(หมายเหตุ เรียนรู้จักลักษณะของเผ่าต่างๆประจำเดือนของอิสราเอลโดยสามารถอ่านบทความที่เขียนไว้ตาม Link นี้ครับ สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์, อิสสาคาร์ - ลาที่มีกำลังกล้าหาญ,เศบูลุน-เรือสำเภามุ่งสู่จุดหมาย,รูเบน - บุตรชายสายน้ำเชี่ยว,สิเมโอน กระบี่ในใจที่ร้ายกาจ,กาด นักรบผู้เก่งฉกาจ,เอฟราอิม-กระทิงแห่งศักดิ์ศรี, มนัสเสห์- ช่อมะกอกที่ออกผล,เบนยามิน -สุนัขป่า นักล่า, ดาน สันดานงูพิษ)
อาเชอร์ (Asher - אָשֵׁר ) หรือ นาย "สุขใจ" เป็นบุตรชายคนที่ 8 ของยาโคบ(อิสราเอล) เป็นบุตรของนางเลอาห์ซึ่งเกิดจากนางศิลปาห์สาวใช้ของเธอ
ปฐมกาล. 30:13 เลอาห์ก็ว่า “ข้าพเจ้ามีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า
เป็นสุข” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์
อาเชอร์ ได้รับการอธิษฐานอวยพรจากบิดา คือ ยาโคบดังนี้
ปฐมกาล. 49:20 อาหารของอาเชอร์จะบริบูรณ์
และเขาจะผลิตเครื่องเสวยสำหรับกษัตริย์
นี่เป็นคำเผยพระวจนะที่เผ่าอาเชอร์จะได้ครอบครองดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นเป็นจริง!
เผ่าอาเชอร์ได้รับมรดก ในดินแดนพันธสัญญา นั้นคือได้ครอบครองตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน(Mediterranean) ระหว่างเมืองไทระ(Tyre)และภูเขาคาร์เมล(Mt.Carmel) ...
เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในคานาอัน
สังเกตได้จากเป็นดินแดนที่มีข้าวสาลี
ข้าวโพดและไวน์อุดมสมบูรณ์
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการอวยพรที่เต็มขนาดของพระเจ้า
ดินแดนนี้มีพืชที่อุดมสมบูรณ์
มีเพียงพอ สร้างความพึงพอใจอย่างมากสำหรับเผ่าอาเชอร์
และยังสามารถส่งออกไปให้กับเผ่าอื่นๆได้ด้วย กษัตริย์ซาโลมอนทรงได้นำผลผลิตจากที่ดินของเผ่าอาเชอร์นี้ ไว้ในพระคลังของพระองค์เอง (1 พงศ์กษัตริย์ 4:20-28)
หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี สถานที่ที่พระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น (ยอห์น 2:1-11) ก็เป็นดินแดนที่เป็นมรดกของเผ่าอาเชอร์ ดินแดนของเผ่าอาเชอร์นี้
เป็นสถานที่ที่พระเยซูทรงสำแดงพระองค์ว่าทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต
คำอวยพรของโมเสส กล่าวเผยพระวจนะถึงเผ่าอาเชอร์ว่า
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:24-25
“ขอให้อาเชอร์ได้รับพระพรเหนือบรรดาบุตรอื่นๆ ของยาโคบ
ขอให้เป็นที่โปรดปรานในบรรดาพี่น้อง
ให้เขาจุ่มเท้าลงในน้ำมันมะกอก
ขอให้ดาลประตูของเขาเป็นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ กำลังของเขาคงอยู่ตลอดชีวิตของเขา”
เมืองของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองโดยประตูเหล็กและทองสัมฤทธิ์ และความแข็งแกร่งของพวกเขาจะมีอายุตราบเท่าที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่
โมเสสจึงอวยพรแก่เผ่าอาเชอร์ ให้มีลูกดก
(เผ่าอาเชอร์กลายเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่มีจำนวนมากที่สุด)
เผ่าอาเชอร์อาศัยอยู่อย่างสงบสุขกับชนเผ่าอื่นๆ และมีความเจริญรุ่งเรือง การล้างเท้าด้วยน้ำมันมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง
