เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์และเฝ้าติดตามวาระเวลาของพระยาห์เวห์ เราจะทราบว่านี่เป็นช่วงเวลาต่อเนืื่องจากเทศกาลปัสกา(Passover) จนถึงเทศกาลสำคัญคือ เทศกาลสัปดาห์(Shavuot หรือ Pentecost) คือ นับจากปัสกา 7 สัปดาห์(49วัน) วันที่ 50 เป็นการฉลองผลแรกที่นับมาถวายแด่พระยาห์เวห์ แต่เป็นการถวายผลแรกที่เพิ่มพูนขึ้น เพราะในสมัยคนยิวที่อพยพในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาได้นำผลผลิตจากแผ่นดินมาทำขนมปัง 2 ก้อนเพื่อถวายแด่พระยาห์เวห์
เลวีนิติ 23:15-17
15“ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจนถึงวันสะบาโต จงนับให้ได้ครบ 7 สัปดาห์เต็มๆ คือนับจากวันที่พวกเจ้านำพืชผลรุ่นแรกเข้ามาทำพิธีโบกถวายเป็นต้นไป
16 นับไปให้ได้ 50 วัน จนถึงวันถัดจากวันสะบาโตที่ 7 แล้วเจ้าจงนำเมล็ดใหม่มาถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นธัญบูชา
17 จงนำขนมปัง 2 ก้อนทำด้วยแป้งสองกิโลกรัมจากที่อาศัยของพวกเจ้ามาทำพิธีโบกถวาย ให้ทำด้วยแป้งอย่างดีใส่เชื้อปิ้งเป็นผลรุ่นแรกถวายแด่พระยาห์เวห์
คนยิวจะมีการนับโอเมอร์(หม้อใส่มานา)ในแต่ละวันเพื่อระลึกถึงการจัดเตรียมมานาเป็นอาหารประจำวันในถิ่นทุรกันดาร ในเทศกาลปัสกาเป็นขนมปังไร้เชื่อ(Matzah) เนื่องจากต้องชำระเชื้อเก่าในอียิปต์ให้หมด แต่ครั้งนำขนมปังอย่างดีใส่เชื้อฟูมาคือ ขนมปังคาลาห์(Challah) จึงเป็นการอวยพรที่เพิ่มพูนมากขึ้น
(เทศกาลปัสกา คนยิวจะกินขนมปังปิ้งไร้เชื้อ (Matzah)และกินผักรสขม เพื่อระลึกถึงความขมขื่นใจที่เป็นทาสในอียิปต์ พระธรรม 1 โครินธ์ 5:7-8 อัครทูตเปาโลได้อธิบายภาพจากเทศกาลปัสกาของชาวยิวและการรับประทานขนมปังไร้เชื้อ(อพย.12:1-28,13:6-8) เพื่อให้ตระหนักว่าผู้เชื่อต้องชำระเชื้อเก่าด้วยความเชื่อใหม่ที่ได้รับการไถ่แล้วจากพระเยซูคริสต์)
สิ่งเหล่านี้เป็นภาพจริงที่สะท้อนออกจากภาพเงา(Type)ในพระธรรมอพยพบทที่ 19 และ 20 ได้บรรยายถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์ แก่นสาระสำคัญของพระธรรมอพยพ คือ ปัสกาคือการก้าวออกมาจากความเป็นทาสในอียิปต์แลในวันที่ 50 พวกเขาได้รับประสบการณ์ในการที่พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ 10 ประการแก่พวกเขาให้ถือรักษาในเทศกาลสัปดาห์(Shavuot) หากแต่ว่าเมื่อโมเสสได้รับแผ่นศิลาพระบัญญัติบนภูเขาซีนายและท่านได้กลับลงมา ท่านเห็นว่าคนยิวหันไปไหว้กราบโคทองคำ โมเสสจึงขว้างแตกแผ่นศิลาแตกและ คนยิวตายถึง 3000 คนในคราวเดียว
อพยพ 32:28 คนเลวีก็ทำตามที่โมเสสสั่ง และประชาชนประมาณ 3,000 คนตายลงในวันนั้น
ข้อคิด คือ พระยาห์เวห์ทรงปรารถนาความสัมพันธ์แต่คนยิวต้องการกฎ เป็นกฏของการแต่งงานกับพระยาห์เวห์ที่ภูเขาซีนาย แต่เมื่อเขาทำผิดกฏและหักพันธสัญญาคือการคบชู้ไปกราบไหว้โคทองคำ ประมวลกฎประหารให้ตายแต่พระวิญญาณประทานชีวิตและเสรีภาพ
ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม คือ พระบัญญัติ 10 ประการแห่งความจริง ภาพจริงที่ปรากฏให้เห็นคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ประสาทชีวิต (1 คร. 15:45)
ในพระคัมภีร์ใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระวิญญาณแห่งพันธสัญญาที่ทำให้ใหม่ เหมือนดังสมัยโมเสสที่ทำแตกเพราะคนยิวหักพันธสัญญา พระยาห์เวห์ทรงรักด้วยพันธสัญญานิรันดร์
