ข้อคิดจาก Graham Cooke:
เสรีภาพเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเจ้า และข่าวดีสำหรับพวกเราทุกคนคือ เสรีภาพนี้ไม่ขึ้นกับเรา!
ไม่ใช่ภาระที่เราต้องแบกด้วยการพยายามที่จะเป็นอิสระ มีแต่การอนุญาตให้เราที่จะค้นพบว่า แท้จริงแล้วเรามีเสรีภาพมากแค่ไหนในพระคริสต์!
พระบิดา พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สำเร็จพระราชกิจแห่งความรอดเรียบร้อยไปแล้ว ก่อนที่เราจะปรากฏตัวบนโลกนี้เสียอีก พระองค์ต่างหากที่เป็นผู้ริเริ่มสิ่งนี้เพื่อเรา
แกนหลักของพันธสัญญาใหม่ผ่านพระคริสต์ เราได้รับสิ่งที่สูญเสียไปจากอาดัม นั่นคือพระเจ้าอยู่ด้วยกับเราเสมอ
1. รับพระคุณโดยไม่เพิกเฉย
ฮีบรู 12:15 จงระวังให้ดีอย่าให้ใครเพิกเฉยต่อพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป(defiled)
2. รับพระคุณโดยดำเนินชีวิตในเสรีภาพ
เส้นบางๆระหว่างเสรีภาพกับการทำตามใจตนเอง คือ "ท่าทีในใจ"
ท่าทีส่งผลต่อท่าทางคือการกระทำและเป็นตัวกำหนดผลปลายทาง
ท่าทีดีท่าทางจะเข้าท่า แต่ท่าทีไม่ดีท่าทางจะพลาดอย่างไม่เป็นท่า
อัครทูตเปาโล เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้ในจดหมายฝากถึงผู้เชื่อเมืองกาลาเทีย ในบทที่ 5
“เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงให้เราเป็นไท เพราะฉะนั้น จงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกของการเป็นทาสอีกเลย” (กาลาเทีย 5:1)
พระเยซูตายไถ่บาปให้เราพ้นจากการเป็นทาสแล้วอย่าไปสวมแอกแห่งทาสคือธรรมบัญญัติอีก คือ มีเสรีภาพภายใต้กรอบที่ถูกต้องคือพระวิญญาณ ไม่ใช่การงานเนื้อหนังการทำอะไรตามใจชอบ ระวังจะไปที่ชอบๆ
ประมวลกฎประหารให้ตายแต่พระวิญญาณประทานชีวิต Torah คือ กฎแห่งความรัก
“พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด เพราะว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นนั้นสรุปได้เป็นคำเดียวคือว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (กาลาเทีย 5:13-14 )
เสรีภาพใหม่ส่งผลจากภายในที่เปลี่ยนโดยพระวิญญาณ
ความรักเป็นผลของพระวิญญาณ(กาลาเทีย 5:22-23)ที่สำแดงออกเป็นการกระทำตามธรรมบัญญัติ ไม่ใช่การประมวลผลแบบ input แล้วออกมาเป็น output แต่เป็นผลที่เกิดจากต้น ต้นไม้ดีให้ผลดี
ธรรมบัญญัติเป็นกฎของความรัก เพื่อปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่การปรักปรำเมื่อทำผิด
ธรรมบัญญัติเป็นรั้วกั้นเพื่อเราจะไม่ตกขอบ อยู่ในกรอบที่ปลอดภัย
“ท่านทั้งหลายที่ปรารถนาจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยธรรมบัญญัติ ก็ถูกตัดขาดจากพระคริสต์ และหล่นจากพระคุณไปเสียแล้ว”(กาลาเทีย 5:4)
ธรรมบัญญัติไม่ใช่แอกที่ต้องแบกไว้ เพราะนั่นคือการเป็นทาส ที่เน้นการกระทำภายนอกแบบศาสนาที่ตัดสินคนอื่น รวมถึงการผลักไสไล่พระคริสต์ ปิดใจที่จะรับพระคุณ
การทำตามใจตนเองไม่ใช่เสรีภาพแต่เป็นการงานของเนื้อหนัง
ดังคำกล่าวที่ว่า "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ "
แต่ความจริง ธาตุแท้คือความเป็นทาสแท้ แพ้ความบาป เพราะตกเป็นทาสของบาปยังดำเนินอยู่ในบาป
3.รับพระคุณด้วยการรักษาพระคำ
พระเยซูไม่เคยลบล้างธรรมบัญญัติแต่ทำให้สมบูรณ์ (มัทธิว 5:17-20)
มัทธิว 19:23-26
23 พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ก็ยาก
24 เราบอกท่านทั้งหลายอีกว่า ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า”
25 เมื่อพวกสาวกได้ยินก็ประหลาดใจมาก จึงทูลว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้”
26 พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก และตรัสว่า “ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง”
แต่ไม่ใช่การปรักปรำเพื่อทำโทษ เพราะประมวลกฏประหารให้ตายแต่พระวิญญาณประทานชีวิต(2 โครินธ์ 3:6)
ความรักที่แท้จริงจะต้องไม่บีบบังคับแต่ต้องให้อิสระในการตัดสินใจ
เหตุเพราะผลจากต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่วจึงทำให้มนุษย์ตัดสินใจไม่รับพระคุณแต่เคร่งครัดตามกฏที่สร้างขึ้นมา
อัครทูตเปาโลได้กล่าวว่า ธรรมบัญญัติทำให้ผู้คนได้รู้ว่า สิ่งใดเป็นสิ่งชอบธรรมและสิ่งใดเป็นความบาป กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ธรรมบัญญัติทำให้ผู้คนได้รู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ดีและสิ่งใดเป็นสิ่งที่ชั่ว(โรม 7:7) แต่ว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาป...
