12 มกราคม 2559

การทำงานร่วมกันของทีมอัครทูต (Apostolic Alignment)

บทความนี้แปลโดยสรุปความจากบทความเรื่อง Apostolic Alignment โดย อาเชอร์ อินเทเตอร์ (Asher Intrater)   เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องของการทำงานร่วมกันของทีมอัครทูต ซึ่งคำว่า Alignment ให้ความหมายถึง การเข้ามาเชื่อมต่อกัน เป็นการจัดเรียงเข้าด้วยกัน เหมือนดังเช่นร่างกายที่อวัยวะทุกส่วนเชื่อมต่อกันและทำงานตามหน้าที่   

อเฟซัส  4:16 ​เนื่องจาก​พระ​องค์​นี้​เอง ร่างกาย​ทั้งหมด​จึง​ได้รับ​การ​เชื่อม​และ​ประสาน​เข้า​ด้วย​กัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ประทาน​มา​นั้น และ​เมื่อ​แต่​ละ​ส่วน​ทำงาน​ตาม​หน้าที่​แล้ว​​ ​ก็​ทำ​ให้​ร่างกาย​เจริญ​และ​เสริมสร้าง​ตนเอง​ขึ้น​ด้วย​ความ​รัก

คริสตจักรก็เช่นเดียวกันเพราะคริสตจักรเป็นเสมือนพระกายของพระคริสต์ และของประทานตามพระธรรมเอเฟซัสบทที่ 4 อัครทูตเปาโลพูดถึงของประทานพันธกรทั้ง 5 (Five-Fold Ministry) เพื่อเตรียมธรรมิกชนในการรับใช้ บทความนี้ อาเชอร์ อินเทเตอร์ ได้เขียนอธิบายไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ครับ 


พระคริสตธรรมคัมภีร์สำแดงให้เราเห็นว่า เราทุกคนต้องอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจ  เราต้องยอมจำนนต่อสิทธิอำนาจและเราจะได้รับสิทธิอำนาจ 

ลูกา 7: 8 ด้วยข้าพเจ้าก็เป็นคนอยู่ใต้บังคับบัญชาและมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชา เมื่อข้าพเจ้าบอกคนนี้ว่า ‘ไป!’ เขาก็ไป บอกอีกคนหนึ่งว่า ‘มา!’ เขาก็มา และบอกทาสของข้าพเจ้าว่า ‘จงทำสิ่งนี้!’ เขาก็ทำ.”
การยอมจำนวนต่อสิทธิอำนาจนี้ เริ่มต้นทันทีในระดับปัจเจกบุคลคือการเชื่อในพระเยชูอาห์ (Yeshua) หรือ พระเยซู ว่า พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า  และต่อเนื่องไปถึงการยอมจำนนภายใต้สิทธิอำนาจระดับโลก เพื่อรวมกันเป็นพระกายของพระเมสสิยาห์(Body of Messiah)

สิ่งเหล่านี้เป็นความก้าวหน้าของสิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณที่เคลื่อนจากระดับปัจเจกบุคคลไปสู่ระดับโลก การยอมจำนนเช่นนี้เป็นการเริ่มต้นจุดไฟ ส่งต่อไปเป็นกระบวนการที่เพิ่มขึ้นจากระดับกลุ่มย่อย(จุลภาค “micro”)ไปสู่ระดับภาพใหญ่(มหภาค "macro")  มีลักษณะดังต่อไปนี้

1. ยอมจำนนต่อพระเยชูอาห์ในชีวิตส่วนตัว (Personal Submission to Yeshua)  

ผู้เชื่อทุกคนที่เชื่อในพระเยชูอาห์ต้องยอมจำนนต่อสิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณของพระเยชูอาห์ในชีวิตส่วนตัว

มัทธิว 7:21 ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
ลูกา  6:46 ทำไมพวกท่านเรียกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า​’ แต่ไม่ทำตามสิ่งที่เราบอกนั้น?

