11 มีนาคม 2557

“สนุกเพลิดเพลินกับการอ่านพระคัมภีร์” #1 สนุกกับพระคำ

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน  เมื่อเราย้อนนึกกลับไปในสมัยที่เราตัดสินใจเชื่อวางใจพระเยซูคริสต์ใหม่ๆ เรามีใจสนใจในการศึกษาพระคัมภีร์ อยากที่จะอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐาน  แต่เวลาผ่านไป เรากลับเพิกเฉยไม่สนใจ  บางคนเอาพระคัมภีร์ไว้บนหัวนอน เพื่อจะอ่านพระคัมภีร์ก่อนนอนเพื่อจะได้หลับ แหม! เห็นพระวจนะของพระเจ้าเป็น "ยานอนหลับ" ไปได้ 

วันนี้ผมหนุนใจว่าพระวจนะของพระเจ้าเป็นดั่ง "ยาอายุวัฒนะ" หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเราให้เกิดความชื่นชมยินดีมีชีวิตชีวา พระวจนะของพระเจ้าเป็นดั่งน้ำผึ้งที่หวานทำให้ฉ่ำชื่นใจ ดั่งพระธรรมสดุดีที่ได้กล่าวไว้
สดุดี 119:103 พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริงๆ หวานกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากข้าพระองค์

ในความเป็นจริงพระวจนะเป็นดั่งยาชูกำลัง ยิ่งกว่า M100 เพราะชูกำลังใจให้หายเหนื่อยเป็นสุข ไม่ทำลายล้างเหมือนระเบิด M.79 พระวจนะเป็นดั่งวิตามินบำรุงสมอง และเป็นวัคซีนป้องกันบาป

สาเหตุที่เราเบื่อหน่ายหรือเหนื่อยใจเมื่ออ่านพระวจนะ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ค่อยรู้สึกว่ามันสนุก ไม่เหมือนเวลาเราดูละครตอนหลังข่าว บางคนติดละครไม่ดูไม่ได้ เช่นเรื่องสามีตีตรา แต่ผมว่าพระวิญญาณฯประทับตรา เราน่าจะต้องสนิทกว่าติดละครนะครับ

บทความครั้งนี้ ผมให้ชื่อว่า “สนุกเพลิดเพลินกับการอ่านพระคัมภีร์ ผมขอแบ่งเป็นตอนต่างๆ เพื่อสะดวกในการติดตามนะครับ มี 3 ตอน  3 ส.นะครับ  นั่นคือ สนุกกับพระคำ,สนิทกับพระวจนะและสะสมพระดำรัส

แบ่งปันข้อคิดนิดหนึ่งนะครับ คำว่าพระวจนะหมายถึงพระคำของพระเจ้า แต่บางคนชอบพูดรวมกันกลายเป็นพระวจนะคำของพระเจ้า ซึ่งใช้ไม่ถูกนะครับ เพราะคำว่า "วจนะ" แปลว่า "คำ" อยู่แล้ว จะให้ความหมายว่า "พระคำคำ"ฟังแล้วมันจะงงๆ  จะพูดว่าพระวจนะก็ได้หรือพระคำก็ดี แต่ไม่ใช่พระวจนะคำ
บทความที่ผมเขียน ผมขอแบ่งเป็น 3 ตอน ดังนี้นะครับ
ตอนแรก สนุกกับพระคำ เป็นการแบ่งปันเกี่ยวกับ ความสนุกในการศึกษาพระคำที่เป็นสัจจะวาทะ(Logos-โลกอส) และการนำไปใช้
ตอนที่ 2 สนิทกับพระวจนะ เป็นการฝึกฝนการเฝ้าเดี่ยวเพื่อเราจะสนิทสนมในพระวจนะฟังเสียงพระวจนะที่เป็นถ้อยคำมาถึงชีวิตเรียกว่า "Rhema
-เรม่า"
ตอนที่ 3 เป็นการสะสมพระดำรัส เป็นการศึกษาพระดำรัสที่สั่งสอนเราที่เป็นข้อคิดในชีวิตเพื่อเราจะสะสมไว้เพื่อห่างไกลจากบาป
สดุดี 119:11 ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์ 
คอยติดตามอ่านได้ในบทความนะครับ

เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการอ่านพระคัมภีร์ เพื่อทำให้เรา “สนุกเพลิดเพลินกับการอ่านพระคัมภีร์ด้วยกัน เราจะมีทำความเข้าใจดังต่อไปนี้

เมื่อเราเห็นว่าสิ่งใดทำให้เรา “สนุก” เราก็จะเข้าไป “สนิท” ชิดเชื้อใช้เวลากับสิ่งนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ  เช่นเดียวกับเด็กเล็กๆ เมื่อได้ของเล่นใหม่ ก็จะเล่น(Play) และเรียนรู้(Learn)อย่างสนุกอย่างเพลิดเพลิน( Play+Learn = Plearn)  แต่พระคัมภีร์ไม่ใช่ “ของเล่น”แต่เป็น “ของจริง”  พระวจนะเป็นเครื่องพิสูจน์คน  คนจริงต้องพิสูจน์ใจด้วยความจริง

2ทิโมธี 2:15 จงอุตส่าห์สำแดงตนว่าได้ทรงพิสูจน์แล้วเป็นคนงานที่ไม่ต้องอาย ใช้พระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง

พระคัมภีร์เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของเราที่ต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจ  เราจึงต้องเอาใจใส่และเข้าไปใช้เวลาสนิทสนมกับการศึกษาพระคัมภีร์   

เราจะต้องตระหนักถึงความสำคัญในการอ่านพระคัมภีร์  เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้และเข้าใจพระคัมภีร์  ทั้งนี้เพื่อ...

1. เพื่อจะได้ทราบถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า

โรม 12:1-2
1 พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย 
2อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม

พระวจนะเป็นจดหมายที่เขียนบอกถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า ให้เราอ่านทำความเข้าใจ

2. เพื่อชีวิตจิตวิญญาณของเราจะเติบโตในทางพระเจ้า   
1 เปโตร 2:2 เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมฝ่ายวิญญาณอันบริสุทธิ์ เพื่อโดยน้ำนมนั้นจะทำให้ท่านทั้งหลายเจริญขึ้นสู่ความรอด

พระวจนะของพระเจ้าเป็นดั่งน้ำนมที่ไม่มีวันหมดอายุ ช่วยบำรงเลี้ยงเราให้เติบโตตั้งแต่เมื่อเป็นผู้เชื่อใหม่จนเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณ(คส.1:28-29)
 
3. เพื่อป้องกันจากศัตรูฝ่ายวิญญาณของเรา  
พระวจนะของพระเจ้าเป็นอาหรบำรุงเลี้ยงเมื่อถึงช่วงเวลาเกิดการทดลองและเป็นอาวุธป้องกันการล่อลวงจากมารซานตาน เราจะเห็นได้จากัวอย่างในพระธรรมมัทธิวบทที่ 4  พระเยซูคริสต์ถูกมารมาผจญหลังจากที่พระองค์อดอาหารอธิษฐาน  40 วัน 40 คืน  พระองค์นำพระคัมภีร์มาใช้เป็นเกราะป้องกันพระองค์ให้พ้นจากการล่อลวงของมารร้าย พระองค์ทรงมีชัยชนะการทดลอง เมื่อเราใช้พระวจนะเราจะมีชัยชนะด้วยเช่นกัน

4. เพื่อเราจะใช้พระวจนะในการเผชิญปัญหา
เราจะได้รู้ว่าเราจะจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร อย่างถูกต้องและมีเป้าหมายโดยอาศัยพระวจนะของพระเจ้ามาเป็นแนวทางการตัดสินใจที่ถูกต้องของเรา

สดุดี 119:105 พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์และเป็นความสว่างแก่มรคาของข้าพระองค์

หลายครั้งที่เราเผชิญปัญหาและเกิดความสับสนเหมือนคนที่ "จนตรอก"แต่พระวจนะจะช่วยเป็น"ทางออก"ในทุกปัญหา ทุก"ปัญหา"ที่เข้ามาพระวจนะจะนำทางไปสู่"ปัญญา"ในการแก้ไขปัญหา
เมื่อเราตระหนักถึงความสำคัญของพระคัมภีร์แล้ว เราจะมาเรียนรู้ในเรื่องของประโยชน์เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ ประโยชน์ของการอ่านพระคัมภีร์ มีดังนี้ครับ

