วันที่ 21 ก.ค.2018 ตรงกับวันที่ 9 เดือนอับ(Av) ตามปฏิทินฮีบรู เป็นรำลึกถึง เหตุการณ์ที่เรียกว่า "ชิสชาบาอับ" (Tisha B'Av -תשעה באב ) คือ วันที่ 9 เดือนอับ
คำแช่งสาปในวันที่ 9 ของเดือนอับนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา คำแช่งสาปเกิดจากความไม่เชื่อและเปิดหูรับฟังคำพูดแง่ลบ โดยเริ่มต้นจากเหตุการณ์ในพระธรรมกันดารวิถี บทที่ 13 คนอิสราเอลอพยพออกจากอียิปต์ดั้นด้นผ่านทะเลทรายมาจวนที่จะถึงดินแห่งพันธสัญญาแล้วคือ "คานาอัน"(Canaan)
โมเสสได้ส่งผู้สอดแนม(Spy) 12 คน เข้าไปในแผ่นดินนั้น และสืบหาข้อมูลว่าแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร
พวกเขากลับมารายงานโมเสสโดยนำผลไม้แห่งแผ่นดินคานาอันนั้นกลับมาด้วย เพื่อให้คนอิสราเอลที่ไม่ได้ไปด้วยนั้นได้เห็นและลิ้มรส
กดว. 13:23 เขาทั้งหลายมาถึงหุบเขาเอชโคล์ แล้วพวกเขาตัดองุ่นกิ่งหนึ่งที่มีองุ่นพวงหนึ่งจากที่นั่น ต้องใช้สองคนหามด้วยไม้คาน และพวกเขายังเก็บลูกทับทิมและมะเดื่อมาบ้าง
ผลองุ่นหนึ่งพวงนั้น ต้องใช้คนหามถึง 2 คน แสดงว่าเขตแดนนั้นเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง พวกผู้สอดแนมทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าดินแดนนั้นเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยพระพรอย่างแท้จริง ที่นั่นมีสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ พวกเขาไม่ปฏิเสธว่าในแผ่นดินพระสัญญานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพร
แต่เหล่าผู้สอดแนม(Spy) 10 คนจาก 12 คนที่ไป พวกเขาจะสามารถไว้วางใจพระเจ้าได้หรือไม่ว่าพระองค์จะประทานแผ่นดินนั้นให้กับพวกเขา
คำแช่งสาปในวันที่ 9 ของเดือนอับนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา คำแช่งสาปเกิดจากความไม่เชื่อและเปิดหูรับฟังคำพูดแง่ลบ โดยเริ่มต้นจากเหตุการณ์ในพระธรรมกันดารวิถี บทที่ 13 คนอิสราเอลอพยพออกจากอียิปต์ดั้นด้นผ่านทะเลทรายมาจวนที่จะถึงดินแห่งพันธสัญญาแล้วคือ "คานาอัน"(Canaan)
โมเสสได้ส่งผู้สอดแนม(Spy) 12 คน เข้าไปในแผ่นดินนั้น และสืบหาข้อมูลว่าแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร
พวกเขากลับมารายงานโมเสสโดยนำผลไม้แห่งแผ่นดินคานาอันนั้นกลับมาด้วย เพื่อให้คนอิสราเอลที่ไม่ได้ไปด้วยนั้นได้เห็นและลิ้มรส
กดว. 13:23 เขาทั้งหลายมาถึงหุบเขาเอชโคล์ แล้วพวกเขาตัดองุ่นกิ่งหนึ่งที่มีองุ่นพวงหนึ่งจากที่นั่น ต้องใช้สองคนหามด้วยไม้คาน และพวกเขายังเก็บลูกทับทิมและมะเดื่อมาบ้าง
ผลองุ่นหนึ่งพวงนั้น ต้องใช้คนหามถึง 2 คน แสดงว่าเขตแดนนั้นเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง พวกผู้สอดแนมทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าดินแดนนั้นเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยพระพรอย่างแท้จริง ที่นั่นมีสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ พวกเขาไม่ปฏิเสธว่าในแผ่นดินพระสัญญานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพร
แต่เหล่าผู้สอดแนม(Spy) 10 คนจาก 12 คนที่ไป พวกเขาจะสามารถไว้วางใจพระเจ้าได้หรือไม่ว่าพระองค์จะประทานแผ่นดินนั้นให้กับพวกเขา
ผู้สอดแนม 10 คนบอกว่า “เราไม่สามารถเข้าไปและชนะคนเหล่านั้นได้ เพราะพวกเขามีกำลังมากกว่าเรา” (กดว. 13:31)
ภารกิจที่เราจะเข้าไปคานาอัน เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ (mission impossible!)
