12 กุมภาพันธ์ 2562

โลหิตแห่งพันธสัญญาและสงครามฝ่ายวิญญาณ (ตอนที่ 1)

โลหิตแห่งพันธสัญญาและสงครามฝ่ายวิญญาณ (ตอนที่ 1) 

                                                     โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์
ในพระคัมภีร์ มีการอ้างอิงถึง “โลหิต” 400 ครั้งด้วยกัน ... เลือด นอกจากเป็นของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนในร่างกายของเราแล้ว ยังมีความหมายในฝ่ายวิญญาณอีกด้วย เลือดนั้นถือเป็นตัวที่บรรจุ ชีวิต soul ของมนุษย์เอาไว้
เพราะว่าชีวิตของสัตว์ทุกตัวอยู่ในเลือด เราได้ให้เลือดแก่เจ้าทั้งหลายเพื่อใช้บนแท่นบูชา เพื่อจะลบมลทินของเจ้าทั้งหลาย เพราะว่าโลหิตเป็นสิ่งที่ใช้ลบมลทิน เพราะชีวิตเป็นเหตุ เลวีนิติ 17:11
กฎก็คือ ชีวิตแทนที่ชีวิต (soul in place of soul) เมื่อมนุษย์ทำบาป ชีวิต soul ของเขาเป็นมลทิน...จึงมีการอุทิศถวายชีวิต soul (โดยมีเลือดเป็นสัญลักษณ์) เพื่อลบมลทินบาปของชีวิต soul ที่บาป เพื่อชำระล้างชีวิต soul นั้น และชำระโทษทัณฑ์.... ชีวิต soul ที่ไม่สะอาด ที่ต้องโทษประหาร ได้รับการไถ่และ "ซื้อคืน" โดยการตายของชีวิต soul ที่ไร้ความผิด
ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิต soul ของมนุษย์ซึ่งชอบธรรม จึงถูกเรียกร้องเพื่อชดเชยสำหรับชีวิต soul ของมนุษย์ที่มีบาป การถวายสัตวบูชาในพระคัมภีร์เดิม เป็นแค่สัญลักษณ์ซึ่งเล็งถึงพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ชีวิต soul ของสัตว์ไม่สามารถลบมลทินให้แก่ชีวิต soul ของมนุษย์ได้ เลือดของสัตว์แค่ชี้ไปที่พระโลหิตของ           พระเมสสิยาห์ผู้ทรงชอบธรรม ผู้ซึ่งไถ่เราทั้งหลาย ... นั่นก็คือ ชีวิตแทนที่ชีวิต
การแลกเปลี่ยนนี้มอบให้แก่ทุกคน โดยพระคุณ และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ..  เราได้รับรางวัล คือชีวิต soul ของเราที่พระองค์ซื้อไว้แล้ว โดยวิธีนี้เอง ชีวิต soul ได้รอดพ้น ด้วยการสละโลหิต... โลหิตจึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบูชาที่นำชีวิต soul เข้าสู่พันธสัญญากับพระเจ้า แต่ยังเป็นตราประทับ ที่ปิดผนึกและรักษา          พันธสัญญานั้นอีกด้วย
พันธสัญญาสูงสุด
เลือด หมายถึง การที่ชีวิตของใครสักคนต้องถูกสังเวย พันธสัญญาที่ใช้เลือดจึงเป็นพันธสัญญาที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะมันเกี่ยวพันถึงการจ่ายราคาด้วยชีวิตและความตาย ซึ่งเป็นการอุทิศตัวอย่างสมบูรณ์ เลือดทำให้เกิดพันธสัญญา ดังนั้นเมื่อไหร่ที่มีการละเมิดพันธสัญญา ก็ต้องมีการชำระด้วยเลือด
เวทมนตร์คาถามากมายเกี่ยวข้องกับพันธสัญญาที่ใช้เลือด นั่นก็เพื่อจะควบคุมชีวิต soul ของผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งภายหลัง พวกเขาได้กลายเป็นเหยื่อของการควบคุมและการทำลาย อย่างสิ้นเชิง
แต่ในกรณีของพันธสัญญาใหม่ของเรากับพระเยซูคริสต์ ฤทธิ์เดชของโลหิตมีไว้เพื่อการดี ไม่ใช่ความชั่วร้าย เราได้ก้าวเข้าสู่พันธสัญญาของความบริสุทธิ์ ชีวิต การเยียวยารักษา ความชื่นชมยินดี และสันติสุข  ในพันธสัญญาใหม่ จึงต้องมีการอุทิศตัวด้วยชีวิตทั้งหมด
ลูกหลานของอิสราเอลได้ทาเลือดไว้บนวงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้าง (อพยพ 12:7) เพื่อแสดงออกว่าพวกเขาเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญา เลือดเป็นเครื่องหมายว่าพวกเขาได้รับพันธสัญญานั้นแล้ว (อพยพ 12:13)  พันธสัญญาจึงปกป้องพวกเขาจากความตายและการทำลายล้าง สัญลักษณ์ของเลือด— ด้านบน เล็งถึงความรอด ส่วนด้านข้าง— เล็งถึงการปกป้อง ซึ่งบอกล่วงหน้าไปถึงไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์
เพราะพระยาเวห์จะเสด็จผ่านไปเพื่อจะประหารคนอียิปต์ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเลือดที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้าง พระยาเวห์จะทรงผ่านเว้นประตูนั้น และจะไม่ทรงให้ผู้สังหารเข้าไปในบ้านพวกท่านเพื่อจะประหารท่าน อพยพ 12:23
คุณประโยชน์ของโลหิต
ประโยชน์แรกของโลหิตคือ มันเป็นการทำเครื่องหมายอาณาเขตไว้ แสดงถึงการเป็นเจ้าของ เป็นเหมือนกับป้ายบนถนน ป้ายชื่อ ป้ายยี่ห้อ หรือแม้แต่สัตว์ ที่ตีกรอบอาณาเขตของมันด้วยการทิ้งคราบปัสสาวะเอาไว้
โดยโลหิตนั้น พระเจ้าสามารถพูดว่า “บุคคลนี้ รวมทั้งครอบครัวและทรัพย์สินของเขาเป็นของเรา เจ้าผู้ทำลาย เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ล้ำเส้นเข้าไปในเขตแดนของพวกเขา”
ลองคิดดูว่าในสงครามฝ่ายวิญญาณ มันจะมีพลังแค่ไหน คือการที่เราป่าวประกาศว่าตัวเราและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเราเป็นของพระเจ้า ผ่านทางพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ พระเจ้าได้ตรัสกับวิญญาณชั่วทุกตัวว่า มันไม่สามารถเข้ามาในเขตแดนของเรา เพื่อทำร้ายเราได้  ถ้าเราเชื่อในฤทธิ์เดชพันธสัญญาแห่งโลหิตนั้น จะไม่มีอำนาจมืดใดๆ สามารถล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเราได้
ในตอนที่ 2 ข้าพเจ้าจะแบ่งปันอีกสองคุณประโยชน์ที่เราได้รับ ผ่านทางพระโลหิตของพระเยซูคริสต์

ขอขอบคุณ น้องมิ้น  "นารดา ไทรงาม" ผู้แปลครับ 
ข้อมูลจาก https://tribe.reviveisrael.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น