22 กรกฎาคม 2561

บัพติศมา : ท่วมท้นในความรัก รู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูก


บทความในครั้งนี้ ผมขอนำเสนอมุมมมองใหม่ในเรื่องการบัพติศมาในน้ำ  จากการศึกษาพระคัมภีร์ในตอนที่พระเยซูคริสต์ ทรงรับพิธีบัพติศมาในน้ำจากยอห์น ผู้ให้บัพติศมา ณ แม่น้ำจอร์แดน  
มัทธิว 3:13-17  แล้ว​พระ​เยซู​เสด็จ​จาก​แคว้น​กา​ลิ​ลี มา​หา​ยอห์น​ที่​แม่​น้ำ​จอร์​แดน​เพื่อ​ทรง​รับ​บัพ​ติศ​มา​จาก​ท่าน  แต่​ยอห์น​ทูล​ห้าม​พระ​องค์​ว่า “ข้า​พระ​องค์​ต้อง​การ​จะ​รับ​บัพ​ติศ​มา​จาก​พระ​องค์ ควร​หรือ​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​หา​ข้า​พระ​องค์?”  แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ยอห์น​ว่า “บัด​นี้​จง​ยอม​เถิด เพราะ​สม​ควร​ที่​พวก​เรา​จะ​ทำ​ความ​ชอบ​ธรรม​ให้​ครบ​ถ้วน​ทุก​ประ​การ” แล้ว​ยอห์น​ก็​ยอม เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​รับ​บัพ​ติศ​มา​แล้ว​ก็​เสด็จ​ขึ้น​จาก​น้ำ และ​ใน​ทันใด​นั้น​ฟ้า​ก็​แหวก​ออก และ​พระ​องค์​ทรง​เห็น​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​พระ​เจ้า​เสด็จ​ลง​มา​ดุจ​นก​พิราบ​สถิต​บน​พระ​องค์ และ​นี่แน่ะ มี​พระ​สุร​เสียง​ตรัส​จาก​ฟ้า​สวรรค์​ว่า   “ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก” 
เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงอายุได้ 30 ปี พระองค์ทรงมาหา​ยอห์น ผู้ให้บัพติศมา​ ท่านเป็นเตรียมทางของการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ ตามถ้อยคำของ อิสยาห์ 40:3 ... “จง​เตรียม​มรร​คา​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร จง​ทำ​ทาง​หลวง​ใน​ที่​ราบ​แห้ง​แล้ง​ให้​ตรง​สำ​หรับ​พระ​เจ้า​ของ​เรา 
ยอห์นมาเพื่อประกาศให้คนกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในน้ำเพื่อจะเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า(มัทธิว 3:1-12)  ในฐานะความเป็นญาติสนิทระหว่างยอห์นและพระเยซูคริสต์ (ยอห์นเป็นบุตรของ​เอลีซาเบธ ญาติของนางมารีย์ แม่ของพระเยซู) ครั้งนี้ยอห์นทราบดีว่าพระเยซูคริสต์ไม่​ใช่​แค่​แวะ​มา​หา​ท่านในฐานะญาติ แต่มาตามแผนการของพระบิดา และงานของ​ยอห์น​ในการเตรียมาทางก็สำเร็จแล้ว                             แม้ว่ายอห์นจะปฏิเสธเพราะการให้​บัพติศมานั้นเพื่อ​ผู้​คน​ที่​กลับ​ใจ​จาก​บาป แต่​พระ​เยซู​ไม่​มี​บาป  แต่พระ​เยซู​ทรงยืน​ยัน​ที่​จะ​รับ​บัพติศมา​  ทรงตรัสว่า “บัด​นี้​จง​ยอม​เถิด เพราะ​สม​ควร​ที่​พวก​เรา​จะ​ทำ​ความ​ชอบ​ธรรม​ให้​ครบ​ถ้วน​ทุก​ประ​การ” (มธ. 3:15)  แล้ว​ยอห์น​ก็​ยอมทำพิธีบัพติศมาในน้ำให้กับพระองค์
การ​บัพติศมา​ใน้ำของ​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​สัญลักษณ์​ของ​การ​กลับ​ใจ​จาก​บาป เป็นพิธีการล้างชำระ  (doctrine of baptisms)  ฮีบรู 6:2 และ​คำสอน​เรื่อง​พิธี​ล้าง​ชำระ​ต่างๆ การ​วาง​มือ การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย และ​การ​ลง​โทษ​ชั่ว​นิรันดร์)  
การรับบัพติศมาในน้ำแบบนี้จึงเป็นการบัพติศมา : ท่วมท้นในความรัก  รู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูกเมื่อ​พระ​องค์​ทรง​รับ​บัพ​ติศ​มา​แล้ว​ก็​เสด็จ​ขึ้น​จาก​น้ำ และ​ใน​ทันใด​นั้น​ฟ้า​ก็​แหวก​ออก และ​พระ​องค์​ทรง​เห็น​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​พระ​เจ้า​เสด็จ​ลง​มา​ดุจ​นก​พิราบ​สถิต​บน​พระ​องค์ และ​นี่แน่ะ มี​พระ​สุร​เสียง​ตรัส​จาก​ฟ้า​สวรรค์​ว่า   “ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”  (มธ. 3:1ุ6-17) 


