คำพยากรณ์ของดาเนียล โดย
อาเชอร์ อินเทรเตอร์
หนังสือดาเนียลแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ บทที่ 1 ถึงบทที่ 6 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของดาเนียลและเพื่อนๆของเขา
ขณะที่กำลังเป็นข้าราชการในบาบิโลน และเปอร์เซีย บทที่ 7 ถึงบทที่12 นั้นเกี่ยวนิมิตเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า
และเรื่องสิ้นยุค
ในแง่ของความก้าวหน้าด้านการรับการเปิดเผยสำแดงของบรรดาผู้เผยพวจนะชาวอิสราเอล
ดาเนียลได้รับการสำแดงในระดับที่ล้ำหน้าที่สุด
นิมิตซึ่งเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเมสสิยาเพื่อเตรียมหนทางสำหรับข่าวประเสริฐ
นิมิตของเขาเกี่ยวกับสิ้นยุคนั้นเป็นเบื้องหลังและบริบทหลักของหนังสือวิวรณ์
บทที่ 7-12 ประกอบด้วย 4 นิมิตหลัก:
1. บทที่ 7 : ปีแรกของรัชกาลเบลชัสซาร์ -
นิมิตถึงสัตว์ 4ชนิด
และผู้ซึ่งเจริญด้วยวัยวุฒิ
2. บทที่ 8: ปีที่ 3 ของรัชกาลเบลชัสซาร์ – นิมิตเกี่ยวกับแกะผู้
(เปอร์เซีย/เมเดซ) และแพะผู้ (กรีก)
3. บทที่ 9: ปีแรกของรัชกาลดาริอัส -
คำพยากรณ์เกี่ยวกับ 70 สัปดาห์
และพระเมสสิยาห์ (ผู้ที่ถูกเจิมไว้) ถูก "ตัดออก"
4. บทที่ 10-12 – ปีที่ 3 ของรัชกาลโคเรช (ไซรัส) -
บทสรุปของสิ้นยุคโดย "บุรุษในเปลวเพลิง"
ความเข้าใจของดาเนียลต่อนิมิตของเขานั้นจำกัด
เขาได้รับการเปิดเผยว่าความสมบูรณ์ของคำเผยเหล่านั้นจะสำเร็จในภายภาคหน้า
และความหมายของคำเหล่านั้นจะถูกปิดผนึกจนกว่าวันนั้น (ดาเนียล 8:26, 12:4,9)
ซึ่งในคำเผยพระวจนหลักทั้งสี่นี้ล้วนอ้างอิงโดยตรงถึงเยชูวาห์(พระเยซูคริสต์ในภาษาฮีบรู)
ในฐานะ “พระเมสสิยาห์” “องค์จอมโยธา (จอมของบริวาล)” “ทูตสวรรค์ของพระเจ้า”
(ดาเนียล7:13-14;
8:11, 15, 25; 9:25-26; 10:5-6, 20-21).
คำเผยพระวจนะได้กล่าวถึงอำนาจซาตานสองขั้วที่แข็งแรงและเข้ามาทำสงครามฝ่ายวิญญาณต่อต้านอาณาจักรของพระเจ้า:คือ
พาราส (เปอร์เซีย) และ ยาวาน (กรีก) เปอร์เซียนั้นตั้งอยู่ทางตะวันออกของอิสราเอล
และกรีกนั้นอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
มันไม่ยากที่จะเห็นว่าสิ้นยุคนั้นเชื่อมโยงกับปัจจุบันกาลของเรา
กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงนั้นเกี่ยวข้องกับวิญญาณพาราส
และกลุ่มมนุษยนิยมตะวันตกที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้านั่นคือวิญญาณยาวาน
แต่ในขณะเดียวกันแม้อำนาจของวิญญาณพาราสและยาวานนั้นเป็นวิญญาณชั่ว
แต่ผู้นำชนชาติในบริเวณที่ได้รับผลกระทบนั้นก็สามารถทำสิ่งดีได้เช่นกัน
ทั้งดาริอัส และไซรัสนั้นก็ได้รับการยกย่องในพระคัมภีร์
และเช่นเดียวกับความรุ่งเรืองของอารยธรรมของอเล็กซานเดอร์มหาราชจากกรีก
(ซึ่งที่จริงคือมาซิโดเนีย) ก็สามารถถูกมองในแง่ดีได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้า(เยชูวาห์)
ได้ต่อสู้เพื่อกษัตริย์ดาริอัส (ดาเนียล 11:1) และไซรัสเองก็ถูกเรียกว่า “ผู้ได้รับการเจิม” (มาชิอัค)
ของพระเจ้าเมื่อเขาเป็นผู้ลงนามประกาศการรื้อฟื้นเยรูซาเล็ม (อิสยาห์ 45:1)
การอธิษฐานวิงวอนกับการสำเร็จสมบูรณ์ของคำเผยพระวจนะ
ในบริบทเชิงประวัติศาสตร์ของเหล่าคำเผยพระวจนะสุดท้ายของดาเนียล
สองอันแรกเกิดขึ้นในช่วงการครองราชของเบลชัสซาร์ผู้เป็นทายาดที่ชั่วร้ายของเนบูคัสเนสซาร์
เขาเป็นผู้ที่เป็นเหตุให้เกิด "ลายพระหัตถ์บนผนัง" (ดาเนียล 5) ดาเนียลได้ทำนายถึงการถูกทำให้ต่ำลงของเบลชัสซาร์
ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังมีลายพระหัตถ์เกิดขึ้นบนผนังวัง
คืออาณาจักรของเบลชัสซาร์ก็ถูกครอบครองโดยดาริอัส
ดาเนียลนั้นจึงได้เริ่มทำงานที่ยิ่งใหญ่ของเขาโดยการรับใช้ในฐานะอภิรัฐมนตรีในรัชกาลของดาริอัส
และไซรัส (ดาเนียล 6:2) ดูเหมือนว่าการตัดสินใจที่จะช่วยเหลือให้ศิโศนกลับสู่สภาพดีนั้นมาจากผลทางการเมือง
จากคำอธิษฐาน และจากคำเผยพระวจนะของดาเนียลในช่วงเวลาการครองราชของไซรัส
ดาเนียลศึกษาคำเผยพระวจนะของอิสยาห์ และเยเรมีห์
และเริ่มอธิษฐานเพื่อให้คำเผยพระวจนะนั้นสำเร็จสมบูรณ์ในยุคสมัยของเขา
อย่างเดียวกับที่เราถูกเรียกให้อ่านคำเผยพระวจนะในพระคำภีร์และอธิษฐานให้คำเผยพระวจนะทั้งหลายนั้นสำเร็จสมบูรณ์ในยุคสมัยของเราด้วย
ขอให้เรารับการเจิมแบบเดียวกันนี้ที่จะมีความเข้าใจเช่นเดียวกับดาเนียล
ในการอธิษฐาน อดอาหาร วิงวอนเผื่อผู้อื่น และกลับใจอย่างที่เขาได้ทำ
และเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ผ่านความเชื่อ
และคำเผยพระวจนะด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://reviveisrael.org/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น