20 กุมภาพันธ์ 2561

รักจริงผ่านจอ

สุขสันต์ในเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ที่กำลังมาถึง
ซึ่งเป็น "วันแห่งความรักที่บริสุทธิ์" แต่ไม่ใช่ "วันเสียความบริสุทธิ์เพื่อความรัก"

ความรักมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งความรักของครอบครัว พ่อแม่ลูก คู่รัก เพื่อนๆหรือคนกับสัตว์ต่างๆ
ถ้ารักสัตว์ก็จะไม่เข้าป่าไปล่าสัตว์ แต่ต้องรักษาป่าไม้ไว้ให้ลูกหลาน
บางคนรักของสะสมเช่นนาฬิกา ก็จะหวงไม่ยอมให้ใครยืม ถ้ายืมไปต้องรีบทวงคืน
บางคนรักสนุกเล่นคุกกี้เสี่ยงทาย บางคนชอบเสี่ยงโชค ขนาดซื้อหวย ยังต้องถ่ายรูป Selfie ไว้เพื่อกันหาย

นั่นเป็นหลากหลายความรักที่สามารถแสดงออกได้ในหลายวิธีการ
ปีนักษัตรปีนี้ คือ ปีจอ นั่นคือ สุนัข แต่สำหรับจอที่เรารู้จักกันดี ในยุคเมืองไทย 4.0 ที่มีฝุ่นควันระดับ pm 2.5 นั่นคือ
จอโทรศัพท์มือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไทยทุกคนต้องยอมก้มหัวให้ นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ
ทุกสิ่งในโลกถูกย่อลงมาสามารถค้นหาได้ในจอมือถือ เพื่อใช้สื่อสารหรือทำธุรกิจในสังคมออนไลน์
จอมือถือทำให้คนไทยเอาแต่ก้มหน้ามองจอ
ขอหนุนใจว่าเราไม่ควรเป็นสังคมแบบ Hi-Tech แต่ Low Touch อย่าเอาแต่สัมผัสจอ แต่เราต้องสัมผัสใจ เอาใจใส่กันด้วย
ความรักต้องใช้เวลาร่วมกัน ครอบครัวควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าจะรับประทานอาหาร ดูโทรทัศน์หรือออกกำลังกายด้วยกัน

บทความครั้งนี้เป็นข้อคิดเรื่องความรัก "รักจริงผ่านจอ" เราสามารถแสดงความรักอย่างไรบ้าง ผ่านทางจอมือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ ที่สื่อสารออกมาให้อ่านกัน ดังนี้

1. พูดจริงแม้ใจต้องเจ็บ ดีกว่าเจ็บไม่มีวันจบ

มีคำกล่าวว่า "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่บางครั้งคนพูดความจริงอาจจะตายได้ " 
สิ่งนี้ทำให้คนเราใจฝ่อไม่ขอพูดความจริง เพราะกลัวเจ็บที่ถูกปฏิเสธหากพูดออกไป
หลายคนจึงเรื่องที่จะใช้วิธีการโกหก หรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว แต่ขอบอกว่า "การพูดความจริงครึ่งเดียวก็เท่ากับโกหกทั้งเรื่อง" (A half-truth is a whole lie.)

ไม่ว่าจะโกหกแบบใด สีขาวหรือสีไหนๆ ก็คือโกหกทั้งสิ้น เมื่อคนที่เราพูดโกหกไป รู้ความจริงภายหลังจากคนอื่น ทำให้เจ็บช้ำกว่าพูดจริงแต่เริ่มต้น

ดังนั้น "จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ พูดเท่านี้ก็พอ" ไม่จำเป็นต้องต่อความยาว ไปใส่ไข่ใส่สีเพิ่มเติม"
การพูดความจริงหรือสื่อสารความจริงด้วยวิธีการที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่เราควรที่จะพูดความจริงด้วยใจรัก แม้อาจจะต้องเจ็บใจ ดีกว่าปล่อยให้คนที่เรารักทำผิดต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ใจเราต้องเจ็บแบบไม่มีวันจบ

