เมื่อคริสตจักรเริ่มขับเคลื่อนในการเผยพระวจนะ
สิ่งหนึ่งที่ตามติดมาก็คือพระสัญญา บางคนอาจได้รับคำเผยพระวจนะว่า
“พระเจ้าจะยกระดับคุณในบริษัทที่คุณทำงาน” หรือ
“จะมีสายสัมพันธ์สำคัญเกิดขึ้นในธุรกิจของคุณ” ถ้อยคำเผยพระวจนะแบบนี้
ด้านหนึ่งก็อาจเรียกเป็น “พระสัญญา” ก็ได้
คำถามมีอยู่ว่า เมื่อคนเราได้รับพระสัญญาจากพระเจ้าในเรื่องหนึ่ง
ยังจำเป็นอีกหรือไม่ที่จะต้องอธิษฐานในเรื่องนั้น ทั้งนี้มีผู้สอนบางท่านอธิบายว่า
เมื่อได้รับพระสัญญา ก็ไม่ต้องอธิษฐานแล้ว
เพราะการอธิษฐานทั้งๆที่ได้รับพระสัญญาแล้วนับเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความไม่ไว้วางใจหรือความสงสัย
บางคนก็สอนว่าเมื่อได้รับพระสัญญาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอธิษฐาน
ขอแค่มีความเชื่อเพื่อรับเอาพระสัญญานั้นก็พอแล้ว บางคนก็สอนว่า
เมื่อได้รับพระสัญญาก็ไม่ต้องอธิษฐานทูลขออีก แต่ให้อธิษฐานแบบป่าวประกาศแทน
ในพระคัมภีร์มีตัวอย่างสำคัญที่ตอบคำถามนี้ได้ดี
ดาเนียลเป็นผู้หนึ่งที่รับรู้ถึงพระสัญญาของพระเจ้าว่า
พระองค์จะทรงนำพาคนยิวกลับคืนสู่เยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง
แม้ดาเนียลจะเชื่อในพระสัญญาและมั่นใจว่าพระเจ้าจะสำเร็จพระสัญญาของพระองค์
แต่ดาเนียลก็มิได้อยู่เฉยๆ และเอาแต่รอคอยพระเจ้าเท่านั้น
ทว่าดาเนียลกลับอธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้า
และยังได้อธิษฐานสะสางอุปสรรคต่างๆที่ขัดขวางการสำเร็จพระสัญญา
ด้วยเหตุนี้จากตัวอย่างในพระคัมภีร์
เมื่อผู้ใดได้รับพระสัญญาจากพระเจ้า
นอกจากที่ผู้นั้นจะต้องมีความเชื่อในพระสัญญาแล้ว
ผู้นั้นก็ควรอธิษฐานทั้งทูลขอและป่าวประกาศให้พระเจ้าทรงสำเร็จพระสัญญานั้น
หรือบางทีก็อาจต้องอธิษฐานขจัดอุปสรรคต่างๆที่ขัดขวางการสำเร็จพระสัญญา
บางคนอาจสงสัยว่า
ทำไมต้องอธิษฐานต่อด้วยทั้งๆที่พระเจ้าทรงสัญญาแล้ว? เหตุสำคัญที่คนเราต้องอธิษฐานต่อ
ก็เพราะว่าการขับเคลื่อนของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก พระองค์ไม่ทรงขับเคลื่อนโดยพละการ
พระองค์ไม่ทรงขับเคลื่อนด้วยตัวของพระองค์เองเพียงคนเดียว
การขับเคลื่อนของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก ล้วนมาจากการอธิษฐานของมนุษย์แทบทั้งนั้น
หากมนุษย์อยู่เฉยๆโดยไม่ได้อธิษฐานต่อพระเจ้า
พระองค์ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนสิ่งใดๆบนแผ่นดินโลกได้ ทั้งนี้ใน (ปฐมกาล 1) พระเจ้าได้ทรงมอบสิทธิอำนาจบนแผ่นดินโลกให้กับมนุษย์
แผ่นดินโลกนับเป็นขอบเขตที่เป็นของมนุษย์
ซึ่งพระเจ้าไม่มีสิทธิแทรกแซงใดๆหากมนุษย์ไม่อธิษฐาน
ฉะนั้น
เมื่อพระเจ้าประทานพระสัญญาแล้ว พระองค์ก็ต้องขับเคลื่อนให้พระสัญญาสำเร็จ
แต่พระองค์ไม่อาจขับเคลื่อนได้เลยหากมนุษย์ไม่ยอมอธิษฐาน การที่มนุษย์อธิษฐาน
ด้านหนึ่งก็เป็นการอนุญาตให้พระเจ้าเข้ามาขับเคลื่อนสิ่งต่างๆบนแผ่นดินโลกเพื่อให้สิ่งต่างๆที่พระองค์สัญญาไว้สำเร็จ
คำอธิษฐานของมนุษย์เป็นดั่งใบอนุญาตและเป็นดั่งเครื่องมือของพระเจ้า ที่พระองค์จะทรงทำสิ่งที่พระองค์ต่างๆตามพระประสงค์ของพระองค์
บางครั้งพระสัญญาก็สำเร็จอย่างล่าช้าหรือสำเร็จอย่างไม่บริบูรณ์
ด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะการอธิษฐานที่ขาดไป
จึงทำให้การขับเคลื่อนของพระเจ้าเกิดการสะดุด อนึ่ง ถ้ามนุษย์อธิษฐานทูลขอ
และอธิษฐานสะสางอุปสรรคต่างๆที่ขัดขวางการสำเร็จพระสัญญา
ทั้งทูตสวรรค์และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็สามารถกระทำการได้คล่องขึ้น
การขับเคลื่อนของพระเจ้าก็ไหลลื่น พระสัญญาก็สำเร็จอย่างบริบูรณ์และรวดเร็ว
(ตามพระคัมภีร์ มนุษย์สามารถทูลขอให้พระเจ้าทรงเร่งวันเวลา
และเร่งการสำเร็จพระสัญญาได้)
บางที
อาจเป็นการเหมาะสมที่เพื่อนๆจะทบทวนว่า
พระเจ้าประทานพระสัญญาใดให้กับเพื่อนๆผ่านคำเผยพระวจนะ
และเมื่อเพื่อนๆได้ตระหนักรู้ถึงพระสัญญาแล้ว
นี่อาจเป็นวาระที่พวกเราต้องอธิษฐานเพื่อให้พระสัญญาสำเร็จอย่างบริบูรณ์และรวดเร็ว
ชาโลม
Philip Kavilar
Philip Kavilar นักวิชาการด้านฟิสิกส์ ผู้ศึกษาพระคัมภีร์เป็นงานอดิเรก
เป็นผู้ที่มีของประทานด้านวิชาการและการเผยพระวจนะผสมผสานกัน
ท่านมีความปรารถนาที่จะเห็นการร่วมประสานกันระหว่างพี่น้องในสายวิชาการกับพี่น้องในสายฤทธิ์เดช
และหนุนใจให้คริสตจักรขับเคลื่อนในการเผยพระวจนะและการแปลภาษาแปลกๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น