กุญแจสู่การปรับเปลี่ยน (The Key to Your Turnaround)
เขียนโดย ไดแอน เลค (Diane Lake)
มีการป่าวประกาศเชิงเผยพระวจนะว่า ปี 2015 จะนำการ พลิกกลับและปรับเปลี่ยน (reversals and turnaround) ในปีที่น่าจะเรียกว่าเป็นปีแห่งลมหมุน(whirlwind year) จากคำเผยพระวจนะของสภาอัครทูตฯสำหรับปี 2015 มีส่วนที่บอกว่า ในท่ามกลางการเขย่าและการทดสอบ การนมัสการจะเป็นกุญแจที่ทำให้เห็นการปลดปล่อย
Diane Lake |
การนมัสการพระเจ้าไม่ได้ถูกระบุไว้อย่างแคบๆในตอนใดตอนหนึ่งของพระคัมภีร์ องค์ประกอบหลายอย่างถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกในการนมัสการ เช่น การสรรเสริญ การขอบพระคุณ เครื่องดนตรี การร้องเพลง การปรบมือ การโห่ร้อง และการเต้นรำ โดยพื้นฐานแล้ว การนมัสการหมายถึงทุกสิ่งที่ออกมาจากความสนิทสนมแนบแน่นกับพระเจ้าซึ่งพาเราเข้าไปสู่การทรงสถิต ด้วยการถวายเกียรติและความยำเกรงแด่พระองค์ด้วยจิตวิญญาณและความจริง (ยน 4.23,24)
และเพราะว่าการนมัสการเป็นกุญแจไขสู่การปลดปล่อยการเปลี่ยนแปลงของเราในฤดูกาลนี้ จึงเป็นความสำคัญที่เราต้องเข้าใจหลักการหลายอย่างที่เป็นแก่นแห่งการนมัสการ
1.การนมัสการเป็นเรื่องนิรันดร์และสถาปนาบรรยากาศแห่งสวรรค์
(Worship is eternal and establishes the atmosphere of heaven.)
ลูซิเฟอร์เป็นผู้พิทักษ์บัลลังก์ของพระเจ้า และเป็นผู้รับผิดชอบบรรยากาศของการนมัสการอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นรอบบัลลังก์นั้น ตั้งแต่ที่มันถูกขับออกจากสวรรค์ มันก็พยายามล่อลวงชายหญิงทั้งหลายให้เข้ามานมัสการมันแทนพระเจ้า เมื่อพระเยซูทรงถูกทดลองจากซาตานในถิ่นทุรกันดารให้มานมัสการมัน พระองค์ทรงตอบมันว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า 'จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว” (มธ 4.10)
เราสามารถเห็นบรรยากาศนิรันดร์ของการนมัสการได้ใน วว 4.8-11 ซึ่งพูดถึงสิ่งมีชีวิต 4 อย่างที่ยอพระเกียรติพระเจ้าตลอดวันตลอดคืน และผู้อาวุโส 24 คนที่ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้าหน้าพระบัลลัก์ตลอดไปเป็นนิตย์
ในพระคัมภีร์ เช่น สดด 22.3 เน้นย้ำว่าพระบัลลังก์พระเจ้าถูกสถาปนาขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งการสรรเสริญจากคนของพระองค์ ที่ใดทีมีการนมัสการพระเจ้า ที่นั่นพระองค์ทรงสถิต
2. การสรรเสริญและนมัสการอย่างต่อเนื่องนำหน้าการรื้อฟื้นและการฟื้นฟู
(Continuous praise and worship precedes restoration and revival)
ความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างพลับพลาของโมเสสและของดาวิด (ซึ่งก็คือพระวิหารในท้ายที่สุด) ก็คือ ไม่มีม่านที่กั้นประชาชนจากหีบพันธสัญญาอันหมายถึงการทรงสถิตของพระเจ้า ภายในโครงสร้างนี้ ดาวิดได้ริเริ่มการนมัสการพระเจ้าด้วยการสรรเสริญอย่างต่อเนื่องอันเป็นเครื่องเผาบูชาฝ่ายวิญญาณ การรื้อฟื้นพลับพลาของดาวิดนั้นเกี่ยวข้องกับการสรรเสริญและนมัสการอย่างต่อเนื่องในการทรงสถิตของพระเจ้าที่ไม่มีอะไรกั้นขวาง
พระเยซูก็ทรงยืนยันรูปแบบที่ให้การนมัสการมาเป็นอย่างแรก แล้วจึงตามมาด้วยการสำแดงอาณาจักรบนโลกนี้ เราทุกคนคงคุ้นเคยกับคำอธิษฐานของพระเยซูว่า
ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ (นมัสการ)
ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก (การสำแดงอาณาจักร)
(มธ 6.9,10)
ในส่วนตัวของแต่ละบุคคล การนมัสการอย่างต่อเนื่องนั้นสะท้อนออกมาด้วยท่าทีภายในจิตใจ - หมายถึงรูปแบบการใช้ชีวิตแห่งการนมัสการ ก็ตามที่คำอธิษฐานของพระเยซูองค์เจ้านายได้บอกไว้ การนมัสการที่แท้จริงจะเกิดผลเป็นชีวิตที่สำแดงความจริงแห่งแผ่นดินของพระองค์
3. องค์เจ้านายมองหาผู้ที่นมัสการอย่างแท้จริง
(The Lord looks for true worshipers)
ดาวิดได้ให้ตัวอย่างของหลักการแห่งการนมัสการข้อนี้ด้วย ในงานของการฟื้นฟูพลับพลา ดาวิดได้ป้องกันหีบพันธสัญญาขณะที่กำลังถูกนำกลับมาที่เยรูซาเล็ม ณ ที่นั่น ดาวิดได้เต้นรำต่อหน้าพระเจ้าด้วยอาการที่กระตือรือร้นและไม่มีการสงวนท่าที ซึ่งทำให้ภรรยาของเขารู้สึกยุ่งยากใจและอับอายมาก