สัญลักษณ์ประจำเผ่าอาเชอร์ คือ "ต้นไม้"
เผ่าอาเชอร์เป็นเสมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ที่เกิดผลตามฤดูกาล
สดุดี 1:3 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง ทุกอย่างที่เขาทำก็จำเริญขึ้น
ดูภาพรวมๆแล้วเป็นเผ่าที่มีความสุขมาก ตามชื่อนายสุขใจ แต่ว่าพวกเขาก็เคยได้รับความยากลำบากเมื่อพวกเขากบฏต่อพระเจ้าในอดีตที่ผ่านมา
เผ่าอาเชอร์ได้เข้าร่วมเป็น 10 เผ่าของอิสราเอลทางตอนเหนือที่กบฏต่อสู้กับอาณาจักรยูดาห์ (1 พงศ์กษัตริย์ 12)
สาเหตุหนึ่งที่พวกเขากบฏไป อาจจะมาจากการที่กษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหาร พระองค์ได้ทรงให้ยกเมือง 20 เมืองจากอาณาเขตของเผ่าอาเชอร์ ให้กับฮีรามกษัตริย์เมืองไทระ เพื่อแลกเปลี่ยนสำหรับความช่วยเหลือของฮีราม
1 พงศ์กษัตริย์ 9:11-12
11 แล้วพระราชาซาโลมอนก็ประทานเมือง 20 เมืองในแผ่นดินกาลิลีแก่ฮีรามกษัตริย์แห่งไทระ เพราะฮีรามได้ส่งไม้สนสีดาร์ ไม้สนสามใบและทองคำให้แก่ซาโลมอน ตามที่พระองค์มีพระประสงค์
12 แต่เมื่อฮีรามเสด็จจากเมืองไทระเพื่อชมเมืองที่ซาโลมอนประทานแก่ท่าน เมืองเหล่านั้นไม่เป็นที่พอพระทัยท่าน
เมื่อชนเผ่าทางตอนเหนือก่อกบฎต่อต้านกษัตริย์เรโหโบอัม พระโอรสของกษัตริย์ซาโลมอน เผ่าอาเชอร์ก็ไปกับพวกเขาในการกบฏ
แต่เผ่าอาเชอร์ได้กลับใจใหม่อีกครั้ง! เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้รื้อฟื้นการจัดงานฉลองเทศกาลปัสกา พระองค์ทรงส่งสารไปยังเมืองของ 10 ชนเผ่าทางตอนเหนือ เพื่อให้พวกเขาที่จะเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม
2 พงศาวดาร 30:9-11
9 เพราะถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมายังพระเจ้า พี่น้องของท่านและลูกหลานของท่านจะประสบความเอ็นดูจากผู้ที่จับเขาไปเป็นเชลย และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้อีก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระเมตตาและกรุณา ถ้าท่านกลับมาหาพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงหันพระพักตร์ไปจากท่าน”...
11
มีแต่คนเผ่าอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุนบางคนที่ถ่อมตัวและมายังเยรูซาเล็ม
ฝูงชนมากมายทั้งชายและหญิงจากเผ่าอาเชอร์
เดินทางมาเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ
จากชนเผ่าทางตอนเหนือและเดินทางไปยังอาณาจักรยูดาห์ พวกเขาได้นมัสการพระเจ้าที่แท้จริง!
2 พงศาวดาร 11:16 และบรรดาผู้ที่ปักใจแสวงพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล
ก็ติดตามเขาทั้งหลายมาจากเผ่าทั้งปวงของอิสราเอลยังเยรูซาเล็ม
เพื่อถวายสัตวบูชาต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย
2 พงศาวดาร 15:9
และพระองค์ทรงรวบรวมยูดาห์และเบนยามินทั้งปวง และคนเหล่านั้นจากเอฟราอิม มนัสเสห์
และจากสิเมโอน ผู้อาศัยอยู่กับเขาทั้งหลาย เพราะคนเป็นจำนวนมากได้หลบหนีมาหาพระองค์จากอิสราเอล
เมื่อเขาเห็นว่าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพระองค์สถิตกับพระองค์
ผลที่ได้คือเผ่าอาเชอร์ก็ไม่ได้ "เป็นชนเผ่าที่สูญหาย" เมื่อราชอาณาจักรภาคเหนือถูกนำตัวไปเป็นเชลย
มีคนจากเผ่าอาเชอร์หลงเหลือในแผ่นดิน!
