23 มีนาคม 2559

เต็มล้นในการทรงสถิตใกล้ชิดพระบิดา

บทความในครั้งนี้ ผมขอแบ่งปันในเรื่องของการมีชีวิตที่เต็มล้นในการทรงสถิต (Divine presence) ซึ่งคริสเตียนจำนวนมากละเลยในการที่จะรักษาชีวิตให้เต็มล้นในการทรงสถิตของพระเจ้า แต่เฝ้าที่จะเข้ามาอธิษฐานเพื่อทูลขอพระพรหรือต้องการได้รับคำตอบจากการอธิษฐานเผื่อที่จะไปทำอะไรต่อไป 
เปรียบเสมือนภาพจากเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ตอนที่พระเยซูเสด็จไปเยี่ยมบ้านของนางมารีย์และมารธา ซึ่งบันทึกไว้ในพระธรรมลูกาบทที่ 10:38-42 ผมเชื่อว่าเราคงคุ้นเคยกับเหตุการณ์ตอนนี้ เพราะมารธามัวแต่สาละวนในการปรนนิบัติพระเยซูไปทำโน่นทำนี่เพื่อเอาใจพระเยซู แต่สิ่งที่พระเยซูทรงต้องการคือการมาเยี่ยมเยียนเธอและสนทนากับเธอ
นางมารีย์เข้าใจดีจึงฉวยโอกาสที่มีอยู่คือการได้เข้าไปใกล้ชิดพระองค์ เพราะนี่คือเวลาแห่งการทรงสถิต โอกาสที่จะได้เข้าใกล้ชิดกับพระองค์เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และไม่มีใครแย่งชิงเธอไปได้ ตามที่พระเยซูคริสต์บอกนางมารธา เพื่อเตือนให้เธอเข้าใจ  
คริสเตียนจำนวนมากต้องการรับพระพรแต่ละเลยความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ประทานพรพร เพราะไม่ได้ตระหนักหรือเข้าใจความสำคัญนี้ 
Bill Johnson

บิล จอห์นสัน ( Bill Johnson) ศบ.คริสตจักรเบธเอล(Bethel) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “สวรรค์บุกรุกโลก” (heaven invades earth) กล่าวว่า “เมื่อเราติดตามการอวยพระพรของอาณาจักรพระเจ้า แต่ไม่รับเรื่องการทรงสถิต นั่นก็คือการติดตามอาณาจักรที่ปราศจากการปกครองของกษัตริย์”

(To pursue the blessings of the kingdom of God and not His presence, is to pursue a kingdom without a king.)  

การทรงสถิตของพระเจ้าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่เราจะต้องให้ความสำคัญและเข้าไปเพื่อรับการทรงสถิต การทรงสถิตเป็นความใกล้ชิดในความสัมพันธ์และจะนำไปสู่การรับพระพร  อย่าหวังเพียงแต่พระพรเท่านั้น  แต่ให้เราเข้ามาสู่การทรงสถิตและรับการปกคลุมชีวิตภายใต้อาณาจักรแห่งพระสิริที่พระเจ้าทรงปกครอง  เราจะต้องทำเข้าใจในสถานภาพความสัมพันธ์ความสัมพันธ์ในฐานะลูกของพระเจ้าเพื่อนำชีวิตสู่การทรงสถิต

การเป็นบุตรของพระเจ้าเป็นสถานภาพที่พระเจ้าประทานให้ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเราทำอะไรจึงได้รับตำแหน่งนี้มา  เราเป็นบุตรของพระเจ้าอยู่แล้ว แม้ก่อนหน้าที่เราจะรู้จักพระเจ้า เราไม่ยอมรับพระองค์ว่าเป็นพ่อ เปรียบเสมือนบุตรน้อยหลงหาย(ลก.15:10-33) จนเมื่อเราได้กลับใจมารู้จักพระเจ้าเหมือนบุตรน้อยที่หลงหายไปได้กลับมา เราจึงได้ประทานสิทธิในการเป็นบุตรกลับมาอีกครั้ง