มีเพียงผู้สอดแนม 2 คนเท่านั้นที่ คือ โยชูวาและคาเลบ บอกว่า “พระเจ้าจะทรงมอบดินแดนนั้นให้กับเรา พระเจ้าได้ทรงนำเรามาไกลถึงเพียงนี้ ให้เรารุดไปข้างหน้าต่อไปด้วยความเชื่อและเข้ายึดครองดินแดนนั้น”
ดินแดนแห่งแผ่นดินพระสัญญานั้น ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับคนที่ขาดความเชื่อ แต่ดินแดนแห่งพระสัญญานั้นเตรียมไว้ สำหรับคนที่มีความเชื่อที่จะได้ครอบครองและในวันที่ 9 ของเดือนอับ Tisha B'Av นั้นเองที่คนอิสราเอลเลือกที่จะเปิดหูฟังเสียงแห่งความไม่เชื่อ ทำให้คำแช่งสาปได้เข้ามา พระเจ้าได้ทรงเปิดประตูแห่งพระพรสำหรับอนาคตให้พวกเขาแล้ว แต่ทว่า พวกเขาปฏิเสธที่จะผ่านเข้าไป และนั่นก็คือ บาปของคนอิสราเอลที่คาเดช บารเนีย พวกเขากบฏต่อโมเสส นั่นคือการกบฏต่อพระเจ้า เหตุการณ์ในพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 14 ต่อจากนั้น
ตามแผนการของพระเจ้านั้น เดือนอับควรที่จะเป็นเดือนแห่งพระพรและการเฉลิมฉลอง เพราะพวกเขาได้เข้าไปในแผ่นดินพันธสัญญา คือ "คานาอัน" แต่ พวกเขากลับต้องตายคาถิ่นทุรกันดาร!
เดือนอับจึงนี้เป็นเดือนที่เกี่ยวข้องกับคำแช่งสาปแช่ง! และต่อเนื่องมาจากเดือนทัมมุส(Tammuz) เดือนแห่งการเตือนใจที่พวกคนยิวไปกราบไหว้รูปปั้นโคทองคำ โมเสสไม่พอใจอย่างมากจึงขว้างศิลาแห่งพระบัญญัติตกแตก (อพยพ 32) ในช่วงวันที่ 17เดือนทัมมุส
ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลา 21 วันแห่งความทุกข์ยาก ที่เป็นธรรมเนียมของคนยิวในเวลาต่อมาที่พวกเขาจะอดอาหารเพื่อไว้ทุกข์ และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ที่เรียกว่า בין המצרים "Bein ha-Metzarim - เบน ฮา มิซาริม" เป็นช่วงเวลา 21 วันนับตั้งแต่วันที่่ 17 ทัมมุสถึงวันที่ 9 เดือนอับ
ตามประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ในวันที่ 9 ของเดือนอับ (Tisha B'Av) มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับประเทศอิสราเอล เป็นดั่ง "วงจรเวลาแห่งการแช่งสาป" เกิดขึ้นต่อเนื่อง ดังเช่น
วันที่9 เดือนอับ – ปี 587 กคศ. กองทัพบาบิโลนทำลายพระวิหารหลังแรกของกษัตริย์ซาโลมอน
วันที่ 9 เดือนอับ - คศ.70 กองทัพโรมันทำลายพระวิหารหลังที่ 2
วันที่ 9 เดือนอับ - คศ.135 โรมเข้าปราบคนยิวเป็นครั้งสุดท้าย และกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย
เมื่อพระวิหารถูกทำลายและพวกเขาต้องหนีกระจัดกระจายไปทั่วโลก แต่เมื่อพวกเขากลับใจ พระยาห์เวห์ทรงให้อภัยและรื้อฟื้นประเทศกลับขึ้นมาใหม่ ในวันที่ 14 พ.ค.1948
ดังนั้นเดือนนี้จึงเดือนแห่งการยอมจำนนและถูกสร้างขึ้นใหม่
สดุดี 51:10 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
เดือนนี้เกี่ยวข้องกับตัวอักษร ט “เทธ” ในภาษาฮีบรูเป็นภาพของครรภ์มารดา ให้ความหมายถึงการคลอดสิ่งใหม่ สิ่งดีต่างๆจะเกิดขึ้น
เดือนนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำหรับการอธิษฐานสารภาพความผิดบาปด้วยใจยอมจำนนและขอพระองค์สร้างจิตใจใหม่ให้เข้มแข็ง
เป็นช่วงเวลาที่เราเรียนรู้จากบทเรียนที่คนยิวทำผิดพลาดในอดีต
Tisha B'Av เป็นเวลาที่เราจะปิดหูรับคำแช่งสาป เพื่อเปิดปากกล่าวถ้อยคำแห่งพระพร!