เผ่าอาเชอร์เป็นนักรบ กองหลังที่แข็งแกร่ง
เวลาเคลื่อนทัพของอิสราเอล เผ่าอาเชอร์จะเดินในกลุ่มสุดท้าย
เพื่อป้องกันหลัง เมื่อศัตรูโจมตีจากด้านหลัง
เผ่าอาเชอร์เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลในการป้องกันศัตรูเมื่อมีการจัดทัพเดินผ่านถิ่นทุรกันดาร
เมื่อมีการจัดค่ายรอบพลับพลา
เผ่าอาเชอร์ถูกจัดวางอยู่ทางด้านทิศเหนือของค่ายพร้อมกับเผ่าดานและเผ่านัฟทาลี เป็นตำแหน่งที่วางไว้เพื่อปกป้องชนชาติอิสราเอล! ในพระคัมภีร์
การโจมตีจากศัตรูมักจะโจมตีจากทางทิศเหนือ
การจัดตั้งรูปแบบค่ายของคนอิสราเอลและการตั้งพลับพลา (กันดารวิถี 2:1-34,3:21-38) จะเห็นได้ว่าพลับพลาจะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของค่าย ซึ่งมีเผ่าต่างๆ 12
เผ่าของอิสราเอลอยู่บริเวณรอบพลับพลา มี 3 เผ่าตั้งค่ายอยู่ที่จุดของแต่ละเข็มทิศรอบพลับพลา
เผ่าเลวีจะเข้าไปทำหน้าที่ในพลับพลา
เผ่าอาเชอร์ ได้รับการอวยพรในเรื่องความแข็งแรงและการเกิดผล(เฉลยธรรมบัญญัติ 33 :24-25) แต่เผ่าอาเชอร์ยังลังเลที่จะไปในการต่อสู้!
เมื่อเผ่าอาเชอร์เข้ามาในดินแดน
พวกเขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่จะขับไล่ชาวคานาอันออกไป
เผ่าอาเชอร์ล้มเหลวที่จะขับไล่ชาวเมืองต่างๆออกไป
ผู้วินิฉัย 1:31 อาเชอร์มิได้ขับไล่ชาวเมืองอัคโค
หรือชาวเมืองไซดอน หรือชาวเมืองอัคลาบ หรือชาวเมืองอัคซิบ หรือชาวเมืองเฮลบาห์
หรือชาวเมืองอาฟิกหรือชาวเมืองเรโหบ
ในช่วงเวลาที่ผู้วินิจฉัย
เผ่าอาเชอร์ปฏิเสธที่จะต่อสู้เคียงข้างกับเดโบราห์และบาราค ทำให้เดโบราห์ได้ตำหนิ โดยเอ่ยชื่อ เผ่าอาเชอร์ในบทเพลงแห่งชัยชนะของเธอ!
ผู้วินิฉัย 5:17 กิ
เลอาดอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ส่วนดานอาศัยอยู่กับเรือกำปั่น ทำไมเล่า
อาเชอร์นั่งเฉยอยู่ที่ฝั่งทะเล ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามท่าจอดเรือของเขา
เราเห็นได้จากการศึกษาเดือนที่แล้วคือ เดือนเทเบท ว่า เผ่าดาน สันดานงูพิษไม่ยอมกลับใจ แต่เผ่าอาเชอร์ พวกเขากลับใจใหม่!
เผ่าอาเชอร์ตอบสนองการตักเตือนของเดโบราห์ เปลี่ยนจากนักหลับ นั่งเฉย ที่เคยมีคติประจำใจว่า "ไม่หลบ ไม่อู้ก็สู้ไม่ไหว"
พวกเขาสำนึกผิด! จะมัวหลับ หลบ อู้ไม่ได้แล้ว ต้องเป็นนักรบที่ห้าวหาญ
เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์ เราจะพบว่าเผ่าอาเชอร์
ไม่เคยหันหลังหลับเมื่อถูกเรียกให้ออกไปรบ!
ในหนังสือผู้วินิจฉัยบทที่ 6-7 เมื่อกิเดโอน
รวบรวมกองทัพไปรบ เผ่าอาเชอร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว!
พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ทรงสวมทับกิเดโอน ...
และท่านส่งผู้สื่อสารไปทั่วทั้งเผ่ามนัสเสห์
เพื่อเรียกพวกเขาออกไปรบและส่งผู้สื่อสารไปยังเผ่าอาเชอร์ เศบูลุนและนัฟทาลี พวกเขาก็ขึ้นไปพบกับผู้สื่อสาร
ผู้วินิฉัย 7:23
คนอิสราเอลถูกเรียกออกมาจากนัฟทาลี และจากอาเชอร์
และจากทั่วมนัสเสห์และพร้อมกันติดตามพวกมีเดียนไป
ใน 1 พงศาวดาร 12
เมื่อกษัตริย์เดวิด ตั้งกองทัพของพระองค์
กองทัพที่ใหญ่เป็นอันดับสองของชนเผ่าทั้งหมดมาจากเผ่าอาเชอร์!
