19 มิถุนายน 2560

ปฏิปักษ์พระคริสต์ไม่ใช่ผู้นำรัฐบาลโลก

ปฏิปักษ์พระคริสต์ไม่ใช่ผู้นำรัฐบาลโลก โดย Haiyong Kavilar

ปฏิปักษ์พระคริสต์กับสมาคมลับ
       เมื่อกล่าวถึงปฏิปักษ์พระคริสต์ บางคนก็จะนึกถึงผู้นำรัฐบาลโลกที่จะบังคับให้ทุกคนบนโลกรับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย(666) ซึ่งผู้นำรัฐบาลโลกคนนี้จะเข้าไปแทรกแซงกิจการในพระวิหารหลังที่3 และจะฉีกสัญญาที่กระทำต่อชาวยิว ซึ่งในท้ายสุดผู้นำรัฐบาลโลกหรือปฏิปักษ์พระคริสต์คนนี้ก็จะนำกองทัพเข้าไปจู่โจมอิสราเอลและต่อต้านการเสด็จกลับมาของพระเยซู

       แนวคิดที่ว่าผู้นำรัฐบาลโลกจะเป็นปฏิปักษ์พระคริสต์เป็นแนวคิดที่มักจะการเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆบนโลกเข้ากันกับสมาคมลับ ซึ่งมักจะมีการลือกันว่าสมาคมลับนี้เป็นเบื้องหลังของการควบคุมเศรษฐกิจโลก และสมาคมลับนี้จะปูทางให้เกิดรัฐบาลโลกซึ่งมีปฏิปักษ์พระคริสต์เป็นผู้นำ บางครั้งเมื่อกล่าวถึง วิญญาณแห่งปฏิปักษ์พระคริสต์(AntiChrist Spirit) บางคนก็มักจะนึกถึงกิจการภายในที่สมาคมลับนี้กำลังดำเนินการ

ปฏิปักษ์พระคริสต์ตามบริบทพระคัมภีร์
       อย่างไรก็ตามเมื่อมาพิจารณาดูจากพระคัมภีร์แล้ว คำว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลโลกหรือผู้ควบคุมเศรษฐกิจโลกแต่ประการใด คำว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ ที่อยู่ในพระคัมภีร์มีความหมายที่สื่อถึง ผู้สอนลัทธินอสติก(Gnosticism)ในศตวรรษที่หนึ่ง ซึ่งผู้สอนลัทธินอสติกนี้ไม่ได้มีอยู่คนเดียว แต่มีอยู่หลายคน

       คำว่า "ปฏิปักษ์พระคริสต์" ปรากฏเพียง 4 ครั้งในพระคัมภีร์ ซึ่งทั้ง 4 ครั้งนี้จะปรากฏเฉพาะในจดหมายฝากของยอห์นเท่านั้น ตามบริบททางประวัติศาสตร์ ในสมัยของยอห์น(ช่วงศตวรรษที่หนึ่ง) ก็เกิดมีลัทธิสอนผิดขึ้นในคริสตจักร ลัทธิสอนผิดนี้มีชื่อว่าลัทธินอสติก ซึ่งผู้คนในลัทธินอสติกได้สอนคำสอนที่ว่า สิ่งของฝ่ายกายภาพเป็นสิ่งที่ไม่สะอาด แต่สิ่งของฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งที่สะอาดและดีงาม ด้วยเหตุนี้ ผู้สอนลัทธินอสติกจึงไม่สามารถยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายฝ่ายกายภาพ พวกเขาสอนว่าพระเยซูไม่ได้เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ แต่พระเยซูเป็นเพียงวิญญาณหรือผีที่ไม่มีร่างกายฝ่ายกายภาพ

       เนื่องจากในสมัยของยอห์น ลัทธินอสติกกำลังเป็นที่แพร่หลาย ยอห์นจึงได้เขียนจดหมายฝากเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของลัทธินอสติก โดยในจดหมายฝาก ยอห์นได้เน้นว่า พระเยซูได้บังเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายฝ่ายกายภาพจริงๆ และยอห์นเองก็เคยสัมผัสร่างกายฝ่ายกายภาพของพระเยซู