สิ่งที่น่าอัศรรย์ใจในเหตุการณ์ครั้งนี้คือ การยืนยันด้วยถ้อยคำแห่งความรัก(love affirmation) พระบิดาทรงตรัสกับพระบุตรว่า “ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก” 
สิ่งนี้เป็นคำกล่าวอวยพรของผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดที่มอบให้กับลูก (สดุดี 2:7 “เจ้า​เป็น​บุตร​ของ​เรา วัน​นี้​เรา​ให้​กำ​เนิด​เจ้า​แล้ว) สิ่งนี้เป็นการส่งผลต่อเป้าประสงค์ลิขิต(Destiny) สำหรับผู้ที่เป็นลูกที่จะผงาดขึ้นในความเป็นลูกเพื่อจะไปตามงานที่บิดามอบหมาย  นี่คือจุดเริ่มต้นการรับใช้ของพระเยซูคริสต์ในฐานะของพระบุตรที่มาในโลกเพื่อสำแดงความรักของพระบิดา ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมา คนที่จะรอดเข้าแผ่นดินสวรรค์ คือการบัพติศมาแบบยอห์น บัพติศมา แต่สำหรับพระเยซูคริสต์ พระองค์มาเพื่อบัพติศมาด้วยพระวิญญาณและด้วยไฟ (มัทธิว 3:11 ข้าพ​เจ้า​ให้​ท่าน​รับ​บัพ​ติศ​มา​ด้วย​น้ำ แสดง​ว่า​กลับ​ใจ​ใหม่​ก็​จริง แต่​พระ​องค์​ผู้​จะ​มา​ภาย​หลัง​ข้าพ​เจ้า ทรง​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ข้าพ​เจ้า ซึ่ง​ข้าพ​เจ้า​ไม่​คู่​ควร​แม้​แต่​จะ​ถือ​ฉลอง​พระบาท​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​จะ​ทรง​ให้​พวก​ท่าน​รับ​บัพ​ติ​ศมา​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​และ​ด้วย​ไฟ)
การบัพติศมาในน้ำไม่ได้ทำให้รอด เราทั้งหลายรอดแล้วเมื่อเราเชื่อในพระราชกิจแห่งการไถ่ของพระเยซูคริสต์    การบัพติศมาในน้ำ เป็นสัญลักษณ์ถึง การเข้าสนิทในพระกายร่วมพระเยซูคริสต์ คือ การฝังตัวเก่าของเราลงไปในน้ำและการโผล่ขึ้นจากน้ำเป็นการประกาศชัยชนะเหนือความตายเช่นเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ที่ทรงก้าวออกมาจากอุโมงค์ฝังศพด้วยชัยชนะ     
โรม 6:1-5  ...3 ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​รู้​หรือ​ว่า เรา​ผู้​ที่​ได้​รับ​บัพ​ติศ​มา​เข้า​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ ก็​ได้​รับ​บัพ​ติศ​มา​นั้น​เข้า​ใน​การ​ตาย​ของ​พระ​องค์?   4 เพราะ​ฉะนั้น เรา​จึง​ถูก​ฝัง​ไว้​กับ​พระ​องค์​แล้ว โดย​การ​รับ​บัพ​ติศ​มา​เข้า​ใน​การ​ตาย​นั้น เพื่อ​ว่า​เมื่อ​พระ​บิดา​ทรง​ให้​พระ​คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​โดย​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์​แล้ว เรา​ก็​จะ​ได้​ดำ​เนิน​ตาม​ชีวิต​ใหม่​ด้วย​เหมือน​กัน  5 เพราะ​ว่า​ถ้า​เรา​เข้า​สนิท​กับ​พระ​องค์​แล้ว​ใน​การ​ตาย​อย่าง​พระ​องค์ เรา​ก็​จะ​เข้า​สนิท​กับ​พระ​องค์​ใน​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​อย่าง​พระ​องค์
1 เปโตร 3:21 บัด​นี้​น้ำ​นั้น​ที่​เล็ง​ถึง​พิธี​บัพ​ติศ​มา​ก็​ช่วย​พวก​ท่าน​ให้​รอด​เช่น​เดียว​กัน ไม่​ใช่​เป็น​การ​ชำระ​มล​ทิน​ทาง​กาย แต่​เป็น​การ​วิง​วอน​พระเจ้า​เพื่อ​จะ​มี​มโน​ธรรม​ที่​ดี ความ​รอด​นั้น​มา​โดย​ทาง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์
สิ่งนี้เป็นความรักที่ท่วมท้นเหมือนการจุ่มให้มิด คำว่า บัพติศมา มาจากภาษากรีกคำว่า ฺBaptizo-βαπτίζω เป็นไวยากรณ์ แบบ Future Perfect Continuous Tense คือการดำเนินอย่างต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อดีต และยังดำเนินต่อเนื่องไปถึงปัจจุบัน และในอนาคต หมายถึงการบัพติศมานี้ส่งผลต่อเนืื่องนิรันดร์ 
เข้าใจง่ายๆ คือ การรับเป็นลูกก็เป็นลูกตลอดไป
โรม. 8:15 เพราะ​ว่า​พระ​วิญ​ญาณ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​มา​นั้น​จะ​ไม่​ทรง​ให้​ท่าน​เป็น​ทาส​ซึ่ง​ทำ​ให้​ตก​ใน​ความ​กลัว​อีก แต่​พระ​วิญ​ญาณ​จะ​ทรง​ให้​ท่าน​มี​ฐานะ​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า โดย​พระ​วิญ​ญาณ​นั้น​เรา​จึง​ร้อง​เรียก​พระ​เจ้า​ว่า “อับ​บา (พ่อ)