2 โครินธ์ 3:3 ...แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ไม่ได้เขียนบนแผ่นศิลา แต่เขียนบนแผ่นดวงใจมนุษย์
ในพระคัมภีร์ใหม่ ในสมัยกิจการฯ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จมาประทับเหนือเหล่าสาวก 120 คนที่รอคอยที่ห้องชั้นบนที่เยรูซาเล็ม เมื่อพระวิญญาณเสด็จมา อัครทูตเปโตรเทศนาคนกลับใจเชื่อถึง 3,000 คนในคราวเดียว
นี่คือจุดบรรจบของคำเผยพระวจนะที่สำเร็จเป็นจริง ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม มองไปสู่อนาคตด้วยความเชื่อและความหวังใจเล็งถึงพระคริสต์ที่จะมา แต่ภาพจริงที่ปรากฏในพระคัมภีร์ใหม่สำเร็จเป็นจริงตามคำเผยพระวจนะผ่านทางพระคริสต์ที่ทำสำเร็จแล้วที่ไม้กางเขน พระองค์ประทานพระวิญญาณในเทศกาลเพ็นเทคอสต์ (กจ.2)
เมื่อเรามองย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ที่ไม้กางเขนด้วยความเชื่อและความหวังใจ เราจะซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ ที่เราได้รับพระเมตตา คือ การละเว้นสิ่งที่เราต้องได้รับคือความบาปความตาย และพระคุณในสิ่งที่เราไม่สมควรได้รับคือความรอด
ปี 2018 เทศกาลเพ็นเทคอสต์จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค.เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคริสตชนทุกคนที่วันนี้ เรามีพระวิญญาณอยู่ในชีวิตเป็นพันธสัญญาใหม่ที่มอบกับเราทุกคนด้วยความรัก เป็นพันธสัญญาทีเป็นดั่งแหวนหมั้น เราเพื่อเราจะเป็นดั่งเจ้าสาวคือคริสตจักรและได้แต่งงานกับพระเมษโปดกในวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาในวาระสุดท้ายของโลกนี้
2 โครินธ์ 11:2 เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนพวกท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะว่าข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับสามีคนเดียว เพื่อถวายพวกท่านให้เป็นหญิงพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสต์
เมื่อเรามองย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ที่ไม้กางเขนด้วยความเชื่อและความหวังใจ เราจะซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ ที่เราได้รับพระเมตตา คือ การละเว้นสิ่งที่เราต้องได้รับคือความบาปความตาย และพระคุณในสิ่งที่เราไม่สมควรได้รับคือความรอด
ปี 2018 เทศกาลเพ็นเทคอสต์จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค.เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคริสตชนทุกคนที่วันนี้ เรามีพระวิญญาณอยู่ในชีวิตเป็นพันธสัญญาใหม่ที่มอบกับเราทุกคนด้วยความรัก เป็นพันธสัญญาทีเป็นดั่งแหวนหมั้น เราเพื่อเราจะเป็นดั่งเจ้าสาวคือคริสตจักรและได้แต่งงานกับพระเมษโปดกในวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาในวาระสุดท้ายของโลกนี้
2 โครินธ์ 11:2 เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนพวกท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะว่าข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับสามีคนเดียว เพื่อถวายพวกท่านให้เป็นหญิงพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสต์
เอเฟซัส 1:13 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น