การแปลภาษาแปลกๆกับการเผยพระวจนะ
(เบื้องต้น)โดย Philip Kavilar
การฟื้นฟูที่ถนนอาซูซ่าในปี
1906
ได้ทำให้ภาษาแปลกๆเป็นเรื่องปกติฉันใด
การฟื้นฟูในอนาคต
ก็จะทำให้การแปลภาษาแปลกๆเป็นเรื่องปกติฉันนั้น
ที่ผ่านมา
ผมก็ได้ศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับการแปลภาษาแปลกๆมาพอควร
ระหว่างเส้นทางของการค้นคว้านี้ ผมก็ได้พบกับพี่น้องหลายท่านที่แปลภาษาแปลกๆได้
ทว่า ด้วยวัฒนธรรมของโบสถ์และด้วยความเข้าใจที่ไม่ชัดเจน ทำให้พี่น้องหลายท่านไม่ได้มีโอกาสในการแปลภาษาแปลกๆ
ผมได้รู้จักกับพี่น้องหลายท่าน ที่หลายครั้งหลายครา
เมื่อเขาได้ยินภาษาแปลกๆของผู้อื่น แล้วเขาก็ล่วงรู้อย่างกว้างๆว่า
ภาษาแปลกๆที่คนอื่นพูดอยู่นั้นมีความหมายเกี่ยวกับอะไร และผมก็สันนิษฐานว่า
เพื่อนๆบางท่านก็คงเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้ด้วย
ความเข้าใจที่ไม่ครบถ้วนประการหนึ่งที่ทำให้การแปลภาษาแปลกๆไม่ค่อยมีให้เห็นก็คือ
ความเข้าใจที่คิดว่า “บางคนเท่านั้นที่มีของประทานการแปลภาษาแปลกๆ ถ้าใครไม่มีของประทานอันนี้ ก็ไม่สามารถที่จะแปลภาษาแปลกๆได้เลย”
จริงอยู่ว่าใน (1 โครินธ์ 12:10) ได้อธิบายว่า การแปลภาษาแปลกๆเป็นของประทานอย่างหนึ่ง
แต่หากพวกเราเข้าใจว่า ถ้าเราไม่มีของประทานนี้
แล้วเราก็ไม่สามารถแปลภาษาแปลกๆได้เลย พวกเราก็อาจพลาดไปเสียแล้ว
การเผยพระวจนะเป็นของประทานหรือว่าทุกคนก็ทำได้?
เมื่อพิจารณาถึงการเผยพระวจนะ ใน (1 โครินธ์ 12) ก็ได้อธิบายว่า การเผยพระวจนะเป็นของประทานอย่างหนึ่ง
ทว่า ใน (1 โครินธ์ 14) ก็ได้เขียนไว้ว่า
ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้ ข้อพระคัมภีร์หนึ่งเขียนว่า การเผยพระวจนะเป็นของประทาน
แต่อีกข้อพระคัมภีร์หนึ่งกลับเขียนว่า ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้
ประเด็นเกี่ยวกับการเผยพระวจนะนี้ สามารถสรุปได้ว่า
ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้เพราะผู้เชื่อทุกคนมีศักยภาพที่จะรับข่าวสารจากพระวิญญาณ
(ดู 1 โครินธ์ 14:31)
แต่จะมีบางคน(ที่มีของประทาน)ที่จะเผยพระวจนะได้เก่งและเรียนรู้ได้รวดเร็ว
การที่พระคัมภีร์เขียนว่า การเผยพระวจนะเป็นของประทานอย่างหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีของประทานเท่านั้นถึงจะเผยพระวจนะได้
แต่หมายความว่าคนที่มีของประทานด้านนี้จะเผยพระวจนะได้เก่งและเรียนรู้ได้เร็ว
ส่วนคนที่ไม่มีของประทานด้านการเผยพระวจนะก็สามารถเผยพระวจนะได้
เพียงแต่อาจจะไม่คล่องแคล่วหรือเรียนรู้ได้ไม่เร็วนัก
ปกติเวลามีสัมมนาที่สอนเกี่ยวกับการเผยพระวจนะ จะมีบางคนที่เรียนรู้ได้เร็วและสามารถเผยพระวจนะได้คล่องแม้ว่าผู้สอนจะสอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง
แต่ก็มีบางคนที่กว่าจะเผยพระวจนะได้คล่องก็อาจต้องใช้เวลามากหน่อย
ทั้งนี้ก็เพราะทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้
แต่จะมีบางคนที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วและปลดปล่อยถ้อยคำเผยพระวจนะได้คล่องแคล่ว
ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้
แต่บางคน(ที่มีของประทาน)จะเผยพระวจนะได้คล่องและเรียนรู้ได้เร็ว
เกี่ยวกับการแปลภาษาแปลกๆ
ในเรื่องเกี่ยวกับการแปลภาษาแปลกๆก็เช่นกัน
แม้ว่าพระคัมภีร์จะอธิบายว่า การแปลภาษาแปลกๆเป็นของประทาน