2. ผูกพันตัวเป็นสมาชิกในคริสตจักรท้องถิ่น (Membership in Local Congregation)  

ผู้เชื่อทุกคนควรที่จะผูกพันต้วต่อคริสตจักรท้องถิ่นที่ตนเองมีความเชื่อ  

มัทธิว 16:18 เรา​บอก​ท่าน​ว่า​ท่าน​คือ​เปโตร​​ และ​บน​ศิลา​นี้ เรา​จะ​สร้าง​คริสตจักร​ของ​เรา​ไว้​และ​พลัง​แห่ง​ความ​ตาย​จะ มี​ชัย​ต่อ​คริสตจักร​ไม่ได้

มีความนบนอบอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณต่อผู้นำคริสตจักรที่มีชีวิตเป็นที่ยอมรับนับถือตามคุณสมบัติของผู้นำในพระธรรม 1 ทิโมธี 

3.คณะผู้นำทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork Leadership)  

คณะผู้นำคริสตจักรต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยแต่ละคนควรปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียมกัน  ก่อนที่พระเจ้าจะทรงอนุญาตให้หนึ่งในคณะผู้นำคนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำทีม เรียกว่า first among equals”

4. ทำงานร่วมกันระหว่างทีมอัครทูต (Apostolic Teams) กับ ทีมผู้เผยพระวจนะ(Prophetic Teams)
  
การชุมนุมกันในแต่ละครั้งหรือการทำพันธกิจร่วมกันของผู้นำควรที่มีการทำงานร่วมหกันระหว่างทีมอัครทูตกับทีมผู้เผยพระวจนะ และมีการนบนอบและยอมเชื่อฟังผู้นำของทีม (เอเฟซัส 4:11-16)

5.ปรึกษาทีมผู้อาวุโส(Senior Advisors) 

ทีมอัครทูตควรที่จะมีทีมที่ให้คำปรึกษาเป็นทีมอัครทูตผู้อาวุโสเพื่อช่วยกำกับดูแลให้คำแนะนำ (ตัวอย่างเช่นผู้อาวุโสของแต่ละเผ่าของอิสราเอล ที่ให้คำปรึกษากับโมเสส (อพยพ 24:1)  

6. มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระกาย (Unity of the Body)

- เป็นการพัฒนาในระดับที่เพิ่มขึ้นของการนบนอบเชื่อฟัง  แต่ละคริสตจักรทำงานเป็นทีมและมีความรับผิดชอบต่อกัน ทำให้เกิดความเชื่อที่เพิ่มขึ้น มีการทำงานเป็นชุมน ทำงานร่วมกันตามหน้าที่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน(function in unity) เติบโตเป็นผู้ใหญ่(maturity) ทำงานด้วยความสัตย์ซื่อ (integrity)  ในบทบาทของตน

เอเฟซัส 4: 12-16 
12 ​เพื่อ​เตรียม​ธรรมิก​ชน​สำหรับ​การ​ปรนนิบัติ​และ​การ​เสริมสร้าง​พระ​กาย​ของ​พระ​คริสต์​
13 ​จนกว่า​เรา​ทุก​คน​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​ใน​ความ​เชื่อ​และ​ใน​ความ​รู้​ถึง​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​ผู้ใหญ่ คือ​โต​เต็ม​ถึง​ขนาด​ความ​บริบูรณ์​ของ​พระ​คริสต์​
14 ​เพื่อ​เรา​จะ​ไม่​เป็น​เด็ก​อีก​ต่อไป ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​และ​พัด​ไป​พัด​มา​ด้วย​ลม​คำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์ ตาม​อุบาย​ที่​ฉลาด​ใน​การ​ล่อลวง
15 ​แต่​ให้​เรา​ยึดถือ​ความ​จริง​ด้วย​ความ​รัก เพื่อ​จะ​เจริญ​ขึ้น​ใน​ทุก​ด้าน​สู่​พระ​องค์​ผู้​เป็น​ศีรษะ​คือ​พระ​คริสต์​
16 ​เนื่องจาก​พระ​องค์​นี้​เอง ร่างกาย​ทั้งหมด​จึง​ได้รับ​การ​เชื่อม​และ​ประสาน​เข้า​ด้วย​กัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ประทาน​มา​นั้น และ​เมื่อ​แต่​ละ​ส่วน​ทำงาน​ตาม​หน้าที่​แล้ว​​ ​ก็​ทำ​ให้​ร่างกาย​เจริญ​และ​เสริมสร้าง​ตนเอง​ขึ้น​ด้วย​ความ​รัก