เดือนอับเป็นเวลาที่จะทำลายวิญญาณการไม่เชื่อฟัง การไม่เชื่อฟังจะมีคำพูดออกมาจากปาก สิ่งที่ออกมาจากปากก็ออกมาจากใจ เมื่อใจไม่เชื่อ ปากก็ไม่เชื่อ ปากก็บ่น ปากก็คร่ำครวญ
เดือนอับเป็นเดือนที่เราจะยืนขึ้นและกล่าวถ้อยคำแห่งความจริง(Stand up,Speak up)เพื่อทำลายคำหลอกลวงของศัตรู!
อาโมส 3:8 สิงห์เปล่งเสียงคำรามแล้ว ใครจะไม่กลัวบ้าง? พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสแล้ว ใครบ้างจะไม่เผยพระวจนะ?
เราต้องเปิดปากของเรา กล่าวถ้อยคำว่า "ฉันเป็นผู้รับพระพร"
"ฉันเป็นลูกของพระเจ้า ผู้รับพระพรและมรดก"
ในพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงนำคำแช่งสาปของเราไปแล้ว โดยที่พระองค์มาตายไถ่บาปให้กับเราที่ไม้กางเขน เพื่อทำให้เราได้รับพระพร
กาลาเทีย 3:13-14
13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความแช่งสาปแห่งธรรมบัญญัติโดยการที่พระองค์ทรงยอมถูก แช่งสาปเพื่อเรา (เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ทุกคนที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้องถูกสาปแช่ง 14 เพื่อพระพรทางอับราฮัมจะได้มาถึงคนต่างชาติทั้งหลายเพราะพระเยซูคริสต์เพื่อเราจะ ได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ
1เปโตร 2:24 พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระ องค์ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย
ภารกิจที่เราจะเข้าไปคานาอัน เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ (mission impossible!)
มีเพียงผู้สอดแนม 2 คนเท่านั้นที่ คือ โยชูวาและคาเลบ บอกว่า “พระเจ้าจะทรงมอบดินแดนนั้นให้กับเรา พระเจ้าได้ทรงนำเรามาไกลถึงเพียงนี้ ให้เรารุดไปข้างหน้าต่อไปด้วยความเชื่อและเข้ายึดครองดินแดนนั้น”
ดินแดนแห่งแผ่นดินพระสัญญานั้น ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับคนที่ขาดความเชื่อ แต่ดินแดนแห่งพระสัญญานั้นเตรียมไว้ สำหรับคนที่มีความเชื่อที่จะได้ครอบครองและในวันที่ 9 ของเดือนอับ Tisha B'Av นั้นเองที่คนอิสราเอลเลือกที่จะเปิดหูฟังเสียงแห่งความไม่เชื่อ ทำให้คำแช่งสาปได้เข้ามา พระเจ้าได้ทรงเปิดประตูแห่งพระพรสำหรับอนาคตให้พวกเขาแล้ว แต่ทว่า พวกเขาปฏิเสธที่จะผ่านเข้าไป และนั่นก็คือ บาปของคนอิสราเอลที่คาเดช บารเนีย พวกเขากบฏต่อโมเสส นั่นคือการกบฏต่อพระเจ้า เหตุการณ์ในพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 14 ต่อจากนั้น
ตามแผนการของพระเจ้านั้น เดือนอับควรที่จะเป็นเดือนแห่งพระพรและการเฉลิมฉลอง เพราะพวกเขาได้เข้าไปในแผ่นดินพันธสัญญา คือ "คานาอัน" แต่ พวกเขากลับต้องตายคาถิ่นทุรกันดาร!