สำหรับความคิดส่วนตัวของผมแล้ว  ผู้ที่รับบัพติศมาในน้ำครั้งเดียวก็เพียงพอ แต่หากมีคนที่ขอรับบัพติศมาใหม่อีกได้ไหม  ผมคิดว่า รับได้ไม่ได้บาปอะไร หรือเมื่อก่อนนั้นรับบัพติศมาแบบพรมน้ำไม่ได้จ่มให้มิด ก็รับใหม่เถอะครับ  ถ้าสิ่งนั้นเป็นการทำให้ความเชื่อของเขามั่นคงมากขึ้นก็ทำไปเถอะครับ สิ่งเหล่านี่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์ เช่นกรณีของอปอลโล (กจ.18) หรือแม้แต่อัครทูตเปาโล (กจ.22:16 ท่านมารับบัพติศมาในน้ำ) ประเด็นนี้ขอไม่มาถกเถียงกันว่าถูกหรือผิด

แต่ประเด็นที่ขอนำเสนอต่อไปคือ ท่วมท้นในความรัก  การไปสู่กระบวนการชำระต่อเนื่องจนกว่าจะสมบูรณ์(Entire Sanctification)  
ไม่มีใครอาบน้ำเพียงครั้งเดียวจบ  การที่เราเคยเป็นบุตรน้อยหลงหายหลงจากพระบิดาและกลับใจกลับมาหาพระเจ้า ดังเช่น อุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย(ลูกาบทที่ 15) 
(ผมเคยเขียน บทความเรื่อง  "หัวใจพระบิดา : "บุตรน้อยหลงหาย กับบุตรชายหลงผิด" เข้าไปอ่านได้ )