พระเจ้าทรงประทานตำแหน่งในการเป็นบุตรให้คือ 

เสื้อคลุม หมายถึง อัตลักษณ์ในชีวิต

ในปฐมกาล เอวากับอาดัมทำผิดเอาใบมะเดื่อมาปิด เพื่อซ่อนตัวตนหรืออัตลักษณ์ที่สูญเสียไป แต่พระเจ้าประทานเสื้อหนังสัตว์เพื่อสวมอัตลักษณ์กลับมาใหม่โดยเป็นแผนแห่งการไถ่ผ่านทางพระคริสต์  (ปฐก.3:21   พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมกับเอวาสวมปกปิดกาย)

การสวมแหวน หมายถึง การมอบสิทธิอำนาจให้  

เมื่อเราเป็นบุตรของพระเจ้าเราจะได้รับสิทธิอำนาจในการทำแทนพระเจ้า ดั่งที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นบุตรทำตามพระทัยของพระบิดา

การสวมรองเท้า หมายถึง การได้รับสิทธิต่างๆ 
ตามธรรมเนียมยิวโบราณ  การถอนรองเท้าให้นั้นหมายถึงการยกสิทธิให้ เช่นในกรณีญาติสนิทของนางรูธ ยกรองเท้าให้โบอาสมอบสิทธิในการดูแลนางรูธให้โบอาส (นรธ. 4:7-9)  
ดังนั้นพระเจ้าทรงประทานสิทธิให้กับเราในฐานะเป็นบุตร ในการดูแลจัดสรรเมื่อเราอธิษฐานขอต่อพระบิดา (มธ. 7:7-11)พระเจ้าเป็นผู้ทรงความสัตย์จริง ​พระองค์ได้ทรงเรียกเราให้สัมพันธ์สนิทกับพระบุตรของพระองค์ (1คร. 1:9 ) คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา​ (ยน.14:21 ) นอกจากนี้ยังมีมรดกคือสิ่งที่เราจะได้รับจากพระบิดาสวรรค์ (อฟ.1:18,คส.1:12)

ให้เราอธิษฐานร่วมกันขอบคุณพระเจ้าในความสัมพันธ์ในฐานะการเป็นบุตร  

“พระบิดาเจ้าข้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงเป็นพระบิดาและประทานสิทธิการเป็นบุตรของพระองค์ให้กับลูก   ขอบคุณสำหรับอัตลักษณ์ที่พระองค์มอบให้กับลูกที่ไม่เหือนผู้ใด ขอบคุณสำหรับสิทธิอำนาจที่พระองค์ประทานให้กับลูกในการทำพระราชกิจของพระองค์และขอบคุณสำหรับการดูแลจัดเตรียมของพระองค์ในชีวิตลูก ลูกขอบคุณพระบิดาในสวรรค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน”  

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ
Rick Joyner

1.  ท่านคิดว่ามุมมองเกี่ยวกับพระเจ้าพระบิกามีผลในความสัมพันธ์อย่างไร
2.  ท่านคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่เราไม่สมารถมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าในฐานะพระบิดา
3.  ท่านคิดว่าเราจะพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าในฐานะพระบิดาได้อย่างไร

ข้อคิดคำคมจาก ริค จอยเนอร์ (Rick Joyner)   ได้กล่าวไว้ว่า  เราได้ยินเสียงของพระเจ้าก็เพราะว่าเราเข้าใกล้พระองค์นั่นเอง  แกะของพระเจ้าก็ได้ยินเสียงของพระเจ้า  เราได้ยินเสียงของพระเจ้าก็เพราะเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์   พระองค์กำลังดึงให้คริสตจักรของพระองค์มาใกล้พระองค์อีกเป็นสองเท่า(double portion)  

2 โครินธ์ 13:14  ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสตเจ้า  ความรักแห่งพระเจ้า  และความสนิทสนมซึ่งมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์  จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น