7. เชื่อมตรงต่อกรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem Alignment) 

 เมื่อคริสตจักรทั้งหลายเชื่อในเรื่องการเสด็จกับมาครั้งที่ 2(Second Coming) ของพระเยชูอาห์  คริสตจักรต่างๆ ก็จะเคลื่อนเข้ามาหากันในความเชื่อ มีการเชื่อมต่อสอดคล้องมากขึ้นในด้านฝ่ายวิญญาณและทางภูมิศาสตร์ (geographically) ด้วยการรื้อฟื้นกลุ่มอัครทูตคนยิวที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ (Messianic Jewish)ในกรุงเยรูซาเล็ม มีความเป็นผู้นำเผยแพร่บูรณะศาสนชาวยิวในพื้นที่กรุงเยรูซาเล็ม  ตามคำเผยพระวจนะ (มัทธิว 19:2,กิจการฯ  1:21- 26,15:2,16: 4,อิสยาห์ 2: 2-3,กาลาเทีย 2:1-2,เศคาริยาห์ 8:23)

มัทธิว 19:28 ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า ใน​โลก​ใหม่​เมื่อ​บุตร​มนุษย์​นั่ง​บน​พระ​ที่​นั่ง​อัน​รุ่งโรจน์​นั้น​ พวก​ท่าน​ที่​ติดตาม​เรา​มา​จะ​ได้​นั่ง​บน​บัลลังก์​สิบ​สอง​ที่ พิพากษา​ชน​อิสราเอล​สิบ​สอง​เผ่า​

เศคาริยาห์ 8:23 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า ในสมัยนั้น 10 คนจากทุกชาติทุกภาษา จะยึดชายเสื้อคลุมของยิวคนหนึ่งไว้แล้วกล่าวว่า 'ขอให้เราไปกับท่านทั้งหลายเถิด เพราะเราได้ยินว่า พระเจ้าสถิตกับพวกท่าน"

เมื่อคริสตจักรเข้ามาในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมและมีการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน จะเป็นสร้าง "บรรยากาศ"(ATMOSPHERE) เพื่อสิทธิอำนาจของอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกปล่อยลงมา
ผู้นำคริสตจักรต่างๆควรจะคนกลุ่มแรกที่จะเป็นแบบอย่างในการเชื่อฟังด้วยหัวใจที่ยอมจำนนนบนอบต่อสิทธิอำนาจ 

อาเชอร์ อินเทเตอร์ ได้เล่าว่า เมื่อท่านได้เริ่มต้นกลุ่ม Tiferet Yeshua (พระเมตตาของพระเยชูอาห์)และ กลุ่มAhavat Yeshua (ความรักของพระเยชูอาห์) ท่านได้เรียกบรรดาผู้นำคริสตจักรท้องถิ่นมารวมกัน และกล่าวว่า "ผมอยากให้คุณรู้ว่า ถ้าผมทำบาปหรือกระทำการรใดที่ไม่ถูกต้องผมจะออกจากตำแหน่งนี้  นี่คือ รายชื่อที่ผู้นำที่ผมจะนบนอบและสามารถนำผมออกจากตำแหน่งได้ ขอเชิญทุกๆคน เข้ามาร่วมทำงานด้วยกัน" 

การทำงานร่วมกันของทีมอัครทูตเกี่ยวข้องกับการบนนอบเชื่อฟังสิทธิอำนาจ มีการผูกพันในพันธสัญญาร่วมกัน และมีความเข้าใจในทิศทางการเผยพระวจนะสำหรับอนาคตข้างหน้า 

นี่คือสิ่งที่เราเชื่อว่า พระวิญญาณของพระเจ้าจะมาย้ำเตือนประชาชนของพระองค์ในเวลาก่อนการสิ้นยุค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น