ในวาระที่ผ่านมา
คริสตจักรหลายท้องถิ่นก็เริ่มสอนและฝึกฝนให้ผู้คนใช้ของประทานแห่งการเผยพระวจนะ
ในระยะๆแรก ผู้นำก็มักจะฝึกฝนให้สมาชิกเผยพระวจนะให้กัน แต่ในระยะต่อมา
สิ่งสำคัญที่จะต้องว่ากันต่อก็คือ ถ้าได้รับคำเผยพระวจนะแล้ว ควรจะทำอะไรต่อไป?
บางคำเผยพระวจนะก็เป็นถ้อยคำแห่งการหนุนใจ
แต่บางถ้อยคำก็เป็นเหมือนป้ายบอกทางที่ชี้เส้นทางให้กับเรา
ถ้าเป็นถ้อยคำแห่งการหนุนใจ เมื่อรับฟังแล้วก็อบอุ่นหัวใจ
แต่ถ้าเป็นถ้อยคำที่ชี้เส้นทางบางอย่าง แล้วคนเราจะต้องทำประการใด?
มีข้อพระคัมภีร์ข้อหนึ่งที่ได้แนะนำเส้นทางสู่ความสำเร็จผ่านการเผยพระวจนะ
(2 พงศาวดาร 20:20) “ยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย
จงฟังข้าพเจ้า จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย
แล้วท่านจะได้รับความมั่นคง จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์
แล้วท่านจะได้รับความสำเร็จ”
ก้าวแรกสู่ความสำเร็จตามข้อพระคัมภีร์นี้ก็คือการเชื่อในเหล่าผู้เผยพระวจนะ
บางครั้งบางคราวเมื่อชีวิตคนเรามาถึงทางแยกว่าจะต้องอาศัยอยู่ในที่ไหนหรือควรจะประกอบการงานอาชีพใด
ถ้อยคำของการเผยพระวจนะก็เป็นแสงสว่างสำคัญที่คนเราควรจะเชื่อฟัง จริงอยู่ว่าถ้อยคำจากพระคัมภีร์ก็เป็นแสงสว่างที่เรียกร้องให้คนเราประพฤติตาม
แต่ถ้อยคำจากเหล่าผู้พระวจนะก็เป็นอีกแสงสว่างหนึ่งที่คนเราต้องประพฤติตามด้วย
บางคนเมื่อได้รับถ้อยคำเผยพระวจนะก็อาจจะลังเลที่ต้องประพฤติตาม
เพราะบางครั้งถ้อยคำเผยพระวจนะดูเหมือนจะชี้ทางให้ทำงานหรือธุรกิจบางอย่างที่น่าจะมีรายได้น้อย
บางครั้งก่อนที่จะได้รับคำเผยพระวจนะ ก็มีทางเลือกมากมาย
บางทางเลือกก็เป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนสูง บางทางเลือกก็เป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนน้อย
แต่เมื่อถ้อยคำเผยพระวจนะมาถึง
ถ้อยคำดังกล่าวกลับชี้ทางให้เลือกงานที่น่าจะให้ผลตอบแทนน้อย
สมมติถ้าถ้อยคำเผยพระวจนะชี้ให้เลือกงานที่ค่าตอบแทนสูง
คนเราก็อาจเลือกงานนั้นอย่างไม่ลังเล
แต่พอถ้อยคำเผยพระวจนะชี้ให้เลือกงานที่ค่าตอบแทนน้อย คนเราก็อาจจะลังเลใจ
หลายครั้งสิ่งที่คนเราคาดการหรือประเมินไว้ในตอนแรกก็อาจะผิดพลาดได้เมื่อเวลาผ่านไป
ดังนั้นการเชื่อฟังและก้าวเดินตามถ้อยคำเผยพระวจนะจึงเป็นทางเลือกที่ประเสริฐยิ่ง
ที่จริงคนเราควรเชื่อฟังถ้อยคำเผยพระวจนะมากกว่าการคาดการหรือการประเมินโดยความคิดของเราเอง
(1 โครินธ์ 2:9) ดังที่มีเขียนไว้ว่า “สิ่งที่ตาไม่เห็น
หูไม่ได้ยิน และสิ่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์”
พระคุณจงทวีคูณแด่เพื่อนๆ
PhiliP Kavilar