30 พฤษภาคม 2563

เขาวานให้ผมเป็นสายลับ ฉบับคานาอัน

🔍เขาวานให้ผมเป็นสายลับ 📕ฉบับคานาอัน
เรื่องราวของ Spy สายลับ ชื่อ โยชูวาและคาเลบ ที่ถูกส่งไปสอดแนมที่ดินแดน "คานาอัน"(Canaan)📕เหตุการณ์ในพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 13 คนอิสราเอลอพยพออกจากอียิปต์ดั้นด้นผ่านทะเลทรายมาจวนที่จะถึงดินแห่งพันธสัญญาคือ "คานาอัน"
🕎 โมเสสจึงได้วานให้ผู้สอดแนม(Spy) 12 คน เข้าไปในแผ่นดินนั้น และสืบหาข้อมูลว่าแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร
🌈พวกเขากลับมารายงานโมเสสโดยนำผลไม้แห่งแผ่นดินคานาอันนั้นกลับมาด้วย เพื่อให้คนอิสราเอลที่ไม่ได้ไปด้วยนั้นได้เห็นและลิ้มรส
📕กันดารวิถี 13:23 “เขา​ทั้ง​หลาย​มาถึง​หุบ​เขา​เอช​โคล์ แล้ว​พวก​เขา​ตัด​องุ่น​กิ่ง​หนึ่ง​ที่​มี​องุ่น​พวง​หนึ่ง​จาก​ที่​นั่น ต้อง​ใช้​สอง​คน​หาม​ด้วย​ไม้​คาน...”
🍇 ผลองุ่นหนึ่งพวงนั้น ต้องใช้คนหามถึง 2 คน แสดงว่าเขตแดนนั้นเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง
🌈พวกผู้สอดแนมทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าดินแดนนั้นเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยพระพรอย่างแท้จริง ที่นั่นมีสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้
แต่เหล่าผู้สอดแนม 10 คนนั้นกลับไม่เชื่อว่าจะเข้าไปยึดครองได้เพราะศัตรูเข้มแข็งมาก
‭‭📕กันดารวิถี‬ ‭13:31 “ฝ่ายคนทั้งปวงที่ขึ้นไปสอดแนมด้วยกันกล่าวว่า เราไม่สามารถสู้คนเหล่านั้นได้ เพราะเขามีกำลังมากกว่าเรา”
🔥ภารกิจที่คนยิวจะเข้าไปยึดคานาอัน เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้! (mission impossible)
ดินแดนคานาอันแทนที่จะเป็นสถานที่แห่งพระพรและการเฉลิมฉลอง แต่พวกเขากลับต้องตายคาถิ่นทุรกันดาร! จบเห่เลย!
มีเพียงสายลับ 2 คนคือ โยชูวาและคาเลบ ที่มีความเชื่อมั่นในพระสัญญาของพระยาห์เวห์
📕 พระธรรมโยชูวา จึงได้บันทึกผลสำเร็จของพวกเขาที่ได้เข้าแผ่นดินคานาอันได้สำเร็จ
🌈เพราะเขามีความเชื่อและรักษาพระสัญญาของพระยาห์เวห์อย่างมั่นคง จบสวย! Happy ending❤️
‭‭📕โยชูวา‬ ‭1:2-3, 6-8‬ ‭
“...ฉะนั้นบัดนี้จงลุกขึ้นยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ ทั้งเจ้าและชนชาตินี้ทั้งหมดไปยังแผ่นดิน ซึ่งเรายกให้แก่เขาทั้งหลาย คือแก่คนอิสราเอล
ทุกๆตำบลถิ่นที่ฝ่าเท้าของเจ้าทั้งหลายจะเหยียบลง เราได้ยกให้แก่เจ้าทั้งหลายดังที่เราได้สัญญาไว้กับโมเสส
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะกระทำให้ชนชาตินี้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก ซึ่งเราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายว่าจะยกให้เขา...
อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้น ทุกประการ
🌈แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี”

29 พฤษภาคม 2563

ซ่อนเงารัก สมัยกิจการฯ

❤️ "ซ่อนเงารัก สมัยกิจการฯ🕎
15 จนเขาหามคนเจ็บป่วยออกไปที่ถนนวางบนที่นอนและแคร่ เพื่อเมื่อเปโตรเดินผ่านไป อย่างน้อยเงาของท่านจะได้ถูกเขาบางคน
16 ประชาชนได้ออกมาจากเมืองที่อยู่ล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม พาคนป่วย และคนที่มีผีโสโครกเบียดเบียนมา และทุกคนก็หาย
และสิ่งที่สำคัญอีกประกาศ คือ การแสวงหาพระพักตร์มากกว่าแสวงหาพระหัตถ์

💕ไม่ใช่ละคร”ซ่อนเงารัก” แต่เป็นการ “ส่องเงารักษาโรค” เรื่องจริงที่บันทึกในพระธรรมกิจการฯ
📕กิจการของอัครทูต 5:12-16
12 มีหมายสำคัญและการอัศจรรย์หลายอย่าง ซึ่งอัครทูตได้ทำด้วยมือของตนในหมู่ประชาชน...
✝️ คริสตจักรที่เกิดขึ้นในสมัยแรกซึ่งบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ได้บ่งบอกให้ เราเห็นถึงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นอย่างหลากหลายและเป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงการทรงสถิตของพระเจ้า

