คำอธิษฐานสองคำเพื่อการฟื้นฟู โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์
ผมได้ค้นพบคำอธิษฐานสองคำที่น่าทึ่งและมีศักยภาพในการนำการฟื้นฟูระดับชาติเมื่อประเทศกำลังจะเกิดการฟื้นฟูครั้งใหญ่ คริสตจักรและพันธกิจต่างๆจะทยอยเกิดความสำเร็จมาเป็นลำดับ จำนวนคนที่เข้ามาเติบโตขึ้น มีการถวายทรัพย์เข้ามามากขึ้น ผู้นำฝ่ายวิญญาณเริ่มเป็นที่รู้จัก มีอิทธิพล บางคนก็มั่งคั่งและมีชื่อเสียงด้วยซ้ำ พระพรในระดับนี้ช่วยคริสตจักร (Ecclesia) ให้มีเครื่องมือที่สามารถส่งผลกระทบไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศ นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็น เช่นเดียวกับสตรีที่ครบกำหนดคลอด แต่ภายในความสำเร็จเหล่านี้ก็แฝงด้วยอุปสรรคที่สามารถขัดขวาง และถึงขั้นหยุดยั้งการเติบโตของอาณาจักรของพระเจ้าได้ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มาพร้อมกับพระพรอันมากมาย ก็คือการล่อลวงให้หันหลังต่อพระเจ้าหรือไปจดจ่อแต่กับพระพร ผู้คนสามารถที่จะเริ่มขี้เกียจ ฝักใฝ่แต่กับเนื้อหนังและความบันเทิง โลภ เย่อหยิ่ง และกบฏ โมเสสอ้างถึงกลุ่มอาการของโรคนี้ว่า “เยชูรูนอ้วนพีขึ้นแล้วก็มีพยศ” – וישמן ישורון ויבעט – เฉลยธรรมบัญญัติ 32:15 การล่อลวงทางโลกนั้นอันตรายสำหรับมนุษย์ทุกคน แต่มีอันตรายสองประการที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้นำฝ่ายวิญญาณคือ: ความอิจฉาริษยาและการแข่งขัน ฟิลิปปี 1:15 จริงอยู่ที่มีบางคนประกาศพระคริสต์ด้วยความอิจฉาและการวิวาท แต่ก็มีบางคนที่ประกาศด้วยเจตนาดี ผู้นำฝ่ายวิญญาณสามารถพยายามทำดีเหนือผู้นำคนอื่นๆ แทนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อนำการฟื้นฟูมาสู่คนทั้งประเทศ พวกเขาเริ่มที่จะต่อสู้กันเอง แทนที่จะแสวงหาเขตแดนใหม่และนำคนใหม่ๆให้ได้สัมผัสกับอาณาจักรของพระเจ้า พวกเขากลายเป็นปกป้องทรัพยากรและความสำเร็จของตนเอง ความอิจฉาริษยาและการแข่งขันจึงนำไปสู่ผู้นำที่พูดในทางลบเกี่ยวกับกันและกัน หรือการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นเพื่อเปรียบเทียบให้ตัวเองดูดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกเขาก็คือสาปแช่งซึ่งกันและกันโดยไม่รู้ตัว ภายใต้หน้ากากของ “การแยกแยะฝ่ายวิญญาณ” และ “การตักเตือนฝูงแกะ” สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความแตกแยกและทำลายซึ่งกันและกันท่ามกลางประชากรของพระเจ้า เมื่อเปาโลเขียนเรื่องนี้ เขาอยู่ในคุก งานทั้งหมดที่เขาทำถูกคนอื่นเข้ามาครอบครอง (บางคนมีเจตนาดีและบางคนไม่) บางคนเริ่มมีชื่อเสียงและพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขา เขาโดดเดี่ยวและทนทุกข์ อย่างไรก็ตามแทนที่จะมองที่ปัญหา เขาเลือกที่จะมองเห็นพระพรในนั้น ฟิลิปปี 1:18 แล้วไง ไม่ว่าจะประกาศด้วยการเสแสร้งหรือด้วยความจริงใจ พระคริสต์ก็ถูกประกาศไปในทุกที่ เรื่องนี้แหละที่ทำให้ข้าพเจ้ายินดี และข้าพเจ้ายังจะมีความยินดีต่อไปด้วย นั่นไงล่ะ คำอธิษฐานสองคำที่สามารถนำการฟื้นฟูระดับชาติ: “แล้วไง!” หากผู้นำทั้งหมดจะไม่สนใจความรู้สึกอิจฉาและการแข่งขันต่อกัน และเพียงแค่ชื่นชมยินดีว่างานของคนอื่นกำลังเติบโตและส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก อาณาจักรของพระเจ้าก็จะสามารถรุดไปข้างหน้า การชำระหัวใจให้บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้นำฝ่ายวิญญาณทุกคน เปาโลจัดการกับเรื่องนี้เกี่ยวกับอปอลโล (1 โครินธ์ 3) เปโตรต้องรับมือกับเรื่องนี้สำหรับตัวเค้าเองเกี่ยวกับยอห์น (พระเยซูท้าทายเปโตรไม่ให้เปรียบเทียบตัวเองกับยอห์น ถึงแม้พระองค์จะขอให้เปโตรถูกตรึงที่กางเขนและให้ยอห์นมีชีวิตอยู่ตลอดไป – ยอห์น 21) ผมได้เห็นการท้าทายนี้ในเกือบทุกประเทศที่งานของพระเจ้ากำลังเติบโตและได้รับการอวยพร - สหรัฐอเมริกา, ตะวันออกไกล, แอฟริกา, บราซิล, ยุโรปและที่นี่ในอิสราเอล สิ่งนี้ที่ดูเหมือนว่าจะผ่านไปไม่ได้ แต่ด้วยพระคุณของพระเจ้าก็สามารถเอาชนะได้ ให้เราละทิ้งความอิจฉาริษยาและการแข่งขันทั้งหมด ให้เราอธิษฐานเผื่องานของกลุ่มอื่นๆให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ให้เราเห็นกันและกันว่าเป็นครอบครัวแห่งความเชื่อ แม้ว่าเราจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อดูเหมือนว่าคนอื่นจะเติบโตมากกว่าคุณ? แล้วไง! ตราบที่มีผู้คนมากขึ้นได้มาสัมผัสถึงความรักของพระเจ้า นั่นก็คือยอดเยี่ยมมาก! เมื่อคนอื่นมารับความชอบจากงานที่คุณทำ? เมื่อมีคนรับใช้ด้วยความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว? แล้วไง! ให้เราวางการเปรียบเทียบทั้งหมดลง เมื่อคนหนึ่งได้รับพระพร เราทุกคนก็ได้รับพรเช่นกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้เราใช้คำอธิษฐานสองคำที่น่าทึ่งนี้ เพื่อชัยชนะเหนือการแข่งขันและความอิจฉาริษยา “แล้วไง!” และให้การฟื้นฟูเริ่มได้เลย |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น