(1 ยอห์น 1:1) เราขอแจ้งเกี่ยวกับสิ่งที่มีมาตั้งแต่ปฐมกาล ซึ่งเราได้ยิน ได้เห็นกับตา ได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรานั้น คือพระวาทะแห่งชีวิต

ต่อมายอห์นก็ได้เรียกผู้สอนลัทธินอสติกนี้ว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์โดยผู้สอนลัทธินอสติกที่เป็นปฏิปักษ์พระคริสต์นี้ ไม่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาเป็นมนุษย์

(2 ยอห์น 7) เพราะว่ามีผู้ล่อลวงจำนวนมากออกมาในโลก เป็นพวกที่ไม่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์เสด็จมาเป็นมนุษย์ คนประเภทนั้นแหละเป็นผู้ล่อลวงและเป็นศัตรูของพระคริสต์[ปฏิปักษ์พระคริสต์]

ตามบริบทของจดหมายยอห์น ปฏิปักษ์พระคริสต์ก็เกิดมีในสมัยของยอห์นแล้ว ไม่ใช่ว่าจะเกิดมีในอนาคต นอกจากนี้ปฏิปักษ์พระคริสต์ยังไม่ได้มีเพียงคนเดียวโดดๆ แต่ยังมีหลายคนด้วย

(1 ยอห์น 2:18) และตามที่พวกท่านได้ยินได้ฟังมาว่าศัตรูของพระคริสต์จะมา เดี๋ยวนี้ศัตรูของพระคริสต์[ปฏิปักษ์พระคริสต์]จำนวนมากก็มาแล้ว

       ด้วยเหตุนี้เมื่อพิจารณาจากพระคัมภีร์แล้ว ปฏิปักษ์พระคริสต์จึงไม่ได้หมายถึงผู้นำรัฐบาลโลกที่มีอยู่คนเดียว แต่ปฏิปักษ์พระคริสต์หมายถึงผู้สอนลัทธินอสติกในสมัยของยอห์น ดังนั้นการใช้คำว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ เพื่อสื่อถึงผู้นำรัฐบาลโลก ก็เป็นการใช้คำที่ไม่ตรงกับบริบทของพระคัมภีร์

ปฏิปักษ์พระคริสต์ สัตว์ร้าย และคนนอกกฏหมาย

       คำสอนเรื่องยุคสุดท้ายที่เป็นกระแสนิยมในศตวรรษที่แล้ว มักจะเชื่อมโยงว่า
ปฏิปักษ์พระคริสต์ในจดหมายยอห์น = สัตว์ร้ายในวิวรณ์ = คนนอกกฏหมายใน 2 เธสะโลนิกา = ผู้นำรัฐบาลโลก

       ทว่าเมื่อดูจากบริบทของพระคัมภีร์แล้ว ปฏิปักษ์พระคริสต์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์ร้ายในวิวรณ์หรือคนนอกกฏหมายใน (2 เธสะโลนิกา) เลยดังนั้นการเชื่อมโยงดังกล่าวจึงมีจุดบอดอยู่

       ท้ายสุดนี้ ผมจึงอยากหนุนใจว่า ในอนาคตผู้ที่ยึดครองโลกจะไม่ใช่ปฏิปักษ์พระคริสต์ แต่จะเป็น คริสเตียนที่มีหัวใจเพื่ออาณาจักรพระเจ้า วันเวลาผ่านไป อาณาจักรพระเจ้าก็จะแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ และทั่วโลกก็จะประสบกับการฟื้นฟูใหญ่จนพรักพร้อมในการต้อนรับการเสด็จกลับมาของพระเยซู

 สื่อเรียนรู้แนะนำเพิ่มเติม


หนังสือ Victorious Eschatology เขียนโดย Harold Eberle และ Martin Trench
เว็บไซต์ของ สภาเชิงอัครทูตสำหรับอนาคตศาสตร์ (Apostolic Council On Eschatology)


(หมายเหตุ ข้อเขียนจากบทความนี้ เป็นความคิดเห็นจากการตีความ ไม่ได้เป็นข้อสรุปแบบฟันธงว่าเป็นหลักการด้านศาสศาสตร์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น