🌈เชื่อว่าผู้คนในสมัยนั้นคงจะยำเกรงพระเจ้ามาก ไม่กล้าที่จะทำบาปเพราะเขาเห็นพระเจ้าลงโทษผู้ที่ทำบาป คือ อานาเนียและสัปฟีรา ตายไปเพราะฉ้อโกงและโกหก (📕กจ.5:1-11)
✝️ สิ่งที่เกิดขึ้นที่เราสังเกตได้คือ บรรยากาศแห่งความยำเกรงพระเจ้า และความเชื่อในฤทธานุภาพของพระเจ้า นี่เป็นเหตุผลถึงการที่พวกเขาได้เห็นถึงหมายสำคัญและการอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย
📕กจ.2:43 เขามีความเกรงกลัวด้วยกันทุกคน และพวกอัครทูตทำการอัศจรรย์และหมายสำคัญหลายประการ
🌈แม้แต่แค่เงาของอัครทูตเปโตรที่ส่องผ่านก็สามารถเกิดการรักษาโรคได้แล้ว
🌈 สิ่งที่สำคัญคือ หมายสำคัญและการอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากฤทธานุภาพของพระเจ้า ไม่ใช่ของอัครทูตหรือผู้ที่ทำ
🌈 ดังนั้นผู้ที่ทำการอัศจรรย์ต้องมีใจที่ถ่อม ไม่โอ้อวด เพราะสิ่งที่ทำนั้นมาจากการออกพระนามของพระเจ้า คือ พระเยซูคริสต์
🌈สิ่งที่เป็นข้อคิด คือ หมายสำคัญและการอัศจรรย์ เป็นสิ่งที่สำแดงถึงความประจักษ์แจ้งในความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และเราต้องมีความคาดหวังที่จะออกไปประกาศข่าวประเสริฐและทำการอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยนำพระพรของพระองค์ไปสู่คนทั้งหลาย
🌈 ในวันนี้หมายสำคัญและการอัศจรรย์ ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตของเรา
🔥 ขอให้เราทั้งหลายมีความเชื่อ เมื่อเราเชื่อเราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
🔥ขอบคุณพระเจ้าสำหรับฤทธิ์อำนาจของพระองค์ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของผู้ที่เชื่อ
🔥อย่าปิดซ่อนไว้ แต่ฉายส่องสว่างออกไป

จิกหมอน นอนฝันแบบยาโคบ

🌈 ยาโคบ(Jacob יַעֲקֹב )ได้จิกหมอน นอนฝันเห็นบันไดเลื่อนแห่งแรกของโลกที่ทอดจากโลกขึ้นบนสวรรค์และมีเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้ากำลังขึ้นลงบันไดนั้น
📕เรื่องราวจากหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์ในพระธรรมปฐมกาล บทที่ 28:12-19 บรรยายว่า
“...ฝันว่ามีบันไดอันหนึ่งตั้งขึ้นบนแผ่นดินโลก ยอดถึงฟ้าสวรรค์ ทูตทั้งหลายของพระเจ้ากำลังขึ้นลงอยู่บนนั้น
🌈พระยาห์เวห์ทรงยืนเหนือบันได และตรัสว่า
“เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า และพระเจ้าของอิสอัค แผ่นดินซึ่งเจ้านอนอยู่นั้นเราจะให้แก่เจ้าและเชื้อสายของเจ้า เชื้อสายของเจ้าจะเป็นเหมือนผงคลีบนแผ่นดิน เจ้าจะแผ่กว้างออกไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทางทิศเหนือและทิศใต้ พงศ์พันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจะได้รับพรเพราะเจ้าและเพราะเชื้อสายของเจ้า นี่แน่ะ เราอยู่กับเจ้า และจะพิทักษ์รักษาเจ้าทุกแห่งหนที่เจ้าไป และจะนำเจ้ากลับมายังดินแดนนี้ เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า จนกว่าเราจะได้ทำสิ่งซึ่งเราพูดไว้กับเจ้า”
🌈ยาโคบตื่นขึ้นจากหลับก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ทรงอยู่ ณ ที่นี้แน่ทีเดียว แต่ข้าเองไม่รู้” เขากลัวและพูดว่า “สถานที่นี้น่ายำเกรงนัก สถานที่นี้ไม่ใช่อื่นใดเลย เป็นที่ประทับของพระเจ้า และนี่คือประตูฟ้าสวรรค์”
🌈 ยาโคบจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด เอาก้อนหินซึ่งใช้หนุนศีรษะ ตั้งขึ้นเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ และเทน้ำมันบนยอดเสานั้น เขาเรียกสถานที่นั้นว่า “เบธเอล”
🕎 คำที่น่าสนใจ คือ คำว่า "เบธเอล" (Bethel בֵּית אֵל ) ภาษาฮีบรูหมายถึง "บ้านของพระเจ้า" (เบธ คือ บ้าน และ เอล คือ พระเจ้า )
🌈ยาโคบได้พบกับพระยาห์เวห์ที่เมืองเบธเอลและสถานที่แห่งนี้ทำให้ท่านได้พบอัตตลักษณ์ของตนเอง คือ ยาโคบจะเป็นบิดาของพงศ์พันธ์ุของคนอิสราเอล โดยท่านได้วิงวอนของต่อพระยาห์เวห์ไม่ยอมให้พระองค์จากไปจนกว่าท่านจะได้รับพร
🕎 ยาโคปได้ชื่อว่าเป็นนักมวยปล้ำคนแรกของโลก ท่านได้ปล้ำสู้ต่อพระยาห์เวห์จนเอวของท่านเคล็ดยอกไป (ปล้ำสู้ที่เบธเอล จนเอวบิด)
📕ปฐมกาล 32:28 บุรุษนั้นจึงว่า "เขาจะไม่เรียกเจ้าว่ายาโคบต่อไป แต่จะเรียกว่า อิสราเอล {แปลว่า เขาผู้ปล้ำสู้กับพระเจ้า หรือพระเจ้าทรงปล้ำสู้} เพราะเจ้าสู้กับพระเจ้าและมนุษย์ และได้ชัยชนะ"

🌈 ดังนั้นด้วยความเชื่ออันแรงกล้าของยาโคบทำให้ท่านได้รับพรจากพระยาห์เวห์
🇮🇱"อิสราเอล" (Israel יִשְׂרָאֵל ) แปลว่า ผู้ปล้ำสู้และได้ชัยชนะ🕎
พระองค์ทรงเปลี่ยนชื่อของท่านใหม่จาก
“ยาโคบ” หมายถึง “จับส้นเท้า” เพราะท่านมีพี่ชายฝาแฝดคือเอซาวและท่านได้จับส้นเท้าของพี่ชายออกมาตอนคลอด และชื่อความหมายอีกอย่างคือ "การหลอกลวง"
ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พระยาห์เวห์ต้องการให้ท่านเป็นแบบนี้ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น
🇮🇱ดังนั้นยาโคบเป็นที่มาของชื่อประเทศอิสราเอล นั่นเอง