1 พงศาวดาร 12:36 จากคนอาเชอร์ 40,000 คนที่พร้อมออกรบในสงคราม
1พงศาวดาร 12:38 ทหารทั้งสิ้นเหล่านี้ พร้อมที่จะทำศึก
มายังเฮโบรน ด้วยเจตนาเต็มเปี่ยมเพื่อตั้งดาวิดให้เป็นพระราชาเหนือ
อิสราเอลทั้งสิ้น ในทำนองเดียวกันคนอิสราเอลที่เหลืออยู่
ก็เป็นใจเดียวกันที่จะตั้งดาวิดเป็นพระราชา
1 พงศาวดาร7:40
ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของอาเชอร์ เป็นผู้นำตระกูลของพวกเขา
เป็นนักรบกล้าหาญที่ถูกคัดเลือกไว้เป็นผู้นำของเหล่าเจ้านาย
จำนวนคนที่พร้อมรบในสงครามตามที่บันทึกไว้ใน ทะเบียนลำดับพงศ์คือ 26,000 คน
สิ่งที่เรียนรู้ คือ เผ่าอาเชอร์ได้เลือกทางที่ผิด แต่พวกเขากลับใจและได้รับการรื้อฟื้นในการเป็นผู้นำจนไปสู่ความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของเขา พวกเขาคือ นักรบของพระยาห์เวห์
เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่เราจะเตือนใจตัวเองว่า โยเอล 3:10 ... ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ข้าเป็นนักรบ”
เดือนเชบัท จึงเป็นเดือนที่เราจะอธิษฐานป่าวประกาศดังนี้
เดือนแห่งความบริบูรณ์
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ
ปฐมกาล 49:20 อาหารของอาเชอร์จะบริบูรณ์ และเขาจะผลิตเครื่องเสวยสำหรับกษัตริย์
เดือนนี้เป็นเดือนที่เราจะรับพระพรเพื่อเรานำพระพรออกไปสู่ผู้อื่น!
เดือนแห่งการเยียวยารักษา
อธิษฐานป่าวประกาศ ตามพระวจนะ เยเรมีย์
33:6 ดูเถิด
เราจะนำอนามัย
และการรักษามาให้ และเราจะรักษาเขาทั้งหลายให้หายและเผยสวัสดิภาพและความมั่นคงอย่างอุดม
เดือนนี้เป็นแห่งการเยียวยารักษา
เหมือนดังพระธรรมวิวรณ์ 22:1-2
กล่าวถึงแม่น้ำแห่งชีวิตที่ไหลไปที่ใดเกิดการเยียวยารักษา จิตใจของเราจะเป็นดั่งรากฐานของต้นไม้ที่จะถูกปลุกขึ้นมาด้วยแม่น้ำแห่งชีวิต
เดือนแห่งความชอบธรรมที่เป็นรากฐานของชีวิต
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ เยเรมีย์
33:16 ในกาลครั้งนั้น ยูดาห์จะได้รับการช่วยให้รอด และเยรูซาเล็มจะอาศัยอยู่อย่างมั่นคง … ‘พระเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา’
ตัวอักษรภาษาฮีบรูประจำเดือนนี้ คือ ตัวอักษร “ซาเด”
(tsade) เป็นสัญลักษณ์ของ "ผู้ชอบธรรม"
ความหมายมาจากพระนามคือ “พระยาห์เวห์ธิเคนู” (Yahweh Tsidkenu
) ความชอบธรรมจึงเป็นรากฐานของชีวิต อย่าให้ความอธรรมมาทำให้เราสั่นคลอน
คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ(โรม 1:17)
เดือนแห่งพระวจนะที่หล่อเลี้ยงชีวิต
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ สดุดี 119:103
พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริงๆ หวานกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากข้าพระองค์
เดือนนี้จะเป็นเดือนที่เราจะได้อิ่มหนำในการอ่านพระวจนะ
พระวจนะเป็นกำลังและเป็นอาหารที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ (สดุดี 1:2-3) แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง
จงเป็นดังเผ่าอาเชอร์ เป็นต้นไม้ริมธารน้ำที่เกิดผลและอยู่ในนิเวศของพระเจ้าเสมอ
สดุดี 52:8 ส่วนข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกเขียวสดในพระนิเวศของพระเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์นิรันดร์
พบกันใหม่เดือนหน้าเดือนอาดาร์ เดือนแห่งเผ่านัฟทาลีนะครับ