เสรีภาพเป็นของขวัญที่ยิ่งใ
ไม่ใช่ภาระที่เราต้องแบกด้ว
พระบิดา พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สำ
แกนหลักของพันธสัญญาใหม่ผ่า
1. รับพระคุณโดยไม่เพิกเฉย
ฮีบรู 12:15 จงระวังให้ดีอย่าให้ใครเพิก
2. รับพระคุณโดยดำเนินชีวิตใ
เส้นบางๆระหว่างเสรีภาพกับก
ท่าทีส่งผลต่อท่าทางคือการก
ท่าทีดีท่าทางจะเข้าท่า แต่ท่าทีไม่ดีท่าทางจะพลาดอ
อัครทูตเปาโล เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้ในจ
“เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงให้เราเป็นไ
พระเยซูตายไถ่บาปให้เราพ้นจ
ประมวลกฎประหารให้ตายแต่พระ
“พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิ
เสรีภาพใหม่ส่งผลจากภายในที
ความรักเป็นผลของพระวิญญาณ(
ธรรมบัญญัติเป็นกฎของความรั
ธรรมบัญญัติเป็นรั้วกั้นเพื
“ท่านทั้งหลายที่ปรารถนาจะถูกชำระให
ธรรมบัญญัติไม่ใช่แอกที่ต้อ
การทำตามใจตนเองไม่ใช่เสรีภ
ดังคำกล่าวที่ว่า "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ "
แต่ความจริง ธาตุแท้คือความเป็นทาสแท้ แพ้ความบาป เพราะตกเป็นทาสของบาปยังดำเ
3.รับพระคุณด้วยการรักษาพระ
พระเยซูไม่เคยลบล้างธรรมบัญ
มัทธิว 19:23-26
23 พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของ
24 เราบอกท่านทั้งหลายอีกว่า ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่
25 เมื่อพวกสาวกได้ยินก็ประหลา
26 พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก
แต่ไม่ใช่การปรักปรำเพื่อทำ
ความรักที่แท้จริงจะต้องไม่
เหตุเพราะผลจากต้นไม้แห่งคว
อัครทูตเปาโลได้กล่าวว่า ธรรมบัญญัติทำให้ผู้คนได้รู
คำว่า “ดี” ในภาษาฮีบรูมาจากคำว่า Tov ส่วนคำว่า “ชั่ว” ในภาษาฮีบรูมาจากคำว่า Rah และคำว่า ธรรมบัญญัติ ในภาษาฮีบรูมาจากคำว่า Torah เมื่อนำคำว่า “ดีชั่ว” มาประกอบกันก็จะได้เสียงเป็
เปาโลได้กล่าวว่า “เรารู้ว่าธรรมบัญญัตินั้นด
1. ธรรมบัญญัติทำให้รู้ว่าสิ่ง
2. ธรรมบัญญัติสามารถใช้ในทางท
3. ธรรมบัญญัติเมื่อใช้อย่างผิ
ต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว
ส่วนการใช้ต้นไม้แห่งความรู
สรุปได้ว่าเมื่อมีการใช้ต้น
เรามีสิทธิในการเลือกเป็นขอ
“แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านพ้นจากการเป็นทาสของบาป
คนที่ดำเนินชีวิตตามใจไร้ขอ
เขาจะตายเพราะขาดวินัยในชีว
บทสรุป คือ การดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ
“ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคร
กจ. 15:28-29 แก้ปัญหาเรื่องการเข้าสุหนั
28 เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์
29 คือว่าให้ท่านทั้งหลายงดการ
❤️ผู้ที่รับพระคุณและรักษ์พ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น