เดือนอับจึงนี้เป็นเดือนที่เกี่ยวข้องกับคำแช่งสาปแช่ง! และต่อเนื่องมาจากเดือนทัมมุส(Tammuz) เดือนแห่งการเตือนใจที่พวกคนยิวไปกราบไหว้รูปปั้นโคทองคำ โมเสสไม่พอใจอย่างมากจึงขว้างศิลาแห่งพระบัญญัติตกแตก (อพยพ 32) ในช่วงวันที่ 17เดือนทัมมุส
ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลา 21 วันแห่งความทุกข์ยาก ที่เป็นธรรมเนียมของคนยิวในเวลาต่อมาที่พวกเขาจะอดอาหารเพื่อไว้ทุกข์ และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ที่เรียกว่า בין המצרים "Bein ha-Metzarim - เบน ฮา มิซาริม" เป็นช่วงเวลา 21 วันนับตั้งแต่วันที่่ 17 ทัมมุสถึงวันที่ 9 เดือนอับ
ตามประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ในวันที่ 9 ของเดือนอับ (Tisha B'Av) มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับประเทศอิสราเอล เป็นดั่ง "วงจรเวลาแห่งการแช่งสาป" เกิดขึ้นต่อเนื่อง ดังเช่น
วันที่9 เดือนอับ – ปี 587 กคศ. กองทัพบาบิโลนทำลายพระวิหารหลังแรกของกษัตริย์ซาโลมอน
วันที่ 9 เดือนอับ - คศ.70 กองทัพโรมันทำลายพระวิหารหลังที่ 2
วันที่ 9 เดือนอับ - คศ.135 โรมเข้าปราบคนยิวเป็นครั้งสุดท้าย และกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย
เมื่อพระวิหารถูกทำลายและพวกเขาต้องหนีกระจัดกระจายไปทั่วโลก แต่เมื่อพวกเขากลับใจ พระยาห์เวห์ทรงให้อภัยและรื้อฟื้นประเทศกลับขึ้นมาใหม่ ในวันที่ 14 พ.ค.1948
ดังนั้นเดือนนี้จึงเดือนแห่งการยอมจำนนและถูกสร้างขึ้นใหม่
สดุดี 51:10 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
เดือนนี้เกี่ยวข้องกับตัวอักษร ט “เทธ” ในภาษาฮีบรูเป็นภาพของครรภ์มารดา ให้ความหมายถึงการคลอดสิ่งใหม่ สิ่งดีต่างๆจะเกิดขึ้น
เดือนนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำหรับการอธิษฐานสารภาพความผิดบาปด้วยใจยอมจำนนและขอพระองค์สร้างจิตใจใหม่ให้เข้มแข็ง
เป็นช่วงเวลาที่เราเรียนรู้จากบทเรียนที่คนยิวทำผิดพลาดในอดีต
Tisha B'Av เป็นเวลาที่เราจะปิดหูรับคำแช่งสาป เพื่อเปิดปากกล่าวถ้อยคำแห่งพระพร!
เดือนอับเป็นเวลาที่จะทำลายวิญญาณการไม่เชื่อฟัง การไม่เชื่อฟังจะมีคำพูดออกมาจากปาก สิ่งที่ออกมาจากปากก็ออกมาจากใจ เมื่อใจไม่เชื่อ ปากก็ไม่เชื่อ ปากก็บ่น ปากก็คร่ำครวญ
เดือนอับเป็นเดือนที่เราจะยืนขึ้นและกล่าวถ้อยคำแห่งความจริง(Stand up,Speak up)เพื่อทำลายคำหลอกลวงของศัตรู!
อาโมส 3:8 สิงห์เปล่งเสียงคำรามแล้ว ใครจะไม่กลัวบ้าง? พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสแล้ว ใครบ้างจะไม่เผยพระวจนะ?