🌈 ข้อคิด คือ ความฝันเป็นส่วนหนึ่งของการสำแดงที่ทำให้ เราได้พบอัตลักษณ์ของเราในแผนการของพระเจ้า เพื่อเราจะไปสู่เป้าประสงค์ของพระองค์
😴 ความฝัน คือ การสำแดงของพระเจ้าเมื่อเราหลับสนิท
😇 การเห็นนิมิต คือ การสำแดงของพระเจ้าเมื่อเราตื่นอยู่
🤩 การเข้าสู่ภวังค์ คือ การสำแดงของพระเจ้าเมื่อเราอยู่ระหว่างครึ่งหลับ ครึ่งตื่น
ภวังค์ (อ่านว่าพะ-วัง ไม่ใช่พะวง เพราะพะวงคือการนอนไม่หลับ)
✝️ สำหรับคริสตชนอย่างเรา คงไม่มีอะไรต้องพะวงเพราะเราวางใจในพระเจ้าจะหลับสบาย
‭‭📕สดุดี‬ ‭127:1-2‬
“ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า เป็นการเหนื่อยเปล่า ที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด นอนดึก และกระหืดกระหอบกินอาหาร เพราะพระองค์ประทานแก่ผู้ที่รักของพระองค์ ให้หลับสบาย”

23 พฤษภาคม 2563

เทศกาลแห่งพันธสัญญา

📱โมเสสเป็นบุคคลแรกของโลกที่ใช้ Tablet และสามารถ download ข้อมูลจาก iCloud ☁️



😊นอกจากนี้เมื่อเขาทำแตก เขายังส่งเคลมประกันและยังได้ tablet ใหม่อีกต่างหาก :)

📕พระธรรมอพยพบทที่ 19 ได้บันทึกถึงช่วงเวลาที่พระยาห์เวห์ประทานพระบัญญัติ 10 ประการที่จารึกบนแผ่นศิลาלוחות -Luchot)ที่ภูเขาซีนาย 

ในพระธรรมอพยพ บทที่ 32 บันทึกว่าโมเสสโกรธเคืองคนอิสราเอลที่หันไปกราบไหว้รูปโคทองคำและขว้างแผ่นศิลาแตกหัก คราวนั้นมีคนต้องตายถึง 3,000 คน


📕อพยพ‬ ‭32:15-28‬ ‭
โมเสสก็กลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาพระโอวาทสองแผ่นซึ่งจารึกทั้งด้าน จารึกทั้งด้านนี้และด้านนั้น แผ่นศิลาทั้งแผ่นเป็นพระราชกิจของพระเจ้า และอักษรที่จารึกนั้นเป็นลายพระหัตถ์ของพระเจ้าสลักไว้บนแผ่นศิลานั้น

พอโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย ได้เห็นรูปโคและคนเต้นรำ โทสะของโมเสสก็เดือดพลุ่งขึ้น 
ท่านโยนแผ่นศิลาในมือทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง...

โมเสสจึงกล่าวกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘แต่ละคน จงเหน็บดาบแนบกาย และไปมาตามประตูค่าย แล้วแต่ละคนจงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายอีกทั้งเพื่อนบ้านของตัวเอง...
คนเลวีก็ทำตามที่โมเสสสั่ง และประชาชนประมาณ 3,000 คนตายลงในวันนั้น
‭‭
💕แต่เมื่อคนอิสราเอลกลับใจใหม่ ด้วยความรักและการให้อภัยของพระยาห์เวห์ พระองค์จึงประทานแผ่นศิลาพระบัญญัติให้ใหม่ทั้ง 2 แผ่น

‭‭📕อพยพ‬ ‭34:1‬ ‭พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงสกัดศิลาแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม แล้วเราจะจารึกบนศิลานั้นด้วยถ้อยคำที่อยู่ในศิลาชุดเดิมที่เจ้าทำแตก

🌈เทศกาลสัปดาห์(Shavuot) หรือ Pentecost จึงเล็งถึงพันธสัญญาทั้ง 2 ภาพทั้งพันธสัญญาเดิม(OT)และพันธสัญญาใหม่(NT)

💕เลข 2 ในภาษาฮีบรู คือ ตัวอักษรเบธ(ב ให้ภาพของบ้าน เล็งถึงคำว่า” בְּרִיתוֹת -berit” หมายถึงพันธสัญญา(covenant) 

🕎พระยาห์เวห์ประทานแผ่นศิลาพระบัญญัติ(Luchot) 2 แผ่นให้กับคนยิวที่ภูเขาซีนาย เป็นเสมือนพันธสัญญาในการแต่งงานระหว่างพวกเขากับพระองค์ 

💔แต่พวกคนยิวก็หักพันธสัญญาไปกราบไหว้วัวทองคำ โมเสสจึงขว้างแผ่นศิลาตกแตก แต่ถึงกระนั้นพระองค์ทรงรื้อฟื้นพันธสัญญาที่แตกหัก โดยทำให้ใหม่ด้วยการเขียนโดยนิ้วของพระองค์เอง 

🔥เทศกาล Pentecost ในพันธสัญญาใหม่จึงเป็นการให้ชีวิต เพราะประมวลกฎประหารให้ตายแต่พระวิญญาณประทานชีวิต

📕 ‭‭2 โครินธ์‬ ‭3:6‬ ‭ผู้ประทานให้เราสามารถเป็นผู้ปรนนิบัติแห่งพันธสัญญาใหม่ ที่ไม่ใช่เป็นไปตามตัวอักษรที่เขียนไว้แต่เป็นไปตามพระวิญญาณ ด้วยว่าตัวอักษรที่เขียนไว้นั้นทำให้ตาย แต่พระวิญญาณประทานชีวิต

🔥เมื่อพระวิญญาณเทลงมาในเทศกาล Pentecost ในพระธรรมกิจการฯ บทที่ 2 อัครทูตเปโตรเทศนาด้วยความเชื่ออย่างกล้าหาญและมีคนกลับใจใหม่และรับชีวิตรอดคราวเดียวถึง 3,000 คน!