สิ่งนี้ได้แสดงถึงเสรีภาพในการแสดงออกถึงหัวใจแห่งการนมัสการ ด้วยการแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจน และนี่คือรูปร่างของวิญญาณแห่งการนมัสการที่แท้จริง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดาวิด ผู้ที่ถูกเรียกว่าบุรุษผู้ติดตามหัวใจของพระเจ้า และผู้ที่ทำตามพระทัยของพระองค์ทั้งสิ้น เป็นผู้ที่จับแก่นแท้ของการนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริงเอาไว้ได้
การนมัสการสามารถ “เปิดประตู” สู่การปรับเปลี่ยน
(Worship Can “Unlock” The Turnaround)
กิจการฯ บทที่ 16 ได้กล่าวถึงเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น ของเปาโลและสิลาสที่ได้อธิษฐานและสรรเสริญพระเจ้าอยู่ในคุกตอนประมาณเที่ยงคืน ทันใดนั้นก็มีแผ่นดินไหว และประตูคุกก็เปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดออกจากนักโทษทุกคน
และใน 2 พงศาวดาร บทที่ 20 บันทึกไว้ว่า มี 3 กองทัพที่ตัดสินใจเข้าโจมตีคนของพระเจ้าในยุคที่กษัตริย์เยโฮชาฟัทครองราชย์ พวกเขาได้แสวงหาพระเจ้าและรู้ว่าการรบนี้ไม่ใช่ของพวกเขาแต่เป็นของพระเจ้า หลังจากการนมัสการและสรรเสริญ พระเจ้าให้เกิดกองซุ่มเข้าต่อสู้กับศัตรูของพวกเขาและถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
การนมัสการมีความสำคัญเพราะว่ามันเป็นดั่งเครื่องมือที่อยู่ในมือของเรา ในสดุดี 144.1 ดาวิดสรรเสริญและสาธุการแด่พระเจ้าผู้ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรูของท่าน กล่าวว่า “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงครามและฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก” (ดูใน สดด 149.6, อสย 42.13)
ขณะที่ดาวิดสู้กับกองทัพในทางกายภาพ ผู้ที่มาต่อสู้กับชนชาติอิสราเอล ผู้เชื่อในทุกวันนี้ก็สู้กับอำนาจแห่งความมืดฝ่ายวิญญาณที่เข้ามาต่อสู้กับผู้ที่อยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า (อฟ 6.12)
เมื่อเราใช้เครื่องมือแห่งการนมัสการของเรา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเราจะเห็นการปรับเปลี่ยนที่มาจากพระเจ้า
แนวคิดบางประการเพื่อการประยุกต์ใช้(Some Thoughts for Application)
1.คิดอย่างสร้างสรรค์ (Think creatively)
การนมัสการส่วนบุคคลสามารถสร้างสรรค์และเป็นเอกลักษณ์ได้เท่าที่คุณเป็น วิธีการหนึ่งที่ข้าพเจ้าชื่นชอบในการนมัสการ ก็คือ นั่งอยู่หน้าเปียโนและบรรเลงโดยไม่ต้องมีแผ่นโน้ต บ่อยครั้งมากที่ข้าพเจ้าได้ยินท่วงทำนองที่ง่ายแต่ไพเราะในห้วงความคิดของข้าพเจ้าในระหว่างวัน และข้าพเจ้าก็ใช้ท่วงทำนองนั้นเป็นแนวทางในการนมัสการ การเต้นรำ การร้องเพลง การวาดภาพ และการเล่นเครื่องดนตรี เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการต่างๆที่คุณอาจจะถูกเร้าให้ใช้ในการนมัสการอย่างสร้างสรรค์
2. คิดอย่างเรียบง่าย (Think simply)
การนมัสการไม่จำเป็นต้องซับซ้อน บางครั้งการนมัสการที่ลึกซึ้งของข้าพเจ้าก็เกิดขึ้นในสถานที่ซึ่งมีคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ เมื่อเร็วๆนี้ สมาชิกในครอบครัวของข้าพเจ้าคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เวลาอย่างนี้ได้กระตุ้นข้าพเจ้าให้นมัสการได้อย่างง่ายๆ เราอาจจะไม่เข้าใจในเหตุการณ์หรือสถานการณ์เหล่านั้น แต่เราก็สามารถรับรู้มันได้
พระเจ้าทรงดี
พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ
พระองค์ใส่พระทัยในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา และ
พระองค์ทรงสมควรได้รับคำสรรเสริญจากเรา (รม 8.31-39)
ข้อพระคัมภีร์เพื่อการศึกษา
1. อสย 14.12-17, อสค 28.11-19
2. 1พศด 9.33, 15 และ 16, อมส 9.11,12, กจ 15.16,17
3. 2ซมอ 6.14-22, ยน 4.23,24, กจ 13.22,36, 15.16
ข้อมูลจาก : http://www.generals.org/articles/single/the-key-to-your-turnaround/
ขอบคุณผู้แปล คุณเอกจิต จรุงพรสวัสดิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น