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า คนที่มีของประทานเท่านั้นถึงจะแปลภาษาแปลกๆได้
แต่หมายความว่า
คนที่มีของประทานด้านการแปลภาษาแปลกๆจะสามารถเรียนรู้เรื่องนี้ได้ไวและสามารถแปลภาษาแปลกๆได้คล่อง
กระนั้นคนที่ไม่มีของประทานด้านนี้ก็สามารถแปลภาษาแปลกๆได้เช่นกัน
เพียงอาจจะไม่คล่องแคล่วหรืออาจต้องใช้เวลาฝึกฝนและเรียนรู้มากหน่อย
จากประสบการณ์ของผมที่เคยสอนเรื่องการแปลภาษาแปลกๆ ผมก็พบว่า
มีนักเรียนบางคนที่เรียนรู้และเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ผมสอนหรือแนะนำนิดๆหน่อยๆก็สามารถแปลภาษาแปลกๆได้แล้ว
แต่ก็มีนักเรียนบางคนที่เข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่เร็วนักและอาจมีการตะตุกตะกักบ้างในการแปลภาษาแปลกๆ
แต่ความตะกุกตะกักนี้ก็ลดลงได้ถ้ามีโอกาสได้แปลบ่อยๆ
สำหรับการเผยพระวจนะนั้น ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้
แต่จะมีบางคน(ที่มีของประทาน)ที่จะเผยพระวจนะได้เก่งและเติบโตในการเผยพระวจนะได้เร็ว
สำหรับการแปลภาษาแปลกๆก็คล้ายคลึงกับการเผยพระวจนะ นั่นคือหลายคนสามารถแปลภาษาแปลกๆได้
แต่จะมีบางคน(ที่มีของประทาน)ที่จะแปลภาษาแปลกๆได้คล่องและเติบโตในการแปลภาษาแปลกๆได้รวดเร็ว
หลายคนสามารถแปลภาษาแปลกๆได้
แต่จะมีบางคน(ที่มีของประทาน)จะแปลภาษาแปลกๆได้คล่องและเรียนรู้ได้เร็ว
ข้อพระคัมภีร์ใน (1 โครินธ์ 14:13) บอกเป็นนัยว่า คนที่พูดภาษาแปลกๆได้ก็มีแนวโน้มที่จะแปลได้ด้วย
และจากสถิติที่ผมค้นคว้ามา ผมก็พบว่า คนที่แปลภาษาแปลกๆได้ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะพูดภาษาแปลกๆได้ด้วย
น้อยนักที่จะแปลภาษาแปลกๆได้แต่กลับพูดภาษาแปลกๆไม่ได้ ดังนั้น
หากเพื่อนๆสามารถพูดภาษาแปลกๆได้ ก็มีแนวโน้มที่ว่าเพื่อนๆก็จะแปลภาษาแปลกๆได้ด้วย
แล้วจะเริ่มต้นแปลภาษาแปลกๆได้อย่างไร? เปาโลได้ให้ข้อแนะนำเบื้องต้นไว้ในจดหมายโครินธ์ว่า (1 โครินธ์ 14:13) ฉะนั้นคนที่พูดภาษาแปลกๆ
ก็ควรอธิษฐานขอให้แปลได้ด้วย
จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการแปลภาษาแปลกๆก็คือ
“การอธิษฐานขอให้แปลได้” เหตุผลหนึ่งที่บางคนสามารถพูดภาษาแปลกๆได้แต่กลับแปลไม่ได้
ก็เพราะไม่ได้อธิษฐานขอ อย่างที่ยากอบได้เขียนไว้ใน (ยากอบ 4:2) ว่า ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ
ผู้เชื่อหลายคนมีศักยภาพในการแปลภาษาแปลกๆอยู่
ยิ่งถ้าคนที่พูดภาษาแปลกๆได้อยู่แล้ว โอกาสที่พวกเขาจะแปลได้ก็สูงมาก ทว่า
เนื่องจากการไม่ได้อธิษฐานขอ เนื่องจากไม่ได้มีการสอนที่ครบถ้วน
และเนื่องจากการขาดคำแนะนำที่ดี
ทำให้การแปลภาษาแปลกๆที่หลายๆคนมีอยู่นั้นไม่ได้รับการสำแดงออกมา
คำอธิษฐาน
พระบิดาของพวกเรา
ในนามพระเยซูคริสต์ พวกเราป่าวประกาศว่า
ถึงวาระแล้ว
ที่การแปลภาษาแปลกๆจะเกิดขึ้นในคริสตจักร
นี่เป็นวาระผู้คนจะได้รับการสอนและแนะแนวทางในเรื่องนี้
พระบิดาของพวกเรา
ประทานปัญญาและการสำแดงแก่พวกเรา
เพื่อการแปลภาษาแปลกๆที่หลายคนมีอยู่นั้นจะลุกโชนขึ้นมา
การแปลภาษาแปลกๆจงเป็นเรื่องปกติในคริสตจักร
ให้ผู้คนมีความเข้าใจและคุ้นเคยต่อสิ่งเหล่านี้
ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ
Your
Spiritual Gifts Can Help Your Church Grow เขียนโดย C.
Peter Wagner
หนังสือ
New
Covenant Prophetic Ministry เขียนโดย Jim & Carolyn
Welton