📕 กิจการ‬ ‭2:41‬ ‭ คนทั้งหลายที่รับถ้อยคำของเปโตรก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณ 3000คน

💕ขอบพระคุณสำหรับพระวิญญาณแห่งพันธสัญญาแห่งรัก ❤️I love you 3000😊

😊ปิดเกมแบบ Avenger Endgame🎰
‭‭
🌈 ช่วงวันที่ 5-7เดือนสิวัน  ปี 2020 จะอยู่ในช่วงเย็นวันที่ 28-30 .นี้ ให้เราได้เฉลิมฉลองเทศกาล Pentecost ร่วมกัน 

21 พฤษภาคม 2563

ทุ่งเสน่หา ชีวิตรักของโบอาสและนางรูธ

❤️ ทุ่งเสน่หา 💕 ชีวิตรักที่เป็นเหมือนดั่งละครย้อนยุคของโบอาสและนางรู🌈

📕พระธรรมนางรูธ(מגילת רות-Megilath Ruth) เป็นหนังสือที่คนยิวใช้อ่านในช่วงเทศกาลสัปดาห์(Shavuot) หรือ Pentecost 🔥

🕎 เป็นหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ของอิสราเอลที่ไม่ระบุผู้เขียนที่ชัดเจน โดยนักศาสนศาสตร์เชื่อว่า ซามูเอล เป็นผู้เรียบเรียง เกิดขึ้นในสมัยผู้วินิจฉัย ราวปี  1200 – 1020 ก่อนคริสต์ศักราช

❤️ เรื่องราวความรักของโบอาสและนางรูธ
เริ่มต้นจากครอบครัวของเอลีเมเลคคนยิวที่พาครอบครัวอพยพไปประเทศโมอับ ต่อมาเอลีเมเลคและบุตรชายทั้ง 2 คนได้เสียชีวิตในประเทศโมอับ เหลือแต่นางนาโอมีกับบุตรสะใภ้ชาวโมอับ 2 คน

🌈นางนาโอมีจึงปล่อยบุตรสะใภ้ทั้ง2 คนกลับบ้าน และนางนาโอมีจึงกลับประเทศอิสราเอล แต่ลูกสะใภ้คนหนึ่งคือ “นางรูธ” ไม่ยอมกลับแต่ขอกลับมาพร้อมแม่สามีถึงเบธเลเฮม เพื่อร่วมทุกข์สุขด้วยกัน
แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะเกิดการกันดารอาหารในประเทศอิสราเอล

🌈 นางรูธกล่าวกับแม่สามีว่า
“ขอแม่อย่าวิงวอนให้ลูกจากแม่หรือเลิกตามแม่กลับไปเลย เพราะแม่จะไปไหนลูกจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนลูกก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ชนชาติของแม่จะเป็นชนชาติของลูก และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของลูก แม่ตายที่ไหนลูกจะตายที่นั่น ...”
📕 ‭‭นางรูธ‬ ‭1:16-17

🌈 ชีวิตไม่เหมือนกับละครหลังข่าวที่แม่ผัวมักจะทะเลาะกับลูกสะใภ้  "นางรูธ"ไม่ได้เป็น "นางร้าย”แต่เป็น "นางเอก” ที่น่าประทับใจ

🌈 ตัดมาที่ฉาก “ทุ่งเสน่หา” นายโบอาส เศรษฐีชาวยิวผู้ริมเริ่มโครงการ “ทุ่งปันสุข” และ "เยียวยาเกษตรกร”ในช่วงวิกฤตนี้  โดยท่านไม่ได้ให้คนงานเก็บข้าวจนหมดแต่เหลือข้าวไว้ให้คนขัดสนมาเก็บข้าวตก

🌈นางรูธจึงได้มาเก็บข้าวตกใน “ทุ่งเสน่หา” และพบรักกับนายโบอาส ณ ที่แห่งนี้

(นอกจากนี้โบอาสมอบอาหารให้นางรูธ และกำชับให้เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เองนะ อย่าให้ CPTPP เก็บนะ :)

🌈 ในที่สุดนายโบอาสผู้เป็นญาติของเอลีเมเลค ก็ได้แต่งงานกับนางรูธ  และมีลูกหลานที่สืบเชื้อสายต่อมาเป็นราชวงศ์ของดาวิดและเป็นต้นตระกูลของพระเมสสิยาห์ � คือ “พระเยซูคริสต์” นั่นเอง

✝️พระธรรมนางรูธ ได้มห้ข้อคิดถึงความซื่อสัตย์ของนางรูธ

🌈สะท้อนให้ว่า พระยาห์เวห์ทรงห่วงใยคนของพระองค์และมีแผนการไถ่ผ่านทางพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกับที่โบอาสได้ไถ่ชีวิตของนางรูธและครอบครองเป็นคู่ชีวิตตามชื่อว่า “รูธ” หมายถึง “คู่ชีวิต”
นี้

🕎 เทศกาลสัปดาห์ (Shavuot) พระยาห์เวห์ทรงประทานพระบัญญัติที่จารึกบนแผ่นศิลา 2 แผ่น

🔥ในพันธสัญญาใหม่ เทศกาล Pentecost พระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในเรา
หัวใจ

‭‭📕2 โครินธ์‬ ‭1:22‬ ‭และพระองค์ทรงประทับตราเรา และประทานพระวิญญาณไว้ในใจของเราเป็นมัดจำด้วย”

💍 พระวิญญาณเป็นเสมือนแหวนหมั้นคริสตจักรไว้เพื่อรอคอยองค์เจ้าบ่าว ในวันสมรสของพระเมษโปดกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามพระสัญญา

📕 2 โครินธ์‬ ‭11:2‬ ‭”เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนพวกท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะว่าข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับสามีคนเดียว เพื่อถวายพวกท่านให้เป็นหญิงพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสต์”
‭‭
🔥เทศกาล Pentecost จึงสะท้อนให้เราระลึกถึงแผนการไถ่ของพระยาห์เวห์ เพื่อจะครอบครองคริสตจักรคือเจ้าสาวของพระองค์ในวาระสิ้นยุคของโลก

อาเมน

19 พฤษภาคม 2563

คิด(แต่ไม่)ถึง...เรื่องราวของนาธานาเอล

“คิด(แต่ไม่)ถึง  ทึ่งแต่ยังไม่เชื่อ”...เชื่อจึงเห็นการหมายสำคัญการอัศจรรย์🌈

📕 เรื่องของนาธานาเอล(Nathanael)ชื่อของท่านหมายถึง “ของขวัญที่พระเจ้าทรงประทานให้”(Gift of God)

🕎 ท่านมีอีกชื่อเรียกว่า “บารโธโลมิว” เป็นหนึ่งในอัครสาวกของพระเยซู(มธ.10:3)

✝️ พระเยซูเป็นชาวเมืองนาซาเร็ธ (Nazareth)
เมืองเล็กๆ และไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญนัก
แม้แต่นาธานาเอลยังดูหมิ่นว่า...
 "สิ่งดีอันใดจะมาจากนาซาเร็ธได้หรือ"
แต่สิ่งที่ดีของเมืองนี้คือ “พระเยซูคริสต์” 