เราต้องเปิดปากของเรา กล่าวถ้อยคำว่า "ฉันเป็นผู้รับพระพร"
"ฉันเป็นลูกของพระเจ้า ผู้รับพระพรและมรดก"
ในพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงนำคำแช่งสาปของเราไปแล้ว โดยที่พระองค์มาตายไถ่บาปให้กับเราที่ไม้กางเขน เพื่อทำให้เราได้รับพระพร
กาลาเทีย 3:13-14
13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความแช่งสาปแห่งธรรมบัญญัติโดยการที่พระองค์ทรงยอมถูก แช่งสาปเพื่อเรา (เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ทุกคนที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้องถูกสาปแช่ง 14 เพื่อพระพรทางอับราฮัมจะได้มาถึงคนต่างชาติทั้งหลายเพราะพระเยซูคริสต์เพื่อเราจะ ได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ
1เปโตร 2:24 พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระ องค์ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย
สำหรับพระยาห์เวห์นั้นแม้ว่าลูกของพระองค์จะทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พระองค์ทรงเข้าใจและทรงให้อภัยเสมอ แม้คนยิวถูกการแช่งสาปแต่กระนั้นพระองค์ทรงทำให้เขาได้รับพระพรกลับมาเสมอ
พระองค์ทรงมีพันธสัญญาแห่งการรื้อฟื้นให้พวกเขาพ้นการแช่งสาปและหายดีเสมอ
ถ้อยคำเผยพระวจนะ เศคาริยาห์ 8:19 กล่าวว่า
“พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า การอดอาหารในเดือนที่ 4 (Tammuz) การอดอาหารในเดือนที่ 5 (Av) และการอดอาหารในเดือนที่ 7 และการอดอาหารในเดือนที่ 10 จะเป็นที่ให้ความบันเทิงและความร่าเริง และเป็นการเลี้ยงที่ให้ชื่นชมแก่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ เหตุฉะนั้นเจ้าจงรักความเที่ยงตรงและสันติภาพ
การอดอาหารในเดือนที่ 5 หรือเดือน อับ(Av) ในช่วงเวลา Tisha B'Av เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะไม่ต้องอับอายอีกต่อไป เพราะพวกเขาจะได้กลับมาสู่พระบิดาด้วยความรัก ความเที่ยงตรงและสันติภาพมาลาคี 4:5-6
“ดูเถิด เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระเจ้า คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวมาถึง และท่านผู้นั้นจะกระทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ หาไม่ เราจะมาโจมตีแผ่นดินนั้นด้วยคำสาปแช่ง”
เชื่อมั่นว่าในเดือนอับปีนี้ แม้จะ "อับแสง" ที่พระสิริทรงเป็นความสว่าง ความโปรดปรานของพระองค์ไม่ทำให้เรา "อับอาย" และไม่มีวันตกอับ หรือ "อับเฉา"และ"อับโชค" เพราะเราไม่มีโชค มีแต่แผนการที่จะไปสู่เป้าประสงค์ลิขิตของพระองค์ในชีวิต
ได้เวลาผงาดขึ้นในความเป็นลูก นี่เป็นเวลาแห่งพระพรที่พระบิดาจะนำหัวใจของเราเข้ามาหากัน ขอบคุณอับบา พระบิดาในสวรรค์
พระองค์ทรงมีพันธสัญญาแห่งการรื้อฟื้นให้พวกเขาพ้นการแช่งสาปและหายดีเสมอ
ถ้อยคำเผยพระวจนะ เศคาริยาห์ 8:19 กล่าวว่า
“พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า การอดอาหารในเดือนที่ 4 (Tammuz) การอดอาหารในเดือนที่ 5 (Av) และการอดอาหารในเดือนที่ 7 และการอดอาหารในเดือนที่ 10 จะเป็นที่ให้ความบันเทิงและความร่าเริง และเป็นการเลี้ยงที่ให้ชื่นชมแก่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ เหตุฉะนั้นเจ้าจงรักความเที่ยงตรงและสันติภาพ
การอดอาหารในเดือนที่ 5 หรือเดือน อับ(Av) ในช่วงเวลา Tisha B'Av เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะไม่ต้องอับอายอีกต่อไป เพราะพวกเขาจะได้กลับมาสู่พระบิดาด้วยความรัก ความเที่ยงตรงและสันติภาพมาลาคี 4:5-6
“ดูเถิด เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระเจ้า คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวมาถึง และท่านผู้นั้นจะกระทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ หาไม่ เราจะมาโจมตีแผ่นดินนั้นด้วยคำสาปแช่ง”
เชื่อมั่นว่าในเดือนอับปีนี้ แม้จะ "อับแสง" ที่พระสิริทรงเป็นความสว่าง ความโปรดปรานของพระองค์ไม่ทำให้เรา "อับอาย" และไม่มีวันตกอับ หรือ "อับเฉา"และ"อับโชค" เพราะเราไม่มีโชค มีแต่แผนการที่จะไปสู่เป้าประสงค์ลิขิตของพระองค์ในชีวิต
ได้เวลาผงาดขึ้นในความเป็นลูก นี่เป็นเวลาแห่งพระพรที่พระบิดาจะนำหัวใจของเราเข้ามาหากัน ขอบคุณอับบา พระบิดาในสวรรค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น