การพูดความจริงด้วยเจตนาไม่ดี อาจจะเป็นเหมือนการยิงกระสุนปิืนเข้าไปทำร้ายผู้ฟังได้
ดังนั้นเราควรที่จะคิดก่อนที่จะพูด หรือคิดก่อนจะ Post หรือส่งข้อความ ควรจะให้ถูกเวลา และมีวิธีการสื่อสารที่ถูกต้องเหมาะสม
รับรองจะได้ผลการตอบสนองที่ดีกว่าพูดแบบสุ่มสี่สุมห้าเหมือนคนหาเรื่อง เพราะบางทีหากเราพูดความจริงในเชิงตำหนิหรือต่อว่า คนที่รับฟังก็อาจจะไม่ยอมรับได้

2.ทำจริงแม้ไม่ถูกใจ ดีกว่าจนใจที่ไม่รู้จักจำ

การแสดงออกถึงความรัก พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องแสดงออกเป็นการกระทำด้วย
คำว่า "รัก" ที่พูดออกมาง่ายๆจะเป็นคำมักง่ายที่ไม่ได้มาจากการกระทำที่สำแดง เราจึงไม่ควรรักกันและกันที่คำพูดเท่านั้นแต่ต้องแสดงออกเป็นการกระทำด้วย

การทำในสิ่งที่ใช่บางครั้งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ เพราะหากเรามุ่งต่อการทำตามใจแต่ไม่ใส่ใจในสิ่งที่ถูก เราอาจจะต้องจนใจ เพราะเขาก็ทำสิ่งที่ผิดต่อไปอย่างไม่รู้จักจำ ดังนั้นความรักจึงไม่ทำร้ายกันโดยทำตามใจในสิ่งผิดๆ บางครั้งต้องยอมขัดใจเพราะขัดเกลาให้เขาเปลี่ยนนิสัย

สุภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า "เหล็กลับเหล็กได้ คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนได้” 

เป็นการขัดเกลาเหลี่ยมมุมในนิสัยของกันและกัน อาจมีบาดแผลเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ แต่ในที่สุด การกระทำเช่นนี้ช่วยให้คนที่เรารักเขาปลี่ยนแปลงได้ ดีกว่าปล่อยให้ทำผิดซ้ำอีกโดยไม่รู้จักจำ เราต้องมานั่งจนใจทำอะไรไม่ได้เมื่อสายไป

3.รักจริงแม้ต้องจ๋อย ดีกว่าปล่อยใจถูกจำจอง

ถ้ารักจริงต้องกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีกว่าฝืนใจตนเอง เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ไม่กล้าบอกใคร เหมือนหัวใจถูกจองจำในมุมมืดของความรู้สึก
บางคนกลัวที่จะปักใจรักใครจริงเพราะกลัวว่าจะอกหัก ขอหนุนใจว่า "อกหักดีกว่ารักไม่เป็น" ที่เป็นเช่นนั้นเพราะคนที่รักใครแม้ว่าต้องอกหักผิดหวังนั้นยังดีกว่าคนที่ไม่มีความรัก

"อกไก่ยังต้องมีคนหมัก อกหักก็ต้องมีคนใหม่" เป็นเรื่องธรรมดา 

ขอให้เราแสดงความจริงใจ เมื่อเราหว่านสิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้น

แม้ว่าเรารักใครจริงแล้วต้องจ๋อยก็ปล่อยมันไป เมื่อเรารักจริงกับใครวันหนึ่งจะสมหวัง
อย่าท้อใจทำดีต่อไปด้วยความรัก เราจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งดีที่ทำในเวลาที่สมควร ขอเป็นกำลังใจให้คนที่รักจริงทุกท่าน

ขอให้ความสุขในช่วงเวลาเทศกาลแห่งความรัก

โจ นัฟทาลี




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น