✝️ พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงทำให้ทั้งฟิลิปและนาธานาเอลหันมาติดตามเป็นสาวกของพระองค์ และพวกเขาได้เห็นหมายสำคัญการอัศจรรรย์ตามพระสัญญาของพระเยซูคริสต์คือ พวกเขาได้เห็นการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระเยซูคริสต์

📕ยอห์น 1:45-51 
 ฟีลิปไปหานาธานาเอลบอกเขาว่า  "เราได้พบพระองค์ผู้ที่โมเสสได้กล่าวถึงในหนังสือธรรมบัญญัติ  และที่พวกผู้เผยพระวจนะได้กล่าวถึง  คือ  พระเยซู  ชาวนาซาเร็ธบุตรโยเซฟ"
นาธานาเอลถามเขาว่า  "สิ่งดีอันใดจะมาจากนาซาเร็ธได้หรือ"  ฟีลิปตอบว่า  "มาดูเถิด"
พระเยซูทรงเห็นนาธานาเอลมาหา  พระองค์จึงตรัสถึงเรื่องของตัวเขาว่า  "ดูเถิด  ชนอิสราเอลแท้  ในตัวเขาไม่มีอุบาย"
นาธานาเอลทูลถามพระองค์ว่า  "พระองค์ทรงรู้จักข้าพระองค์ได้อย่างไร"  พระเยซูตรัสตอบเขาว่า  "ก่อนที่ฟีลิปจะเรียกท่าน  เมื่อท่านอยู่ที่ใต้ต้นมะเดื่อนั้น  เราเห็นท่าน"
นาธานาเอลทูลตอบพระองค์ว่า  "รับบี  พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า  พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล"
 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า  "เพราะเราบอกท่านว่า  เราเห็นท่านอยู่ใต้ต้นมะเดื่อนั้นท่านจึงเชื่อหรือ ท่านจะได้เห็นเหตุการณ์ใหญ่กว่านั้นอีก"
และพระองค์ตรัสกับเขาว่า  "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า  ท่านจะได้เห็นท้องฟ้าเบิกออก  และบรรดาทูตสวรรค์ของพระเจ้าขึ้นและลงอยู่เหนือบุตรมนุษย์"

🌈เมื่อเราเชื่อเราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

🌈 ฟิลิปและนาธานาเอล ท่านมีความเชื่อจึงได้เห็นหมายสำคัญนี้ คือ “การเสร็จขึ้นสวรรค์ต่อหน้าต่อตาของเหล่าอัครสาวกที่ภูเขามะกอกเทศ”

☁️ ผิดกับเหล่าพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีมีความรู้แต่ขาดความเชื่อ
พวกเขาต้องการแสวงหาหมายสำคัญแต่พระเยซูคริสต์ตรัสกับพวกเขาว่า
"เขาจะได้เห็นการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์เท่านั้น และพวกเขาไม่กลับใจจะได้รับพิพากษา”

📕 มัทธิว 12:38-41
“เวลานั้นมีบางคนในพวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสีมาทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ เราอยากจะเห็นหมายสำคัญจากท่าน” พระองค์จึงตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า 
“ คนในยุคชั่วร้ายและไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแสวงหาหมายสำคัญ แต่จะไม่ประทานหมายสำคัญให้ เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์ผู้เผยพระวจนะ เพราะว่า โยนาห์อยู่ในท้องปลามหึมาสามวันสามคืน อย่างไร บุตรมนุษย์จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนอย่างนั้น 
ชาวนีนะเวห์จะลุกขึ้นในวันพิพากษาพร้อมกับคนในยุคนี้ และกล่าวโทษพวกเขา เพราะว่าชาวนีนะเวห์กลับใจใหม่เพราะการประกาศของโยนาห์ และผู้ที่ใหญ่กว่าโยนาห์ก็อยู่ที่นี่”

✝️ พระเยซูคริสต์ทรงกำชับให้สาวก อย่าเพิ่งออกไปไหนให้คอยที่กรุงเยรูซาเล็มจนกว่าพระวิญญาณของพระเจ้าจะเสด็จมาเพื่อให้สาวกออกไปรับใช้ด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

📕กิจการของอัครทูต 1:8
แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก" 

✝️ เมื่อพระเยซูคริสต์ตรัสสั่งแล้ว พระองค์ก็ทรงสด็จขึ้นสวรรค์ไปต่อหน้าต่อตาสวรรค์ที่ภูเขามะกอกเทศ

📕มาระโก 16:19 ครั้นองค์พระเยซูตรัสแก่เขาจบลงแล้ว ก็ถูกรับเข้าไปในฟ้าสวรรค์ ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า

☁️การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสต์เป็นหมายสำคัญอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าพระเจ้าทรงชอบพระทัยในทุกสิ่งที่พระองค์ได้กระทำสำเร็จตามแผนการแห่งพันธสัญญาใหม่ของพระเจ้า (กิจการฯ 2:32-36)

🌈 พระเจ้าได้ยกชูพระองค์และได้ประทานมงกุฎแห่งสง่าราศีและเกียรติยศให้กับพระองค์

📕ฮีบรู 2:9 แต่เราก็เห็นพระเยซู ผู้ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ต่ำกว่าทูตสวรรค์เพียงชั่วระยะหนึ่งนั้น ทรงได้รับพระสิริและพระเกียรติเป็นมงกุฎ เพราะที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยความทุกข์ทรมาน ทั้งนี้โดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์จึงได้ทรงชิมความตายเพื่อมนุษย์ทุกคนเพื่อพระนามที่เหนือล้ำยิ่งกว่านามชื่อทั้งปวง 

📕ฟิลิปปี 2:9 เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงยกพระองค์ขึ้นอย่างสูง และได้ประทานพระนามเหนือนามทั้งปวงให้แก่พระองค์ 

📕ในพระธรรมกิจการฯ บทที่ 2 ได้บันทึกถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์ หรือ Shavuot นับจากเทศกาลปัสกาได้ 50 วัน พวกสาวกรวมตัวอยู่ที่ห้องชั้นบนที่กรุงเยรูซาเล็มและได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์