เมื่อเรากลับมาจากการหลงหายไปในโลกที่เต็มด้วยความบาปเปรียบเสมือนอยู่ในกองขยะ ผู้ที่เป็นพ่อก็จะต้องจับลูกอาบน้ำ ขัดสีฉวัีวรรณ แต่งตัวให้ใหม่ สมกับเป็นลูกของจอมราชา เราเป็นดั่งเจ้าชายและเจ้าหญิงของพระเจ้า เช่นเดียวกันเราก็ยังอยู่ในโลกนี้ ที่เต็มด้วยความบาปจึงต้องรับการชำระทุกๆวันจากพระเจ้า 
ภาพของตอนที่พระเยซูคริสต์รับบัพติศมา มีนกพิราบมาประทับที่พระองค์ นกพิราบเป็นภาพของความถ่อมสุภาพ นกพิราบไม่บินไปไหน เพราะพระเยซูคริสต์ทรงอ่อนสุภาพ เช่นเดียวกับพระวิญญาณที่อยู่ในเราเมื่อเราเข้าสนิทในพระกายร่วมกับพระเยซูคริสต์ เราจึงไม่ควรทำบาปให้พระวิญญาณเสียพระทัย เพราะท่านได้รับการประทับตราไว้ด้วยการไถ่จากบาปเป็นของพระบิดาแล้ว


เอเฟซัส 4:30 และ​อย่า​ทำ​ให้​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​เสีย​พระ​ทัย ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ​นั้น​ท่าน​ได้​รับ​การ​ประ​ทับ​ตรา​ไว้​สำ​หรับ​วัน​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​ไถ่

คำว่า "การชำระ" ภาษากรีกใช้คำว่า Hagiazo ἁγιασμός  เป็นการรับการชำระจากพระเจ้าด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยพระวจนะ(เทียบได้กับน้ำ) ทุกๆวันต่อเนื่อง

คำว่า ”baptizo” ซึ่งหมายถึง จุ่มลงแล้วนำขึ้นอย่างเร็ว”  แต่การแช่ตัว (soaking)  ยอมให้ความรักไหลล้นค่อยๆท่วมจนมิดอย่างต่อเนื่องเพื่อการชำระล้างและน้ำที่แช่ไหลซึมผ่าน
ภาพของท่วมท้นในความรักของพระบิดา เป็นภาพของการแช่อิ่ม(Soaking) เช่นเดียวกับผลไม้ที่ยอมให้น้ำเชื่อมไหลซึมผ่านเข้าไปในเนื้อผลไม้ที่แช่ (osmosis 

ดังนั้นขอหนุนใจให้เราได้มีประสบการณ์กับพระบิดาในการรับบัพติศมาหัวใจของเราใหม่ทุกๆวัน ให้ท่วมท้นในความรัก เพื่อเรียนรู้รักความรักของพระบิดาที่เข้ามาเยียวยาให้หายจากความบาดเจ็บ ประสบการณ์ในอดีตที่เลวร้าย หักล้างคำโกหกของศัตรูด้วยความจริงเพื่อเราจะเป็นไท
เรียนรู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูก  ถึงเวลาแห่งการผงาดขึ้นในความเป็นลูก เพื่อไปสู่เป้าประสงค์ของพระบิดา ตามที่พระเยซูคริสต์ทรงมอบแผนการ พระมหาบัญชาที่ให้เราในฐานะผู้เชื่อได้กระทำตามพระบัญชา

มัทธิว 28:18-20 
18 พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​เข้า​มา​ใกล้​แล้ว​ตรัส​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิทธิ​อำนาจ​ทั้ง​หมด​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​แผ่น​ดิน​โลก​ก็​ดี​ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​แล้ว
19 เพราะ​ฉะนั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ออก​ไป​และ​นำ​ชน​ทุก​ชาติ​มา​เป็น​สา​วก​ของ​เรา จง​บัพ​ติศ​มา​พวก​เขา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา พระ​บุตร และ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์
20 และ​สอน​พวก​เขา​ให้​ถือ​รัก​ษา​สิ่ง​สาร​พัด​ที่​เรา​สั่ง​พวก​ท่าน​ไว้ และ​นี่​แน่ะ เรา​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เสมอ​ไป จน​กว่า​จะ​สิ้น​ยุค”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น