที่สุดพอจะยกภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย
มัทธิว 9:36
36 และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสารเขา ด้วยเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งดุจฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง
มาระโก 1:41 พระเยซูทรงสงสารเขาจึงทรงยื่นพระหัตถ์ถูกต้องคนนั้น ตรัสแก่เขาว่า "เราพอใจแล้ว จงหายเถิด"
9. ดำเนินชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ ให้เราจับจ้องที่พระเยซูคริสต์ วิถีทางของพระองค์
1 เปโตร 1:15-16
15 แต่เพราะพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ ท่านทั้งหลายจงประพฤติให้บริสุทธิ์พร้อมทุกประการ
16 ดังที่มีพระวจนะเขียนไว้แล้วว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์
10. ปกป้องรักษาประตูทั้งหลายของเราไว้ ทั้งประตูใจ ตา หู มือ เท้า ความคิด ให้ดูแลประตูเหล่านั้นทุกวันด้วยพระวิญญาณฯ
ลูกา 11:34 ตาเป็นประทีปของร่างกาย เมื่อตาของท่านปกติ ทั้งตัวก็พลอยสว่างไปด้วย แต่เมื่อตาของท่านผิดปกติ ทั้งตัวของท่านก็พลอยมืดไปด้วย
สุภาษิต 13:3 บุคคลที่ระแวดระวังปากของเขาจะสงวนชีวิตของเขา บุคคลที่เปิดริมฝีปากกว้างก็มาถึงความพินาศ
มัทธิว 13:16 "แต่นัยน์ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน
2โครินธ์ 10:5 คือทำลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์
11. สรรเสริญทุกวันจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ
โคโลสี 3:16 จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า
เอเฟซัส 5:19 จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญ คือร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจของท่าน ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
ฮีบรู 13:15 เหตุฉะนั้น ให้เราถวายคำสรรเสริญเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าตลอดไป โดยทางพระองค์นั้น คือคำกล่าวยอมรับเชื่อพระนามของพระองค์
12. พูด คำว่า "เดี๋ยวนี้" (Now) เปลี่ยนศัพท์ที่ใช้ พูดการสำแดงของพระเจ้าวันนี้ ไม่ใช่อนาคต
สุภาษิต 18:21 ความตายความเป็น อยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน
วิวรณ์ 1:4 ยอห์นขอเรียนคริสตจักรทั้งเจ็ดที่อยู่ในแคว้นเอเชียให้ทราบดังนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับพระคุณและสันติสุข จากพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบัน และผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต และผู้จะเสด็จมาในอนาคต และจากวิญญาณทั้งเจ็ดที่เฝ้าอยู่หน้าพระที่นั่งของพระองค์
13. ให้อยู่ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีท่าทีของการนมัสการ เพราะเป็นกุญแจสู่พระสิริ
ยอห์น 4:23 แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์
1 โครินธ์ 14:12 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายกำลังร้อนใจแสวงหาของประทานฝ่ายพระวิญญาณแล้ว ก็จงอุตส่าห์กระทำตัวของท่าน ให้สามารถที่จะทำให้คริสตจักรจำเริญขึ้น
14. อย่าอธิษฐานในข้อจำกัดของเรา อย่าตีกรอบพระเจ้า ให้อยู่ในมิติที่ไม่จำกัด
มัทธิว 19:26 พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก และตรัสว่า "ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง"
มาระโก 9:19 พระองค์จึงตรัสแก่คนนั้นว่า "โอ คนในยุคที่ขาดความเชื่อ เราจะต้องอยู่กับเจ้านานเท่าใด เราจะต้องอดทนเพราะเจ้าไปถึงไหน จงพาเด็กนั้นมาหาเราเถิด"
เอเฟซัส 3:20-21
20 ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ กระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา
21 ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ในคริสตจักร และในพระเยซูคริสต์ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็นนิตย์ อาเมน
15. มีท่าทีขอบพระคุณ การขอบพระคุณจะเปิดประตูสู่พระพร
เอเฟซัส 5:20 จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
16. ให้มีความคิดที่เปิดออกต่อการอัศจรรย์
มาระโก 16:17 มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ
17. แสวงหาสิ่งใหม่ พระเจ้าต้องการให้เราแสวงหาสิ่งใหม่ ให้เราทำสิ่งใหม่
อิสยาห์ 42:9 ดูเถิด สิ่งล่วงแล้วนั้นก็สำเร็จแล้ว และเราก็แจ้งสิ่งใหม่ๆ ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้น เราก็ได้เล่าให้ฟังแล้ว
อิสยาห์ 48:6 "เจ้าได้ยินแล้ว จงคอยดูสิ่งทั้งปวงนี้ และเจ้าจะไม่แจ้งให้ทราบหรือ ตั้งแต่เวลานี้ไปเราเล่าสิ่งใหม่ให้เจ้าฟัง เป็นสิ่งที่ปิดซ่อนไว้ซึ่งเจ้าไม่รู้
18. ให้เราเข้าสู่ความสบาย ง่าย ๆ แช่ตัวอยู่ในมิติฝ่ายวิญญาณ ใช้เวลาในการแช่ตัวกับพระเจ้า หาเวลาส่วนตัว พระเจ้าจะเริ่มพูดให้ทิศทางแก่เรา
สดุดี 37:7 จงสงบอยู่ต่อพระเจ้า และเพียรรอคอยพระองค์อยู่อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อนเพราะเหตุผู้ที่เจริญตามทางของเขา หรือเพราะเหตุผู้ที่กระทำตามอุบายชั่ว
สดุดี 131:2 แต่ข้าพระองค์ได้สงบและระงับจิตใจของข้าพระองค์อย่างเด็กที่หย่านมแล้วสงบอยู่ที่อกมารดาของตนจิตใจของข้าพระองค์สงบอยู่ภายในข้าพระองค์ เหมือนอย่างเด็กที่หย่านมแล้ว
สดุดี 84:2 วิญญาณของข้าพระองค์ปรารถนาเออ อาลัยหา บริเวณพระนิเวศของพระเจ้า ใจกายของข้าพระองค์ ร้องเพลงด้วยความชื่นบาน ถวายพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์
19. ดำเนินชีวิตในที่เร้นลับ โดยแสวงหาที่จะสงบในพระเจ้า ในที่ที่ไม่มีใครมาดึงความสนใจเราได้
มัทธิว 6:6 ฝ่ายท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่าน
20. ยืนอยู่ในจุด หรือตำแหน่ง ที่ถูกต้อง คือ เราเป็นผู้ที่มีชัยชนะ มีการเจิม เราได้รับพระพรที่ปลดปล่อยจากพระเจ้ามาให้
1 โครินธ์ 3:10-11
10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร
11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์
ลูกา 6:47-48
47 ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด
48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง
อิสยาห์ 30:18 เพราะฉะนั้น พระเจ้าทรงคอยที่จะทรงพระกรุณาเจ้าทั้งหลาย เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงลุกขึ้นเพื่อเมตตาเจ้าเพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ผู้ที่คอยท่าพระองค์จะได้รับพระพร
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น