🌈 ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ค. 2020 นี้เป็นการระลึกถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์ หรือ Shavuot เป็นการ
ขอบคุณพระคุณถึงของขวัญที่พระเจ้าประทานให้คือ”พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในชีวิตของเรา”
เหมือนดังที่นาธานาเอลได้รับ

🌈เมื่อเราเชื่อจึงเห็นการหมายสำคัญการอัศจรรย์

🌈ในวันนี้แม้ว่าพระเยซูคริสต์จะมาบังเกิดในโลกนี้แบบถ่อมพระทัย และจากโลกนี้ไปด้วยเสด็จขึ้นสวรรค์ไปแบบเงียบๆ  มีคนเห็นเพียงไม่กี่คน

✝️ แต่ในวันสุดท้ายที่พระองค์จะเสด็จมามาแบบยิ่งใหญ่  ปรากฎท่ามกลางฟ้าสวรรค์ เสด็จมาแบบจอมกษัตราที่ทุกตาจะเห็น  ทุกหัวเข่าจะคุกเข่าลงกราบและทุกลิ้นจะสารภาพว่า

✝️ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า ขอทรงเสด็จมารับผู้ที่เชื่อไปสู่สวรรค์ของพระองค์

✝️ ขอให้ผู้ที่เสด็จมาในพระนามพระเจ้า ทรงพระเจริญ ! Baruch haba b'shem Adonai!

16 พฤษภาคม 2563

ความเป็นความตายใน “วันหวยออก” ของคนยิว

🎰 ความเป็นความตายใน “วันหวยออก” ของคนยิว

🎰 ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนเป็น”วันหวยออก” คนไทยเราก็จะเอาเป็นเอาตายในการลุ้นหวย ตลอดวันจะเป็นแบบนี้

“เช้าวุ่นวาย บ่ายตื่นเต้น เย็นลุ้นหวย”

โดยเฉพาะงวดนี้คอหวยรอคอยมานานหน่อย ตั้งแต่งวดวันที่ 1 เมษาแต่มาออกวันที่ 16 พฤษภา 🔢 ต้องคอยลุ้นว่าหวยจะออกอย่างไร

🕎 สำหรับคนยิวแล้ว  “วันหวยออก” ถือความเป็นความตายในสมัยของกษัตริย์อาหสุเอรัสแห่งเปอร์เชียร์จะทำการออกหวย “ปูริม”

🕎 คำว่า “ปุริม”  มาจากภาษาฮีบรูว่า “ פּוּרִים”
แปลว่า “สลาก”(lot) หรือ “เปอร์” ซึ่งเป็นแผนการอันร้ายกาจของฮามานที่จะทำการทอดสลากเพื่อหาวันที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

📕เอสเธอร์ 3:7 ในเดือนแรกซึ่งเป็นเดือนนิสานปีที่สิบสองแห่งรัชกาลกษัตริย์อาหสุเอรัส เขาพากันทอดเปอร์ คือสลาก ต่อหน้าฮามานเพื่อหาวัน และเขาทอดเปอร์เพื่อหาเดือน ได้วันที่สิบสามและเดือนที่สิบสอง คือเป็นเดือนอาดาร์

📕เอสเธอร์ 9:24-26
24 เพราะฮามานบุตรฮัมเมดาธาคนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายเขาได้ทอดเปอร์ คือสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายเขา...
26 เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่า “ปูริม” ตามคำเปอร์ ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวต้องเผชิญในเรื่องนี้และสิ่งที่อุบัติแก่เขา

🌈แต่คนยิวได้รับการช่วยกู้ชีวิตไว้โดยพระยาห์เวห์ผ่านทางผู้หญิงคือ พระราชินีเอสเธอร์หรือชื่อเดิมคือ  "ฮาดาชาห์" (הֲדַסָּה : Hadassah) ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากโมรเดคัย

📕เอสเธอร์ 2:7
ท่านได้เลี้ยงดู “ฮาดาชาห์ “คือ “เอสเธอร์”บุตรสาวลุงของท่าน เพราะเธอไม่มีพ่อแม่สาวคนนี้รูปงามและน่าดู เมื่อบิดามารดาของเธอ สิ้นชีวิต แล้วโมรเดคัยก็รับเธอมาเลี้ยงเป็นบุตรี

🌈 “ฮาดาชาห์" หมายถึง "ต้นเมอเทิล"(myrtle”)
มีความหมายว่า "ความรัก" เป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงานของชาวฮีบรู ที่ใช้ตกแต่งในงานแต่งงาน

🌈 นอกจากนี้ยังหมายถึงการรื้อฟื้น(renew)เพื่อต่ออายุ สร้าง และซ่อมแซม รื้อฟื้น

📕บทเพลงคร่ำครวญ 5:21
โอ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์ ขอทรงรื้อฟื้น(“חָדַשׁ )เดือนปีของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน

🕎 พระราชินีเอสเธอร์และโมรเดคัยได้ช่วยคนยิวให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  โมรเดคัยจึงบันทึกเหตุการณ์นี้และประกาศให้คนยิวจัดเทศกาลปูริมในวันที่ 14-15 อาดาร์ ขึ้นทุกๆปี เพื่อระลึกถึงการช่วยกู้จากพระเจ้าให้รอดจากความตาย

📕เอสเธอร์ 9:20-22
“และโมรเดคัยบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้และส่งจดหมายไปยังพวกยิวทั้งหมด ผู้อยู่ในมณฑลทั้งปวงของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล ชักชวนพวกเขาให้ถือวันที่ 14 เดือนอาดาร์ และวันที่15 เดือนเดียวกันทุกๆ ปี
เป็นวันที่พวกยิวพ้นจากศัตรู และเป็นเดือนที่เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็นวันรื่นเริงให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาถือเป็นวันเลี้ยงฉลองและวันยินดี เป็นวันที่ส่งของขวัญแก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนจน”
‭‭
🌈 เทศกาลปูริมเป็นเทศกาลที่ชื่นชมยินดีในความรอดโดยพระคุณจากพระยาห์เวห์ที่ต่ออายุวันเดือนปีของพวกเขาให้อยู่รอดต่อไป

🇮🇱สำหรับคนยิวแล้ว วันปูริมจึงเป็นวันแห่งความเป็นความตายของพวกเขา

🎰แต่วันหวยออกของคนไทยเรา อย่าไปลุ้นแบบเอาเป็นเอาตายนะครับ เพราะว่า...