(1) พระคัมภีร์ทำให้เราเกิดความสำนึกผิดเมื่อทำบาป



พระคัมภีร์จะช่วยให้เราได้เห็นความผิดหรือ บาปที่เราได้กระทำอย่างชัดเจน ทำให้เรามีความสำนึกที่ตัวในการทำบาปของเรา และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยการขอกลับคืนดีกับพระเจ้า และด้วยการละทิ้งบาปนั้นที่จะไม่ทำต่อไปอีกในชีวิตของเรา  (สดด.119:11)

มีคำกล่าวว่า “หนังสือพระคัมภีร์เล่มนี้ทำให้เราห่างไกลจากความบาป  แต่เมื่อเราอยู่ในความบาปเราจะห่างไกลจากหนังสือเล่มนี้” 

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์พระคำของอ่านใจเรา ทำให้เราได้รับการชันสูตรใจและรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต
2ทิโมธี 3:16-17
16 พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอนการตักเตือนว่ากล่าวการปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม 
17 เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง

(2) การศึกษาพระคัมภีร์จะทำให้เรามีความหวัง
ความหวังเป็นของประทานอันอุดมสมบูรณ์มาจากพระเป็นเจ้า ซึ่งจะมีอยู่ท่ามกลางผู้มีความเชื่อเท่านั้น พระคัมภีร์ก็คือ คำสอนของพระเจ้า ผู้ใดที่เชื่อและปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะพบกับความหวัง ซึ่งเป็นพระวิญญาณของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระวจนะของพระองค์

โรม 15:4 เพราะว่าสิ่งที่เขียนไว้ในสมัยก่อนนั้น ก็เขียนไว้เพื่อสั่งสอนเรา เพื่อเราจะได้มีความหวังโดยความเพียร และความชูใจด้วยพระคัมภีร์

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เราจะเห็นตัวอย่างบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ ประสบการณ์ของเขาทำให้เราเข้าใจในการดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า บุคคลในพระคัมภีร์ พวกเขาดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและความหวังใจ แม้สิ่งที่เขาทำยังไม่เห็นผล แต่เขาส่งต่อความเชื่อทำให้เราได้อ่านชีวิตของเขาผ่านทางพระคัมภีร์ พวกเขามองไปข้างหน้าด้วยความเชื่อ พวกเราในปัจจุบันอ่านพระคัมภีร์เรามองย้อนกลับไปด้วยใจที่ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับเขา และวันนี้เราและเขามีความหวังใจในแผนการของพระเจ้าที่บอกผ่านพระวจนะที่เรามีความเชื่อและความหวังใจร่วมกันว่าทุกถ้อยคำแห่งพระสัญญาจะเป็นจริงเสมอ  
(3)การศึกษาพระคัมภีร์ทำให้เกิดสันติสุข
ผู้ที่รู้และเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า จะมีความรู้สึกปิติยินดีและมั่นคงที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขามากขึ้น

สดุดี 119:165 บุคคลเหล่านั้นที่รักพระธรรมของพระองค์ มีสันติภาพใหญ่ยิ่ง ไม่มีสิ่งใดกระทำให้เขาสะดุดได้

(4) การศึกษาพระวจนะของพระเจ้าจะทำให้เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างที่เกิดกับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี 

พระคัมภีร์ได้บอกถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นไว้ให้เราแล้วทุกประการ หากเราได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า และมีความเชื่อและไว้วางใจในพระองค์อย่างแท้จริงแล้วปัญหาต่างๆก็จะได้รับการช่วยเหลือ
(กจ.20:23,2 ทธ.3:16-17)
        

ดังนั้นเมื่อเราเห็นถึงความสำคัญและเข้าใจถึงประโยชน์จากการอ่านพระคัมภีร์  เราจะอ่านได้อย่างสนุกและเพลิดเพลินในการอ่านมากขึ้น  เอเมนไหมครับ
บทความครั้งหน้าเราจะมาเรียนรู้เรื่อง  “วิธีการอ่านพระคัมภีร์ให้สนุกเพลิดเพลิน” เชื่อว่าเราจะติดสนิทกับพระวจนะของพระเจ้า ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น