“เลขล็อค”อาจจะเป็น “เลขช็อค” โดนน็อคเพราะตัวเลขก็เป็นได้

😍 วันนี้รวยเพราะ 3 ตัวบน ดันมาจนเพราะ 2 ตัวล่าง 🤣

🎰ปากก็บอกว่าเข็ด แต่พอมีเลขเด็ดก็เลยเอาใหม่  ชีวิตยังมีงวดหน้าเสมอ🤣

15 พฤษภาคม 2563

หมอกของคนยิว

🎶 แหงนมองไปบนฟ้า เห็นเป็นหมอกขาว ไม่รู้ว่าหมอกอะไรทั้งที่ไม่ใช่หน้าหนาว...🎵

 🐫 ...นั่นอาจจะเป็นการฮัมบทเพลงของคนยิวในช่วงที่อพยพออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์และเดินวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร

☁️ สิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่หมอกแต่เป็น “เสาเมฆ”(pillar of a cloud)

☁️ พวกเขาได้รับการปกปักรักษาโดยพระยาห์เวห์เพื่อไม่ให้แสงแดดแผดเผาและทรงนำทิศทางพวกเขาและให้ความสว่างในยามค่ำคืนด้วยเสาเพลิง(pillar of fire) นั่นคือการอัศจรรย์ที่ประจักษ์แก่ตาที่เขาได้เห็นจากพระเจ้าของพวกเขา

📕อพยพ 13:21
พระยาห์เวห์เสด็จนำทางพวกเขาในเวลากลางวันด้วยเสาเมฆ และในเวลากลางคืนด้วยเสาเพลิง ให้พวกเขามีแสงสว่างเพื่อจะเดินทางได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

🌈พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงรักพวกเขาและให้การช่วยเหลือด้วยพระเมตตาเสมอ

🌈 แม้ในปัจจุบันนี้ เราทั้งหลายผู้เป็นผู้เชื่อในฐานะคนยิวในฝ่ายวิญญาณ เราไม่ได้มองเห็นเสาเมฆและเสาเพลิงแล้ว  เพราะพระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่กับเราและพร้อมช่วยเหลือเราเสมอตามพระสัญญา

‭‭📕สดุดี‬ ‭121:4-7‬
“ดูเถิด พระองค์ผู้ทรงอารักขาอิสราเอล จะไม่ทรงหลับสนิทหรือนิทรา พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้อารักขาท่าน
พระยาห์เวห์ทรงเป็นร่มเงาที่ขวามือของท่าน ดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางวัน หรือดวงจันทร์ในเวลากลางคืน พระยาห์เวห์จะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน”

 ☁️ หากแต่ว่าถ้าคนอิสราเอลเดินทางไกลมาเมืองไทยในวันนี้ อาจจะต้องร้องเพลงเมื่อเห็นหมอกว่า

🎶หมอกจางๆและควันคล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดูว่าเธอเป็นดั่งหมอกหรือควัน...🎵

☁️ อันนั้นมันไม่ใช่หมอกนะ แต่เป็นฝุ่นควัน 2.5 pm ไม่ใช่เสาเมฆนะ เพราะจะต้องใส่แมสต์ป้องกันอันตราย😷

เชื้อวายร้ายโคราห์ร้ายกว่าเชื้อไวรัสโควิด

😷เชื้อวายร้ายโคราห์ร้ายกว่าเชื้อไวรัสโควิด🦠

😈 “โคราห์”ไม่ได้อยู่โคราชแต่อยู่กับคนยิวในช่วงเดินทางออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์และยังคงวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร🐫
📕พระธรรมกันดารวิถี บทที่ 16 เขียนบันทึกถึงเหตุการณ์การกบฏต่อผู้นำของพวกโคราห์
“โคราห์...พร้อมกับดาธาน อาบีรัม ...เริ่มต่อต้าน โมเสส พร้อมกับผู้ชายอิสราเอลจำนวน 250 คน...เขาทั้งหลายมาชุมนุมกันต่อต้านโมเสสและอาโรน กล่าวกับท่านทั้งสองว่า
“ท่านทำเกินเหตุ เพราะว่าชุมนุมชนทั้งหมดก็บริสุทธิ์ทุกๆ คน และพระยาห์เวห์สถิตท่ามกลางพวกเขา ทำไมท่านทั้งสองจึงผยองขึ้นเหนือที่ประชุมของพระยาห์เวห์

😈 เชื้อวายร้ายของโคราห์เริ่มก้าวเข้ามาทำร้ายชุมนุมของคนยิว ออกอาการดังนี้

❌ก้าวร้าว - พูดจาไม่ให้เกียรติผู้นำ
❌ก้าวก่าย - อยากจะทำหน้าที่แทนผู้นำ
❌ก้าวล่วง - ดูหมิ่นผู้นำว่าเป็นคนไม่บริสุทธิ์

🕎... โมเสสจึงอธิษฐานให้พระยาห์เวห์ทรงเลือกว่าจะให้ใครเป็นผู้นำ โดยให้นำเครื่องหอมไปถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ในสถานนมัสการ

☠️ เมื่อโคราห์และพวกได้เข้าไปถวายเครื่องหอมบูชาแล้วเดินกลับออกมานอกพลับพลานั้น แผ่นดินก็สูบคนเหล่านั้น

(👿คนหนักแผ่นดิน โดนธรณีสูบ)

🌋เกิดภัยพิบัติในชุมชนเนื้องจากพระยาห์เวห์ทรงได้ลงโทษคนอิสราเอล จนกระทั่งโมเสสได้ทูลขอต่อพระยาห์เวห์และทำการถวายเครื่องบูชาลบมลทินให้การลงทัณฑ์จึงได้ยุติลง
คนยิวได้เสียชีวิตไปด้วยเหตุการณ์นี้กบฏโคราห์นี้มากถึง 14,700 คน⚰️

‭‭📕กันดารวิถี‬ ‭17:1-5, 10‬ ‭บันทึกเหตุการณ์ดังนี้...

“พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงพูดกับคนอิสราเอลและเอาไม้เท้าจากเขาทั้งหลาย ไม้เท้าหนึ่งอันจากแต่ละสกุล รวมเป็นไม้เท้า 12 อันจากผู้นำของทุกสกุล เจ้าจงเขียนชื่อแต่ละคนไว้บนไม้เท้าของเขา เขียนชื่อของอาโรนไว้บนไม้เท้าของคนเลวี เพราะจะมีไม้เท้าอันเดียวสำหรับหัวหน้าของแต่ละสกุล จงวางไม้เท้าเหล่านั้นไว้ในเต็นท์นัดพบตรงหน้าหีบแห่งสักขีพยานที่เราพบกับเจ้าทั้งหลาย และไม้เท้าของคนที่เราเลือกสรรนั้นจะงอก เช่นนี้แหละ 

📢”เราจะทำให้เสียงบ่นของคนอิสราเอลซึ่งบ่นว่าเจ้าต่อเรานั้นสงบลง”😷

“วันรุ่งขึ้นโมเสสเข้าไปในเต็นท์แห่งสักขีพยาน และดูสิ ไม้เท้าของอาโรนสำหรับพงศ์พันธุ์เลวีนั้นงอกขึ้น ทั้งมีดอกตูมและดอกบาน และเกิดผลอัลมอนด์สุกบ้าง”

🌈พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
 “จงนำไม้เท้าของอาโรนกลับไปวางไว้ต่อหน้าหีบแห่งสักขีพยาน เพื่อเก็บไว้เป็นหมายสำคัญเตือนพวกกบฏ เพื่อเจ้าจะให้เขาทั้งหลายยุติการบ่นว่าเรา เพื่อพวกเขาจะไม่ต้องตาย

🕎 ไม้เท้าของอาโรน จึงได้ถูกนำมาเก็บไว้ในหีบพันธสัญญา(ark)

📕ฮีบรู 9:4 มีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอม และมีหีบหุ้มด้วยทองคำทุกด้านสำหรับบรรจุพันธสัญญา ภายในหีบนั้นมีโถทองคำใส่มานา และมีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม และมีศิลาสองแผ่นจารึกพันธสัญญา

🕎ไม้เท้าของอาโรน เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงพันธสัญญาของพระองค์ที่ทรงมีสิทธิอำนาจยิ่งใหญ่

🕎 ไม้เท้าของหัวหน้าเผ่าเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจปกครอง ไม้เท้านี้อาจเป็นกิ่งไม้สดก็ได้ ในภาษาฮีบรูคำ matteh מַטֶּה หมายถึง ได้ทั้ง "ไม้เท้า" และ "'เผ่า" ซึ่งเป็นเหมือน "กิ่ง" ที่แตกจากตอ (อิสยาห์ 11:1-2)

😷เชื้อวายร้ายโคราห์จึงร้ายกว่าเชื้อไวรัสโควิด🦠
เพราะติดแล้วไม่ใช่ “เป็นไข้”แต่”เป็นภัย”ต่อชุมชนคริสตจักร

😷ป้องกันด้วยการเว้นระยะห่าง(Social distancing)จากผู้ติดเชื้อโคราห์
❌อย่าคบหรือร่วมนินทรา เพราะลุกลามสร้างปัญหาใหญ่ในชุมชน

✅ฉีดวัคซีนป้องกันด้วยพระวจนะ

📕 ‭‭สุภาษิต‬ ‭24:21-22‬ ‭
“ลูกเอ๋ย จงยำเกรงพระยาห์เวห์และพระราชา อย่าคบค้ากับพวกกบฏ เพราะภัยพิบัติของพวกเขาจะอุบัติขึ้นโดยพลัน และใครจะทราบถึงความพินาศที่จะมาจากพระองค์ทั้งสองเล่า?”

📕โรม‬ ‭13:1‬
“ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น”

‭‭📕 ‭‭ฮีบรู‬ ‭13:17‬
“จงนบนอบเชื่อฟัง บรรดาผู้นำของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกท่านอยู่อย่างคนที่ต้องถวายรายงาน จงให้พวกเขาทำงานนี้ด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกท่านเลย”

❤️รักษาความถ่อมใจไว้เสมอ ระวังอย่าประมาท
“การ์ดอย่าตก”😊

🌈ขอพระเยซูคริสต์อวยพรให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิดและชีวิตปลอดพิษจากเชื้อวายร้ายโคราห์

14 พฤษภาคม 2563

อิสยาห์มองเห็นภาพอนาคตถึงเครื่องบิน

🌈 ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้มองเห็นภาพอนาคตถึง ผู้คนเดินทางด้วยเครื่องบิน ✈️
ท่านกล่าวว่า “คนยิว🇮🇱จะได้รับการเสริมกำลังด้วยปีกดั่งอินทรีและจะได้เดินทางกลับ(aliyah)สู่ดินแดนแห่งพระพระสัญญาของพระยาห์เวห์อีกครั้งหลังกระจัดกระจายไปทั่วโลก”
🇮🇱คำว่า "Aliyah" หมายความว่า “ขึ้นไปสู่ที่สูง” (to ascend, go up)

📕อิสยาห์ 11:12
“...พระองค์จะทรงยก(aliyah)เครื่องหมายนั้นขึ้นให้แก่บรรดาประชาชาติ และจะชุมนุมอิสราเอลที่พลัดพราก และรวบรวมยูดาห์ที่กระจัดกระจาย จากสี่มุมแห่งแผ่นดินโลก”

‭‭📕อิสยาห์‬ ‭40:31‬
“แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย เขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย”

📕อิสยาห์ 49:22 ...“ดูเถิด เราจะยกมือของเรากวักบรรดาประชาชาติ และยกสัญญาณของเราต่อชนชาติทั้งหลาย และเขาทั้งหลายจะอุ้มบรรดาบุตรชายของเจ้ามา และบรรดาบุตรหญิงของเจ้านั้น เขาจะใส่บ่าแบกมา”

‭‭📕อิสยาห์‬ ‭60:8‬
“พวกนี้เป็นใครนะที่บินมาเหมือนเมฆ เหมือนนกพิราบที่มายังช่องหน้าต่างของมัน?”
อิสยาห์ได้เห็นถึงภาพคนยิวได้กลับบ้าน เป็นภาพของคนต่างชาติทำการอุ้มขึ้นเครื่องบินกลับส่งบ้าน และสิ่งนี้ได้สำเร็จเป็นจริง เมื่อประเทศอิสราเอลได้กลับมาสู่ดินแดนตั้งปี 1948

...🇹🇭ประเทศไทยก็มีการ”อุ้ม”เหมือนกัน แต่เป็นการ”อุ้มสายการบิน”แทน 🙂